ในโลกยุคปัจจุบันที่การใช้จ่ายมีความคล่องตัวสูง “บัตรเครดิต” ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของเราอย่างปฏิเสธไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อสินค้าออนไลน์ การรับประทานอาหารนอกบ้าน หรือแม้กระทั่งการจัดการค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ส่วนตัว บัตรเครดิตมอบความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และสิทธิประโยชน์มากมายที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันไปของผู้สมัครบัตรเครดิต
ท่ามกลางเทรนด์ความคล่องตัวในการใช้จ่าย หลาย ๆ คน โดยเฉพาะผู้ที่มีรายได้อยู่ในช่วงเริ่มต้นของการทำงาน อาจเกิดคำถามในเชิงว่า “เงินเดือนน้อยสามารถสมัครบัตรเครดิตได้หรือไม่” หรือ “เงินเดือน 18,000 บาท สามารถสมัครบัตรเครดิตได้หรือไม่?” และหากทำได้ ทางธนาคารหรือสถาบันการเงินจะอนุมัติวงเงินเท่าไหร่
ในบทความนี้ KTC จะพาไปเจาะลึกเกี่ยวกับเงื่อนไขการสมัครบัตรเครดิต เกณฑ์การพิจารณา วงเงินที่จะได้รับ รวมถึงแนวทางการเพิ่มโอกาสในการได้รับวงเงินที่เหมาะสม เพื่อให้ผู้สมัครบัตรเครดิตสามารถตัดสินใจและเลือกสมัครบัตรเครดิตที่ตอบโจทย์ความต้องการมากที่สุด
เงื่อนไขในการสมัครบัตรเครดิต
เมื่อตัดสินใจที่จะสมัครบัตรเครดิต สิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาเป็นอันดับแรกคือ คุณสมบัติของผู้สมัคร ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว สถาบันการเงินจะให้ความสำคัญกับ “รายได้” ของผู้สมัครเป็นหลัก ประกอบกับพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วย โดยเกณฑ์ที่ธนาคารหรือสถาบันการเงินมักใช้ในการพิจารณาอนุมัติบัตรเครดิต ได้แก่
รายได้
ถือเป็นปัจจัยหลักที่สถาบันการเงินนำมาพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้ของผู้สมัคร โดยจะมีเกณฑ์รายได้ขั้นต่ำที่แตกต่างกันไปในแต่ละประเภทบัตรและแต่ละสถาบัน
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีการกำหนดหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการออกบัตรเครดิต เพื่อให้สถาบันการเงินพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้ขอ ผู้สมัครเป็นสำคัญ หากผู้สมัครมีรายได้ไม่เพียงพอต่อการชำระคืนยอดใช้จ่ายในแต่ละเดือน ก็จะมีความเสี่ยงที่จะเกิดหนี้เสียตามมา ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อทั้งตัวผู้ถือบัตรและสถาบันการเงินเอง เกณฑ์รายได้ขั้นต่ำสำหรับการสมัครบัตรเครดิตจะอยู่ที่ 15,000 บาทต่อเดือน หรือ 180,000 บาทต่อปี
ความมั่นคงทางการเงิน
นอกเหนือจากรายได้ประจำแล้ว สถาบันการเงินอาจพิจารณาถึงแหล่งรายได้อื่น ๆ เพื่อประเมินความมั่นคงของอาชีพ และระยะเวลาในการทำงานด้วย
ประวัติการชำระหนี้
ผู้ที่มีประวัติการชำระหนี้ที่ดี กล่าวคือ ไม่เคยมีประวัติค้างชำระหนี้ ชำระหนี้ตรงเวลา จะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ เนื่องจากแสดงถึงความรับผิดชอบทางการเงิน
ภาระหนี้สิน
หากผู้สมัครมีภาระหนี้สินอื่น ๆ อยู่ อาทิ สินเชื่อส่วนบุคคล หรือสินเชื่อรถยนต์ ธนาคารหรือสถาบันการเงินจะนำภาระหนี้สินมาพิจารณาถึงความสามารถในการผ่อนชำระหนี้โดยรวม
อายุ
ทั่วไปแล้ว ผู้สมัครบัตรเครดิตต้องมีอายุตามที่กฎหมายกำหนด หรือต้องมี 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
เงินเดือน 18,000 บาท สามารถสมัครบัตรเครดิตได้ไหม
สำหรับผู้ที่มีเงินเดือนหรือรายได้ 18,000 บาท ทางธนาคารหรือสถาบันการเงินจะมองว่า คุณมีคุณสมบัติเพียงพอในการสมัครบัตรเครดิต รวมถึงบัตรเครดิตของบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด มหาชน หรือ KTC โดยในปัจจุบัน เกณฑ์รายได้ขั้นต่ำสำหรับการสมัครบัตรเครดิตเริ่มต้นโดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 15,000 บาทต่อเดือน ซึ่งหมายความว่า หากบุคคลใดมีเงินเดือนตั้งแต่ 15,000 บาทขึ้นไป เงินเดือนจะอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถยื่นขอพิจารณาสมัครบัตรเครดิตได้
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือ เกณฑ์รายได้ขั้นต่ำอาจแตกต่างกันไปในแต่ละประเภทบัตรเครดิต โดยบัตรเครดิตที่มีสิทธิประโยชน์สูงขึ้น หรือบัตรเครดิตระดับพรีเมี่ยม อาจมีเกณฑ์รายได้ขั้นต่ำที่สูงกว่าบัตรเครดิตทั่วไป
ตัวอย่างการเปรียบเทียบเกณฑ์รายได้ (ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา)
- บัตรเครดิตทั่วไป เกณฑ์รายได้ขั้นต่ำอาจเริ่มต้นที่ 15,000 บาทต่อเดือน
- บัตรเครดิตระดับพรีเมียม เกณฑ์รายได้อาจสูงถึง 50,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป
ดังนั้น การตรวจสอบเกณฑ์คุณสมบัติของบัตรเครดิตแต่ละประเภทที่สนใจและเหมาะสมกับพฤติกรรมการใช้จ่ายจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ผู้สมัครสามารถเลือกสมัครบัตรเครดิตที่ตรงกับคุณสมบัติและโอกาสในการอนุมัติขอบัตรเครดิต
วงเงินบัตรเครดิตที่ได้รับจากเงินเดือน 18,000 บาท
เมื่อได้รับการอนุมัติบัตรเครดิต สิ่งที่หลายคนอยากรู้คือ วงเงินที่จะได้รับ ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว สถาบันการเงินจะมีหลักเกณฑ์ในการคำนวณวงเงินบัตรเครดิตโดยอิงจากรายได้ของผู้ถือบัตรเป็นหลัก
การคำนวณวงเงินบัตรเครดิตตามเงินเดือน
วงเงินบัตรเครดิตที่ผู้ที่มีเงินเดือน 18,000 บาทจะได้รับนั้น เริ่มแรกธนาคารหรือสถาบันการเงินจะพิจารณาจากฐานเงินเดือนของแต่ละบุคคลก่อน จากนั้นจะนำไปพิจารณาประกอบกับนโยบายความเสี่ยงของแต่ละสถาบันการเงิน หรือนโยบายการให้วงเงินของสถาบันการเงินแต่ละแห่ง สำหรับบัตรเครดิต KTC ได้กำหนดนโยบายฐานเงินเดือนและวงเงินบัตรเครดิต ไว้ดังนี้
- ฐานรายได้รวมต่อเดือน 15,000 - 30,000 บาท จะได้วงเงินในบัตรเครดิตไม่เกิน 1.5 เท่าของรายได้
- ฐานรายได้รวมต่อเดือน 30,000 - 50,000 บาท จะได้วงเงินในบัตรเครดิตไม่เกิน 3 เท่าของรายได้
- ฐานรายได้รวมต่อเดือน ตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป จะได้วงเงินในบัตรเครดิตไม่เกิน 5 เท่าของรายได้
ดังนั้นแล้ว ผู้ที่มีเงินเดือนอยู่ที่ 18,000 บาท จะได้รับการอนุมัติวงเงินสูงสุดที่ 27,000 บาท
อย่างไรก็ตาม อัตราวงเงินที่จะได้รับไม่ได้พิจารณาเพียงแค่รายได้เท่านั้น ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่มีผลต่อการพิจารณาวงเงิน ได้แก่
- ประวัติการเงิน : หากคุณมีประวัติการชำระหนี้ที่ดี ไม่เคยมีหนี้เสีย หรือมีวินัยในการผ่อนชำระหนี้อื่น ๆ สถาบันการเงินอาจพิจารณาให้วงเงินที่สูงขึ้น
- วินัยการใช้จ่าย : การแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการบริหารจัดการการเงินที่ดี อาจเพิ่มโอกาสในการพิจารณาวงเงิน
- ภาระหนี้สินที่มีอยู่ : หากคุณมีภาระหนี้สินอื่น ๆ อยู่ สถาบันการเงินอาจพิจารณาวงเงินที่ลดลง เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะสามารถผ่อนชำระหนี้ทั้งหมดได้
- นโยบายของแต่ละสถาบันการเงิน : แต่ละธนาคารหรือสถาบันการเงิน อาจมีนโยบายและเกณฑ์การพิจารณาวงเงินที่แตกต่างกัน
วิธีการคำนวณวงเงินเบื้องต้น
แม้ว่าจะไม่มีสูตรตายตัว แต่โดยทั่วไปแล้ว สำหรับผู้ที่มีรายได้อยู่ในเกณฑ์ขั้นต่ำ ตั้งแต่ 15,000 บาท รวมถึงผู้ที่มีรายได้ 18,000 บาทต่อเดือน ทางธนาคารหรือสถาบันการเงินมักจะพิจารณาวงเงินเริ่มต้นที่ไม่เกิน 1.5 เท่าของรายได้ต่อเดือน เพื่อควบคุมความเสี่ยงและให้เหมาะสมกับความสามารถในการชำระหนี้
วิธีเพิ่มวงเงินบัตรเครดิต
หากต้องการเพิ่มวงเงินบัตรเครดิตในอนาคต สามารถปฏิบัติตามวิธีการเหล่านี้เพื่อเป็นการสร้างประวัติที่ดีในการบริหารจัดการเงิน
- รายงานรายได้ที่เพิ่มขึ้น : หากมีรายได้เพิ่มขึ้น ก็สามารถแจ้งให้ธนาคารทราบพร้อมกับแสดงเอกสารยืนยันรายได้ เพื่อให้ธนาคารพิจารณาปรับเพิ่มวงเงินให้สอดคล้องกับรายได้ที่ปรับขึ้
- ชำระหนี้ตรงเวลาและเต็มจำนวน : การแสดงให้เห็นถึงวินัยในการชำระหนี้ที่ดีอย่างสม่ำเสมอ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธนาคารเห็นว่าคุณมีความรับผิดชอบทางการเงิน
- ใช้บัตรเครดิตอย่างมีวินัย : การใช้จ่ายอย่างเหมาะสม ไม่เกินกำลัง และรักษาประวัติการใช้จ่ายที่ดี จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้สมัครบัตรเครดิตได้
- รักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับธนาคาร : สมัครผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่น ๆ กับธนาคาร เช่น เปิดบัญชีเงินฝาก หรือสินเชื่ออื่น ๆ ที่มีประวัติการชำระที่ดี อาจเป็นปัจจัยในการพิจารณาเพิ่มวงเงิน
- ยื่นคำร้องขอเพิ่มวงเงิน : เมื่อมีคุณสมบัติตามเกณฑ์และมีประวัติการใช้จ่ายที่ดี คุณสามารถยื่นคำร้องขอเพิ่มวงเงินไปยังธนาคารหรือสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าของบัตรเครดิตใบนั้น ๆ ได้ จากนั้นทางสถาบันการเงินก็จะพิจารณาตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ สำหรับบัตรเครดิต KTC สามารถขอวงเงินถาวรเพิ่มได้ง่าย ๆ ด้วยตนเองผ่านแอป KTC Mobile
ทำไมการสมัครบัตรเครดิตถึงเป็นทางเลือกที่ดี
สำหรับผู้ที่มีเงินเดือน 18,000 บาท การมีบัตรเครดิตอาจเป็นเครื่องมือทางการเงินที่มีประโยชน์อย่างมาก หากใช้อย่างเหมาะสม เนื่องจากบัตรเครดิตมอบสิทธิประโยชน์มากมาย ครอบคลุมหลากหลายการใช้จ่ายของผู้ถือบัตรเครดิต
1. ความสะดวกในการชำระเงิน
ช่วยให้คุณสามารถซื้อสินค้าและบริการได้โดยไม่ต้องพกเงินสดจำนวนมาก และสามารถชำระคืนได้ในภายหลัง
2. การสะสมคะแนนและสิทธิพิเศษต่าง ๆ
บัตรเครดิตมีการสะสมคะแนนเพื่อไปแลกเป็นส่วนลด, เครดิตเงินคืน หรือของรางวัล และยังมอบส่วนลดและสิทธิพิเศษต่าง ๆ ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้จ่าย อาทิ บัตรเครดิต KTC ช่วยให้คุณสามารถซื้อสินค้าและบริการได้ในราคาที่ถูกลง จากโปรโมชั่นส่วนลดต่าง ๆ ที่ร้านค้าที่ร่วมรายการ และยังได้รับคะแนนสะสมเพื่อนำไปแลกเป็นส่วนลดหรือเครดิตเงินคืนได้อีก
เมื่อซื้อสินค้าราคาแพงก็สามารถใช้โปรโมชั่นผ่อน 0% ได้นานสูงสุด 10 เดือน รวมถึงมีสิทธิประโยชน์ MIRACLE LOUNGE ในสนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมือง ได้รับประกันการเดินทาง และสามารถเบิกถอนเงินสดได้เต็มวงเงินคงเหลือ
ทั้งนี้ สิทธิประโยชน์บริการห้องรับรอง MIRACLE LOUNGE ในสนามบิน เป็นสิทธิประโยชน์ที่มาพร้อมกับบัตรเครดิต KTC สำหรับผู้ที่มีรายได้ 50,000 บาท/เดือนขึ้นไป ซึ่งสมาชิกบัตรเครดิตที่สมัครบัตรเครดิตในเงื่อนไขเงินเดือน 15,000 บาท ขึ้นไป จะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์นี้ เว้นแต่ว่าเป็นสมาชิกบัตรเครดิต KTC JCB PLATINUM ซึ่งจะสามารถใช้สิทธิ์เข้าห้องรับรองของ JCB ในสนามบินต่างประเทศ ได้แก่ จีน ไต้หวัน เกาหลี สิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม เยอรมนี สหราชอาณาจักร และฮาวาย
3. ความปลอดภัย
การใช้บัตรเครดิตมีความปลอดภัยกว่าการพกเงินสดจำนวนมากเพื่อใช้จ่าย และหากบัตรสูญหายหรือถูกโจรกรรม ผู้ถือบัตรเครดิตก็สามารถแจ้งอายัดบัตรเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ สำหรับบัตรเครดิต KTC สามารถแจ้งอายัดบัตรชั่วคราวได้ง่าย ๆ ด้วยตนเองผ่านแอป KTC Mobile
4. การจัดการค่าใช้จ่าย
บัตรเครดิตมีรอบบิลการชำระเงินที่ชัดเจน ช่วยให้ผู้ถือบัตรสามารถติดตาม และวางแผนการใช้จ่ายในแต่ละเดือนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5. เครดิตบูโรที่ดี
การใช้บัตรเครดิตอย่างมีความรับผิดชอบและชำระหนี้ตรงเวลา จะช่วยสร้างประวัติเครดิตที่ดี ซึ่งเป็นประโยชน์ในการขอสินเชื่ออื่น ๆ ในอนาคต เช่น สินเชื่อรถยนต์ และสินเชื่อบ้าน
ทำไมต้องสมัครบัตรเครดิตกับ KTC
บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC (เคทีซี) เป็นสถาบันการเงินผู้ให้บริการบัตรเครดิตที่ได้รับการไว้วางใจจากผู้ใช้งานทั่วไทยเป็นอันดับต้น ๆ ทั้งจากการมีความน่าเชื่อถือ และมีผลิตภัณฑ์บัตรเครดิตที่หลากหลาย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้จ่ายและเกณฑ์รายได้ พร้อมด้วย
- บริการลูกค้าที่เป็นเลิศ : KTC พร้อมให้คำแนะนำและช่วยเหลือผู้สมัครบัตรเครดิตในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การสมัครจนถึงการใช้งานบัตร
- สิทธิประโยชน์ที่หลากหลาย : KTC มอบสิทธิพิเศษมากมาย ทั้งส่วนลดร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม การสะสมคะแนน KTC FOREVER ที่คุ้มค่า, โปรโมชั่นผ่อน 0% นานสูงสุด 10 เดือน, ประกันการเดินทาง และอื่น ๆ อีกมากมาย
- ช่องทางการสมัครที่สะดวก : ผู้สนใจสามารถสมัครบัตรเครดิต KTC ได้ง่าย ๆ ผ่านช่องทางที่สะดวก ไม่ว่าจะเป็นช่องทางออนไลน์บนเว็บไซต์ สมัครตามสาขา KTC TOUCH, ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา รวมถึงผ่านตัวแทนของธนาคารหรือสถาบันการเงิน
- ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ : KTC มีบัตรเครดิตหลากหลายประเภท ที่มีเกณฑ์รายได้ที่แตกต่างกัน และพฤติกรรมการใช้จ่ายที่แตกต่างกัน เพื่อให้ผู้สมัครสามารถเลือกบัตรบัตรเครดิตที่เหมาะสมกับตนเองได้มากที่สุด
ขั้นตอนสมัครบัตรเครดิต KTC
ขั้นตอนการสมัครบัตรเครดิต KTC มีรายละเอียดดังนี้
1. เลือกบัตรเครดิตที่เหมาะกับการใช้งาน และตรวจสอบคุณสมบัติของตนเอง เพื่อแน่ใจว่าคุณมีคุณสมบัติตรงตามที่ธนาคารหรือสถาบันการเงินกำหนด
2. เตรียมเอกสารให้ครบถ้วน รวบรวมเอกสารตามรายการที่ธนาคารหรือสถาบันการเงินระบุ เช่น สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน, เอกสารแสดงรายได้ ได้แก่ หนังสือรับรองเงินเดือน หรือสลิปเงินเดือนล่าสุด (ฉบับจริง) หรือ หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย 50 ทวิ และสำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง 3 - 6 เดือน พร้อมหน้าสมุดบัญชีที่ระบุชื่อ-นามสกุล และเลขที่บัญชี
3. ตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารให้เรียบร้อย
4. ยื่นสมัครผ่านช่องทางที่สะดวก
5. รอการตรวจสอบและอนุมัติ หลังจากยื่นใบสมัครและเอกสารแล้ว ทาง KTC จะดำเนินการตรวจสอบข้อมูลและประวัติเครดิตของผู้สมัคร โดยจะใช้เวลาประมาณ 3 - 7 วันทำการ
6. หากใบสมัครได้รับการอนุมัติ เมื่อได้รับบัตรแล้ว ควรอ่านเงื่อนไขการใช้งานและเปิดใช้งานบัตรตามขั้นตอนที่ธนาคารกำหนด
การมีเงินเดือน 18,000 บาท หรือการมีเงินเดือนอยู่ในเกณฑ์ขั้นต่ำที่ธนาคารหรือสถาบันการเงินกำหนด ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการสมัครบัตรเครดิตแต่อย่างใด เพราะทุกท่านมีโอกาสที่จะได้รับการอนุมัติบัตรเครดิตจากธนาคารและสถาบันการเงิน เพียงแต่วงเงินที่จะได้รับนั้น ก็จะขึ้นอยู่กับปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับประวัติทางการเงิน
นอกเหนือจากรายได้และสิ่งที่เป็นปัจจัยรายบุคคลแล้ว สิ่งสำคัญคือการทำความเข้าใจเงื่อนไขการสมัคร เลือกบัตรเครดิตที่เหมาะสมกับรายได้และความต้องการของคุณ และใช้บัตรเครดิตอย่างมีวินัย เพื่อให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากเครื่องมือทางการเงินนี้
หากใครกำลังมองหาบัตรเครดิตที่ตอบโจทย์และมอบสิทธิประโยชน์ที่คุ้มค่า แนะนำ สมัครบัตรเครดิต KTC ที่พร้อมเป็นเพื่อนคู่คิดทางการเงิน สมัครวันนี้เพื่อเปิดประตูสู่โลกแห่งความสะดวกสบายและสิทธิพิเศษที่เหนือกว่า
ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC