ชุดเจ้าสาวแบบไหนดี ? จัดงานที่ไหนดี ? ของชำร่วยเป็นอะไรดี นี่คงเป็นคำถามโลกแตก! ที่คู่บ่าวสาวหลายคู่ตีกันมานักต่อนักแล้ว เพราะการจัดงานแต่งงานคงไม่ได้จัดได้บ่อยๆ KTC รวมขั้นตอนจัดงานแต่งงานให้คุณเตรียมความพร้อม และวางแผนค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นภายในงาน เพื่อปรับเปลี่ยนตามแต่ละคน พร้อมเทคนิคลดค่าใช้จ่าย ที่ได้ครบ แต่งบไม่บายปลายเท่าที่เป็นไปได้มาให้แล้ว!
ข้อที่ 1. ฤกษ์ยามในการจัดงานแต่ง
หลังจากตอบตกลงเจ้าบ่าว ขอผู้ใหญ่คุยตกลงเรื่องสินสอดเสร็จสิ้นแล้ว สิ่งแรกคือ การหาฤกษ์จัดงานแต่งงานที่เป็นมงคล ตามความเชื่อของญาติผู้ใหญ่ แต่เดี๋ยวนี้คนยุคใหม่ก็อาจจะมองหาฤกษ์สะดวกมากกว่า ซึ่งความจริงแล้วฤกษ์สะดวกก็เป็นมงคลได้ หากคุยหรือเจรจากันดีๆ โดยคนส่วนใหญ่มักจะจัดงานแต่งงานในช่วงเดียวกัน เช่น วันเสาร์ – อาทิตย์ ช่วงปลายปี (High Season) ส่งผลให้โรงแรมต่างๆ มีราคาค่าจัดงานที่สูงขึ้นไปตามความต้องการด้วย การลองจัดงานแต่งงานช่วงที่ต่างจากคนอื่น ก็เป็นวิธีนึง หรือถ้าเลือกจัดงานเป็นวันธรรมดาได้ก็จะมีค่าใช้จ่ายที่ถูกลงมาอีก
ข้อที่ 2. นับจำนวนแขก รวบรวมรายชื่อทั้งสองฝ่าย
เรื่องของจำนวนคนมาในงาน มีผลต่อการหาสถานที่จัดงานแต่งงานด้วยนะ เจ้าบ่าว-เจ้าสาวควรต้องช่วยกันคำนวณ ญาติสนิท มิตรสหายของทั้งสองฝั่ง ว่ารายชื่อแขกที่จะเชิญมีใครบ้าง รวมเพื่อนเจ้าบ่าว เพื่อนเจ้าสาว และประธานในพิธี(เถ้าแก่) เมื่อประเมินจำนวนแขกได้แล้ว ก็จะทำให้จัดการ และควบคุมขั้นตอนต่อไปง่ายขึ้น
ข้อที่ 3. จองสถานที่จัดงานแต่ง
หลังจากได้ฤกษ์ และประเมินแขกที่มาในงานได้แล้ว การจัดงานแต่งงานในสถานที่ต่างๆ ก็สามารถกรอบความเหมาะสมได้ในระดับนึง แนะนำว่าให้ประเมินค่าสถานที่ที่ต้องการ และปรึกษา Sale สถานที่ว่าเรามีงบเท่านี้ ทางสถานที่สามารถปรับ ลดได้อย่างไรให้เหมาะสมกับ Budget ที่เรามี อย่าลืมสอบถามแพ็กเกจทางโรงแรมด้วย ไม่ว่าจะเป็นค่าอาหารเครื่องดื่ม มีเค้กแต่งงานด้วยหรือเปล่า หรือลองเข้าไปดู โปรโมชั่นงานแต่งงาน
ข้อที่ 4. ประเมิน และกำหนดงบประมาณ
เรื่องของเงินเป็นเรื่องสำคัญมาก ต้องจัดการวางแผนให้ดี และเพื่อวางแผนแบ่งค่าใช้จ่ายแต่ละประเภทในส่วนการจัดงานแต่งงานด้วย
การวางแผนการเงินและประเมินจะช่วยให้สามารถควบคุมค่าใช้จ่าย
ข้อที่ 5. คิดหาธีมงาน & ไอเดีย
สำหรับคนที่ยังคิดไม่ออก หรือมองไม่เห็นภาพ สามารถหาไอเดียการจัดงานแต่งงานได้จาก Pinterest นอกจากมีตัวอย่างการจัดงานหลายแบบแล้ว ยังมีไอเดียทำของ DIY เก๋ๆที่สามารถเอามาทำตามได้ไม่ยากด้วย
ข้อที่ 6. การ์ดแต่งงาน
แน่นอนว่าจะแต่งงานทั้งที สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ การ์ดแต่งงาน โดยประเมินจำนวนการจำนวนแขกที่วางไว้ก่อนหน้านี้ จะจ้างหรือออกแบบเองก็สามารถหาได้ใน Pinterest เหมือนกัน แต่ทว่าใครอยากลองแจก การ์ดแต่งงานในรูปแบบ E – Card สำหรับกลุ่มวัยรุ่น เพื่อนสนิท เพื่อรณรงค์การใช้กระดาษให้น้อยลง และทำให้เราประหยัดไปได้หลายส่วนเลยทั้งค่ากระดาษ ค่าหมึก ค่าเดินทางเรียกว่า ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลย เวลาใส่ซอง คู่บ่าวสาวก็สามารถสร้างคิวอาร์โค้ดแทนใส่เงินในซอง พร้อมกับ E – Card ได้เลย สะดวก จัดการง่าย และที่สำคัญทำให้เราได้หลีกเลี่ยงการสัมผัสเงินอีกด้วย ที่สำคัญ การส่งการ์ดเชิญสำคัญมาก จำเป็นต้องส่งให้รายชื่อแขกทุกคน ไม่ว่าแขกจะมาหรือไม่มา ยังไงเราก็ต้องเรียนเชิญทุกคนไม่ว่าจะด้วยการ์ดกระดาษ หรือ E- card ก็ตาม
ข้อที่ 7. เตรียมของชำร่วยแต่งงาน
คู่บ่าวสาวหลายคนอาจจะคิดไม่ตกว่า ของชำร่วยที่จะให้แขกติดไม้ติดมือกลับบ้านจากงานแต่งงานนั้นเป็นเป็นอะไรดี อาจจะลองมองหาจากของใกล้ตัว อย่างเช่น ต้นไม้ต้นเล็กๆ เทียนหอมสวยๆ หรือถุงข้าวสารเล็กๆ ที่มีความหมายดี น่ารักๆ ก็น่าจะเพียงพอแล้ว แนะนำว่าเรื่องของจำนวนควรประเมินเพิ่ม 20% ของจำนวนแขกทั้งหมด
ข้อที่ 8. หาชุดแต่งงาน รองเท้า เครื่องประดับ
จริงอยู่ที่การแต่งงานคงไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยครั้งในชีวิตของคนคนนึง ทำให้คู่บ่าวสาวหลายคู่มักจะพิถีพิถันเป็นพิเศษ แต่จริงๆ แล้วเราสามารถเลือกชุดที่ถูกใจ ในราคาที่ถูกใจได้ !! อาจจะลองพิจารณาตัวเลือกชุดเจ้าสาวที่ราคาไม่แพงมากดูบ้าง อย่างเช่น ชุดเจ้าสาวมือสอง ที่มีให้เลือกเป็นร้อยๆแบบ และราคาถูกว่ามือหนึ่งหลายเท่า และที่สำคัญ เราไม่ต้องกังวลเรื่องชุดจะดูเก่าด้วย เพราะผ่านการใช้งานมาน้อยมาก ไม่เหมือนเสื้อผ้ามือสองทั่วไป หรือถ้าไม่ชอบมือสองจริงๆ จะลองพิจารณาการเอาชุดมา มิกซ์แอนด์แมตซ์ ด้วยความคิดสร้างสรรค์ ก็จะทำให้เราได้ชุดที่ถูกใจ ในราคาน่ารักที่เราเป็นคนออกแบบและทำเองทำให้ แถมยังทำให้ได้ชุดแต่งงานที่มีชุดเดียวในโลกอีกด้วย
KTC TIP
บาง Package ชุดแต่งงาน บางร้านจะมาพร้อมกับฟรีถ่ายรูป Pre-wedding ด้วย อาจจะต้องลองคุยกับทางร้านก่อน เพื่อเปรียบเทียบความคุ้มค่า
|
ข้อที่ 9. ช่างแต่งหน้า ทำผม
เรื่องนี้พิถีพิถันหน่อย เพราะเกี่ยวกับความสวยงามของเจ้าสาว อาจจะเลือกช่างที่รู้จักมีความคุ้นเคยที่รู้แนวความชอบของเจ้าสาวอยู่แล้ว หรือช่างที่มีรีวิวประสบการณ์แต่งหน้าทำผมเจ้าสาวเยอะๆ ก็จะทำให้วันพิเศษนั้นมีความมั่นใจมากขึ้น ยิ่งมีเพื่อน หรือคนรู้จัก หรือหากเจ้าสาวมีฝีมือแต่งหน้า ทำผมเอง ก็จะช่วยลดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไปได้อีก
ข้อที่ 10. แหวนแต่งงาน
แหวนสำเร็จรูป (ไม่ต้องเลือกตัวเรือน และตัวเพชรแล้วมาประกอบทีหลัง) ปัจจุบันมีมากมาย และโปรโมชั่นแรงๆเยอะ สำคัญคือต้องเลือกให้เหมาะกับบุคคลิก หรือสไตล์คนใส่ มองดู โปรโมชั่นแหวนงานแต่งงาน
ข้อที่ 11. ของตกแต่งภายในงานแต่ง + Backdrop
ส่วนนี้อาจจะต้องลองคุยกับสถานที่ไว้ด้วยระดับนึง ว่ามีอะไรในงานแต่งงานให้บ้างเพื่อดูขนาดเวที พื้นที่ต่างๆ ของสถานที่งาน ส่วนจะตกแต่งเอง หรือจะไว้ใจมองหาออแกไนซ์ มาจัดการต่อก็ได้ แต่ควรคุมให้อยู่ในธีมเดียวกันทั้งงาน
ข้อที่ 12. ช่างภาพ : พรีเวดดิ้ง + ภายในงาน และ VDO Wedding Presentation
ราคา ขึ้นอยู่ผลงาน รสนิยมความชอบ รวมทั้งเครดิตของนักถ่ายภาพในส่วนนี้ ซึ่งถ้าอยากจัด Full option เลยราคาก็ค่อนข้างแพงเอาเรื่องอยู่ แต่ถ้ามองหาภาพที่เก็บไว้เป็นความรู้สึก ภาพบรรยากาศในงานแต่งงาน ไม่ต้องProduction ยิ่งใหญ่ อาจตัดบางส่วนไปได้ หรือมองหาเพื่อนสนิทที่พอจะช่วยถ่ายภาพที่มีความหมายออกมาได้ ก็สามารถลดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ ข้อดีคือเมื่อเป็นคนรู้จัก ก็จะช่วยลดความเกร็งเวลาถ่ายภาพแต่งงาน ให้ดูเป็นธรรมชาติขึ้น หรือเอาเข้าจริงๆในโลกยุคนี้ ที่คุณหรือใครก็สร้างวีดิโอ คอนเทนต์ได้ในมือถือ มีคนถ่ายรูปเก็บพร้อมแชร์ให้คุณเห็นในโซเซียลในเวลาต่อมาแน่นอน
ข้อที่ 13. จัดหา Wedding Planner
เตรียมรายละเอียดของงาน คิวงาน และสคริปต์ พิธีกรต่างๆ ด้วยการหาคนที่เหมาะกับสไตล์งานแต่งงานเรา เช่นพิธีกรชอบแบบไหน สุขุมดูอบอุ่น หรือตลก และรายละเอียดการรันคิวงานบ่าวสาวต้องเคลีย์บรีฟให้ชัดเจนก่อนวันงานจริง
ข้อที่ 14. วงดนตรี เพลงในงานแต่งงาน
การเลือกสไตล์ดนตรีงานแต่งอาจจะแตกต่างไปตามบุคลิกบ้านบ่าวสาว ช่วงเวลาทางการที่ผู้ใหญ่อยู่ อาจจะเลือกเพลงความหมายดี easy listening ส่วน After party ก็เป็นแนวดนตรีสนุกสนานตามความชอบของบ่าวสาว จะมาเป็นวงดนตรี หรือลิสต์รายชื่อเพลงเก็บไว้ ก็ปรับเปลี่ยนตามงบและความต้องการ
เป็นไงกันบ้างกับ checklists เตรียมจัดงานแต่งงาน? อาจจะตัดปรับเปลี่ยนไปได้ตามความต้องการ เผลอๆ ถ้าจัดการดีๆ อาจจะเหลือเงินไป ฮันนีมูลกันด้วยนะ และสุดท้าย KTC อยากฝากไว้ให้คิดว่า การตั้งโจทย์ และวางแผนงานแต่งล่วงหน้าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะจะทำให้คุมงบประมาณได้ง่าย งบประมาณเท่าไร? อันนี้ไม่ใครตอบได้ ขึ้นอยู่กับแต่ละความพอใจ และรสนิยมจริงๆ เหมือนกันนะ แต่ถึงอย่างไรก็ตามต้องเตรียมแผนสำรอง เผื่อกรณีมีค่าใช้จ่ายฉุกเฉินด้วย ถ้ามีค่าใช้จ่ายที่สามารถใช้บัตรเครดิตรูดได้ก็จะดีกว่า เพราะได้คะแนนกลับมาเยอะเหมือนกันนะ (คะแนนคือเงิน) ..ขอให้ทุกคนแต่งงานกันอย่างสบายใจ และสบายกระเป๋า
สมัครบัตรเครดิต…ที่นี่
เตรียมตัวแต่งงาน อย่าลืมวางแผนการเงิน