อยากมีบัตรเครดิตไว้ใช้สักใบ แต่ติดตรงที่ไม่มีสลิปเงินเดือนหรือเป็นอาชีพอิสระ ‘บัตร
เครดิตเงินฝากค้ำประกัน’ ทางเลือกใหม่ที่ช่วยให้คุณสามารถสมัครบัตรเครดิตได้ โดยไม่ต้องใช้สลิปเงินเดือน หากคุณอยากรู้ว่าต้องทำอย่างไร เรามาทำความรู้จักกับบัตรเครดิตเงินฝากค้ำประกันไปพร้อมๆ กันเลย!
บัตรเครดิตเงินฝากค้ำประกัน คืออะไร?
บัตรเครดิตเงินฝากค้ำประกัน คือ บัตรเครดิตที่ผู้สมัครต้องนำเงินฝากประเภทออมทรัพย์หรือฝากประจำ มาค้ำประกันวงเงินบัตรเครดิตกับธนาคาร แทนการยื่นเอกสารแสดงรายได้ เช่น สลิปเงินเดือน หรือ หนังสือรับรองเงินเดือน เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีสลิปเงินเดือน ผู้ที่ไม่มีรายได้ประจำ เช่น ฟรีแลนซ์ พนักงานลูกจ้างรายวัน เป็นต้น
ซึ่งโดยทั่วไปแล้วคุณสมบัติผู้สมัครบัตรเครดิตเงินฝากค้ำประกันจะต้องมีดังนี้ :
- มีอายุตั้งแต่ 20-70 ปี
- สัญชาติไทย
- มีเงินฝากออมทรัพย์หรือฝากประจำกับธนาคารผู้ออกบัตร
- ไม่จำเป็นต้องมีสลิปเงินเดือนหรือรายได้ประจำ
- ไม่มีประวัติการผิดนัดชำระหนี้
สิ่งที่ควรรู้ก่อนสมัครบัตรเครดิตเงินฝากค้ำประกัน
อย่างที่ทราบกันดีว่าบัตรเครดิตเงินฝากค้ำประกันเหมาะผู้ที่ไม่มีรายได้ประจำ และเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ไม่มีประวัติการใช้เครดิต และต้องการสร้างประวัติเครดิตที่ดีขึ้น เพื่อผลดีต่ออนาคตทางการเงินของคุณ อย่างไรก็ตามก่อนสมัคร ควรเปรียบเทียบข้อดีและเสียเพื่อประกอบการตัดสินใจ ดังนี้
ข้อดีของบัตรเครดิตเงินฝากค้ำประกัน
- ใช้บัญชีเงินฝากแทนเอกสารแสดงหลักฐานรายได้ : เหมาะสำหรับฟรีแลนซ์ ธุรกิจส่วนตัว หรือผู้ไม่มีสลิปเงินเดือน
- สร้างประวัติเครดิต : ช่วยให้มีเครดิตบูโร เพิ่มโอกาสในการขอสินเชื่อ
- วงเงินบัตร : วงเงินบัตรมักเท่ากับเงินฝากค้ำประกัน
- สะดวก : ใช้ชำระค่าสินค้าและบริการต่างๆ ได้ง่าย
- สิทธิประโยชน์ : บัตรบางประเภทมีโปรโมชั่น ส่วนลด และคะแนนสะสม
ข้อเสียของบัตรเครดิตเงินฝากค้ำประกัน
- เงินฝากถูกอายัด : เงินฝากที่ใช้ค้ำประกันจะไม่สามารถถอนออกมาใช้ได้
- ค่าธรรมเนียม : บางธนาคารอาจมีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปี
การสมัครบัตรเครดิตเงินฝากค้ำประกัน ผ่านออนไลน์
ขั้นตอนการสมัครบัตรเครดิตเงินฝากค้ำประกัน KTC
ก่อนที่จะเริ่มสมัครบัตรเครดิต เอกสารการสมัครเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ควรจัดเตรียมเอกสารให้เรียบร้อย
โดยหลักๆ แล้วเอกสารที่ใช้ในการสมัครของแต่ละธนาคารจะมีความใกล้เคียงกัน โดยเบื้องต้นต้องจัดเตรียมเอกสารดังนี้
- บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริง
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- สมุดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ หรือกระแสรายวัน ที่ต้องการใช้ค้ำประกัน
ในกรณีที่ประกอบอาชีพอิสระ ฟรีแลนซ์ หรือเจ้าของธุรกิจ แนะนำให้เตรียมเอกสารเพิ่มเติมดังนี้
- สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนหรือทะเบียนการค้า (ถ้ามี)
- สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น (ถ้ามี)
สำหรับขั้นตอนการสมัครนั้นไม่ยาก สามารถทำได้ทั้งหมด 2 ช่องทาง ได้แก่ สมัครบัตรเครดิต KTC ผ่านช่องทางออนไลน์ หรือ สมัครกับธนาคารกรุงไทยทุกสาขา โดยเลือกประเภทบัตรที่ต้องการ จากนั้นกรอกข้อมูลส่วนตัวให้ครบถ้วน
นอกจากนี้ ก่อนยื่นสมัครบัตรเครดิตควรเช็กรายละเอียดในการสมัคร และตรวจสอบเอกสารที่ต้องใช้ให้แน่ชัดจากธนาคาร หรือสถาบันการเงินก่อน ส่วนใครที่รับเงินเดือนเป็นเงินสด ไม่มีสลิปเงินเดือน แนะนำให้นำเงินเดือนที่ได้เข้าบัญชีทุกเดือน เพื่อให้เห็นว่าเรามีรายรับเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และเป็นหลักฐานว่าเรามีการเดินบัญชีในทุกๆ เดือน ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือนในยอดที่ใกล้เคียงกัน พร้อมให้ทางบริษัทออกหนังสือรับรองเงินเดือน เพื่อยืนยันว่ารายรับจากเงินเดือนที่เรานำเข้าบัญชีเอง นั้นตรงกับยอดรายรับสุทธิที่ได้รับจากบริษัท เพียงเท่านี้ก็สามารถเพิ่มความน่าเชื่อถือและช่วยเพิ่มโอกาสการอนุมัติบัตรเครดิตที่สูงขึ้น
สำหรับท่านใดที่สนใจ สมัครบัตรเครดิต KTC สามารถศึกษาข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติม และประเภทของบัตรเครดิตผ่านเว็บไซต์ก่อนตัดสินใจทำได้เลย เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ใช้
ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC