เคยรู้สึกว่างานที่ทำอยู่ ไม่ใช่เราหรือเปล่า! ไม่เติมเต็ม ไม่เอนจอยหรือท้าทายใด ๆ อีกแล้วทั้ง ๆ ที่บริษัทที่ทำอยู่ก็ดี มีชื่อเสียง เอ๊ะ! หรือว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนงานแล้วสินะ แต่อีกใจก็คิดว่าถ้าลาออกจากงานแล้ว หางานใหม่ไม่ได้ทำยังไงต่อดี ยิ่งสถานการณ์แบบนี้การหางานใหม่ยิ่งยากขึ้นอีก เมื่องานก็อยากเปลี่ยน ออกจากงานก็อยากออก กลัวตกงานก็กลัว ความมั่นคงในชีวิตก็อยากมี ทำไงดี?
“Once in your life, Try something. Work Hard at something. Try to change, Nothing bad can happen.” - Jack Ma
อ่านจบกำลังใจก็มา โมเม้นยากๆ ที่มีคำถามมายมายข้างต้น จะหาทางออกได้ง่ายขึ้น ถ้าวันนี้เราเต็มที่และเตรียมตัวเองให้พร้อมล่วงหน้าในทุก ๆ ด้าน ถ้าทำได้ เชื่อเถอะว่าเปลี่ยนงานใหม่ ปัง! แน่นอน
เมื่อคิดเปลี่ยนงาน ก่อนออกจากงานเตรียมยังไงดี?
1. เริ่มต้นที่ตัวเองก่อนเลย สร้างความพร้อม อย่ากลัว!
แม้ว่าเราเป็นคนที่ต้องการเปลี่ยนงาน แต่ตัวเราเองกลับเป็นอุปสรรคเสียเอง กังวลและกลัวไปหมด แต่รู้ไหม? คนดังๆ หลายคนต่างเคยทำอาชีพอื่นมาก่อน อาทิเช่น แบรท พิตติ์ เคยเป็นพนักงานขับรถลีมูซีน, Walt Disney เคยเป็นนักวาดภาพการ์ตูนอิสระก่อนตั้ง Disney’s Brother Studio, Julia Child เคยทำงานด้านความลับให้กับสหรัฐอเมริกามาก่อนผันตัวเชฟอาหารฝรั่งเศสชื่อดัง ดังนั้นไม่ต้องกลัว ลุยไปให้สุด
2. สร้าง Connection รู้จักคนให้มาก
การรู้จักคนในบริษัทอื่นๆ เพิ่มโอกาสในการสมัครงาน เพราะจะได้รู้ตำแหน่งงานที่เปิดรับก่อนใคร หรือเปิดโอกาสให้เค้ารู้จักตัวตนของเรา เพิ่มเครดิตให้กับตัวเอง เพราะเรซูเม่ (resume) คือใบเบิกทาง แต่ถ้าไม่น่าสนใจพอ บริษัทไหนจะมาเรียกไปสัมภาษณ์กันล่ะ!
3. เตรียม Resume ให้เริด! พร้อมร่อน!
หลายคนบอกว่า “อย่ายื่นใบลาออก จนกว่าจะได้งานใหม่” นั่นก็เรื่องจริง มีตำแหน่งงานมากมายที่รับสมัครทางออนไลน์ แต่ก็มีจำนวนเรซูเม่ มหาศาลที่สมัครเข้าไปเช่นกัน ดังนั้นการปัดฝุ่นเรซูเม่ สำคัญที่สุด คืออัพเดทเป้าหมายในอาชีพ (career goal) ให้ชัด เคลียร์ และตรงกับตำแหน่งงานที่ต้องการจะสมัคร ช่วยให้เรซูเม่ของเราเข้าตาได้ไม่ยาก
4. Upskill ให้พร้อม ลับคมมีดให้คมอยู่เสมอ
โอกาสเป็นของคนที่พร้อมเสมอ! ในยุคที่อะไรก็ไม่แน่ไม่นอนแบบนี้อาจไม่มีที่ว่างสำหรับคนใหม่ และอีกหลายบริษัทมีนโยบายให้พนักงานปรับตัวและทำงานในหน้าที่หลากหลายมากขึ้น แต่ใช่ว่าทุกบริษัทจะมีคนที่พร้อมและมีทักษะพอกับการเปลี่ยนแปลงในรูปแบบนี้ มาแอคทีฟตัวเองด้วยการเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ที่ตัวเราสนใจ จำเป็น และตรงกับความต้องการของงานใหม่หรือตลาดในขณะนั้น เริ่มต้นได้ง่ายๆ ใช้โลกออนไลน์ให้เป็นประโยชน์ อินเตอร์เนทเต็มไปด้วยความรู้ฟรีมากมายให้ได้ศึกษา หรือลงเรียนคอรสเทรนนิ่งเสริมความรู้ใหม่ๆ จากสถาบันดังๆ ทั่วโลกต่อยอดก็ได้ไม่ว่ากัน
5. เตรียมสภาพคล่องทางการเงินไว้ล่วงหน้า เผื่อฉุกละหุกร้อนเงิน
: เงินสำรองฉุกเฉินสำคัญมาก เผื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเราก็สามารถนำเงินนี้มาดำรงชีวิตได้ วางแผนให้ดี แนะนำให้สำรองเงินฉุกเฉินไว้อย่างน้อย 6-12 เดือนของรายจ่ายรวมหนี้ของแต่ละเดือน
: ก่อนลาออกจากงาน หรือช่วงหางาน สิ่งที่หลายคนหลงลืมคือจัดการธุรกรรมธนาคารใด ๆ ให้เสร็จ โดยเฉพาะที่ต้องใช้รายงานการเดินบัญชี (statement) เช่น การสมัครบัตรเครดิต หรือการกู้สินเชื่อบ้าน ธนาคารต้องเช็คบัญชีเงินเดือนย้อนหลังตามขั้นตอน แม้ได้งานใหม่แล้วแต่ยังอยู่ในช่วงทดลองงาน (probation) ก็ยากสำหรับการอนุมัติ ดังนั้นสมัครไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ จะดีกว่า
: วางแผนชีวิตล่วงหน้ามีบัตรเครดิตอย่างน้อย 1 ใบ ใครจะรู้! เผื่อหน้ามืดลาออกแล้วฟ้าฝนไม่เป็นใจ จำเป็นต้องใช้เงินด่วน หรือผ่อนของสำคัญ ไม่ต้องไปเป็นหนี้นอกระบบ บัตรเครดิตก็เป็นตัวช่วยฉุกเฉินได้เหมือนกันในวันที่ต้องการ และยังมีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับการผ่อนด้วย แต่แนะนำเลือกเน้น ๆ คำว่า “ไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปี” ไว้ก่อน ถึงไม่จำเป็นต้องใช้เงินฉุกเฉินขนาดนั้นช่วงออกจากงาน แต่มีไว้ก็อุ่นใจกว่า
6. ศึกษาผลตอบแทนและเวลาการเดินทางของที่ทำงานใหม่ให้ดี
ศึกษาบริษัทและตำแหน่งที่จะสมัครให้ดี งานที่ใช่! อย่างเดียวคงไม่พอ ต้องดำรงชีพได้อย่างสบายอีกด้วย เรื่องค่าตอบแทนและสวัสดิการก็ถือเป็นอีกหนึ่งการบ้านที่ต้องรู้ เปรียบเทียบผลตอบแทนกับตำแหน่งเดียวกันในตลาด เพิ่มเติมอีกนิดเรื่องการเดินทางไม่ควรใช้เวลามากนัก เพื่อให้เราพร้อมสำหรับการทำงานในทุก ๆ วัน
7. เช็คสังคมที่ทำงานของบริษัทใหม่
สังคมที่ทำงานก็มีส่วน นอกจากออฟฟิศสวย ทันสมัย ครบครัน ระบบการทำงาน และสังคมเพื่อนร่วมงานเป็นไง ก็เช็คข่าวกันหน่อย เพื่ออย่างน้อยให้อยู่รอด อยู่เป็น เติบโต สบายใจ และไร้กังวล
ในทุกการเปลี่ยนงาน ไม่ว่าโอกาสมาแบบเปิดประตูรอ หรือว่าต้องค้นหาเอง เชื่อเหอะว่าการเตรียมพร้อมในทุกด้านเป็นแบ็คอัพที่ดีให้กับตัวเอง อย่างน้อยก็คลายความกังวลพร้อมพุ่งชนทุกเป้าหมาย แต่สุดท้ายแล้ว…โอกาสของงานใหม่ยังมาไม่ถึง แล้วเครียดนัก ให้ไปฟิตเนสออกกำลังกาย ปลอบโยนด้วยอาหารอร่อย ออกท่องเที่ยว หรือหาของขวัญปลอบใจให้ตัวเองสักชิ้น ก็สามารถบรรเทาได้ แต่ถ้าจะดีให้มีบัตรเครดิต KTC ไปด้วย บัตรเดียวที่มีโปรโมชั่นดี ๆ เพียบ และพร้อมจะเยียวยาคุณ - สมัครบัตรเครดิต KTC ออนไลน์ สมัครง่ายไม่มีค่าธรรมเนียม มีไว้อุ่นใจจริง ๆนะ
ที่มา: คำแนะนำจากประสบการณ์ของผู้เขียน และชวนสมัครบัตรเครดิตแหละ ดูออก!
สมัครบัตรเครดิต…ที่นี่
ไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปี
