ตรวจ ตรอ. คืออะไร ทำไมต้องทำก่อนต่อภาษีรถยนต์
ยานพาหนะที่ผู้คนในยุคปัจจุบันใช้เพื่อเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ นั่นก็คือรถยนต์ แต่การออกรถยนต์มาใช้งานสักคัน มีสิ่งที่ต้องเตรียมความพร้อมและดูแลมากมาย รวมถึงสิ่งที่ควรรู้หลังจากซื้อรถยนต์หรือใช้งานรถยนต์ไปได้สักระยะ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจเช็คสภาพรถยนต์ การต่อภาษีรถยนต์ การทำประกันภัยรถยนต์ การเปลี่ยนยางรถยนต์ หรืออื่น ๆ เรื่องเหล่านี้ถือเป็นสิ่งที่คนมีรถห้ามละเลย เพราะเกี่ยวข้องถึงความปลอดภัยทั้งของคุณและเพื่อนร่วมทาง โดยวันนี้พี่เบิ้มจะพาไปทำความรู้จักการตรวจสภาพรถ ตรอ. ที่หลายคนคงคุ้นหูกับชื่อนี้เป็นอย่างดีแต่ยังไม่รู้ว่าคืออะไร และจำเป็นต้องไปตรวจไหม เสียค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ พี่เบิ้มรวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจมาฝากกันครับ
เลือกอ่านตามหัวข้อ
- ตรวจ ตรอ. คืออะไร
- การตรวจสภาพรถกับ ตรอ. คือสิ่งจำเป็นไหม
- รถอายุกี่ปีที่ต้องตรวจสภาพก่อนต่อภาษีรถยนต์
- ตรวจสภาพรถ ตรวจอะไรบ้าง
- เอกสารตรวจสภาพรถ ใช้อะไรบ้าง
- ตรวจสภาพรถ ตรอ. ราคาเท่าไหร่
- รถแบบไหนที่ ตรอ . ไม่รับตรวจสภาพรถ
- หากตรวจสภาพรถกับ ตรอ. ไม่ผ่าน ต้องทำอย่างไร
- หากไม่รู้จะตรวจสภาพรถที่ไหน เสิร์ช ตรอ. ใกล้ฉัน สะดวกกว่า
- สรุปบทความ ตรวจ ตรอ. คืออะไร ทำไมต้องทำก่อนต่อภาษีรถยนต์
ตรวจ ตรอ. คืออะไร
การตรวจ ตรอ. คือ เป็นการตรวจเช็กสภาพรถประจำปี ว่ายังมีความพร้อมในการใช้งานบนท้องถนนอย่างปลอดภัยหรือไม่ หากผ่านการตรวจตามที่กำหนด จะสามารถต่อภาษีรถยนต์ได้ตามปกติ แต่หากตรวจไม่ผ่าน จะต้องนำรถไปตรวจเช็ก และแก้ไขจุดที่ไม่ผ่านให้เรียบร้อย ก่อนจะนำกลับมาตรวจสภาพอีกครั้ง เพื่อต่อภาษีรถยนต์ในการใช้งาน
การตรวจสภาพรถกับ ตรอ. คือสิ่งจำเป็นไหม
การตรวจสภาพรถกับ ตรอ. คือสิ่งจำเป็นที่ต้องทำทุกปีก่อนต่อภาษีรถยนต์ เพราะข้อกฎหมายบังคับไว้ ยกเว้นรถที่มีอายุการใช้งานไม่เกิน 5 หรือ 7 ปี (แล้วแต่ประเภทรถ) จะไม่ต้องทำการตรวจ ตรอ. ก่อนต่อภาษีประจำปีในการใช้รถ
รถอายุกี่ปีที่ต้องตรวจสภาพก่อนต่อภาษีรถยนต์
กรมการขนส่งทางบก ได้กำหนดประเภทของรถที่ต้องเข้ารับการตรวจสภาพรถก่อนทำการยื่นต่อภาษีประจำปี ไว้ดังนี้
- รถยนต์ส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง อายุการใช้งาน 7 ปีขึ้นไป
- รถยนต์ส่วนบุคคลเกิน 7 ที่นั่ง อายุการใช้งานรถยนต์ 7 ปีขึ้นไป
- รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล อายุการใช้งานรถครบ 7 ปีขึ้นไป
- รถจักรยานยนต์ อายุการใช้งาน 5 ปีขึ้นไป
*ตรวจสภาพรถที่ ตรอ. สามารถนำรถยนต์ไปตรวจล่วงหน้าได้ไม่เกิน 3 เดือน ก่อนวันหมดอายุภาษีประจำปี
ตรวจสภาพรถ ตรวจอะไรบ้าง
การตรวจสภาพรถยนต์ ตรอ. จะเป็นการตรวจสภาพรถแบบละเอียด เพื่อที่คุณจะสามารถนำข้อมูลการตรวจสภาพไปยื่นแก่กรมการขนส่งทางบกได้เวลายื่นต่อภาษีรถประจำปี โดยมีเรื่องที่ต้องตรวจดังนี้
- ตรวจความถูกต้องของข้อมูลรถ อาทิ ลักษณะรถ หมายเลขตัวรถ ตัวเลขเครื่องยนต์ แผ่นป้ายทะเบียน ชนิดเชื้อเพลิง ชนิดเครื่องยนต์ จะต้องถูกต้องตามที่ระบุไว้ในเล่มทะเบียนรถยนต์
- ตรวจสภาพตัวรถ อาทิ สีรถ อุปกรณ์ไฟฟ้าของรถยนต์ พวงมาลัย ที่ปัดน้ำฝน ไฟสัญญาณ ระบบไฟส่องสว่าง ที่นั่ง เข็มขัดนิรภัย ยางรถยนต์ อุปกรณ์ความปลอดภัยในรถยนต์ และตัวถังของรถยนต์
- ตรวจสภาพภายในรถยนต์ อย่างระบบรองรับน้ำหนัก ระบบเบรค ระบบเชื้อเพลิง ระบบส่งกำลัง ระบบท่อไอเสีย ระบบเครื่องยนต์ และระบบบังคับเลี้ยว
- ตรวจสอบไฟหน้ารถยนต์แบบละเอียด อย่างทิศทางการเบี่ยงเบนของแสง ไปจนถึงการวัดค่าความเข้มของแสงว่าได้มาตรฐานหรือไม่
- ตรวจสอบประสิทธิภาพการเบรคของรถ โดยตรวจอุปกรณ์ทุกชิ้นเกี่ยวกับระบบเบรคว่า อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานหรือไม่ มีความเสียหายตรงจุดไหนไหม และทดสอบประสิทธิภาพบนลูกกลิ้งของระบบเบรค
- ตรวจวัดค่าคาร์บอนไดออกไซด์ ก๊าซไฮโดรคาร์บอนว่ารถยนต์ของคุณมีการปล่อยมลพิษทางอากาศออกมาสู่ท้องถนนหรือไม่
- สำหรับรถยนต์ที่ใช้เครื่องประเภทดีเซลต้องทำการตรวจควันดำที่ถูกปล่อยออกมาจากรถ โดยกระดาษคัดกรองควันดำต้องไม่เกินร้อยละ 50 และความทึบแสงต้องไม่เกินร้อยละ 45 ของควันที่ถูกปล่อยออกมา
- ตรวจวัดระดับเสียง โดยมาตรฐานระดับเสียงของรถยนต์ต้องไม่เกิน 95 เดซิเบล
เอกสารตรวจสภาพรถ ใช้อะไรบ้าง
การไปตรวจ ตรอ. จะใช้เพียงเล่มทะเบียนรถเท่านั้น ซึ่งจะกินระยะเวลาในการตรวจไม่เกิน 2 ชั่วโมง จึงควรเช็กสภาพรถก่อนเดินทางไปตรวจให้พร้อม เพื่อไม่ให้เป็นการไปแบบเสียเที่ยว
ตรวจสภาพรถ ตรอ. ราคาเท่าไหร่
การตรวจเช็คสภาพรถยนต์ ตรอ. มีค่าใช้จ่ายที่กำหนดเอาไว้แบบตายตัวจากกรมการขนส่งทางบก ดังนี้
- สำหรับรถยนต์ที่มีน้ำหนักรถเปล่าไม่เกิน 1,600 กิโลกรัม ราคาคันละ 150 บาท
- สำหรับรถยนต์ที่มีน้ำหนักรถเปล่าเกิน 1,600 กิโลกรัม ราคาคันละ 250 บาท
- รถจักรยานยนต์ ราคาคันละ 60 บาท
รถแบบไหนที่ ตรอ . ไม่รับตรวจสภาพรถ
แม้ว่า ตรอ. จะเป็นสถานที่รับตรวจเช็กสภาพรถเอกชน ที่ทางกรมขนส่งทางบกให้การรองรับ แต่ก็ยังมีรถบางประเภท ที่ทาง ตรอ. จะไม่รับตรวจเช็กสภาพให้ และต้องนำไปตรวจเองที่กรมขนส่งทางบก โดยลักษณะรถที่ไม่สามารถตรวจกับทาง ตรอ. ได้ จะมีทั้งหมด ดังนี้
- รถที่ขาดต่อทะเบียนเกิน 1 ปีขึ้นไป
- รถที่เปลี่ยนสีตัวถัง หรือดัดแปลงสภาพตัวรถจนไม่เหลือเค้าโครงเดิม ตามรายการที่จดทะเบียนไว้ในสมุดคู่มือทะเบียนรถ เช่นการเปลี่ยนเครื่องยนต์ การเปลี่ยนโครงสร้างตัวถังรถ หรือเปลี่ยนชนิดน้ำมันเชื้อเพลิง
- รถที่มีปัญหาเลขตัวรถ หรือเลขเครื่องยนต์ เช่น ไม่ปรากฎตัวเลข ชำรุด ถูกขูด หรือลบออกไป จนไม่สามารถตัวสอบได้
- รถที่เจ้าของแจ้งไม่ใช้ชั่วคราว หรือแจ้งไม่ใช้รถกับทางกรมขนส่งทางบกไว้
หากตรวจสภาพรถกับ ตรอ. ไม่ผ่าน ต้องทำอย่างไร
เมื่อทำการตรวจเช็กสภาพรถแล้วไม่ผ่าน ทาง ตรอ. จะแจ้งถึงข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นกับตัวรถ เพื่อให้เจ้าของรถนำกลับไปแก้ไขให้เรียบร้อย ก่อนนำกลับมาตรวจสภาพอีกครั้งภายในระยเวลา 15 วัน และจะคิดค่าบริการตรวจเช็กถูกลง 50% จากการตรวจครั้งแรก
หากไม่รู้จะตรวจสภาพรถที่ไหน เสิร์ช ตรอ. ใกล้ฉัน สะดวกกว่า
ในยุคที่สมาร์ทโฟนและอินเทอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทมากขึ้น การค้นหาศูนย์ตรวจสภาพรถ ตรอ. จึงไม่ใช่เรื่องยาก เพียงเสิร์ชคำว่าสถานตรวจสภาพรถ ตรอ.ใกล้ฉัน จากเว็บไซต์ Google และกดค้นหา เว็บไซต์จะทำการเช็คตำแหน่งที่อยู่ปัจจุบันของคุณจากนั้นจะแสดงผลการค้นหาที่อยู่ใกล้กับคุณมากที่สุด
สรุปบทความ ตรวจ ตรอ. คืออะไร ทำไมต้องทำก่อนต่อภาษีรถยนต์
การตรวจสภาพรถ ตรอ. อีกหนึ่งทางเลือกที่ผู้ใช้รถใช้บริการก่อนนำรถยนต์ไปยื่นต่อภาษีที่กรมการขนส่งทางบก และนี่ยังเป็นวิธีดูแลรถยนต์ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ ที่สำคัญการดูแลรถเป็นการยืดระยะเวลาการใช้งานของตัวรถให้ยาวนานขึ้นอีกด้วย พี่เบิ้มขอบอกว่าการดูแลรถยังมีข้อดีอีกอย่าง นั่นคือการช่วยเพิ่มวงเงินเวลานำรถไปขอกู้สินเชื่อทะเบียนรถยนต์ สำหรับใครที่กำลังมองหาวงเงินสำรองฉุกเฉินไว้ใช้จ่ายในยามจำเป็นหรือเสริมสภาพคล่องทางการใช้จ่าย พี่เบิ้มขอแนะนำ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน ที่ให้วงเงินใหญ่ อนุมัติไว รับเงินทันที รถยังมีใช้ สมัครง่ายผ่านช่องทางออนไลน์ เตรียมเอกสารให้พร้อม พี่เบิ้ม Delivery จะเดินทางไปตรวจสอบสภาพรถถึงที่ เมื่อผ่านการอนุมัติรับเงินโอนเข้าบัญชีทันที หากมองหาตัวช่วยทางการเงินพี่เบิ้มพร้อมอยู่เคียงข้างคุณเสมอ
สมัคร KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน ทางออนไลน์
สมัครง่าย ขั้นตอนไม่เยอะ รับเงินก้อนได้ทันที
*กรุณาศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ก่อนทำการสมัคร*
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ และธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด*
*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ย 21%-24% ต่อปี*