โทรศัพท์ตกน้ำ เปิดไม่ติด อาจเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่คนส่วนใหญ่กลัวมากที่สุด เพราะโทรศัพท์มือถือแต่ละยี่ห้อแต่ละรุ่นมีมาตรฐานการกันน้ำไม่เท่ากัน แม้ว่าโทรศัพท์รุ่นใหม่ๆ จะถูกพัฒนาให้สามารถกันน้ำกันเหงื่อ หรือว่ากันละอองน้ำได้ แต่หากตกน้ำเป็นเวลานานมากกว่า 30 นาที หรือในน้ำลึกกว่า 6 เมตรขึ้นไป ก็เสี่ยงที่โทรศัพท์จะพังและเปิดไม่ติดได้ รวมไปถึงโทรศัพท์มือถือบางรุ่นที่ไม่มีเทคโนโลยีกันน้ำ หากเผลอทำตกน้ำแล้ว โอกาสที่โทรศัพท์จะเปิดไม่ติด และไม่สามารถกู้คืนข้อมูลได้ก็ยิ่งมีมาก แต่ถ้าหากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวไปแล้ว มาดูวิธีที่ควรปฏิบัติเมื่อทำโทรศัพท์ตกน้ำ และประมาณการค่าซ่อม เพื่อประกอบการตัดสินใจว่าจะซื้อโทรศัพท์มือถือใหม่ดีหรือไม่
โทรศัพท์ตกน้ำ เปิดไม่ติด จะต้องทำอย่างไร
หากเกิดอุบัติเหตุทำโทรศัพท์ตกน้ำไปแล้ว ต้องทำอย่างไรบ้าง เพื่อที่จะกู้คืนโทรศัพท์ให้กลับมาใช้งานได้ มีขั้นตอนดังต่อไปนี้
1. รีบนำโทรศัพท์ขึ้นจากน้ำ
สิ่งที่ควรทำเป็นอย่างแรกเมื่อโทรศัพท์ตกก็คือ รีบนำโทรศัพท์ขึ้นจากน้ำให้เร็วที่สุด ไม่ว่าน้ำจะลึกเพียงใด เพราะโทรศัพท์บางรุ่นถึงแม้จะมีเทคโนโลยีกันน้ำได้ แต่ก็มักจะมีกำหนดระยะเวลา เช่น 10-30 นาที
2. ปิดเครื่อง
รีบปิดโทรศัพท์เพื่อป้องกันการเกิดไฟฟ้าลัดวงจร หรือถ้าหากโทรศัพท์ตกน้ำจนดับไปแล้ว ห้ามเปิดเครื่องจนกว่าจะแห้งสนิทเพราะอาจทำให้แผงวงจรเสียหายจากการช็อตได้
3. ตั้งโทรศัพท์ขึ้นตรง
พยายามทำให้น้ำไหลออกจากโทรศัพท์ให้เร็วที่สุด โดยวิธีที่ง่ายที่สุดคือการตั้งโทรศัพท์ไว้ตรงๆ ให้น้ำไหลออกมาผ่านทางลำโพง
4. ถอดแบตเตอรี่
หากโทรศัพท์เป็นรุ่นที่สามารถถอดแบตเตอรี่ได้ ให้รีบถอดแบตเตอรี่ ถอดซิมการ์ด และเมมโมรี่การ์ด หรือชิ้นส่วนที่สามารถถอดได้ ให้เร็วที่สุด
5. ดูดน้ำออกจากตัวเครื่อง
พยายามทำให้โทรศัพท์แห้งให้ได้มากที่สุด และเร็วที่สุด โดยวิธีที่ง่ายที่สุดคือการเช็ดด้วยผ้า หรือใช้อุปกรณ์ เช่น ไดร์เป่าผม ที่ดูดฝุ่น หรือที่เป่าลม ไม่ควรทิ้งไว้ในถังข้าวสาร ด้วยความเชื่อว่าข้าวสารจะช่วยดูดความชื้น แต่ควรนำโทรศัพท์ใส่ไว้ในถุงซิปล็อคหรือถุงสูญญากาศพร้อมกับซิลิกาเจล (Silica Gel) ซึ่งเป็นสารกันชื้นที่มีคุณสมบัติในการดูดความชื้นโดยเฉพาะ
6. ลองเปิดเครื่อง
เมื่อมั่นใจแล้วว่าโทรศัพท์แห้งสนิท ให้ลองเปิดเครื่องและเช็กระบบต่างๆ เช่น ลำโพง จอทัชสกรีน กล้องถ่ายรูป แต่ถ้าหากเปิดไม่ติด ให้ลองชาร์จแบตเตอรี่และเปิดเครื่องอีกครั้ง
เมื่อโทรศัพท์แห้งสนิทดีแล้ว ให้ลองเปิดเครื่องและเช็กระบบต่างๆ เช่น ลำโพง จอทัชสกรีน กล้องถ่ายรูป
โทรศัพท์ตกน้ำ เปิดไม่ติด ซ่อมได้ไหม ค่าซ่อมกี่บาท
หากหลังจากโทรศัพท์ตกน้ำแล้วเปิดไม่ติด แม้โทรศัพท์จะแห้งสนิท และได้ลองพยายามชาร์จแบตเตอรี่แล้ว อาจจะต้องให้ทางศูนย์ หรือร้านซ่อมโทรศัพท์มือถือช่วยตรวจสอบและประเมินค่าซ่อม โดยจะมีค่าใช้จ่ายแตกต่างกันออกไป ซึ่งร้านทั่วไปอาจจะมีค่าใช้จ่ายตั้งแต่ 5,000-10,000 บาทขึ้นไป หากซ่อมกับศูนย์ เช่น Apple หรือ Sumsung ก็อาจมีค่าใช้จ่ายตั้งแต่ 1,500 บาทขึ้นไป ขึ้นอยู่กับโทรศัพท์แต่ละรุ่น รวมถึงอาการและชิ้นส่วนของโทรศัพท์ที่ต้องซ่อม
เมื่อไหร่ควรพิจารณาซื้อโทรศัพท์มือถือใหม่
เกณฑ์การพิจารณาซื้อโทรศัพท์ใหม่เมื่อโทรศัพท์เกิดอุบัติเหตุตกน้ำและเปิดไม่ติดแล้ว ของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน โดยมีเกณฑ์พื้นฐานที่สามารถใช้เป็นตัวช่วยในการตัดสินใจในกรณีที่จะต้องซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่จริงๆ ได้ดังนี้
1. ไม่สามารถซ่อมได้
หากมือถือของคุณไม่สามารถซ่อมได้แล้ว มีอาการเปิดเครื่องไม่ติด แม้จะเปลี่ยนเมนบอร์ด หรือว่าเปลี่ยนอะไหล่บางอย่างแล้ว การซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ก็อาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
2. ราคาซ่อมไม่คุ้ม
เนื่องจากราคาซ่อมที่ต้องจ่ายจริงนั้นอาจมากกว่าราคาประเมินเป็นเท่าตัว หากลองพิจารณาแล้วว่าค่าใช้จ่ายนั้นไม่คุ้มค่า การลองดูโทรศัพท์รุ่นใหม่ที่มีโปรโมชั่น อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าการซ่อม
หากตัดสินใจแล้วว่าจะซื้อโทรศัพท์ใหม่ ลองเลือกดูโปรโมชั่นโทรศัพท์มือถือที่น่าสนใจ จากร้านค้าชั้นนำผ่านบัตรเครดิต KTC ได้ดังต่อไปนี้
ช้อปสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ สินค้าไอที หรือ Gadget และใช้คะแนน KTC FOREVER ตามที่กำหนด แลกคะแนนรับส่วนลดหรือเครดิตเงินคืนสูงสุด 21%
Jaymart
แลกคะแนน KTC FOREVER รับส่วนลดสูงสุด 21%
- แลกรับส่วนลด 21% สำหรับสินค้า Gadget และ Accessory
- แลกรับส่วนลด 18% สำหรับสินค้า สมาร์ทโฟน เฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการตามที่ร้านค้ากำหนด
เมื่อมียอดใช้จ่ายรายการ “ชำระเต็มจำนวน” หรือ “ผ่อนชำระ” ตั้งแต่ 1,000 บาท ต่อเซลส์สลิป และใช้คะแนน KTC FOREVER เริ่มต้น 1,000 คะแนน สูงสุดไม่เกินราคาสินค้า
True, Dtac, AIS, TG, Apple Store, Studio7, BaNANA, ร้านค้าอื่นๆในเครือ Com7, iStudio by Copperwired, dotlife, iStudio by SPVI และ iStudio by Uficon
แลกคะแนน KTC FOREVER รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 15%
- แลกรับเครดิตเงินคืน 15% เมื่อแลกคะแนนเท่ายอดใช้จ่ายต่อเซลส์สลิป
- แลกรับเครดิตเงินคืน 13% เมื่อแลกคะแนนขั้นต่ำ 1,000 คะแนน สูงสุดไม่เกินยอดใช้จ่ายต่อเซลส์สลิป
เมื่อมียอดใช้จ่ายรายการ “ชำระเต็มจำนวน” หรือ “ผ่อนชำระ” ตั้งแต่ 1,000 บาท
- ระยะเวลาโปรโมชั่น : 1 ม.ค. 67 - 30 มิ.ย. 67
ลงทะเบียนร่วมรายการ หรือดูรายละเอียดโปรโมชั่นช้อปโทรศัพท์ใหม่กับบัตรเครดิต KTC เพิ่มเติมได้ที่นี่
การใส่ซองกันน้ำและเคสโทรศัพท์กันน้ำ สามารถช่วยป้องกันน้ำเข้าตัวเครื่องได้ในเบื้องต้น
วิธีป้องกันน้ำเข้าโทรศัพท์ ทำอย่างไร
ไม่ว่าคุณจะเพิ่งซื้อโทรศัพท์ใหม่ หรือใช้เครื่องเดิมนานแล้ว สามารถป้องกันน้ำเข้าเครื่องเมื่อเกิดอุบัติเหตุทำโทรศัพท์ตกน้ำได้ง่ายๆ เบื้องต้น ดังนี้
1. ใส่ซองกันน้ำ
เมื่อเที่ยวทะเล ทำกิจกรรมใกล้กับแหล่งน้ำ แม้กระทั่งในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซองกันน้ำสำหรับใส่โทรศัพท์เป็นสิ่งที่หาได้ง่ายที่สุดที่จะช่วยป้องกันโทรศัพท์มือถือของเรา ซึ่งซองกันน้ำในปัจจุบันมีให้เลือกหลากหลาย ทั้งแบบชั้นเดียว และแบบสองชั้น หรือซองกันน้ำที่ทำจากวัสดุพรีเมียม เพื่อช่วยลดความเสี่ยงน้ำเข้าโทรศัพท์โดยไม่ได้ตั้งใจ
2. ใส่เคสโทรศัพท์กันน้ำ
นอกจากซองกันน้ำแล้ว ปัจจุบันยังมีเคสโทรศัพท์ที่ช่วยกันน้ำได้ โดยทำเป็นกรอบครอบตัวเครื่องทั้งด้านหน้าและด้านหลัง มีหลากหลายวัสดุและราคา เริ่มต้นตั้งแต่หลักร้อย ไปจนถึงหลักพัน ช่วยให้อุ่นใจ น้ำไม่เข้าตัวเครื่องได้ในเบื้องต้น
สำหรับใครที่ยังไม่มีบัตรเครดิต KTC สามารถสมัครบัตรฯ KTC ผ่านช่องทางออนไลน์ได้ เลือกบัตรฯ ที่ตรงใจ กับโปรโมชั่นที่ใช่ พร้อมสิทธิประโยชน์ที่ต้องการ แล้วมาช้อปมือถือใหม่กันได้เลย
ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC