ทองคำ นับเป็นอีกทางเลือกของการลงทุน เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่มูลค่าไม่ลดลงมากในยามวิกฤต ทำให้ธนาคารกลางทั่วโลกเลือกใช้ทองคำเป็นส่วนหนึ่งของทุนสำรองระหว่างประเทศ ส่งผลให้ราคาทองคำกลายเป็นตัวบ่งชี้เศรษฐกิจโดยรวมของช่วงเวลานั้นๆ ซึ่งการลงทุนในทองคำได้กลับมาเป็นที่น่าสนใจและชวนให้จับตามองอีกครั้งในปี 2567 ด้วยฐานะสินทรัพย์ที่ช่วยประกันความเสี่ยงของเงินเฟ้อได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังแลกเปลี่ยนเป็นเงินได้ง่าย จึงเหมาะกับมือใหม่หัดลงทุน อาจต้องการวางแผนเกษียณหรือเก็งกำไรในระยะสั้น
ฉะนั้น สำหรับมือใหม่ที่อยากลงทุนกับทองคำหรือกำลังใจสนใจซื้อทองเพื่อเก็งกำไร อยากหาข้อมูลเบื้องต้น เพื่อเป็นอีกช่องทางการลงทุนในการสร้างความมั่นคงทางการเงิน วันนี้ KTC ขอรวบรวมข้อมูลควรรู้เบื้องต้น ว่าการลงทุนทองคืออะไร เป็นแบบไหน และแตกต่างจากการซื้อทองเก็งกำไรอย่างไร ตรงนี้เลย
ทองคำเป็นการลงทุนเพื่อหวังผลตอบแทนระยะยาว
การลงทุนทองคืออะไร
การลงทุนทอง คือการซื้อและขายทองคำโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างผลตอบแทนในระยะยาว แม้จะมีลักษณะคล้ายกับการเทรด แต่การลงทุนในทองคำมักใช้ระยะเวลานานกว่า โดยทั่วไปตั้งแต่หลายเดือนไปจนถึงหลายปี ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจลงทุนในทองคำเบื้องต้น ก็ควรจะต้องมีเงินออมหรือ "เงินเย็น" ที่ไม่จำเป็นต้องใช้ในระยะสั้น มีความพร้อมด้านการเงินในระดับหนึ่ง และสามารถอดทนรอผลตอบแทนในระยะยาวได้
โดยสรุป วัตถุประสงค์การลงทุนทองจะเน้นไปที่การรักษามูลค่าทรัพย์สินในระยะยาว เพราะทองเป็นสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงและมีมูลค่าคงที่ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจผันผวน ส่วนรูปแบบการลงทุนนั้น สามารถทำได้ผ่านการซื้อทองแท่ง การลงทุนในกองทุนทอง กองทุนรวมอีทีเอฟทองคํา (Gold ETFs) และสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า (Gold Futures) เป็นต้น
ข้อดี-ข้อเสีย ของการลงทุนทอง
ด้วยความที่ทองคำมีลักษณะเป็นทั้งสินค้าอุปโภคบริโภค และสินทรัพย์ที่ปลอดภัยแม้ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ ทองคำให้ผลตอบแทนเป็นบวก แต่ทั้งนี้ ก่อนตัดสินใจลงทุนทองคำควรศึกษาปัจจัยหรือข้อดีและข้อเสียต่างๆ เพื่อวางกลยุทธ์การลงทุนทองเช่นกัน
ข้อดี
- ความมั่นคง: การลงทุนทอง ให้ผลตอบแทนระยะยาวสามารถเอาชนะเงินเฟ้อได้ มีความปลอดภัยหากลงทุนในช่วงวิกฤต มีสภาพคล่องสูง และรูปแบบการลงทุนที่หลากหลาย
- การกระจายความเสี่ยง: การลงทุนทองสามารถช่วยกระจายความเสี่ยงจากการลงทุนในสินทรัพย์อื่น ๆ เช่น หุ้นหรือพันธบัตร การมีทองในพอร์ตการลงทุนสามารถช่วยลดความเสี่ยงรวมได้
- ความสะดวกในการซื้อขายและความยืดหยุ่น: ทองสามารถซื้อขายได้ง่ายทั้งในรูปแบบของทองคำแท่ง หรือผ่านการลงทุนในกองทุน ETF ที่ติดตามราคาทอง ทั้งยัง สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการและกลยุทธ์การลงทุนของแต่ละบุคคล
- ความเสี่ยงต่ำ: การลงทุนทองมีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ เนื่องจากทองมีแนวโน้มที่จะรักษามูลค่าในระยะยาว แต่การเปลี่ยนแปลงของราคาทองก็อาจเกิดขึ้นได้ในระยะสั้น
ข้อเสีย
- ไม่มีผลตอบแทนที่ชัดเจน: ทองไม่ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ยหรือเงินปันผลเหมือนกับการลงทุนในหุ้นหรือพันธบัตร การทำกำไรจากการลงทุนในทองมักจะขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของราคาทอง
- การถือครอง: ผู้ลงทุนต้องถือทองในระยะยาว เพื่อเก็บมูลค่าและรับประโยชน์จากการขึ้นราคาทองเมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งการลงทุนทองทำกำไรได้ช้า ต้องรอถึงขั้นหลักปีถึงจะสร้างกำไรได้
- ต้องเดินทาง: ถ้าเลือกลงทุนทองคำแบบออฟไลน์ ก็ต้องเสียเวลาเดินทางไปที่หน้าร้านทองเพื่อซื้อทอง
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่าย: การซื้อขายทองมักมีค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่าย เช่น ค่าธรรมเนียมการจัดเก็บทองคำแท่ง หรือค่าธรรมเนียมการซื้อขายทองในตลาด ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผลตอบแทนจากการลงทุน
การซื้อทองเก็งกำไร คืออะไร
อีกรูปแบบหนึ่งในการลงทุนผ่านทองคำคือ การซื้อทองเก็งกำไร เรียกสั้นๆ อีกอย่างว่า เทรดทองคำ ซึ่งก็คือ การซื้อและขายทองคำ ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์หลายๆ ครั้ง ในช่วงเวลาสั้นๆ ในระดับวัน ชั่วโมง หรือนาที เพื่อให้ได้กำไรจากการเทรดแต่ละครั้ง โดยหลักการก็จะคล้ายกับการเทรดสินทรัพย์ชนิดอื่นๆ เช่น หุ้น หรือ Cryptocurrency
โดยสรุปคือ การซื้อทองเก็งกำไร คือการ ซื้อมาขายไป แล้วเก็งกำไรจากส่วนต่าง มีจุดประสงค์เพื่อทำกำไรจากความผันผวนของราคาทองในระยะสั้น การซื้อมักจะเกิดขึ้นในช่วงที่ราคาต่ำ และขายออกเมื่อราคาสูงขึ้น ทั้งนี้ รูปแบบการลงทุนในการซื้อทองเก็งกำไรก็คือ จะเน้นการซื้อขายทองคำแท่ง หรือใช้ตราสารอนุพันธ์ (Gold Futures) เป็นต้น
ข้อดี-ข้อเสีย ของการซื้อทองเก็งกำไร
การซื้อทองเก็งกำไร หรือ การเทรดทองนั้นคือ การซื้อมาขายไป แม้จะเป็นการลงทุนในระยะเวลาสั้นๆ แต่ก็มีข้อดี ข้อเสีย ที่เหมาะกับผู้ลงทุนที่มีความต้องการแตกต่างกันออกไป ฉะนั้น ผู้ลงทุนจำเป็นต้องศึกษาข้อมูลการลงทุน ให้ละเอียดถี่ถ้วนเสียก่อน ดังนั้น สำหรับผู้ที่ต้องการทราบข้อดี-ข้อเสีย ของการซื้อทองเก็งกำไร สามารถดูได้ดังต่อไปนี้
ข้อดี
- โอกาสในการทำกำไรระยะสั้น: การซื้อทองเก็งกำไรให้โอกาสในการทำกำไรอย่างรวดเร็วจากความผันผวนของราคาทองในตลาด ซึ่งสามารถทำให้ได้ผลตอบแทนสูงในระยะเวลาอันสั้นหากการคาดการณ์ถูกต้อง
- การซื้อขายง่าย: ตลาดทองคำมีสภาพคล่องสูง สามารถซื้อขายได้ง่ายและรวดเร็วผ่านตลาดซื้อขายทองหรือแพลตฟอร์มออนไลน์ ทำให้สามารถเข้าและออกจากตลาดได้ตลอดเวลา
- ใช้ต้นทุนต่ำและไม่ต้องเดินทางไปร้านทอง: การซื้อทองเก็งกำไรสามารถทำได้ผ่านสมาร์ทโฟนเครื่องเดียว รวมไปถึงใช้ต้นทุนต่ำ ไม่จำเป็นต้องมีเงินก้อนใหญ่
- เข้าถึงง่าย: การลงทุนทองแบบการเก็งกำไร สามารถเริ่มต้นได้เร็ว ถ้ามีการศึกษาข้อมูลอย่างถี่ถ้วน
ข้อเสีย
- ความเสี่ยงสูง: การเก็งกำไรในทองคำมักมีความเสี่ยงสูง เพราะราคาทองสามารถผันผวนอย่างมากในระยะสั้น มีโอกาสขาดทุนได้ง่าย มีความผันผวนระหว่างวัน
- ความไม่แน่นอนของตลาด: ราคาทองสามารถได้รับผลกระทบจากปัจจัยหลายประการ เช่น สภาวะเศรษฐกิจโลก การเมือง อัตราแลกเปลี่ยน หรือความต้องการของตลาด ซึ่งยากที่จะคาดเดาได้อย่างแม่นยำ
- ต้องอาศัยการเรียนรู้ : จำเป็นต้องศึกษาข้อมูลก่อนการลงทุน รวมถึงการทดลองเทรดด้วย
- ต้องอาศัยแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือ : ต้องใช้เวลาศึกษาและเลือกแพลตฟอร์มที่มีความน่าเชื่อถือ เพื่อป้องกันการถูกหลอก
วิธีการซื้อทองเก็งกำไร
การซื้อทองเก็งกำไรมีหลายวิธีที่คุณสามารถเลือกใช้ตามความเหมาะสมของตนเอง ทั้งนี้หลักๆ จะมีวิธีการซื้อทองเก็งกำไร ดังต่อไปนี้
- ซื้อทองคำแท่งหรือทองคำรูปพรรณ เป็นช่องทางเก็งกำไรจากทองคำอันดับแรกๆ ที่นักลงทุนเลือก เพราะเข้าถึงง่าย สามารถกำหนดช่วงเวลาขายทองคำเพื่อทำกำไรได้ตามความพึงพอใจของนักลงทุน วิธีลงทุน คือ เดินเข้าไปที่ร้านทองแล้วเลือกว่าต้องการลงทุนทองคำแท่งหรือทองคำรูปพรรณ
- การใช้สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า (Gold Futures) เป็นเครื่องมือที่นักลงทุนสามารถกำไรได้ตามความคาดการณ์ที่มีต่อราคาทองคำทั้งในภาวะราคาทองขาขึ้น และราคาทองขาลง เพราะสามารถซื้อก่อนขายหรือขายก่อนซื้อก็ได้ ทั้งนี้ นักลงทุนสามารถซื้อขาย Gold Futures ผ่านระบบซื้อขายอิเล็กทรอนิกส์ของตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) ซึ่งมีบริษัท สำนักหักบัญชี (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ประกันการชำระราคาจากการซื้อขาย และมีสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เป็นผู้กำกับดูแลการดำเนินงานของตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าและบริษัทสมาชิก
- กองทุนรวมทองคำ เป็นการลงทุนผ่านกองทุนที่คุณไม่ต้องเดินไปซื้อทองคำที่ร้านทองด้วยตัวเองให้เหนื่อย เพียงลงทุนผ่านกองทุนรวมทองคำที่คุณต้องการ ที่สำคัญใช้งบน้อย ไม่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญมากก็สามารถลงทุนได้ เพราะมีผู้เชี่ยวชาญคอยจับจังหวะลงทุน และปรับพอร์ตให้อยู่ตลอด
สรุปการลงทุนทอง ซื้อทองเก็งกำไรต่างกันอย่างไร
มาถึงตรงนี้ คุณอาจจะเห็นได้เลยว่า การลงทุนทองและการซื้อทองเก็งกำไรแตกต่างกันที่วัตถุประสงค์และระดับความเสี่ยง การลงทุนทองจะเน้นการรักษามูลค่าและความมั่นคงในระยะยาว โดยผู้ลงทุนมักถือทองเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากเศรษฐกิจที่ผันผวน ส่วนการซื้อทองเก็งกำไรมุ่งทำกำไรในระยะสั้นจากความผันผวนของราคาทอง โดยต้องอาศัยการคาดการณ์ที่แม่นยำและยอมรับความเสี่ยงสูง อย่างไรก็ดี ทองคำยังเป็นสินทรัพย์ที่น่าจับตามองสำหรับผู้ที่สนใจในการลงทุน ทั้งนี้ ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียด เพื่อเพิ่มความได้เปรียบและลดข้อจำกัด ที่จะนำไปสู่การลงทุนที่ประสบความสำเร็จนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าคุณจะเลือกลงทุนทองหรือซื้อทองเก็งกำไร การใช้บัตรเครดิต KTC ในการซื้อทอง ก็สามารถเพิ่มความคุ้มค่าให้กับการลงทุนของคุณได้ ด้วยสิทธิประโยชน์พิเศษสำหรับผู้ถือบัตรเครดิต KTC ไม่ว่าจะเป็น การรับคะแนนสะสมเมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรฯ ผ่อนชำระค่าทองคำ หรือการรับเครดิตเงินคืนจากร้านค้าที่กำหนด ฉะนั้น ก่อนตัดสินใจลงทุนหรือเก็งกำไรในทองคำ ควรศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน ประเมินความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และพิจารณาใช้บัตรเครดิต KTC เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการลงทุนของคุณ เริ่มต้นด้วยจำนวนเงินที่เหมาะสมกับสถานะทางการเงินของคุณ และอย่าลืมว่าการกระจายความเสี่ยงในการลงทุนเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญสำหรับการสร้างความมั่งคั่งในระยะยาว สมัครบัตรเครดิต KTC ผ่านเว็บไซต์ ได้ตลอด 24 ชม. ไม่มีค่าธรรมเนียม รับคะแนนสะสมไม่มีวันหมดอายุ พร้อมส่วนลดจากร้านค้าชั้นนำมากมาย
ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC