ในยุคที่การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตกลายเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวัน หลายคนอาจสงสัยว่าการกดเงินสดจากบัตรเครดิตนั้นแตกต่างจากการใช้บัตรกดเงินสดทั่วไปอย่างไร แม้ว่าทั้งสองวิธีจะช่วยให้เราเข้าถึงเงินสดได้อย่างสะดวกรวดเร็ว แต่กลไกการทำงานและผลกระทบทางการเงินของทั้งสองวิธีนั้นแตกต่างกัน การกดเงินสดจากบัตรเครดิตเป็นบริการที่ธนาคาร/สถาบันการเงิน มอบให้แก่สมาชิกบัตรฯ เพื่อให้สามารถเบิกถอนเงินสดได้ ในกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น โดยใช้วงเงินตามบัตรเครดิตที่ได้รับอนุมัติจากธนาคาร/สถาบันการเงิน พ่วงด้วยเงื่อนไขค่าธรรมเนียมและดอกเบี้ย ในขณะที่บัตรกดเงินสด คือทางออกฉุกเฉินสำหรับผู้ที่ต้องการเงินสดไว้ใช้ยามจำเป็น ช่วยเสริมสภาพคล่องทางการเงินได้ทุกสถานการณ์ ในอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมสูงสุดอยู่ที่ 25% ต่อปี
ซึ่งในบทความนี้ KTC จะพาไปทำความรู้จักกับรายละเอียดของการกดเงินสดจากบัตรเครดิต เปรียบเทียบข้อดีข้อเสียกับการใช้บัตรกดเงินสดทั่วไป พร้อมข้อควรทราบที่อาจเป็นประโยชน์สำหรับผู้บริโภคในการจัดการเงินสดของตนเอง
กดเงินจากบัตรเครดิตจะต้องเสียค่าธรรมเนียม 3% ของยอดที่กด และภาษีอีก 7%
บัตรเครดิต คืออะไร ?
บัตรเครดิต (Credit Card) คือบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้จ่ายแทนเงินสด จัดเป็นสินเชื่อส่วนบุคคลประเภทหนึ่ง ที่ออกโดยธนาคาร/สถาบันการเงิน โดยผู้ถือบัตรสามารถใช้บัตรเครดิตในการจ่ายซื้อสินค้าหรือบริการก่อน แล้วจึงชำระเงินคืนในวันที่กำหนดตามเงื่อนไข หากชำระไม่ตรงตามกำหนด จะมีดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 16 ต่อปี ตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย (ข้อมูล ณ วันที่ 8 ส.ค. 67)
แต่นอกเหนือไปจากนั้น บัตรเครดิตยังจัดเป็นตัวช่วยที่สามารถเสริมสภาพคล่องทางการเงินได้ ด้วยมีระยะเวลาปลอดดอกเบี้ย เช่น 30-45 วัน ซึ่งช่วยในการบริหารเงินสด พร้อมสิทธิประโยชน์ที่หลากหลายตามธนาคาร/สถาบันการเงิน เช่น การสะสมคะแนนจากการใช้จ่ายผ่านบัตร ส่วนลดจากร้านค้าที่ร่วมรายการ โปรโมชั่นผ่อนชำระดอกเบี้ย 0% รับเครดิตเงินคืนจากการใช้จ่ายผ่านบัตร แลกคะแนนเป็นสินค้า บริการ ส่วนลดหรือเครดิตเงินคืน โอนคะแนนเป็นไมล์สายการบิน การเบิกถอนเงินสดล่วงหน้า และอื่นๆ ที่ผู้บริโภคควรศึกษาเงื่อนไขให้ครบถ้วนเพื่อได้รับประโยชน์สูงสุดตามไลฟ์สไตล์ของตนเอง
บัตรกดเงินสด คืออะไร ?
บัตรกดเงินสดคือผลิตภัณฑ์สินเชื่อในรูปแบบของบัตร ที่ธนาคาร/สถาบันการเงินออกให้แก่ลูกค้าเพื่อนำไปเบิกถอนเงินสดทั้งผ่านแอปพลิเคชันของธนาคารหรือผ่านตู้ ATM หรือเบิกถอนผ่านแอปพลิเคชัน ตามวงเงินที่ได้รับอนุมัติในบัตรกดเงินโดยไม่เสียค่าธรรมเนียม อย่างไรก็ตาม บัตรกดเงินสดส่วนใหญ่ไม่สามารถใช้ชำระค่าสินค้าหรือบริการได้ ยกเว้นบัตรกดเงินสดเฉพาะบางสถาบันทางการเงินเท่านั้นที่สามารถทำได้
ทั้งนี้ โดยทั่วไปแล้วบัตรกดเงินสดนั้นจะมอบวงเงินสินเชื่อสูงสุด 5 เท่าของรายได้ อย่างไรก็ตามวงเงินเป็นข้อกำหนดของแต่ละประเภทบัตร และสถาบันทางการเงิน และมีอัตราดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียมสูงสุดอยู่ที่ 25% ต่อปี ซึ่งเป็นไปตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย พร้อมการคิดอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก และถ้าไม่ได้ใช้บัตรกดเงินสดก็ไม่ต้องเสียค่าบริการหรือค่าธรรมเนียมใดๆ ทั้งสิ้น
ตารางเปรียบเทียบระหว่างการกดเงินสดผ่านบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสด
เพื่อให้คุณเข้าใจอย่างชัดเจนว่าการกดเงินสดกับบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสด แตกต่างกันอย่างไร โดยสามารถดูตารางเปรียบเทียบตามด้านล่างนี้
บัตรเครดิต |
บัตรกดเงินสด |
|
ประเภทที่นิยมใช้ |
ชำระค่าสินค้า และบริการต่างๆ แทนเงินสด |
เบิกถอนเงินสดจากวงเงินเข้าบัญชีธนาคารหรือกดเป็นเงินสด |
อัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม |
สูงสุด 16% ต่อปี |
สูงสุด 25% ต่อปี |
การคิดดอกเบี้ย |
มีระยะเวลาปลอดดอกเบี้ยสูงสุด 45
วันหากเป็นการชำระค่าสินค้า/บริการ |
คิดดอกเบี้ยทันทีเมื่อกดเงินสด |
ค่าธรรมเนียมแรกเข้าและค่าธรรมเนียมรายปี |
ไม่มี |
ไม่มี |
ระยะเวลาการกดเงินสด |
ใช้ได้ทันที |
ใช้ได้ทันที |
ค่าธรรมเนียมการกดเงินสด |
3% ของยอดที่กดเงินสด |
ไม่มี |
ภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT) |
7% ต่อปี ทุกครั้งในการกดเงินสด |
ไม่มี |
ชำระคืนขั้นต่ำ |
8% ของยอดคงค้าง |
3% ของยอดคงค้าง |
สะสมคะแนน โปรโมชั่นส่วนลดสินค้า |
มี |
ไม่มี |
ระยะเวลาโปรโมชั่นผ่อนชำระ |
ผ่อนชำระสูงสุด 10 เดือน |
ผ่อนชำระสูงสุด 24 เดือน |
เบิกถอนเงินสดขั้นต่ำ |
500 บาท |
1,000 บาท |
*บัตรกดเงินสด KTC PROUD สามาถชำระสินค้าได้ ณ ร้านค้าที่รับบัตรเครดิต Mastercard และ UnionPay
กดเงินสดจากบัตรเครดิตได้เท่าไหร่ ? มีวิธีการได้รับเงินอย่างไร ?
สำหรับการกดเงินจากบัตรเครดิตได้เท่าไหร่นั้น ขึ้นอยู่กับยอดวงเงินคงเหลือ ณ ขณะนั้นในบัตรเครดิตของคุณ แต่สิ่งที่จะต้องรู้ก่อนกดเงินสดจากบัตรเครดิตก็คือเมื่อกดเงินสดจากบัตรเครดิตหรือโอนเงินจากบัตรเครดิตจะต้องเสียค่าธรรมเนียม 3% ของยอดที่กด และภาษีอีก 7%
ซึ่งอัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิต KTC คิดเป็น 16% ต่อปี ตั้งแต่วันที่ทำรายการ
ทั้งนี้ หากต้องการเลือกผ่อนชำระหนี้ด้วยการแบ่งจ่ายเป็นรายเดือน ก็ควรทำการตรวจสอบรายละเอียดของแต่ละธนาคาร/สถาบันการเงินให้ดี เนื่องจากอาจมีรูปแบบเงื่อนไขและอัตราค่าธรรมเนียม การคิดอัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างกันออกไป
วิธีการได้รับเงิน
- สามารถเบิกถอนเงินสดได้ทันทีตามวงเงินภายในบัตรผ่านตู้ ATM หรือเลือกโอนเงินเข้าบัญชีได้ง่าย ๆ ผ่านแอปพลิเคชันของธนาคาร/สถาบันการเงินนั้นๆ
กดเงินสดจากบัตรกดเงินสดได้เท่าไหร่ ? มีวิธีการได้รับเงินอย่างไร ?
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าโดยทั่วไปแล้ว บัตรกดเงินสดนั้น จะมอบวงเงินสินเชื่อสูงสุด 5 เท่าของเงินเดือน อย่างไรก็ตาม วงเงินเป็นข้อกำหนดของแต่ละประเภทบัตร และสถาบันทางการเงิน โดยคุณสามารถคำนวณวงเงิน และยอดผ่อนชำระต่อเดือน เมื่อสมัครบัตรกดเงินสดกับ KTC PROUD ได้ง่ายๆ ผ่านทางเว็บไซต์
วิธีการได้รับเงิน
- บัตรกดเงินสด เมื่อมีการเปิดบัตร คุณสามารถเบิกถอนเงินสดได้ทันทีตามวงเงินภายในบัตรผ่านตู้ ATM และแอปพลิเคชันของธนาคาร/สถาบันการเงินนั้นๆ
- สินเชื่อส่วนเงินสดแบบผ่อนรายงวด จะได้รับเงินมาเป็นก้อนโดยโอนเข้าบัญชีธนาคารตามที่ระบุไว้ตอนยื่นขอสินเชื่อ
ดอกเบี้ยบัตรเครดิตกับบัตรกดเงินสดคิดต่างกันอย่างไร ?
สิ่งที่เหมือนกันเมื่อกดเงินสดจากบัตรเครดิตและกดเงินสดจากบัตรกดเงินสด คือมีการคิดดอกเบี้ยตั้งแต่วันที่กดเงินสดออกมา เพราะฉะนั้นก่อนกดเงินสดต้องถามตัวเองก่อนเสมอว่า เราจะเอาเงินมาคืนได้เมื่อไหร่? แบบไหน? เพื่อเลือกบัตรที่ได้ประโยชน์ที่สุด โดยมีตัวอย่างวิธีคิดอัตราดอกเบี้ย เพื่อนำไปปรับใช้ และมองเห็นภาพมากขึ้น ดังนี้
เปรียบเทียบค่าใช้จ่ายกดเงินสดจากบัตรเครดิตกับบัตรกดเงินสด
จากข้างต้นดูเหมือนการกดเงินสดจากบัตรเครดิต เหมาะกับคนที่มีความจำเป็นในการใช้เงินที่ไม่ได้กดเงินสดบ่อยๆ และใช้เวลานานในการชำระคืน แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยจะต่ำกว่า แต่ก็มีค่าธรรมเนียมเบิกถอน และภาษีมูลค่าเพิ่มทุกๆ ครั้งที่กดเงินสดออกมา สำหรับการใช้บัตรกดเงินสดจะเหมาะสมกว่าหากจำเป็นต้องใช้เงินสดบ่อยๆ อย่างไรก็ดี การวางแผนการเงินและพยายามชำระคืนให้เร็วที่สุด เป็นวิธีที่ดีที่สุด และยังทำให้เสียดอกเบี้ยน้อยลงได้ด้วย
โดยสรุปแล้ว บัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดนั้น มีจุดประสงค์ด้านการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป โดยบัตรเครดิตจะเน้นใช้ชำระเพื่อซื้อสินค้าโดยตรง ใช้แทนเงินสด เพื่อสะสมคะแนน ในขณะที่บัตรกดเงินสดจะเน้นการเบิกถอนเงินสดออกมาใช้เป็นหลัก ซึ่งถือเป็นทางเลือกในการปรับสภาพคล่องทางการเงิน ที่ผู้ใช้จำเป็นต้องมีวินัยทางการเงิน เพราะหากมีหนี้บัตรกดเงินสดจำนวนมากจนไม่สามารถชำระคืนได้ อาจส่งผลต่อการพิจารณาสินเชื่อในอนาคตได้
สำหรับผู้ที่สนใจและกำลังมองหาบัตรเพื่อการใช้จ่ายแทนเงินสดในชีวิตประจำและสามารถกดเงินสดออกมาได้เมื่อยามจำเป็น
แนะนำเลือกบัตรที่ตรงกับไลฟ์สไตล์และสมัครไว้ทั้งบัตรเครดิต KTC และบัตรกดเงินสด KTC PROUD
ผ่านทางออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อสิทธิประโยชน์สูงสุดในทุกการใช้จ่าย
ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC