ขั้นตอนการลงสกินแคร์เป็นสิ่งสำคัญในการดูแลผิวอย่างมีประสิทธิภาพ สกินแคร์มีคุณสมบัติในการช่วยบำรุงและฟื้นฟูสภาพผิวให้ดีขึ้น ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้น ลดความแห้งกร้าน และช่วยแก้ไขปัญหาและความกังวลของผิวต่างๆ แต่หากลงสกินแคร์ผิดขั้นตอน ก็อาจทำให้สกินแคร์ทำงานได้ไม่เต็มที่
สกินแคร์
ประเภทของสกินแคร์
หากเดินตามห้างฯ หรือร้านเครื่องสำอาง อาจเห็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวให้เลือกมากมายจนตาลาย หลายคนอาจสับสนว่าสกินแคร์มีอะไรบ้าง แบ่งเป็นกี่ประเภท และลำดับขั้นตอนการใช้สกินแคร์เป็นอย่างไร สกินแคร์แบ่งออกตามเนื้อสัมผัสและลำดับขั้นตอนการลงได้ ดังนี้
- ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ถือเป็นสกินแคร์ขั้นตอนแรกในการดูแลผิว โดยมีทั้งผลิตภัณฑ์เช็ดเครื่องสำอางอย่างคลีนซิ่งครีมหรือที่รู้จักกันในชื่อของคลีนซิ่งบาล์มเช็ดเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์คลีนซิ่งต่างๆ และผลิตภัณฑ์ล้างหน้าเช่นพวกโฟมล้างหน้า เจลล้างหน้า
- คลีนซิ่งเป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเครื่องสำอางที่ได้รับความนิยม เพราะสามารถเลือกให้เข้ากับสภาพผิวได้ คลีนซิ่งออยล์เหมาะกับการเช็ดเมคอัพหนักๆ คลีนซิ่งวอเตอร์และคลีนซิ่งเจลเหมาะกับคนผิวมัน คลีนซิ่งมิลค์มาในเนื้อน้ำนมสุดบางเบา ส่วนในเรื่องความสะดวกในการพกพาต้องคลีนซิ่งแบบแผ่นที่มาแบบกระดาษหยิบใช้สะดวก
- โทนเนอร์ เป็นสกินแคร์เนื้อน้ำ มีคุณสมบัติช่วยทำความสะอาดสิ่งตกค้างบนผิว ช่วยเติมความชุ่มชื้น และช่วยเตรียมผิวให้พร้อมก่อนการบำรุงผิวขั้นตอนต่อไป วิธีใช้คือเทโทนเนอร์ลงบนสำลี จากนั้นเช็ดให้ทั่วใบหน้า
- เอสเซนส์ คนไทยมักคุ้นหูกันในชื่อ “น้ำตบ” ถือเป็นสกินแคร์บำรุงผิวขั้นตอนแรก เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นของเหลว มีความหนืดเล็กน้อย วิธีใช้คือเทลงฝ่ามือและตบลงบนผิวได้เลย
- เซรั่ม เป็นสกินแคร์ที่สามารถซึมซาบได้อย่างล้ำลึกลงในชั้นผิว สามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะจุดได้และให้ผลลัพธ์ที่ไวกว่า วิธีใช้คือการทาลงบนฝ่ามือและทาลงบนผิวหน้า
- อีมัลชั่น เป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มีเนื้อสัมผัสบางเบา ใช้ได้กับทั้งผู้ที่มีผิวแห้งและผิวมัน เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่อยู่กึ่งๆ ระหว่างโลชั่นและครีม แต่มาในเนื้อสัมผัสที่บางเบากว่า เติมความชุ่มชื้นได้ดีในผู้ที่มีผิวแห้งและผิวมันขาดน้ำ
- โลชั่น หลายคนมักสับสนระหว่างอีมัลชั่นกับโลชั่นเพราะมีความคล้ายคลึงกันมาก แต่โลชั่นนั้นจะมีความเข้มข้นกว่าอีมัลชั่น สามารถใช้ทาเพื่อเติมความชุ่มชื้นและเคลือบผิวเพื่อลดอาการผิวขาดน้ำ บางยี่ห้อ โลชั่นมักมาในรูปแบบของเหลวใสเหมือนน้ำตบได้เช่นกัน
- ครีม เป็นสกินแคร์ที่เป็นที่นิยมใช้มากที่สุด มีส่วนผสมของน้ำมันมากที่สุดและเนื้อมีความเข้มข้นมากที่สุด จึงเหมาะกับคนที่มีผิวแห้ง ข้อเสียคือมักจะซึมช้าและค่อนข้างเหนอะผิว แต่ข้อดีคือสามารถเติมความชุ่มชื้นผิวได้ดีที่สุด เหมาะกับผู้ที่มีผิวแห้งหรือไว้ใช้ในช่วงอากาศแห้ง
- ผลิตภัณฑ์กันแดด ครีมกันแดดจัดเป็นหนึ่งในสกินแคร์ดูแลผิวที่ไม่ควรมองข้าม มักทาเป็นขั้นตอนสุดท้ายหลังลงสกินแคร์ตัวอื่นๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว มีคุณสมบัติช่วยปกป้องรังสียูวีจากแสงแดด และมีให้เลือกหลากหลายเนื้อสัมผัส
ผิวแบบไหน เหมาะกับการใช้สกินแคร์อะไรบ้าง
สภาพผิวที่ไม่เหมือนกันย่อมต้องการการดูแลผิวที่ต่างกัน การใช้สกินแคร์เนื้อสัมผัสที่ไม่เหมาะกับสภาพผิวอาจทำให้ผิวเสียสมดุล นำไปสู่ปัญหาผิวต่างๆ ได้ การเลือกสกินแคร์ จึงควรเลือกโดยอิงจากสภาพผิวของแต่ละคน
- ผิวธรรมดา เป็นผิวที่มีความสมดุล แข็งแรง สามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งเนื้อครีม โลชั่น เจล ที่เน้นเติมความชุ่มชื้นให้ผิว
- ผิวแห้ง เป็นผิวที่ผลิตน้ำมันออกมาน้อยกว่าปกติ ทำให้เกิดปัญหาผิวแห้งแตก ลอก และเกิดริ้วรอยได้ง่าย แนะนำให้เลือกสกินแคร์เนื้อครีมเข้มข้นหรือเนื้อน้ำมันเพื่อให้ผิวชุ่มชื้นยาวนาน
- ผิวมัน เป็นผิวที่ผลิตน้ำมันออกมามากกว่าปกติ แนะนำให้เลือกใช้สกินแคร์ที่มีเนื้อบางเบา เช่น เนื้อโลชั่น เนื้อเจล หรือเอสเซนส์ที่ไม่เหนียวเหนอะหนะ
- ผิวผสม เป็นผิวที่มีทั้งบริเวณที่มันและแห้ง แนะนำให้เลือกใช้สกินแคร์สำหรับคนผิวแห้งในตอนเช้าเพื่อป้องกันหน้าเยิ้มระหว่างวัน และเลือกสกินแคร์สำหรับคนผิวมันในตอนกลางคืนเพื่อเติมความชุ่มชื้นผิวอย่างล้ำลึก
- ผิวแพ้ง่าย เป็นผิวที่ไวต่อสารเคมีและสิ่งกระตุ้นต่างๆ แนะนำให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่าย ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม แอลกอฮอล์ หรือสารที่อาจทำให้เกิดการระคายเคือง
5 ขั้นตอนการลงสกินแคร์ให้เห็นผล
ขั้นตอนลงสกินแคร์
ขั้นตอนที่ 1 ทำความสะอาดผิว
ทำความสะอาดผิวด้วยคลีนซิ่ง เช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอาดบนใบหน้าออกให้หมด จากนั้นตามด้วยการล้างหน้าโดยใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่เหมาะกับสภาพผิว
ขั้นตอนที่ 2 เช็ดผิวด้วยโทนเนอร์
ซับผิวให้หมาดๆ ด้วยผ้าขนหนูนุ่มๆ จากนั้นเช็ดผิวด้วยโทนเนอร์เพื่อให้รูขุมขนเปิด เป็นการเตรียมผิวให้เปิดรับการบำรุงในขั้นตอนต่อไป
ขั้นตอนที่ 3 ลงน้ำตบหรือเอสเซนส์ให้ทั่วใบหน้า
หลังลงโทนเนอร์ ให้ตามด้วยสกินแคร์ที่มีเนื้อบางเบา อย่างน้ำตบหรือเอสเซนส์ก่อนเพื่อการบำรุงอย่างล้ำลึก สามารถใช้ได้ทั้งตอนเช้าและก่อนนอนในทุกสภาพผิว
ขั้นตอนที่ 4 ลงเซรั่ม
เนื้อเซรั่มจะมีความเข้มข้นกว่าเนื้อน้ำตบ จึงต้องลงหลังน้ำตบ เซรั่มจะช่วยแก้ปัญหาเฉพาะจุด ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น แข็งแรง
ขั้นตอนที่ 5 ตามด้วยอีมัลชั่น โลชั่น หรือครีม
ตบท้ายด้วยการล็อกความชุ่มชื้นด้วยสกินแคร์ที่มีเนื้อเข้มข้น หากเป็นคนผิวแห้งสามารถใช้ครีมเนื้อเข้มข้นได้ ส่วนใครที่ผิวมันอาจใช้แค่โลชั่นหรืออีมัลชั่นก็เพียงพอ
หากเป็นช่วงเวลากลางวัน ให้ตบท้ายด้วยครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิวจากรังสียูวี โดยเฉพาะในประเทศไทยที่แดดแรง แนะนำให้เลือกครีมกันแดดค่า SPF50 หากต้องออกแดดนานๆ
แค่ทำตาม 5 ขั้นตอนการลงสกินแคร์ที่ถูกต้อง ก็ทำให้หน้าฉ่ำ ชุ่มชื้น กระจ่างใสได้แล้ว และหากใครกำลังมองหาสกินแคร์ตัวใหม่ ไม่ว่าจะเป็นสกินแคร์กลางวันหรือกลางคืน ลองดูโปรโมชั่นดีๆ ของ KTC ที่ให้สมาชิกบัตรเครดิตสามารถแลกรับส่วนลดหรือเครดิตเงินคืนสูงสุดถึง 600 บาทเมื่อช้อปที่ SEPHORA หรือแลกรับส่วนลด 100 บาท+ แลกรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 15% ที่ EVEANDBOY
ใช้จ่ายสะดวก และรับสิทธิพิเศษดีๆ กับบัตรเครดิต KTC