วงเงินบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด เหมือนหรือต่างกัน
บัตรเครดิตและบัตรกดเงินสด เป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หากใช้ให้เป็นก็มีแต่ได้กับได้ เพราะต่างมีสิทธิประโยชน์เฉพาะตัวที่ช่วยให้ผู้ถือบัตรได้เปรียบมากขึ้นยามใช้จ่ายในชีวิตประจำวันหรือมีเหตุฉุกเฉินต้องการใช้เงินด่วน และด้วยความที่บัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดมีรูปลักษณ์และคุณสมบัติคล้ายคลึงกัน จนเป็นที่มาของคำถามที่ว่า บัตรเครดิตกับบัตรกดเงินสด วงเงินเดียวกันไหม ? วันนี้เคทีซีจะมาคลายความสงสัยเรื่องดังกล่าว รวมถึงอธิบายความเหมือนและความต่างของบัตรทั้งสองประเภทนี้ให้ได้ทราบ
บัตรเครดิตกับบัตรกดเงินสด ต่างกันอย่างไร
แม้บัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดมีมีรูปร่างคล้ายกันอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะมีเลขหน้าบัตร เลขหลังบัตร และแถบแม่เหล็กเช่นเดียวกัน แต่รูปแบบการใช้งานกลับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยสามารถความต่างของบัตรทั้ง 2 ใบ ดังนี้
วัตถุประสงค์การใช้งาน
บัตรเครดิต เป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ถูกออกแบบมาให้ผู้ถือบัตรใช้รูดซื้อสินค้าหรือชำระค่าบริการต่าง ๆ แทนการใช้เงินสด นอกจากไม่ต้องพกเงินสดติดตัวเป็นจำนวนมาก ยังช่วยให้ผู้ถือบัตรไม่ต้องจ่ายเงินสดไปในทันทีที่มีการรูดบัตรเมื่อชำระค่าสินค้าและบริการต่าง ๆ อีกด้วย
บัตรกดเงินสด ถือเป็นสินเชื่อส่วนบุคคลประเภทหนึ่งที่ผู้ถือบัตรสามารกดเงินจากตู้เอทีเอ็มได้ตามวงเงินสินเชื่อที่ได้รับการอนุมัติ เมื่อคืนเงินต้นก็จะได้วงเงินสินเชื่อคืนมาโดยอัตโนมัติ และถ้าต้องการใช้เงินด่วนเพราะเกิดเหตุฉุกเฉินก็กดเงินสดออกมาได้อีกโดยไม่ต้องขออนุมัติวงเงินสินเชื่อใหม่ นอกจากนี้สามารถใช้บัตรกดเงินสดผ่อนชำระสินค้าที่ร่วมรายการได้อีกด้วย
บัตรกดเงินสด มีไว้เพื่อกดเงินก้อนในบัตรมาใช้จ่ายเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
คุณสมบัติผู้สมัคร
โดยส่วนใหญ่ธนาคารหรือสถาบันการเงินกำหนดคุณสมบัติเบื้องต้นของผู้สมัครบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดไว้คล้ายคลึงกัน เช่น มีอายุ 20 ปีขึ้นไป มีรายได้แน่นอน มีที่อยู่ที่ชัดเจนทั้งบ้านและที่ทำงาน และมีเบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้ เป็นต้น สำหรับรายได้ขั้นต่ำที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กำหนดให้ผู้ถือบัตรเครดิตต้องมี คือมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 15,000 บาทต่อเดือน
ส่วนกรณีรายได้ขั้นต่ำของผู้สมัครบัตรกดเงินสดทางธนาคารแห่งประเทศไทยไม่ได้กำหนดไว้ ส่งผลให้ธนาคารหรือสถาบันการเงินผู้ออกบัตรเป็นผู้กำหนดรายละเอียดตรงจุดนี้เอง อย่างบัตรกดเงินสด KTC PROUD ระบุไว้ชัดเจนว่าผู้สมัครบัตรต้องมีรายได้ขั้นต่ำ 12,000 บาทต่อเดือน นอกจากนี้ผู้สมัครจำต้องให้ข้อมูลส่วนตัวเพื่อประกอบการพิจารณาอนุมัติบัตร เช่น อายุงานในสถานที่ทำงานปัจจุบัน และเบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้สะดวกทั้งที่บ้านหรือที่ทำงาน เป็นต้น
วงเงินอนุมัติ
ธนาคารแห่งประเทศไทย กำหนดให้ธนาคารหรือสถาบันการเงินผู้ออกบัตรสามารถอนุมัติวงเงินสูงสุดได้ไม่เกิน 5 เท่าของรายได้เฉลี่ยต่อเดือน แต่ไม่ได้หมายความว่าผู้สมัครบัตรทุกคนจะได้รับวงเงินอนุมัติ 5 เท่า เนื่องจากการอนุมัติวงเงินบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดพิจารณาจากความสามารถในการชำระหนี้ของแต่ละบุคคล ยิ่งถ้าคุณไม่มีภาระหนี้อื่นที่จะต้องชำระอยู่ด้วย ก็มีโอกาสได้รับวงเงินสูงตามไปด้วย
ใช้บัตรเครดิตอย่างมือโปร รูดซื้อสินค้าและบริการได้อย่างสบายใจ...กรอกข้อมูลที่นี่
สิทธิประโยชน์
จุดเด่นหลัก ๆ ของบัตรเครดิตคือสิทธิประโยชน์ที่ได้รับจากการรูดชำระสินค้าหรือบริการที่ร่วมรายการ เช่น ส่วนลดสินค้า สะสมแต้มบัตรเครดิตเพื่อแลกของรางวัล รับเครดิตเงินคืน ผ่อนชำระ 0% หรือผ่อนชำระในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ และสะสมไมล์กับสายการบิน เป็นต้น ส่วนใครที่สงสัยว่า บัตรเครดิตกดเงินสดได้ไหม คำตอบ สามารถนำไปใช้กดเป็นเงินสดเพื่อมาใช้จ่ายได้ด้วยคล้าย ๆ กับบัตรกดเงินสด แต่ทุกครั้งที่กดเงินสดออกมาคุณต้องเสียค่าธรรมเนียม 3% ของยอดที่กดเงินสดทันที ซึ่งต่างจากบัตรกดเงินสดที่ไม่มีค่าธรรมเนียมการกด
ขณะที่บัตรเครดิตมีจุดเด่นตรงที่สามารถเบิกถอนเงินสดได้ทันทีตามวงเงินที่ได้รับอนุมัติ และหากชำระเงินคืนวงเงินในบัตรก็กลับคืนมาทันทีเช่นกัน นอกจากนี้สามารถใช้ผ่อนชำระแบบดอกเบี้ย 0% ตามสินค้าที่ร่วมรายการ
บัตรเครดิตกับบัตรกดเงินสด มีสิทธิประโยชน์ต่างกันควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนใช้ เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด
การชำระเงินคืน
ผู้ถือบัตรเครดิต สามารถเลือกได้ว่าจะชำระเงินคืนแบบเต็มจำนวน จ่ายขั้นต่ำ หรือผ่อนชำระ แต่ถ้าถามว่าวิธีชำระคืนแบบไหนดีที่สุด ? คำตอบ การจ่ายเต็มจำนวนภายในวันที่กำหนด เพราะช่วยให้ผู้ถือบัตรไม่ต้องเสียดอกเบี้ยจากการใช้บัตรรูดซื้อสินค้า เว้นแต่ใช้บัตรเครดิตผ่อนสินค้าแบบ 0% กรณีนี้สามารถทยอยคืนเงินเป็นจำนวนเท่า ๆ กันทุกเดือนจนครบกำหนดได้โดยไม่ต้องเสียดอกเบี้ย แต่ถ้าไม่สามารถชำระเต็มจำนวนได้อาจเลือกชำระแบบจ่ายขั้นต่ำของยอดคงค้างได้เช่นกัน โดยบัตรเครดิตกำหนดให้ชำระคืนขั้นต่ำ 10% ของยอดคงค้าง
สำหรับบัตรกดเงินสด มีวิธีชำระเงินคืนไม่ต่างจากบัตรเครดิต นั่นคือชำระคืนเต็มจำนวน ชำระขั้นต่ำ หรือผ่อนชำระเป็นรายเดือน แต่ถ้าให้แนะนำควรรีบจ่ายคืนแบบเต็มจำนวนโดยเร็วที่สุด เนื่องจากดอกเบี้ยบัตรกดเงินสดเริ่มคิดตั้งแต่วันที่ผู้ถือบัตรกดเงินออกมาใช้จ่าย ดังนั้นหากไม่อยากเสียดอกเบี้ยสูงควรชำระคืนเร็ว กรณีที่จำเป็นต้องชำระคืนขั้นต่ำส่วนใหญ่ธนาคารหรือสถาบันการเงินกำหนดให้ผู้ถือบัตรชำระคืนขั้นต่ำ 3% ของยอดคงค้าง
ค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปี
ปัจจุบันธนาคารหรือสถาบันการเงินหลายแห่งได้ออกโปรโมชั่นมาดึงดูดผู้สมัครบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสด นั่นคือฟรีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปีตลอดชีพ ดังนั้นก่อนสมัครบัตรควรพิจารณาเรื่องนี้ด้วย นอกจากไม่ต้องเสียทั้งค่าแรกเข้าและค่าธรรมเนียมรายปี ยังไม่ต้องพะวงว่าต้องทำตามเงื่อนไขการยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปีให้ครบถ้วน เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมตรงส่วนนี้
ไขคำตอบ บัตรเครดิตกับบัตรกดเงินสด วงเงินเดียวกันไหม
เชื่อว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่สงสัยว่า วงเงินอนุมัติในบัตรเครดิตกับบัตรกดเงินสด เป็นวงเงินเดียวกันหรือไม่ ? คำตอบ เป็นคนละวงเงินกัน โดยผู้ถือบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดสามารถนำวงเงินที่มีในบัตรไปใช้ได้ตามวัตถุประสงค์ เช่น ใช้บัตรเครดิตผ่อนมือถือหรือสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าแบบ 0% หรือกดเงินจากบัตรกดเงินสดมาจ่ายค่ารักษาพยาบาล เป็นต้น
เมื่อรู้ความเหมือนและความต่างระหว่างบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดกันแล้ว เชื่อว่าผู้สนใจสมัครบัตรทั้ง 2 แบบ คงได้คำตอบแล้วว่า บัตรแบบไหนถึงเหมาะกับไลฟ์สไตล์การใช้จ่ายของคุณมากที่สุด หรือหากใครต้องการสมัครบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดติดกระเป๋าไว้อย่างละใบก็ได้เช่นกัน สำหรับใครที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ตอบโจทย์เช่นบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดที่ช่วยให้การใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเป็นเรื่องง่ายขึ้น หรือเตรียมพร้อมไว้เสริมสภาพคล่องในอนาคต ขอแนะนำบัตรเครดิต KTC และบัตรกดเงินสด KTC PROUD ที่มีสิทธิประโยชน์จากพาร์ทเนอร์บัตรให้คุณเลือกรับความคุ้มค่ามากมาย ที่สำคัญสามารถสมัครบัตรผ่านช่องทางออนไลน์ง่าย ๆ โดยไม่ต้องเดินทางมาที่สาขา เพียงเตรียมเอกสารและมีคุณสมบัติตามที่กำหนด เท่านี้คุณก็มีบัตรกดเงินสดและบัตรเครดิตไว้ใช้งาน
อ้างอิงข้อมูลจาก : ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
เพิ่มความคล่องตัวในการใช้จ่าย ด้วยบัตรเครดิต KTC
ไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปี
บัตรกดเงินสด KTC PROUD แหล่งเงินสำรองฉุกเฉินพร้อมใช้
เบิกถอนเงินสด แบ่งผ่อนชำระได้ทุกที่ทุกเวลา