หลายคนคงเริ่มเคยชินกับ New Normal กันบ้างแล้ว และคงเริ่มมาออกกำลังกายวิ่งนอกบ้าน หรือตามสวนสาธาณะต่างๆ วันนี้ เราชวนมาหาแรงบันดาลใจในการออกกำลังกายด้วยรองเท้าวิ่งคู่ใหม่ เลือกได้ง่ายๆ จากที่บ้าน ครบจบใน 4 ขั้นตอน ตามมาเลย ….
หลายคนคงเริ่มเคยชินกับ New Normal กันบ้างแล้ว และคงเริ่มมาออกกำลังกายวิ่งนอกบ้าน หรือตามสวนสาธาณะต่างๆ วันนี้ เราชวนมาหาแรงบันดาลใจในการออกกำลังกายด้วยรองเท้าวิ่งคู่ใหม่ เลือกได้ง่ายๆ จากที่บ้าน ครบจบใน 4 ขั้นตอน ตามมาเลย ….
หลายคนคงเริ่มเคยชินกับ New Normal กันบ้างแล้ว และคงเริ่มมาออกกำลังกายวิ่งนอกบ้าน หรือตามสวนสาธาณะต่างๆ วันนี้ เราชวนมาหาแรงบันดาลใจในการออกกำลังกายด้วยรองเท้าวิ่งคู่ใหม่ เลือกได้ง่ายๆ จากที่บ้าน ครบจบใน 4 ขั้นตอน ตามมาเลย ….
1. ตั้งงบประมาณ
ขั้นแรกสุดเราควรตั้งงบประมาณก่อนว่าเรามีงบประมาณในการซื้อรองเท้าวิ่งมากน้อยแค่ไหน ซึ่งการตั้งงบประมาณนี้เป็นการตัดตัวเลือกและจำกัดวงแคบลงไปได้เยอะพอสมควรเลย แต่ในบางครั้งการตั้งงบประมาณก็ควรเผื่อไว้อีกสัก 500-1,000 บาท ไว้สำหรับเผื่อเจอคู่ที่ถูกใจและเมื่อเปรียบเทียบกันแล้วอยากได้คู่ที่แพงกว่า จะทำให้เราไม่คิดมากจนเกินไป
2. รู้ขนาดเท้าและลักษณะเท้าของเรา
นักวิ่งหลายๆ ท่านที่ผ่านการซื้อรองเท้าวิ่งมาอย่างโชกโชนมักจะรู้ไซส์เท้าของตัวเองเป็นอย่างดีอยู่แล้ว แต่สำหรับคนที่ไม่แน่ใจ เราก็มีวิธีวัดไซส์หรือขนาดเท้าของเราได้ง่ายๆ เพียงแค่ใช้อุปกรณ์ไม่กี่อย่าง ได้แก่ กระดาษ A4, ดินสอหรือปากกา และไม้บรรทัด
ขั้นตอนการวัดขนาดเท้าด้วยตัวเอง
ข้อแนะนำในการวัดขนาดเท้า ควรวัดในช่วงบ่ายหรือช่วงเย็น หลีกเลี่ยงการวัดในช่วงเช้า เนื่องจากความร้อนและกิจกรรมต่างๆ ในช่วงกลางวันส่งผลให้เท้าขยายใหญ่ขึ้น ช่วงเย็นเป็นเวลาที่เหมาะสมในการวัดขนาดเท้ามากที่สุด
จากนั้นให้วางกระดาษไว้ที่พื้นเรียบ โดยให้ปลายกระดาษด้านหนึ่งติดกับผนัง ยืนบนกระดาษ โดยให้ส้นเท้าของเราติดกับผนัง ใช้ดินสอวาดรอบๆ เท้า หรือทำสัญลักษณ์ที่ปลายนิ้วโป้งหรือนิ้วที่ยาวที่สุด และด้านข้างของเท้าเพื่อวัดความกว้างของเท้าเราด้วย จากนั้นนำไปเปรียบเทียบกับตารางขนาดของแบรนด์ต่างๆ โดยส่วนใหญ่จะมีความยาวแบบเซ็นติเมตรและนิ้วให้เปรียบเทียบ
ทั้งนี้ในการเลือกไซส์รองเท้าวิ่งควรมีพื้นที่ด้านหน้าเหลือเล็กน้อย ขอแนะนำว่าให้เพิ่มอีกครึ่งไซส์จากขนาดเท้าของเราเพื่อไม่ให้เวลาวิ่งนานๆ แล้วนิ้วเท้าจะชนรองเท้า
สำหรับลักษณะเท้า หากจะดูกันง่ายๆ ก็คือเราเอาเท้าไปเหยียบน้ำ หลังจากนั้นมาเหยียบบนกระดาษ เราจะเห็นลักษณะของอุ้งเท้าของเราว่าปกติ หรือเท้าแบน หรือเท้าเว้าสูง (ตามรูปเท้าสีน้ำเงินในภาพ)
สำหรับใครที่เท้าแบนและเท้าล้มด้วยนั้น การเลือกรองเท้าจะต้องค่อนข้างละเอียดและควรสวมใส่รองเท้าสำหรับคนเท้าล้มในประเภท Stability จะดีที่สุด ไม่อย่างนั้นจะบาดเจ็บได้ง่าย ส่วนใครที่ที่มีอุ้งเท้าสูงจะต้องเน้นรองเท้าที่รองรับแรกกระแทกได้ดี
3. หาข้อมูลรองเท้าวิ่งตามลักษณะการวิ่งที่ต้องการของเรา
หลังจากที่ตั้งงบประมาณที่ไหวพร้อมกับรู้จักลักษณะเท้าของเราแล้ว เราก็มาหาข้อมูลของรองเท้าวิ่งที่เราอยากได้และให้ตรงกับความต้องการลักษณะเท้าและการวิ่งของเรา ซึ่งรองเท้าวิ่งสมัยนี้มีออกมาหลากหลายประเภทมาก แต่ก็ยังแบ่งออกเป็นหลักๆ เป็นรองเท้าวิ่งแข่ง, รองเท้าซ้อม ซึ่งในรองเท้าซ้อมก็มีแยกหลากหลายประเภทไปอีก ในสมัยนี้ก็มีสื่อมากมายที่มีการรีวิวรองเท้าวิ่งไว้อย่างหลากหลาย ลองหาศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนว่ารองเท้าคู่นั้นๆ เหมาะกับเราหรือไม่ แนะนำว่าไม่ต้องรีบร้อน ค่อยๆ ศึกษาเพื่อให้ตรงกับความต้องการของเรามากที่สุด
4. สั่งซื้อออนไลน์ มองหาโปรโมชั่นดีๆ
ในช่วงนี้แต่ละแบรนด์แต่ละร้านก็มีช่องทางการสั่งซื้อทางออนไลน์มากขึ้น และมีการจัดโปรโมชันส่วนลดมากมาย รวมถึงโปรโมชันจากบัตรเครดิต KTC ที่มอบส่วนลด, แลกส่วนลด หรือเครดิตเงินคืนกับร้านที่ร่วมรายการมากมาย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ktc.co.th/sport
Thank you for choosing KTC products and services.
The application has been sent. The agent will contact you back by 02 123 6000
within 2 office hours.
Monday - Friday 08.00 to 18.00
Saturday - Sunday 09.00 to 18.00
Except public holidays.
If you would like to follow up your application status, please visit www.ktc.co.th
The application has been sent. The agent will contact you back by 02 123 6000
within 2 office hours.
Monday - Friday 08.00 to 18.00
Saturday - Sunday 09.00 to 18.00
Except public holidays.
If you would like to follow up your application status, please visit www.ktc.co.th