ในยุคที่การช้อปสินค้าและบริการเป็นเรื่องง่ายเพียงปลายนิ้ว หลายคนอาจเคยเห็นหรือได้ยินเกี่ยวกับบริการ “ใช้ก่อน จ่ายทีหลัง” ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย อาทิ การซื้อสินค้าออนไลน์หรือชำระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ เพราะบริการนี้ช่วยให้ได้สินค้าและบริการที่ต้องการมาใช้ก่อน แล้วค่อยผ่อนชำระทีหลัง จึงเหมาะสำหรับคนที่ต้องการเก็บเงินก้อน แล้วบริหารค่าใช้จ่ายด้วยการแบ่งจ่ายเป็นเงินก้อนเล็กๆ รายเดือนแทน รวมถึงเหมาะกับผู้ที่มองเห็นความคุ้มค่าของโปรโมชั่นผ่อนชำระและต้องการเข้าร่วม โดยการซื้อสินค้าออนไลน์มักมีบริการที่เรียกว่าช้อปก่อน จ่ายทีหลัง ที่คล้ายคลึงกับการผ่อนชำระบัตรเครดิต จนเกิดข้อสงสัยว่าช่องทางการผ่อนชำระแบบใดคุ้มค่ากว่า? ถ้าสมัครช้อปก่อนจ่ายทีหลังผ่าน ควรมีบัตรเครดิตอีกหรือไม่? หาคำตอบได้ในบทความนี้
ใช้ก่อน (ช้อปก่อน) จ่ายทีหลัง คืออะไร ?
"ใช้ก่อน จ่ายทีหลัง" หรือ Buy Now, Pay Later (BNPL) เป็นบริการทางการเงินอย่างหนึ่ง ที่ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถซื้อสินค้าได้ทันทีโดยไม่ต้องจ่ายเงินเต็มจำนวนในขณะนั้น แต่สามารถแบ่งจ่ายเป็นงวด หรือชำระเต็มจำนวนในภายหลังได้ ซึ่งบริการใช้ก่อนจ่ายทีหลังนี้ ส่วนใหญ่สามารถเลือกชำระคืนแบบช้อปก่อนจ่ายทีหลัง 1 เดือน โดยไม่มีดอกเบี้ย หรือหากเลือกจ่ายคืนแบบผ่อนชำระ 2-6 เดือน ก็จะถูกคิดดอกเบี้ย สูงสุดไม่เกินร้อยละ 25% ต่อปี
ทั้งนี้ บริการใช้ก่อนจ่ายทีหลังนี้ มักพบได้ในแพลตฟอร์ม eCommerce ต่างๆ เช่น บริการ SPaylater ของ Shopee, แอปพลิเคชัน Pay Next ของ True Money, และบริการ LazPayLater ของ Lazada เป็นต้น ซึ่งแอปพลิเคชันเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ลูกค้าสามารถสั่งซื้อสินค้าและรับสินค้าได้ก่อน แล้วจึงผ่อนชำระค่าสินค้าเป็นรายเดือนตามระยะเวลาที่กำหนด โดยรูปแบบของการช้อปก่อนจ่ายทีหลัง มีข้อดีดังนี้
- สมัครง่าย ไม่ยุ่งยาก
ขั้นตอนในการสมัครช้อปก่อนจ่ายทีหลังกับแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ สามารถทำได้ในแอปพลิเคชัน เพียงมีคุณสมบัติตามกำหนด โดยมีการกำหนดคุณสมบัติให้ผู้สมัครอายุ 20 ปีบริบูรณ์ ถือสัญชาติไทย และสมัครได้เฉพาะสมาชิกของแพลตฟอร์มเท่านั้น เพื่อคัดกรองผู้สมัครระดับหนึ่ง หากเข้าเกณฑ์ที่กำหนดเริ่มต้นสมัครด้วยการกรอกข้อมูล รอผลอนุมัติไม่นาน รับรหัส OTP เพื่อยืนยันตัวตน เพียงเท่านี้ก็เสร็จสิ้น เริ่มต้นช้อปได้เลย
- ใช้ได้แม้ไม่มีบัตรเครดิต
การช้อปก่อนจ่ายทีหลังในหลายแพลตฟอร์มไม่จำเป็นต้องผูกบัตรเครดิตกับแอปพลิเคชัน โดยวงเงินจะมาจากการพิจารณาประวัติการชำระเงิน เมื่อได้วงเงินแล้วจะสามารถนำไปใช้ในการช้อปปิ้งออนไลน์ในแพลตฟอร์มนั้นๆ ได้เท่านั้น
- ยืดหยุ่นทางการเงิน
การสมัครช้อปก่อนจ่ายทีหลังไม่จำเป็นต้องยื่นเอกสาร และมีการคัดกรองที่ยืดหยุ่นกว่าบัตรเครดิต เพราะยึดประวัติการชำระเงินและการซื้อสินค้าในแอปพลิเคชันเป็นหลัก ผู้ที่มีรายได้ไม่แน่นอน หรือรายได้ไม่ถึงเกณฑ์สมัครบัตรเครดิตจึงสามารถสมัครได้
- คิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก
การคิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอกเป็นการคำนวณดอกเบี้ยตามเงินต้นที่ลดลง กล่าวคือหากเงินต้นลดลง ดอกเบี้ยก็จะลดลงตามไปด้วย ช่วยให้ผ่อนชำระได้เร็วขึ้นหากมีการจ่ายเงินต้นต่อเดือนมาก
ทั้งนี้ หากต้องการใช้บริการชำระเงิน Buy Now Pay Later ควรศึกษาวิธีใช้ให้เข้าใจ ดูว่าช้อปก่อน จ่ายทีหลังนั้นกำหนดให้จ่ายเงินตอนไหน รวมถึงหมั่นเช็กยอดช้อปก่อน กดทำรายการผ่อนจ่ายทีหลัง เพื่อความปลอดภัยและไม่มียอดใช้จ่ายเกินความจำเป็น
ใช้ก่อน จ่ายทีหลัง จ่ายตอนไหนและคุ้มไหม?
บริการใช้ก่อน จ่ายมีหลังหรือ Buy Now Pay Later หลักๆ มีการชำระเงินอยู่ 2 รูปแบบ ได้แก่
- ชำระเต็มจำนวนเมื่อถึงกำหนด
โดยหากผู้ใช้เลือกชำระภายในระยะเวลาที่ปลอดดอกเบี้ย จะไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมหรือดอกเบี้ยเพิ่มเติม เช่น จ่ายภายหลัง 1 เดือน ไม่มีดอกเบี้ย
- แบ่งจ่ายเป็นงวดๆ
หากไม่สามารถชำระเงินทั้งหมดได้ในครั้งเดียว ผู้ใช้สามารถเลือกผ่อนชำระเป็นงวดๆ ได้ อาทิ 2 - 6 เดือน แต่ในกรณีนี้จะมีการคิดดอกเบี้ย หรือค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของผู้ให้บริการ โดยส่วนใหญ่จะเป็นอัตราดอกเบี้ยสูงสุดไม่เกินร้อยละ 25% ต่อปี
การใช้บริการใช้ก่อน จ่ายทีหลัง จะคุ้มหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้จ่ายและความสามารถในการชำระเงินของแต่ละคน หากสามารถวางแผนการเงินได้ดีและชำระเงินตรงเวลา การใช้บริการนี้ก็จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินได้โดยไม่ต้องเสียดอกเบี้ย แต่อาจไม่คุ้มค่า หากไม่สามารถชำระเงินภายในระยะเวลาที่กำหนดได้ เพราะต้องเสียค่าธรรมเนียมหรือดอกเบี้ย ซึ่งจะทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็น
การใช้ก่อนจ่ายทีหลังมีอัตราดอกเบี้ยสูงสุด 25% ต่อปี
ตารางเปรียบเทียบใช้ก่อน จ่ายทีหลังกับผ่อนผ่านบัตรเครดิต
บริการใช้ก่อนจ่ายทีหลังและบัตรเครดิตนั้น มีจุดร่วมที่เหมือนกันคือ การผ่อนชำระ แต่ทั้งนี้ บริการทางการเงินทั้ง 2 รูปแบบ ก็มีความแตกต่างที่น่าสนใจดังต่อไปนี้
ใช้ก่อน จ่ายทีหลัง (BNPL) |
บัตรเครดิต |
|
การสมัครใช้บริการ |
ใช้เอกสารน้อย ไม่มีรายได้ประจำก็สมัครได้ |
เหมาะสำหรับผู้มีรายได้ประจำตั้งแต่ 15,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป สามารถสมัครได้ผ่านทางเว็บไซต์ |
วงเงินที่ได้รับ |
ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการ BNPL พิจารณา แต่โดยทั่วไปแล้วจะได้รับวงเงินน้อย และค่อนข้างจำกัด |
|
ดอกเบี้ย |
อัตราดอกเบี้ยสูงสุดไม่เกิน 25% ต่อปี แบบลดต้นลดดอก |
อัตราดอกเบี้ยสูงสุดไม่เกิน 16% ต่อปี |
ระยะเวลาผ่อนชำระ |
ผู้ใช้บริการสามารถจ่ายทีหลังภายใน 1 เดือน โดยไม่มีดอกเบี้ย หรือเลือกชำระเป็นงวด ตั้งแต่ 2 - 6 เดือน รวมอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก |
สมาชิกบัตรฯ สามารถเลือกชำระค่าสินค้าและบริการที่มีโปรโมชั่นผ่อน 0% นานสูงสุด 10 เดือน หรือชำระเต็มจำนวนตามยอดใช้จ่ายก็ได้ |
ความสะดวกในการใช้งานและช่องทางการใช้งาน |
ใช้บริการได้ผ่านช่องทางของผู้ให้บริการ BNPL เท่านั้น เช่น Shopee, True Money, และ Lazada |
ใช้ได้ทุกร้านค้า ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ และที่ร้านค้าที่ร่วมรายการ |
ข้อดี |
|
|
ข้อเสีย |
|
|
วิธีการจ่ายเงินให้ยอดผ่อนชำระหมดเร็ว
การผ่อนชำระสินค้าผ่านบัตรเครดิตช่วยให้ไม่ต้องชำระเป็นเงินก้อนในคราวเดียว ทั้งยังได้รับโปรโมชั่นดีๆ จากบัตรเครดิต ด้วย อาทิ คะแนนสะสม เครดิตเงินคืน ส่วนลด โปรโมชั่น และสิทธิประโยชน์อื่นๆ ในขณะที่การใช้ก่อน จ่ายทีหลังกับแพลตฟอร์มช้อปออนไลน์ต่างๆ ก็จะได้รับโค้ดส่วนลดและโปรโมชั่นจากผู้ให้บริการนั้นๆ ที่สำคัญเมื่อทำการเลือกชำระแบบผ่อนจ่ายทีหลังแล้ว จำเป็นต้องมีวินัยในการชำระเงินคืนเสมอ โดยมีวิธีการผ่อนชำระให้ยอดหนี้หมดเร็ว ดังนี้
- ชำระเต็มจำนวนในระยะเวลาที่กำหนด
- เลือกซื้อสินค้าและบริการที่เข้าร่วมรายการผ่อน 0%
- ผ่อนชำระเป็นประจำทุกเดือน ตามระยะเวลาที่กำหนด เพราะจะค่าติดตามทวงถามตามมา
- หากผ่อนกับช้อปก่อนจ่ายทีหลัง ควรจ่ายยอดให้เกินจากที่กำหนด เพื่อให้ดอกเบี้ยในเดือนถัดไปลดลง
หัวใจสำคัญของการเลือกผ่อนชำระเพื่อคงสภาพคล่องทางการเงินให้ได้ผลคือการมีวินัยในการชำระยอดทุกเดือน และหลีกเลี่ยงยอดขั้นต่ำ โดยทั้งบริการ “ใช้ก่อน จ่ายทีหลัง” และการ “ใช้บัตรเครดิต” ต่างก็มีข้อดีและข้อเสียที่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจใช้บริการ สำหรับการใช้ก่อน จ่ายทีหลัง อาจเหมาะสำหรับผู้ที่มีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนดของการสมัครบัตรเครดิต ในขณะที่การผ่อนชำระผ่านบัตรเครดิตจะเหมาะสำหรับการซื้อสินค้าและบริการที่มีมูลค่าสูงได้ และยังมีความหลากหลายมากกว่า มีโปรแกรมการผ่อนที่ยืดหยุ่นกว่า อาทิ โปรโมชั่นดอกเบี้ย 0% หรือการเปลี่ยนยอดชำระเป็นยอดผ่อนด้วยตนเองผ่านแอปพลิเคชัน และยังสามารถใช้จ่ายได้กับทุกร้านค้า ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ นอกจากนี้ยังมีสิทธิประโยชน์อื่นๆ ที่มาพร้อมกับบัตรฯ นับเป็นตัวช่วยในการบริหารเงินที่คุ้มค่า สนใจสมัครบัตรเครดิต KTC เลือกผ่อนชำระได้ด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษ สมัครบัตรฯ ผ่านช่องทางออนไลน์ได้ตอลด 24 ชั่วโมง
ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC