เมื่อพูดถึงซีรีส์เกาหลีที่สร้างปรากฏการณ์โด่งดังไปทั่วโลก ไม่มีเรื่องไหนที่จะฮอตฮิตไปมากกว่า “ซีรีส์ Squid Game” หรือในชื่อภาษาไทย สควิดเกม เล่นลุ้นตาย โดยในวันศุกร์ที่ 27 มิถุนายน 2568 ซีรีส์สุดเข้มข้นเรื่องนี้จะกลับมาทำให้คนทั้งโลกต้องจับตาดูอีกครั้ง กับซีรีส์ Squid Game Season 3 สุดท้ายแล้ว บทสรุปของเรื่องราวเกมล่าเงินของเหล่าคนเป็นหนี้จะจบลงอย่างไร ความโหดเหี้ยมของเกมที่มีชีวิตคนเป็นเดิมพันจะชวนลุ้นระทึกมากน้อยแค่ไหน รอรับชมพร้อมกันทั่วโลกในไม่กี่อึดใจเดียว บนสตรีมมิ่ง Netflix
ท่ามกลางเรื่องราวเกมล่าเงินที่แลกด้วยชีวิตคน ซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้มุ่งถ่ายทอดเพียงแค่ความบันเทิงเท่านั้น แต่ขณะเดียวกัน ความพยายามในการแข่งขันเกมบ้าระห่ำเหล่านี้ยังเปรียบเสมือนกระจกสะท้อนภาพสังคมและพฤติกรรมการใช้เงินของผู้เล่นทั้ง 456 คน ที่เป็นต้นเหตุให้พวกเขาต้องมาลงเอยในพื้นที่เล่นเกมสุดโหดเช่นนี้
เหล่าคนหนุ่มสาว Gen Z ที่กำลังเริ่มต้นสร้างอนาคตทางการเงินของตัวเอง ซีรีส์ Squid Game คือกระจกสะท้อนที่ควร “ดูแล้วคิดตาม” เพราะในทุกเกมที่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องราวป่าเถื่อนและไกลตัว กลับซ่อนบทเรียนการเงินที่เกิดขึ้นได้จริงในชีวิตประจำวัน และหากใช้เงินอย่างไม่ระมัดระวัง และขาดการวางแผน ชีวิตก็อาจจะดำเนินไปถึงจุดอับจนหนทางไม่ต่างจากผู้เล่นทั้ง 456 คน
บทเรียนความเสี่ยง : เหตุผลเล่นเกมเป็นเพราะหนี้ท่วม
หากย้อนกลับไปที่เรื่องราวช่วงต้นของซีรีส์ Squid Game ซีซั่น 1 ซีรีส์ได้เผยให้เห็นถึงชีวิตของผู้เล่นส่วนใหญ่ ที่ล้วนตัดสินใจเข้าร่วมเกมล่าเงินนี้เพราะเหตุผลเดียวกัน นั่นก็คือ “หนี้ท่วมหัว” ไม่ว่าจะเป็นตัวละครหลัก อย่าง ‘ซองกีฮุน’ (รับบทโดยนักแสดง อีจองแจ) เขาเป็นหนี้จากการพนัน หรือ ‘โจซังอู’ (รับบทโดย พัคแฮซู) ชายหนุ่มผู้เป็นความภาคภูมิใจของย่านซังมุนดง แต่กลับติดหนี้ก้อนโตจากการลงทุน
แม้ผู้เล่นเกมแต่ละคนจะเป็นหนี้จากเหตุผลที่แตกต่างกัน แต่สิ่งที่สะท้อนชัดเจนจากเรื่องราวภูมิหลังของตัวละครก็คือ หนี้สินเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน แต่สะสมมาจากการตัดสินใจทางการเงินที่ผิดพลาดในหลายครั้งหลายครา จนพอกพูนกลายเป็นหนี้ก้อนโตที่ใหญ่เสียบดบังทุกหนทางแก้ปัญหา และแน่นอนว่า บทเรียนทางการเงินที่สำคัญจากซีรีส์เรื่องนี้ก็คือ การอย่าก่อหนี้เกินตัว โดยเฉพาะหนี้เพื่อเสี่ยงโชค ไม่ว่าจะเป็นการพนัน หรือการลงทุนเก็งกำไรที่ไม่แน่นอนก็ตาม
สำหรับ Gen Z ที่เริ่มเข้าสู่วัยทำงาน การวางแผนใช้จ่าย และเริ่มต้นออมเงินตั้งแต่เนิ่น ๆ คือเกราะป้องกันหายนะทางการเงินที่ดีที่สุด เพราะเมื่อมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ทุก ๆ คนก็จะไม่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องเลือกระหว่างความอยู่รอดกับศักดิ์ศรี
อย่าใช้ชีวิตแบบ “จ่ายก่อน คิดทีหลัง”
หนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้ตัวละครทั้งหลายในซีรีส์ Squid Game ต้องตกอยู่ในวังวนของหนี้สิน นั่นก็คือการใช้เงินอย่างไม่คิดหน้าคิดหลัง พวกเขาใช้จ่ายไปกับสิ่งที่ต้องการในตอนนั้น ความสนุก ณ ขณะนั้น หรือแม้แต่การตัดสินใจอย่างขาดการไตร่ตรองเพียงชั่วครู่ โดยไม่คำนึงถึงผลที่อาจจะตามมาในอนาคต จนในที่สุดก็ต้องจมดิ่งลงสู่ปัญหาทางการเงินที่ยากเกินแก้ไข
ในแง่มุมหนึ่ง เรื่องราวทั้งหมดนี้ได้เชื่อมโยงโดยตรงกับพฤติกรรมการใช้บัตรเครดิตของเหล่า Gen Z ในปัจจุบัน การที่เทคโนโลยีอำนวยความสะดวกให้สามารถใช้จ่ายเงินได้ง่ายขึ้น ทั้งการรูดบัตรเครดิต, QR Code หรือ โมบายแบงก์กิ้ง (Mobile Banking) ทำให้หลาย ๆ คนหลงลืมไปว่า เงินที่ใช้นั้นมีจำกัด เพราะเมื่อใดที่ขาดวินัย การใช้บัตรเครดิตจะกลายเป็นการก่อหนี้ที่จะสร้างความเดือดร้อนอย่างมหาศาลในภายหลัง
ถึงอย่างนั้น การมีบัตรเครดิตหรือการใช้บัตรเครดิตอย่างเป็นประจำก็ไม่ใช่สิ่งที่ต้องกังวลแต่อย่างใด เพราะสิ่งสำคัญคือ ต้องรู้จักใช้บัตรเครดิตอย่างชาญฉลาดและมีแบบแผน ให้บัตรเครดิตเป็นเพียงเครื่องมือทางการเงิน ที่มาพร้อมสิทธิประโยชน์ที่จำเป็นต่อชีวิต แต่ไม่ใช่ให้บัตรเครดิตเป็นเงินสำรองในยามต้องการใช้จ่ายเกินตัว รวมถึงควรมีวินัยในการชำระหนี้ พยายามจ่ายคืนเต็มจำนวนทุกเดือนเพื่อหลีกเลี่ยงดอกเบี้ย และควรใช้โปรโมชั่นผ่อน 0% เฉพาะสินค้าที่ราคาสูงและจำเป็นเท่านั้น สำคัญที่สุดคือการมองว่า การใช้บัตรเครดิตก็คือการใช้เงินในบัญชี ไม่ใช่เงินที่คาดหวังว่าจะมีในอนาคต
เคล็ดลับการบริหารเงินด้วยบัตรเครดิตอย่างชาญฉลาด
หัวใจสำคัญของการบริหารเงินด้วยบัตรเครดิตอย่างชาญฉลาด คือ “การใช้อย่างมีสติ” เพื่อไม่ให้กลายเป็นภาระหนี้สินที่เกินแบกรับ โดยเคล็ดลับสำคัญมีดังนี้
1. ใช้บัตรเครดิตกับรายจ่ายประจำที่คาดการณ์ได้
วิธีการควบคุมรายจ่ายที่ดีคือการมุ่งเน้นที่การใช้บัตรเครดิตกับค่าใช้จ่ายที่ทราบจำนวนและมีกำหนดจ่ายที่แน่นอน เช่น
- ค่าน้ำมัน : รายจ่ายที่เกิดขึ้นประจำเป็นรายสัปดาห์หรือรายเดือน
- ค่าเดินทาง : ค่ารถไฟฟ้า ค่าแท็กซี่ หรือเดินทางด้วยค่าขนส่งสาธารณะอื่น ๆ
- ค่าอาหาร : 3 มื้อหลักที่ต้องใช้จ่ายเป็นประจำ
- ค่าของใช้จำเป็นในชีวิตประจำวัน : จำพวกสินค้าอุปโภคบริโภคพื้นฐาน
การใช้บัตรเครดิตกับรายจ่ายประเภทนี้จะช่วยให้เราสามารถควบคุมการใช้จ่ายได้ง่าย เพราะเป็นค่าใช้จ่ายที่คาดการณ์ได้และมีความแน่นอน ทั้งนี้ ควรพยายามหลีกเลี่ยงการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยหรือไม่จำเป็น ที่เป็นการใช้เงินเกินตัว
2. วางแผนชำระคืนเต็มจำนวนทุกเดือน
กฎเหล็กสำคัญของการใช้บัตรเครดิตอย่างปลอดภัย คือต้องมั่นใจว่าจะสามารถชำระคืนยอดใช้จ่ายทั้งหมดได้ตามรอบบิลเพื่อหลีกเลี่ยงดอกเบี้ย สำหรับอัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิต KTC ทุกประเภท จะอยู่ที่ 16% ต่อปี
3. ระวังการรูดจ่ายเกินงบ
ควรกำหนดวงเงินในการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในแต่ละเดือน และพยายามใช้จ่ายไม่เกินงบประมาณที่ตั้งไว้
4. ติดตามโปรโมชั่นและใช้บริการให้คุ้ม
การตรวจสอบสิทธิประโยชน์และโปรโมชั่นต่าง ๆ ที่มาพร้อมกับบัตรเครดิตก็เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากทุกการใช้จ่าย อาทิ ส่วนลดร้านอาหาร ช่วยประหยัดค่าอาหารประจำวัน โปรโมชั่นในซูเปอร์มาร์เก็ต ส่วนลดค่าใช้จ่ายของใช้จำเป็น และการสะสมคะแนน เพื่อแลกของรางวัลหรือส่วนลด
บทเรียนการลงทุน : ความโลภนำพาหายนะ
ซีรีส์ Squid Game นำเสนอมุมมองการเสียดสีสังคมออกมาได้อย่างชาญฉลาดและเจ็บแสบอย่างมาก ผ่านการให้แต่ละผู้เล่นเกมแสดงพฤติกรรม “ความโลภ” ออกมาในแบบฉบับของแต่ละคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฉากที่ผู้เล่นมีโอกาสเลือกยุติการเล่นเกมในหลาย ๆ ครั้ง แต่ด้วยความโลภที่จะคว้าเงินรางวัลมากขึ้น พวกเขาจึงเลือกที่จะเสี่ยงชีวิตลงสนามเล่นเกมแลกเงินต่ออีกครั้งแล้วครั้งเล่า จนเรื่องราวบานปลายเป็นหายนะ
ในชีวิตจริง ความโลภนี้สะท้อนออกมาในรูปแบบของการลงทุนผิดพลาด เพราะ FOMO หรือ Fear of Missing Out เป็นต้นว่า การที่คนรุ่นใหม่กระโดดเข้าเล่นคริปโตตามกระแส หรือลงทุนในหุ้นแบบไม่ศึกษาข้อมูล เพียงเพราะกังวลหรือกลัวว่าตัวเองอาจพลาดโอกาสดี ๆ หรือไม่ได้รับกำไรอย่างคนอื่น ๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือความเสี่ยงที่กำลังเกิดขึ้นกับผู้คน Gen Z
ทั้งนี้ บทเรียนสำคัญก็คือ ในทุกครั้งก่อนใช้จ่ายหรือลงทุนเงินก้อนใหญ่ จำเป็นต้อง “ตั้งเป้าหมาย” ให้ชัดเจน และ “ศึกษา” ก่อนลงมือเสมอ อย่าให้ความโลภบดบังความเป็นจริง และจำไว้ว่าการลงทุนที่ดีคือการลงทุนที่เราเข้าใจและพร้อมรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้
ขอบคุณรูปภาพจาก : squidgamenetflix
เงินซื้อได้ทุกอย่าง และก็ทำลายได้ทุกอย่าง
หนึ่งในแง่มุมที่เจ็บปวดที่สุดของซีรีส์ Squid Game คือการได้เห็นว่าความต้องการเงินสามารถทำให้แต่ละตัวละครเปลี่ยนไปได้อย่างไร หลาย ๆ ตัวละครที่เริ่มต้นด้วยความเป็นคนดีและมีจิตใจบริสุทธิ์ กลับต้องแสดงด้านมืดของตัวเองเพื่อความอยู่รอด ซึ่งสิ่งนี้ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของมูลค่าของเงินที่อยู่เหนือจริยธรรม
Gen Z ที่กำลังวางแผนการเงินเพื่ออนาคต สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้เสมอว่า เงินคือเครื่องมือสำหรับการใช้ชีวิต ไม่ใช่ตัวตนของเรา การมีเงินมากอาจไม่ได้หมายความว่าจะมีความสุขมากขึ้นเสมอไป และการพุ่งไปที่เป้าหมายเรื่องเงินเพียงอย่างเดียวโดยละเลยปัจจัยแวดล้อมอื่น ๆ อาจนำไปสู่การสูญเสียสิ่งสำคัญอื่น ๆ ในชีวิตไป ดังนั้น การบริหารเงินอย่างมืออาชีพ จึงหมายถึงการมีทั้งเป้าหมายทางการเงินที่ชัดเจนและหลักคุณธรรมที่มั่นคง รู้ว่าต้องการอะไร ทำไมถึงต้องการ และจะทำอย่างไรให้ยังคงรักษาตัวตนไว้ได้
วางแผนการเงินตั้งแต่เนิ่น ๆ หนทางชีวิตปลอดหนี้
จุดเปลี่ยนสำคัญที่นำพาให้ตัวละครผู้เล่นใน Squid Game ตัดสินใจก้าวเข้าสู่สนามเกมล่าเงินที่ต้องแลกด้วยชีวิต คือการที่พวกเขาอับจนหนทางด้านการเงิน และไม่สามารถหาทางปลดหนี้ก้อนโตนั้นได้ แต่ในชีวิตจริง หลังจากรับชมซีรีส์เรื่องนี้แล้ว เหล่า Gen Z สามารถเริ่มคิดวางแผนทางการเงินที่ดี และลงมือทำตามแผนนั้นตั้งแต่ยังไม่มีปัญหาทางการเงินใด ๆ เพื่อลดโอกาส และยับยั้งไม่ให้ชีวิตต้องดำเนินไปอยู่ในจุดเดียวกับเหล่าผู้เล่นเกมทั้ง 456 คน
ทริควางแผนทางการเงินของเหล่า Gen Z ที่ไม่อยากตกอยู่ในสถานการณ์เป็นหนี้ก้อนโตอย่างในซีรีส์ Squid Game มีดังนี้
1. เริ่มออมก่อนใช้
หลักการ Pay Yourself First หรือ การแบ่งเงินออมก่อนเงินใช้จ่าย ไม่ใช่เก็บเงินที่เหลือจากการใช้จ่ายเพื่อเป็นเงินออม อาจเริ่มต้นด้วยก้าวเล็ก ๆ อย่างการเก็บออมแค่ 10% ของรายได้ต่อเดือน
2. รู้จักทำงบรายรับ-รายจ่าย
การรู้ว่าเงินแต่ละเดือนถูกนำไปใช้จ่ายกับเรื่องอะไรบ้าง จะช่วยให้มองเห็นภาพรวมทางการเงินของตนเองได้ดี
3. ค้นคว้าเพิ่มเติมในเรื่องการเงินอย่างต่อเนื่อง
การอ่านหนังสือ การลงเรียนคอร์สออนไลน์ การติดตามเว็บไซต์ข่าวสารทางการเงิน หรือฟังพอดแคสต์เรื่องการลงทุน คือการลงทุนกับตัวเองที่คุ้มค่ามากที่สุด
4. ให้เทคโนโลยีเป็นเพื่อนคู่คิด
ในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีก้าวหน้า มีแอปพลิเคชันเกี่ยวกับการเงินเกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชันช่วยวางแผนการออม แอปพลิเคชันบันทึกรายรับ-รายจ่าย แอปพลิเคชันบริหารเงินที่ช่วยให้คุณเก็บออมเงินและลงทุนได้ง่ายมากขึ้น และรวมไปถึงการใช้บัตรเครดิต KTC ที่สามารถตั้งค่าวงเงินบัตรเครดิตได้ สิ่งเหล่านี้ได้แสดงให้เห็นว่า เทคโนโลยีเป็นเพื่อนคู่คิดชั้นดีที่ช่วยให้การวางแผนทางการเงินง่ายดายมากขึ้น
สมาชิกบัตรเครดิต KTC ทุกประเภทสามารถควบคุมวงเงินสำหรับการทำธุรกรรมผ่านบัตรเครดิตได้ง่าย ๆ บนแอปพลิเคชัน KTC Mobile เพียง 3 ขั้นตอน ดังนี้
- กดเลือกฟีเจอร์ “จัดการบัตร”
- เลือก “ควบคุมวงเงิน”
- ตั้งค่าวงเงินบัตรเครดิตที่ต้องการ จากนั้นกดยืนยัน
สำหรับใครหลายคน ซีรีส์ Squid Game อาจเป็นเพียงซีรีส์ที่มอบความบันเทิง แต่หากมองผ่านมุมมองทางการเงินแล้วนั้น เรื่องราวในซีรีส์เรื่องนี้เปรียบเสมือนเตือนใจที่สะท้อนให้เห็นว่า การตัดสินใจทางการเงินที่ผิดพลาดสามารถนำไปสู่วิกฤตทางการเงินที่ยิ่งใหญ่ได้ ดังนั้นเหล่าหนุ่มสาวชาว Gen Z ที่กำลังเริ่มต้นวางแผนการเงิน การดูซีรีส์ Squid Game ซีซั่น 3 ที่มีแพลนลงจอสตรีมมิ่งในวันที่ 27 มิถุนายน 2568 ไม่ควรเป็นแค่การรับชมเพื่อความบันเทิง แต่ควรเป็นบทเรียนที่ช่วยเตือนให้มีแผนทางการเงินที่ดี มีวินัยในการใช้จ่าย และไม่ให้ความโลภมาครอบงำการตัดสินใจ จนเป็นเหตุให้พลั้งพลาดเสียทรัพย์
มองหาเพื่อนคู่คิดทางการเงิน สมัครบัตรเครดิต KTC ออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้า ครอบคลุมทุกความคุ้มค่าการใช้จ่าย ด้วยการรับคะแนน KTC FOREVER สะสมได้ไม่จำกัดและไม่มีวันหมดอายุ
ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC