การยื่นขอรับเงินสงเคราะห์บุตรเป็นสวัสดิการสำคัญที่สำนักงานประกันสังคมมอบให้กับผู้ประกันตนที่มีบุตรอายุไม่เกิน 6 ขวบ เพื่อช่วยเหลือและแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดู โดยในวันที่ 27 ส.ค. 2567 ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมคณะกรรมการประกันสังคม ครั้งที่ 11/2567 ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ทั้ง 3 ฝ่าย ทั้งนายจ้าง ผู้ประกันตน และหน่วยงานรัฐ ให้ปรับเพิ่มเงินสงเคราะห์บุตร อายุ 0-6 ปี ของผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 จากเดิม 800 บาทต่อเดือน เป็น 1,000 ต่อเดือน และเพื่อให้การยื่นสงเคราะห์บุตรเป็นไปอย่างราบรื่น เรามาดูกันว่าเอกสารยื่นสงเคราะห์บุตรออนไลน์มีอะไรบ้าง รวมถึงเงื่อนไขการลงทะเบียน และข้อควรรู้ต่างๆ ที่สำคัญ
เงื่อนไขลงทะเบียนรับเงินสงเคราะห์บุตรในปี 2567
- ต้องเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 หรือ มาตรา 39
- จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 เดือน ภายในระยะเวลา 36 เดือน ก่อนเดือนที่มีสิทธิ์ได้รับประโยชน์ทดแทน
- ต้องเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย ยกเว้น บุตรบุญธรรมหรือบุตรซึ่งยกให้เป็นบุตรบุญธรรมของบุคคลอื่น
- อายุตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6 ปีบริบูรณ์ จำนวนคราวละไม่เกิน 3 คน เว้นแต่ผู้ประกันตนเป็นผู้ทุพพลภาพหรือถึงแก่ความตาย ในขณะที่บุตรมีอายุแรกเกิดจนถึง 6 ปีบริบูรณ์ จะมีสิทธิ์ได้รับประโยชน์ทดแทนต่อจนอายุ 6 ปีบริบูรณ์
ยื่นสงเคราะห์บุตรใช้เอกสารอะไรบ้าง ?
การยื่นขอรับเงินสงเคราะห์บุตรจำเป็นต้องใช้เอกสารหลายรายการ เพื่อยืนยันสถานะของผู้ปกครองและบุตร รวมถึงยืนยันสิทธิ์ในการรับเงินสงเคราะห์ ซึ่งมีดังต่อไปนี้
- แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกองทุนประกันสังคม (สปส. 2-01)
- กรณีผู้ประกันตนเคยยื่นใช้สิทธิ์แล้วและประสงค์จะใช้สิทธิ์สำหรับบุตรคนเดิม ให้ใช้หนังสือขอใช้สิทธิ์บุตรคนเดิมกรณีกลับเข้าเป็นผู้ประกันตน จำนวน 1 ฉบับ
- กรณีผู้ประกันตนหญิงใช้สิทธิ์
- สำเนาสูติบัตรบุตร (กรณีคลอดบุตรแฝดให้แนบสำเนาสูติบัตรของคู่แฝดด้วย) จำนวน 1 ชุด
- กรณีผู้ประกันตนชายใช้สิทธิ์
- สำเนาทะเบียนสมรส หรือสำเนาทะเบียนหย่าพร้อมบันทึกแนบท้ายของผู้ประกันตนหรือสำเนาทะเบียนรับรองบุตร หรือสำเนาคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลให้เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย จำนวน 1 ชุด
- สำเนาสูติบัตรบุตร (กรณีคลอดบุตรแฝดให้แนบสำเนาสูติบัตรของคู่แฝดด้วยจำนวน 1 ชุด)
- กรณีเปลี่ยนชื่อ ชื่อสกุล ให้แนบสำเนาเอกสารใบเปลี่ยนชื่อ ชื่อสกุลด้วย จำนวน 1 ชุด
- กรณีผู้ประกันตนต่างชาติขอรับประโยชน์ทดแทน ให้ใช้สำเนาบัตรประกันสังคมและสำเนาหนังสือเดือนทาง (passport) หรือสำเนาหนังสือเดินทางชั่วคราวหรือเอกสารรับรองบุคคลที่ทางราชการออกให้ จำนวน 1 ชุด
- สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์หน้าแรกที่มีชื่อและเลขที่บัญชีของผู้ยื่นคำขอ จำนวน 1 ฉบับ ผ่านทางบัญชีธนาคารของผู้ประกันตน 11 ธนาคาร ดังนี้
- ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย
- ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารออมสิน
- ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
- เอกสารประกอบการยื่นคำขอฯ ที่เป็นสำเนาให้รับรองความถูกต้องของสำเนาทุกฉบับ และแสดงเอกสารที่เป็นต้นฉบับเมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบ กรณีเอกสารหลักฐานสำคัญต่อการพิจารณาเป็นภาษาต่างประเทศ ให้จัดทำคำแปลเป็นภาษาไทยและรับรองความถูกต้องให้ครบถ้วน
ลงทะเบียนรับเงินสงเคราะห์บุตรออนไลน์ ทำสะดวกได้ง่ายๆ เพียง 8 ขั้นตอน
ลงทะเบียนรับเงินสงเคราะห์บุตรออนไลน์อย่างไร ?
สำหรับวิธีการยื่นสงเคราะห์บุตรออนไลน์ สามารถทำได้ ดังนี้
- เข้าเว็บไซต์ประกันสังคม www.sso.go.th
- กด "เข้าสู่ระบบผู้ประกันตน"
- เลือกระบบ "e-Self Service"
- เลือก "ขอรับประโยชน์ทดแทนกองทุนประกันสังคม"
- เลือก "สงเคราะห์บุตร"
- กรอกข้อมูลให้ครบถ้วน พร้อมอัพโหลดเอกสารยื่นสงเคราะห์บุตรออนไลน์
- ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลและยืนยันการลงทะเบียน
- รอการตรวจสอบและอนุมัติจากเจ้าหน้าที่
ข้อควรรู้ต่างๆ เกี่ยวกับการรับเงินสงเคราะห์บุตร
นอกจากวิธีการและเอกสารยื่นสงเคราะห์บุตรออนไลน์ที่ต้องทราบแล้ว ยังมีข้อควรรู้ต่างๆ เกี่ยวกับการรับเงินสงเคราะห์บุตร ดังนี้
- การหมดสิทธิ์รับเงินกรณีสงเคราะห์บุตร
- เมื่อบุตรมีอายุครบ 6 ปีบริบูรณ์
- บุตรเสียชีวิต
- ยกบุตรให้เป็นบุตรบุญธรรมของคนอื่น
- ความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง
- สามารถรับเงินสงเคราะห์บุตรได้ไม่เกิน 3 คน เว้นแต่ผู้ประกันตนเป็นผู้ทุพพลภาพหรือถึงแก่ความตาย ในขณะที่บุตรมีอายุแรกเกิดจนถึง 6 ปีบริบูรณ์ จะมีสิทธิ์ได้รับประโยชน์ทดแทนต่อจนอายุ 6 ปีบริบูรณ์
- กำหนดการจ่ายเงินสงเคราะห์บุตร
- กรณียื่นครั้งแรกและการใช้เอกสารยื่นสงเคราะห์บุตรคนเดิม กรณีกลับเข้าเป็นผู้ประกันตน หากยื่นเอกสารครบถ้วน มีคุณสมบัติเป็นไปตามเงื่อนไข และไม่ติดสถานะค้างชำระ กรณีประกันสังคมติดตามเงินประโยชน์ทดแทนเกินสิทธิ์ เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบสิทธิ์และเงินสมทบ ข้อมูลการเข้า-ออกงานของผู้ประกันตนภายใน 3 เดือน โดยเงินจะเข้าบัญชีธนาคารภายในสิ้นเดือนที่ 4 เช่น ผู้ประกันตนมีสิทธิ์เดือนมกราคม เงินสงเคราะห์บุตรของเดือนมกราคมจะโอนเข้าบัญชีธนาคารให้ผู้ประกันตนในสิ้นเดือนเมษายน
- กรณีบุตรที่เกิดนานแล้ว และมีเงินสมทบตามเงื่อนไข เมื่อมายื่นขอใช้สิทธิ์กรณีสงเคราะห์บุตรภายหลัง จะได้รับสิทธิ์ย้อนหลังไม่เกิน 2 ปี ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข
นอกจากการได้รับเงินสงเคราะห์บุตรแล้ว คุณพ่อ คุณแม่ ยังสามารถวางแผนการเงินเพื่อครอบครัวได้ดียิ่งขึ้นด้วยบัตรเครดิต KTC ไม่ว่าจะเป็นค่าการศึกษาสำหรับบุตร ค่ารักษาพยาบาล ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ด้วยบัตรเครดิต KTC ที่มาพร้อมโปรโมชั่นและสิทธิพิเศษอีกมากมายสำหรับผู้ถือบัตร สำหรับใครที่สนใจสามารถสมัครบัตรเครดิต KTC ผ่านทางออนไลน์ได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC