เพราะ ‘วัตถุดิบที่ดี‘ คือจุดเริ่มต้นในการสร้างสรรค์อาหาร และวัตถุดิบในโลกอันกว้างใหญ่ใบนี้ก็มีมากมายเกินจะกล่าวได้หมด ไม่ว่าจะทั้งจากในผืนน้ำและแผ่นดิน ที่มนุษย์เราต้องอุทิศเวลาและพลังในการค้นหา และนำมาบรรจงสร้างสรรค์เมนูความอร่อยสู่ครัวทั่วโลก นอกเหนือจากนั้น เชฟแต่ละคน ของแต่ละร้านต่างก็มีปรัชญาและเคล็ดลับในการเลือกสรรวัตถุดิบของตัวเองแตกต่างกันออกไป
เชฟหลายคนใช้วัตถุดิบจากทั่วทุกมุมโลกเป็นตัวตั้งต้น มิใช่เพราะต้องการสร้างมูลค่าให้ดูสูงส่ง แต่เพราะทำให้มีอิสระในการสร้างสรรค์ผลงาน สำหรับพวกเขาความหลากหลายของวัตถุดิบที่ดีที่สุดจากแหล่งกำเนิดเท่านั้นคือคำตอบของความลับในจักรวาลแห่งการทำอาหาร เมื่อมีสุดยอดวัตถุดิบ สิ่งที่พวกเขาต้องทำคือ การรักษาสมดุลแห่งรสชาติที่ธรรมชาติมอบให้ และไม่บิดเบือนความจริง
หน้าตา กลิ่น สีสัน รสชาติ รสสัมผัสของวัตถุดิบ ทุกรายละเอียดล้วนแต่ชวนให้หลงใหล เครื่องเทศ ผักสด สมุนไพร หรือเนื้อสัตว์สายพันธุ์เฉพาะต้องเติบโตตามสภาพดิน น้ำ อากาศ ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งซึ่งมีที่เดียวในโลกทำให้ การได้มาซึ่งวัตถุดิบที่มีอยู่อย่างจำกัดในบางฤดูกาลจึงเป็นความท้าทาย ในขณะเดียวกันก็เปรียบดังรางวัลแห่งการเฝ้ารอคอย
หน้าที่ของเชฟนอกเหนือไปจากการปรุงอาหารจากหัวใจ พวกเขาจึงยังต้องออกเดินทางค้นหาวัตถุดิบที่ซุกซ่อนอยู่ ตามมุมต่างๆ ของโลก เพื่อสร้างสรรค์เมนูอาหารแบบไม่รู้จบ ไม่อย่างนั้นแล้วเหล่านักชิมคงไม่มีโอกาสได้ลิ้มรสอันโอชะ จากวัตถุดิบที่อยู่ไกลแสนไกล มะเขือเทศจากแอฟริกาใต้ ปูอลาสก้าจากท้องทะเลลึก ชีสจากหมู่บ้านเล็กๆ ในอิตาลี
แนะนำ 10 ร้านอาหารระดับพรีเมียม ที่คัดสรรวัตถุดิบจากทั่วโลกเพื่อรังสรรค์เป็นเมนูอาหารอันแสนพิเศษ
1. BASILICO PIZZERIA
ระยะเวลายาวนานร่วม 15 ปี ย่อมการันตีได้เป็นอย่างดีว่า Basilico Pizzeria คือร้านอาหารที่นำเสนอรสชาติอิตาเลียนดั้งเดิม โดยที่นักชิมไม่จำเป็นต้องเดินทางไปถึงถิ่น ก็สามารถสัมผัสได้ถึงความอร่อยฉบับต้นตำรับ ภายใต้ฝีมือการปรุงจากเชฟสายเลือดอิตาเลียนแท้ๆ
นอกจากนี้การเอาใจใส่กับวัตถุดิบนำเข้าที่คัดสรรเฉพาะความสดใหม่คุณภาพเยี่ยม ยังเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยให้นักชิมได้ลิ้มรสประสบการณ์อาหารอิตาเลียนอย่างเต็มร้อย โดยวัตถุดิบหลักๆ สั่งตรงมาจากอิตาลี พร้อมกับตัวเลือกอีกมากมาย ทั้งจากเยอรมนี ฝรั่งเศส นิวซีแลนด์ และออสเตรเลีย เพื่อให้เกิดความหลากหลายไม่จำเจ อีกทั้งทางร้านพยายามสรรหาสิ่งใหม่ๆ ที่พิเศษในแต่ละรอบเดือน รอบปี หรือแต่ละช่วงฤดูกาลมาให้ลูกค้าได้ลิ้มลองอีกด้วย
เมนูที่เชฟภูมิใจนำเสนอย่อมหนีไม่พ้นพิซซ่า Arrostino di Maiale ความพิเศษอยู่ตรงเนื้อแป้งบางกรอบ ใส่เห็ดพอร์ชินีสดลงไป ช่วยเสริมกลิ่นหอมให้ยิ่งตลบอบอวล บวกกับหมูอบซึ่งหอมในตัวอยู่แล้ว พร้อมซอสสูตรพิเศษที่เชฟทำขึ้นเองจากแครอท โดยราดซอสตอนปรุง และ นำเข้าไปอบ จะช่วยชูรสชาติของตัวหมูอบให้ดียิ่งขึ้น รับประทานคู่กับผักร็อกเก็ต ช่วยเพิ่มมิติความอร่อย
เวลาทำการ : จันทร์ - ศุกร์ 11.00 - 14.30 น. และ 17.00 - 23.00 น. เสาร์ - อาทิตย์ 11.00 - 23.00 น.
ที่อยู่ : 8 ซอยสุขุมวิท 33 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ โทร. 02 662 2323
15/1 ซอยสุขุมวิท 20 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ โทร. 02 663 6633
34 ซอยพหลโยธิน 7 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ โทร. 02 619 8188
สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกบัตรเครดิต KTC
รับส่วนลด 10% เฉพาะค่าอาหาร
1 ตุลาคม 2562 - 31 ธันวาคม 2563
----
2. EL MERCADO
ชื่อร้านหากแปลตรงตัวในภาษาสเปนหมายถึง The Market แต่สำหรับ El Mercado เปรียบได้กับตลาดที่ทุกคนสามารถมาจับจ่ายซื้อผลิตภัณฑ์คุณภาพพรีเมียมนำเข้าจากฝรั่งเศส แต่ที่ทำให้ตลาดแห่งนี้พิเศษกว่าตลาดทั่วไปคือการทำหน้าที่เป็นร้านอาหารในคอนเซปต์ The Chef Market โดยมี เชฟตึก-ปารเมษฐ์ วีรสวัสดิ์กุล ทำหน้าที่เป็น Executive Chef ประจำร้าน คอยดูแลรับผิดชอบการคัดสรรวัตถุดิบจากทั่วโลก ทั้งชีส โคลด์ คัต ซีฟู้ด รวมทั้งผักที่ไม่มีในเมืองไทย โดยเน้นจากประเทศในทวีปยุโรปเป็นหลัก และการสร้างสรรค์เมนูอาหารด้วยเทคนิคต่างๆ ตามแบบฉบับอาหารตะวันตกอย่างแท้จริง
ห้องซีฟู้ดของร้านถือว่าเป็นห้องแห่งความลับที่ทรงคุณค่า ประกอบไปด้วยวัตถุดิบคุณภาพสูง ทั้งปลาเทอร์โบที่ขึ้นชื่อว่าเป็นปลาที่มีคุณภาพดีเลิศ ปูอลาสก้า ความภูมิใจของร้าน เพราะเดินทางมาแบบตัวเป็นๆ รับประกันความสดที่สุด นอกจากนั้นยังมีหอยแมลงภู่ ที่โดดเด่นมีสองชนิดคือ Bouchot Mussels จากฝรั่งเศส และ Spanish Mussels จากสเปน
ที่สุดของเมนูปลาต้อง Dover Sole ซึ่งว่ากันว่าเป็นปลาที่แพงที่สุดอีกชนิดหนึ่งเลยทีเดียว และเป็นปลาที่มีรสชาติดี ออกเนยๆ ละมุน ทางร้านนำไปทอดโดยใช้น้ำมันเนยชนิดสำหรับทอดโดยเฉพาะ และบีบเลมอนใส่ในสไตล์อาหารฝรั่งเศส
เวลาทำการ : อังคาร - เสาร์ 11.00 - 23.30 น. อาทิตย์ 11.00 - 22.30 น.
ที่อยู่ : 490 ซอยไผ่สิงโต แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ โทร. 099 078 3444
สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกบัตรเครดิต KTC
รับฟรี Selection of Dessert / Beverage of the Day 1 ที่ มูลค่า 220 บาท++
เมื่อรับประทานครบ 1,500 บาทขึ้นไป / เซลส์สลิป / โต๊ะ
1 ตุลาคม 2562 - 31 มีนาคม 2563
----
3. LENZI TUSCAN KITCHEN
ภายใต้แนวคิดที่ปรารถนาอยากให้ร้าน Lenzi Tuscan Kitchen แห่งนี้เป็นเสมือนครัวอันแสนอบอุ่นของทั้งเพื่อนฝูง ครอบครัว และญาติผู้ใหญ่ เชฟ Francesco จึงให้ความสำคัญกับวัตถุดิบสดใหม่ชั้นเลิศ ซึ่งสิ่งนี้ก็คือหัวใจสำคัญแห่งรสชาติความอร่อยของอาหารอิตาเลียนนั่นเอง วัตถุดิบของที่นี่จึงคัดสรรอย่างพิถีพิถันมาจากหลากหลายแหล่งกำเนิดชั้นเลิศรอบโลก ชีสและแฮมมาจากฟาร์มของเลนซี่ในอิตาลีโดยเฉพาะ ในขณะเดียวกันก็มีวัตถุดิบท้องถิ่นของประเทศไทยด้วย
โดดเด่นสะดุดตาด้วยครัวเปิดสไตล์ทัสแคนที่มอบความเพลิดเพลินขณะนั่งรออาหารไปกับการได้เห็นความเคลื่อนไหวของเชฟในทุกขั้นตอนการปรุง มีมุมบาร์สำหรับใครที่อยากสั่งเครื่องดื่มมาจิบเบาๆ ก่อนหรือหลังมื้ออาหาร รวมถึงห้องเก็บไวน์ที่เรียงรายไปด้วยไวน์ชั้นดีส่งตรงมาจากอิตาลี
หนึ่งในจานเด่นที่เชฟภูมิใจนำเสนอ ก็คือ Spaghetti in Salsa Di Capesante Tartar Di Gambero Rosso Siciliano E Caviale ซึ่งความพิเศษสุดของจานนี้มีองค์ประกอบที่สอดประสานไปด้วยวัตถุดิบอันหรูหรา ขั้นตอนการปรุงที่เอาใจใส่และใช้เวลายาวนาน รับประทานขณะปรุงเสร็จใหม่ๆ ควันยังฉุย หอมกลิ่น เส้นสปาเกตตีที่คลุกกับซอสอย่างซึมซาบเข้าเนื้อ ผสานรสหวานธรรมชาติจากกุ้งแดงซิซิเลียน เคล้าไปกับรสเค็ม และมันของคาเวียร์ เพียงแค่คำแรกก็จะให้ความรู้สึกถึงรสชาติและจิตวิญญาณสไตล์อิตาเลียนจากแคว้นทัสคานีได้อย่าง เต็มคำฉ่ำลิ้น
เวลาทำการ : เปิดทุกวัน 10.30 - 23.30 น.
ที่อยู่ : 69/1 - 2 ซอยร่วมฤดี 2 ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี
เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ โทร. 02 001 0116
สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกบัตรเครดิต KTC
รับฟรี Tiramisu 1 ที่ มูลค่า 290 บาท++ / เซลส์สลิป / โต๊ะ
1 ตุลาคม 2562 - 31 มีนาคม 2563
----
4. MEATLICIOUS
พันธกิจหลักของร้านอาหารแห่งนี้ประกาศกร้าวไว้ตั้งแต่เริ่มต้นเปิดร้านเมื่อ 3 ปีก่อนว่า “จะปรุงเนื้อทุกจานอย่างสุดความสามารถ เพื่อให้ได้รสชาติที่อร่อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” และในความหมายของคำว่าเนื้อ นั่นหมายถึงเนื้อสัตว์ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นเนื้อวัว เนื้อไก่ เนื้อปลา หรือวัตถุดิบประเภทเนื้อใดๆ ก็ตาม
รูปแบบอาหารได้รับอิทธิพลจากประเทศทางฝั่งลาตินเป็นหลัก มีการนำเข้าผัก เครื่องเทศ สมุนไพรจากทาง ประเทศเปรู เม็กซิโก เป็นต้น ทำให้อาหารส่วนใหญ่ของร้าน มีความหอมตามธรรมชาติ รวมทั้งจากกลิ่นควันไฟด้วย ทางด้านวัตถุดิบอื่นๆ ก็มีการนำเข้าจากทั่วทุกมุมโลก โดยเฉพาะเนื้อวัว มีการนำเข้าจากประเทศอาร์เจนตินา ประเทศญี่ปุ่น และประเทศออสเตรเลีย ในขณะที่กุ้ง หอย ปู ปลา แกะ ทางร้านก็คอยเสาะแสวงหาจากแหล่งที่ดีที่สุดมานำเสนอเช่นเดียวกัน
จานซิกเนเจอร์ประจำร้าน Tomahawk & Grilled Veggie สเต๊กเนื้อวัวนำเข้าจากออสเตรเลีย ประเภท Grain-Fed ซึ่งเป็นการเลี้ยงด้วยอาหารเม็ดธัญพืช ตัวเนื้อจะค่อนข้างนุ่มและหอม จานนี้ทางร้านปรุงให้สุกอย่างช้าๆ โดยใช้ไฟอ่อนๆ เคียงคู่มาด้วยจานผักย่างนานาชนิด ใครจะสั่งจานนี้อดใจรอประมาณ 45 นาที
เวลาทำการ : เปิดทุกวัน 18.00 - 24.00 น.
ที่อยู่ : 8 ซอยเอกมัย 6 ถนนสุขุมวิท แขวงพระโขนงเหนือ
เขตวัฒนา กรุงเทพฯ โทร. 091 698 6688
สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกบัตรเครดิต KTC
รับฟรี Burnt Ice Cream 1 ที่ มูลค่า 390 บาท / เซลส์สลิป / โต๊ะ
เมื่อรับประทานครบ 2,000 บาทขึ้นไป
1 ตุลาคม 2562 - 31 มีนาคม 2563
----
5. MIO FOOD & ART
Mio Food & Art เป็นอีกหนึ่งร้านอาหารที่ยืนยันว่า โลกของอาหารและศิลปะของการตกแต่งสามารถอยู่รวมกันได้อย่างลงตัว เพราะที่นี่คือร้านอาหารอิตาเลียนรสชาติดั้งเดิม ที่มีคอนเซปต์เฉพาะตัวในการผสมผสานอาหารกับการตกแต่งร้านด้วยเฟอร์นิเจอร์และงานศิลปะ เกิดเป็นลูกเล่นแปลกใหม่แสนเก๋
ในส่วนของอาหารก็การันตีได้ถึงรสชาติสไตล์อิตาเลียนขนานแท้ เพราะได้เชฟ Antonio Facchinetti หัวหน้าเชฟชาวอิตาลี ผู้สั่งสมประสบการณ์ทางด้านการปรุงอาหารมาอย่างยาวนาน พร้อมด้วยรางวัลแห่งความสำเร็จในระดับสากลจากหลากหลายห้องอาหารและโรงแรมระดับห้าดาว นอกจากนี้ ทางร้านยังคัดสรรวัตถุดิบสดใหม่คุณภาพเยี่ยมที่ส่งตรงมาจากอิตาลีและฟากฝั่งยุโรป รวมถึงวัตถุดิบที่ช่วยสนับสนุนเกษตรกรท้องถิ่น โดยทางร้านได้จับมือกับฟาร์มปศุสัตว์ในประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกการผสมเทียมและสร้างสายพันธุ์คุณภาพพิเศษสำหรับเนื้อแบล็ค แองกัส และ ชาโรเลส์ บีฟสเตียร ที่เติบโตอย่างอิสระท่ามกลางธรรมชาติ เลี้ยงในบริเวณ เฉพาะด้วยอาหารธัญพืช อาทิ มันสำปะหลัง ผลไม้ และกาก น้ำอ้อย เมื่อถึงเวลาที่เนื้อลูกโคจะถูกนำไปบริโภค จะทำการเตรียมเนื้อลูกโคแบบอิตาเลียนต้นตำรับประมาณ 20 วัน อีกทั้งการเก็บรักษาเนื้อลูกโคจะต้องควบคุมอุณหภูมิความชื้นอย่าง ต่อเนื่อง กระบวนการเหล่านี้ช่วยทำให้เนื้อนุ่มและฉ่ำเป็นพิเศษ
จานต้องลองถัดมาคือ Salame Toscano al Coltello สายพันธุ์ Prosciutto จากทัสคานี ซาลามีเจเตเล่ที่ไม่มีเครื่องเทศพร้อมกับสไปซี่ซาลามี จะออกรสชาติเผ็ดปลายลิ้นนิดๆ
เวลาทำการ : เปิดทุกวัน 11.30 - 23.00 น.
ที่อยู่ : ชั้นล่างของโครงการ Alcove ซอยสุขุมวิท 53
แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ โทร. 02 258 5516
สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกบัตรเครดิต KTC
รับส่วนลด 5% ค่าอาหารและเครื่องดื่ม
1 ตุลาคม 2562 - 31 มีนาคม 2563
----
6. SHINSOKO SUSHI
ปรัชญาของร้านสะท้อนอยู่ในชื่อ ชินโซโคะ ซูชิ ซึ่งมีความหมายว่า ร้านซูชิที่ปั้นทุกคำด้วยหัวใจ ซึ่งก่อกำเนิดขึ้นจากความรักและความตั้งใจที่ต้องการส่งมอบความอร่อยของอาหารญี่ปุ่นในทุกๆ คำ
ที่ร้านคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพเกรดเอจากแหล่งที่ดีที่สุดส่งตรงจากประเทศญี่ปุ่น รูปแบบของอาหารที่ร้านมีความหลากหลาย แบ่งได้ง่ายๆ เป็น 3 ประเภทหลัก คือ เมนู A La Carte ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกสั่งได้ตามความชอบ เป็นเมนูที่ทางร้านแนะนำ เพราะประกอบไปด้วยวัตถุดิบระดับพรีเมียม และเทคนิค การปรุงอาหารที่มีหลายขั้นตอนเพื่อให้ได้รสชาติที่ดีที่สุด ในทุกจาน รูปแบบถัดมาคือ Traditional Japanese Set เป็นกลุ่มเมนูอาหารชุด โดยสามารถสั่งได้ตลอดวัน มีทั้งหมดประมาณ 27 ชุด ซึ่งทางร้านได้แรงบันดาลใจมาจากวัฒนธรรมอาหารดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่เน้นความเรียบง่ายคล้ายวิถีเซน พระเอกคือความสดใหม่ของวัตถุดิบ รวมถึงฝีมือและความตั้งใจของเชฟ ไม่เน้นการตกแต่งอย่างหรูหรา และ รูปแบบสุดท้ายคือ Shabu X Sukiyaki Premium Buffet พรีเมียมบุฟเฟต์ชาบูน้ำซุปโสมญี่ปุ่น และสุกียากี้ หรือชาบูน้ำดำที่เสิร์ฟความอร่อยคุณภาพสูงสุด พร้อมด้วยซูชิเสิร์ฟไม่อั้น เป็นความคุ้มค่าที่ไม่ควรพลาด
เมนูสุดพิเศษคือ Madai Usuzukuri หรือ ปลามาไดดิบแล่บาง นับเป็นเมนูต้นตำรับที่ชาวญี่ปุ่นนิยมแต่ต้องใช้ความใจเย็นและประสบการณ์ในการแล่เนื้อปลา เพราะตัวเนื้อปลาจะแตกค่อนข้างง่าย รับประทานคู่กับน้ำจิ้มสูตรโฮมเมดของทางร้าน
เวลาทำการ : เปิดทุกวัน 11.30 - 14.30 น. และ 18.00 - 22.30 น.
ที่อยู่ : 2/70-72 ซอยอรรถกวี 1 ถนนสุขุมวิท
แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ โทร. 02 074 4419
สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกบัตรเครดิต KTC
รับส่วนลด 20% เฉพาะค่าอาหาร สำหรับบัตรเครดิต KTC ทุกประเภท
พิเศษรับฟรี Bara 1 ที่ มูลค่า 390 บาท เมื่อรับประทานครบ 1,500 บาทขึ้นไป
หลังหักส่วนลด สำหรับบัตรเครดิต KTC PLATINUM ทุกประเภทขึ้นไป
1 ตุลาคม 2562 - 31 มีนาคม 2563
----
7. SUSHI ICHIZU
เชฟ Riku Toda เป็นเชฟที่หลงใหลในศิลปะการทำอาหารญี่ปุ่นและซูชิ สั่งสมประสบการณ์ในฐานะศิษย์เอกของปรมาจารย์ ด้านซูชิอย่าง Hachiro Mizutani เขานำเสนอศิลปะโอมากาเสะด้วยเทคนิคการปั้นซูชิในรูปแบบเอโดะมาเอะ และมาพร้อมกับวัตถุดิบสดใหม่ระดับคุณภาพสูงสุด ส่งตรงจากตลาดปลาโทโยสุ ประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นทูน่า อูนิ เป๋าฮื้อ ปูขน เป็นต้น
สำหรับเมนูโอมากาเสะประจำร้าน Sushi Ichizu นั้น จะปรับเปลี่ยนไปเพื่อให้ลูกค้าได้รับประทานอาหารที่ดีที่สุดประจำฤดูกาลนั้นๆ โดยมีวัตถุดิบเป็นตัวตั้งในการรังสรรค์เมนู โดยมีทั้งหมด 17 คำ เริ่มต้นเสิร์ฟกันที่วัตถุดิบรสชาติเบา ค่อยๆ ไล่เรียงรสชาติเข้มข้นขึ้นกระทั่งปิดท้ายด้วยขนมหวานและชาร้อน โดยแต่ละคำนั้นเน้นความสมดุลระหว่างรสสัมผัสต่างๆ ของวัตถุดิบ
ตัวอย่างเมนูของร้านที่สร้างความประทับใจในทุกคำที่ลูกค้าได้รับรส ได้แก่ Shiro Ebi เมนูกุ้งหวานแต้มด้านบนด้วยวาซาบิสดเล็กน้อย เป็นคำง่ายๆ แต่รสกุ้งนั้นหวานติดลิ้น และ Iwashi Roll เมนูซาดีนพันด้วยแผ่นสาหร่ายเกรดพรีเมียม พร้อมด้วยใบโอบะและขิงสด รวมทั้งวาซาบิสด เป็นรสแห่งธรรมชาติอย่างแท้จริง
เวลาทำการ : เปิดทุกวัน 17.30 - 20.00 น. และ 20.30 - 22.30 น.
ที่อยู่ : 1982 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ
เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ โทร. 065 738 9999
สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกบัตรเครดิต KTC
รับฟรี เครื่องดื่ม Umeshu 1 ที่ มูลค่า 500 บาท / ท่าน
1 ตุลาคม 2562 - 31 มีนาคม 2563
----
8. THAAN CHARCOAL COOKING
สวรรค์ของคนรักสเต๊กเนื้อวัวอย่างแท้จริง เพราะเมนูกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ของร้าน ทำจากเนื้อวัวพรีเมียมย่างถ่านไม้โกงกางอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ นำมาสร้างสรรค์อาหารที่ผสมผสาน ความเป็นตะวันตกและตะวันออกที่หลากหลายน่าลิ้มลอง เอกลักษณ์ของร้าน Thaan Charcoal Cooking คืออาหารจานเนื้อที่มีความผสมผสานของรสชาติสไตล์ยุโรป และเอเชียได้อย่างสร้างสรรค์และลงตัว
ร้าน Thaan นำเข้าเนื้อวัวพันธุ์แบล็ค แองกัสเกรดพรีเมียมจาก Rangers Valley ประเทศออสเตรเลีย และเนื้อโอมิจากประเทศญี่ปุ่น นำมาย่างไฟแรง 450 องศาฯ ด้วยเตา Josper แบบสเปน ที่เป็นส่วนผสมของเตาถ่านและเตาอบเข้าด้วยกัน ทำให้เนื้อสเต๊กที่ย่างจนสุกระดับ Medium Rare มีความกรอบเกรียมด้านนอก แต่ยังชุ่มฉ่ำด้านใน เนื้อสเต๊ก มีกลิ่นหอมจากถ่านไม้โกงกาง แต่ไม่ฉุนเกินไปจนกลบกลิ่นเนื้อวัวอันหอมหวาน นอกจากนี้ยังมีสเต๊กเนื้อ Dry-Aged ที่ผ่านการบ่มกว่า 45 วัน กับเมนู 45+ Days Dry-Aged Wagyu Striploin MS 5/6 เนื้อวากิวสติปลอยน์จากออสเตรเลียที่นำมาย่างด้วยน้ำมันของเนื้อในเตา Josper 5 นาที ให้รสชาติเข้มข้น สัมผัสเหนียวนุ่มสู้ฟัน
สำหรับผู้ที่ต้องการตัวเลือกอื่นนอกจากเมนูเนื้อ ร้าน Thaan ก็มีให้เลือกหลากหลาย และทำจากวัตถุดิบคุณภาพเยี่ยม เช่นเดียวกัน เมนูแนะนำได้แก่ Blue Swimmer Crab, Capellini, Cavier อาหารเรียกน้ำย่อยแบบเย็นหน้าตาหรูหรา
เวลาทำการ : จันทร์ - เสาร์ 17.30 - 22.00 น.
ที่อยู่ : 68/6 ซอยสุขุมวิท 31 แยก 4
แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ โทร. 086 303 1211
สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกบัตรเครดิต KTC
รับฟรี ชีสเค้กสตรอว์เบอร์รี่ 1 ที่ มูลค่า 200 บาท
เมื่อรับประทานครบ 2,000 บาทขึ้นไป / เซลส์สลิป / โต๊ะ / บัตรฯ
1 ตุลาคม 2562 - 30 กันยายน 2563
----
9. THE MEATCHOP BUTCHER & SPIRITS
สิ่งแรกที่สะดุดตาตั้งแต่ยังไม่ก้าวเข้าไปในร้าน คือตู้กระจกภายในห้องบุตเชอร์ที่แขวนเนื้อคัตต่างๆ เรียงราวอวดโฉมให้ลูกค้าสามารถเข้าไปเลือกเนื้อส่วนต่างๆ ได้ตามความต้องการ อีกด้านหนึ่งเป็นบาร์เล็กๆ เน้นเสิร์ฟคลาสสิกค็อกเทล ที่เหมาะแก่การจิบคู่กับเมนูเนื้อ
และมีส่วนของครัวเปิดที่ เชื้อเชิญให้ผู้มาเยือนนั่งโซนเคาน์เตอร์บาร์มองเชฟปรุงอาหารเพลินๆ ได้ระหว่างรอชิม The Meatchop Butcher & Spirits คือผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อที่โดดเด่นด้านการคัดสรรวัตถุดิบชั้นเลิศมาปรุงทั้งในแบบคลาสสิกและสร้างสรรค์เมนูพิเศษ เพื่อให้บรรดานักชิมได้สัมผัสความรู้สึกตื่นเต้น ในการลิ้มลองเมนูเนื้อรูปแบบใหม่ที่คาดไม่ถึง โดยผสมผสานกลิ่นอายความเป็นยุโรปเข้ากับเอเชีย ทั้งในด้านสูตรอาหารและการตกแต่งร้าน
จานที่เชฟแนะนำคือ เนื้อวากิวส่วน Hanger จากฟาร์ม Diamantina ประเทศออสเตรเลีย ผ่านการ Dry-Aged เป็นเวลา 150 วัน เพื่อบ่มให้เนื้อนุ่มและมีรสชาติอร่อยขึ้น เชฟย่างมาในความสุกกำลังดีระดับ Medium Rare ก่อน รับประทานควรเฉือนให้ไข่แดงเยิ้มๆ ไหลลงมาเคลือบชิ้นเนื้อเพิ่มความชุ่มฉ่ำ อร่อยแบบไม่ต้องพึ่งซอสใดๆ
เวลาทำการ : เปิดทุกวัน 11.00 - 23.00 น.
ที่อยู่ : 1/4 ซอยศาลาแดง 1 แขวงสีลม
เขตบางรัก กรุงเทพฯ โทร. 02 033 2709
สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกบัตรเครดิต KTC
รับฟรี White Chocolate Mousse 1 ที่ มูลค่า 200 บาท เมื่อรับประทานครบ 1,200 บาทขึ้นไป
1 ตุลาคม 2562 - 31 มีนาคม 2563
----
10. UPSTAIRS AT MIKKELLER BANGKOK
Dan Bark เชฟชาวเกาหลีนำพาร้าน Upstairs at Mikkeller Bangkok มาไกลจากจุดเริ่มต้นได้ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว จากร้านเล็กๆ สไตล์ Chef’s Table รองรับลูกค้าเพียงไม่กี่ที่ ซึ่งเป็นความฝันร่วมกันกับคู่ชีวิต คุณเฟย์-ธัญจิรา ตระกูลวงษ์ เพียงเพื่อต้องการส่งมอบความอร่อยจากประสบการณ์ที่สั่งสมมาในประเทศสหรัฐอเมริกาสู่นักชิมในประเทศไทย มาวันนี้ เขาได้รับดาวมิชลินมาประดับถึง 2 ปีซ้อน ความรักในสิ่งที่ทำและการได้ทำในสิ่งที่รัก คือแหล่งกำเนิดของทุกอย่างที่เกิดขึ้น
ความเป็น Upstairs at Mikkeller Bangkok คือ ความคิดสร้างสรรค์อันไม่รู้จบ แม้อาหารของเชฟ Dan จะได้รับการกล่าวขานว่าเป็น Progressive American Cuisine แต่เขาไม่เคยจำกัดกรอบให้ตัวเอง จึงไม่น่าแปลกใจใน 12 คอร์สนั้น จึงเต็มไปด้วยวัตถุดิบในเมืองไทยและทั่วทุกมุมโลก สำหรับเขาวัตถุดิบคือความมหัศจรรย์ ไม่มีพรมแดน และไม่มีฤดูกาล
เมนูอาหารที่น่าทึ่งจากฝีมือของเชฟ Dan และทีมงาน Alaskan King Crab แม้จะใช้ชื่อเมนูว่าปูยักษ์อลาสก้า แต่ดูเหมือนว่าเกล็ดน้ำแข็งสีเขียวในถ้วยเล็กๆ ซึ่งทำจากแตงกวานั้นชิงความโดดเด่นของจานไปไม่น้อย โดยเฉพาะเมื่อตักเข้าปากลิ้มรสความเย็นสดชื่นควบคู่ไปกับเนื้อปูหวานๆ ตัดด้วยรสเปรี้ยวจากแตงกวาดองแผ่นบาง ให้รสกรุบกรอบเบาๆ รวมทั้งซอสส้มฟิลิปปินส์ช่วยเพิ่มสีสัน ยังไม่นับรวมครีมกะทิเพิ่มความหอมมัน เม็ดมะม่วงหิมพานต์ทำเป็นถั่วแก้วเสริมให้เค็มนิดๆ เป็นจานที่น้อยแต่มาก เพราะบรรจุมาในถ้วยขนาดเล็ก แต่เต็มไปด้วยวัตถุดิบหลากหลายและกลมกล่อมทุกคำ
เวลาทำการ : พุธ - เสาร์ 18.00 - 22.00 น.
ที่อยู่ : 26 ซอยเอกมัย 10 แยก 2 แขวงพระโขนงเหนือ
เขตวัฒนา กรุงเทพฯ โทร. 091 713 9034
สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกบัตรเครดิต KTC
รับฟรี Chef Choice Dessert 1 ที่ มูลค่า 500 บาท / 1 ท่าน
1 ตุลาคม 2562 - 31 มีนาคม 2563
----
ดูสิทธิพิเศษที่ 50 ร้านอาหารระดับพรีเมียมจากบัตรเครดิต KTC และอ่านหนังสือ "KTC The Passionate Cuisine" ฉบับเต็ม
ซึ่งภายในเล่มจะมาเผยเรื่องราว เคล็ดลับความอร่อยจากอาหารจานพิเศษของร้านอาหารดัง ที่เชฟพร้อมเปิดเผยเทคนิคขั้นตอน และวิธีการปรุงอาหาร รวมถึงความหลงใหลจากเชฟที่ซ่อนอยู่ในจานอร่อย
คลิกที่นี่
---------------------------------------------