การกู้เงินธนาคารเป็นทางเลือกที่หลายคนใช้เมื่อต้องการเงินทุนเพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อบ้าน ซื้อรถยนต์ หรือเพื่อการลงทุน ในบทความนี้เราจะพาไปทุกคนไปทำความเข้าใจถึงขั้นตอนการกู้เงินจากธนาคาร ว่าการกู้เงินธนาคารใช้อะไรบ้าง ? วิธีกู้เงินธนาคาร หลักประกันเงินกู้มีอะไรบ้าง ? รวมถึงข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจกู้ เพราะจะช่วยให้คุณเตรียมตัวได้อย่างถูกต้อง และเพิ่มโอกาสในการได้รับอนุมัติเงินกู้มากขึ้น
การกู้เงินมีกี่ประเภท ?
การกู้เงินจากธนาคารหรือสถาบันการเงินนั้นมีจุดหลายประเภท ซึ่งถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับความต้องการและวัตถุประสงค์ของผู้กู้แต่ละคน โดยประเภทการกู้เงินที่พบบ่อยหลักๆ มีดังนี้
1. การกู้เงินส่วนบุคคล
การกู้เงินนี้ประเภทนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้เงินเพื่อนำไปใช้จ่ายส่วนตัว เช่น ค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน ค่ารักษาพยาบาล ค่าซ่อมแซมที่อยู่อาศัย ฯลฯ วงเงินกู้มักขึ้นอยู่กับรายได้และประวัติการเงินของผู้กู้ ซึ่งอัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อประเภทนี้มักจะสูงกว่าสินเชื่อที่มีหลักประกัน
2. การกู้เงินเพื่อซื้อบ้าน
สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อบ้านหรือคอนโด ธนาคารจะให้กู้เงินโดยใช้บ้านหรือคอนโดเป็นหลักประกัน วงเงินกู้มักครอบคลุมราคาซื้อบ้านบางส่วนหรือทั้งหมด ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของธนาคาร และมีระยะเวลาผ่อนชำระที่ยาวนาน อาจถึง 20-30 ปี ซึ่งการกู้เงินประเภทนี้มักมีดอกเบี้ยต่ำกว่าสินเชื่อบางประเภท เช่น สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อเพื่อธุรกิจ ฯลฯ เนื่องจากมีหลักประกันที่มั่นคง
3. การกู้เงินเพื่อซื้อรถยนต์
ใครอยากซื้อรถใหม่ ไม่ว่าจะเป็นรถมือหนึ่งหรือมือสอง ธนาคารจะใช้รถยนต์ที่ซื้อเป็นหลักประกันในการกู้เงินประเภทนี้ โดยวงเงินกู้จะขึ้นอยู่กับราคาของรถยนต์และระยะเวลาผ่อนชำระ โดยส่วนใหญ่มักอยู่ในช่วง 3-7 ปี
4. การกู้เงินเพื่อธุรกิจ
สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการเงินทุนเพื่อขยายธุรกิจหรือเริ่มต้นกิจการใหม่ การกู้เงินประเภทนี้อาจต้องใช้หลักประกัน เช่น ที่ดินหรือทรัพย์สินของธุรกิจ เพื่อค้ำประกันการกู้
5. การกู้เงินเพื่อการศึกษา
สำหรับผู้ที่ต้องการเงินทุนในการศึกษาทั้งในและต่างประเทศ ก็มีวงเงินจากธนาคารให้กู้เช่นกัน ซึ่งการกู้เงินเพื่อนการศึกษามักมีอัตราดอกเบี้ยต่ำไม่เกิน 1% ต่อปี และระยะเวลาผ่อนชำระที่ยืดหยุ่น บางครั้งอาจเริ่มชำระคืนหลังจากจบการศึกษาแล้วตามพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566
6. การกู้เงินเพื่อการลงทุน
สำหรับนักลงทุนที่ต้องการกู้เงินเพื่อนำไปลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ เช่น หุ้น พันธบัตร หรือกองทุนรวม โดยวงเงินกู้จะขึ้นอยู่กับหลักประกันหรือสินทรัพย์ที่ผู้กู้ถือครอง
เอกสารกู้เงินธนาคาร ใช้อะไรบ้าง ?
หากคุณต้องการกู้เงินจากธนาคาร แล้วสงสัยว่าเอกสารการกู้เงินธนาคารใช้อะไรบ้าง ? ธนาคารจะใช้เอกสารอะไรในการพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้และอนุมัติเงินกู้ โดยหลักๆ จะมีดังต่อไปนี้
- บัตรประชาชน : เอกสารสำหรับการยืนยันว่าผู้ขอกู้เป็นบุคคลตามกฎหมาย
- ทะเบียนบ้าน : ใช้เพื่อยืนยันที่อยู่ของผู้กู้ตามทะเบียนราชการ
- หลักฐานรายได้ : เพื่อยืนยันว่าผู้กู้มีรายได้เพียงพอที่จะชำระหนี้คืน เช่น หนังสือรับรองเงินเดือน สลิปเงินเดือน หรือรายการเดินบัญชีย้อนหลัง 3-6 เดือน
- ใบรับรองการทำงาน : ใบรับรองการทำงานที่ออกโดยนายจ้าง เพื่อเป็นหลักฐานแสดงถึงตำแหน่งงานและระยะเวลาที่ทำงานในบริษัทนั้นๆ ซึ่งจะช่วยเสริมความน่าเชื่อถือในการกู้ยืม
สำหรับผู้มีอาชีพอิสระ
- กรณีเป็นสัญญาจ้าง อาจใช้สำเนาสัญญาว่าจ้างและหลักฐานการจ่ายเงินค่าจ้าง
- กรณีเป็นแพทย์ ทนายความ ผู้สอบบัญชี วิศวกร สถาปนิก ควรแสดงใบอนุญาตประกอบวิชาชีพด้วย
- เอกสารเกี่ยวกับหนี้สินอื่นๆ (ถ้ามี) : หากผู้ขอกู้มีหนี้สินอื่นอยู่ เช่น สินเชื่อส่วนบุคคลหรือหนี้บัตรเครดิต ธนาคารอาจขอเอกสารเพิ่มเติมเพื่อประเมินความสามารถในการชำระหนี้
การเตรียมเอกสารเหล่านี้ให้ครบถ้วนและถูกต้อง ถือเป็นสิ่งสำคัญในการเร่งกระบวนการพิจารณากู้เงินให้เป็นไปอย่างรวดเร็ว จะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้รับอนุมัติเงินกู้ ทั้งนี้ เอกสารที่ใช้จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับประเภทสินเชื่อที่ขอกู้จากธนาคาร
หลักประกันเงินกู้ มีอะไรบ้าง ?
การกู้เงินบางประเภท โดยเฉพาะสินเชื่อที่มีวงเงินสูง เช่น สินเชื่อบ้านหรือสินเชื่อรถยนต์ ธนาคารมักจะต้องการ ‘หลักประกัน’ เพื่อให้มั่นใจว่าผู้กู้มีความสามารถในการชำระหนี้คืน หากผู้กู้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ ธนาคารจะใช้หลักประกันนั้นเพื่อชดเชยความเสียหายจากการผิดชำระหนี้ ซึ่งหลักประกันที่ใช้กันทั่วไปมีดังนี้
- ที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ : สำหรับการกู้เงินเพื่อซื้อบ้านหรือการรีไฟแนนซ์บ้านนั้น บ้านหรือที่ดินที่ซื้อจะถูกนำมาเป็นหลักประกัน โดยธนาคารจะถือสิทธิ์ในการยึดบ้านหรือที่ดินนั้นหากผู้กู้ไม่สามารถชำระเงินคืนได้
- รถยนต์ : สำหรับการกู้เงินซื้อรถยนต์ รถที่ซื้อจะถูกใช้เป็นหลักประกันในการกู้เงิน โดยธนาคารจะถือสิทธิ์ในการครอบครองรถ หากผู้กู้ไม่สามารถชำระเงินคืนตามกำหนด
- เงินฝากหรือพันธบัตร : ในบางกรณีผู้กู้สามารถใช้เงินฝากประจำหรือพันธบัตรที่ถืออยู่ในธนาคารมาเป็นหลักประกันในการกู้ยืมเงิน หากผู้กู้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ ธนาคารจะใช้เงินฝากหรือพันธบัตรนั้นมาชดเชยหนี้
- สินทรัพย์ที่มีค่า : เช่น เครื่องจักรหรืออุปกรณ์สำหรับธุรกิจ อาจถูกใช้เป็นหลักประกันสำหรับสินเชื่อธุรกิจ โดยเฉพาะในกรณีที่บริษัทต้องการขยายกิจการหรือขอสินเชื่อเพื่อเพิ่มเงินทุน
- บุคคลค้ำประกัน : บางครั้งผู้กู้ไม่สามารถให้หลักประกันที่เป็นทรัพย์สินได้ ธนาคารอาจยอมรับบุคคลค้ำประกัน ซึ่งเป็นบุคคลที่มีความน่าเชื่อถือทางการเงิน โดยบุคคลนี้จะต้องรับผิดชอบการชำระหนี้แทนผู้กู้ในกรณีที่ผู้กู้ไม่สามารถชำระหนี้ได้
การมีหลักประกันที่มั่นคงจะช่วยให้ธนาคารมีความมั่นใจในความเสี่ยงที่ต่ำลง จึงมักจะทำให้ผู้กู้ได้รับเงื่อนไขที่ดีกว่า เช่น อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงและวงเงินกู้ที่สูงขึ้น
สิ่งที่ควรคำนึงเมื่อต้องกู้เงินธนาคาร คือ ดอกเบี้ย และระยะเวลาการผ่อน ทำความเข้าใจให้ชัดเจน เพื่อจะได้ไม่มีค่าเรียกปรับ
ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจกู้เงินธนาคาร
ก่อนตัดสินใจในการกู้เงินธนาคาร ควรพิจารณาข้อควรรู้ต่างๆ ดังนี้
- อัตราดอกเบี้ย : สำคัญมากที่ต้องทำความเข้าใจอัตราดอกเบี้ยประเภทต่างๆ เช่น ดอกเบี้ยคงที่หรือดอกเบี้ยลอยตัว
- ระยะเวลาการผ่อนชำระ : ควรพิจารณาว่าระยะเวลานานแค่ไหน และค่างวดที่ต้องชำระทุกเดือนสามารถรับได้หรือไม่
- ค่าธรรมเนียม : ตรวจสอบค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้อง เช่น ค่าธรรมเนียมการกู้ ค่าธรรมเนียมการจดจำนอง
- ความสามารถในการชำระ : พิจารณาความสามารถในการชำระหนี้ของตัวเอง เพื่อไม่ให้เป็นภาระในอนาคต
ขั้นตอนและวิธีการกู้เงินธนาคาร
การกู้เงินธนาคารต้องเตรียมตัวอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการกู้เพื่อซื้อบ้าน รถยนต์ หรือเรื่องส่วนตัว การเข้าใจถึงขั้นตอนต่างๆ จะช่วยให้กระบวนการพิจารณาเป็นไปอย่างราบรื่นและลดความเสี่ยงด้านการเงินในอนาคต
- สำรวจความต้องการ : ประเมินว่าต้องการกู้ในเงินจำนวนเท่าไหร่ รวมถึงประเภทสินเชื่อที่เหมาะสมกับจุดประสงค์
- เตรียมเอกสาร : รวบรวมเอกสารที่ธนาคารกำหนด
- ยื่นคำขอกู้ : นำเอกสารไปยื่นที่ธนาคารที่ต้องการใช้บริการ
- การพิจารณาเครดิต : ธนาคารจะตรวจสอบประวัติการเงินและเครดิตของผู้กู้
- อนุมัติและเซ็นสัญญา : หากผ่านการพิจารณา ผู้กู้จะต้องเซ็นสัญญากู้ยืมเงิน
- รับเงินกู้ : หลังจากเซ็นสัญญาเรียบร้อย ธนาคารจะโอนเงินให้ผู้กู้
การกู้เงินธนาคารเป็นทางเลือกที่ช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็นการซื้อบ้าน รถยนต์ หรือการลงทุน แต่ก่อนตัดสินใจควรเตรียมตัวให้พร้อมทั้งด้านเอกสาร ความสามารถในการชำระหนี้ และการเลือกประเภทสินเชื่อที่เหมาะสม ทั้งนี้ ผู้กู้ควรเข้าใจขั้นตอนและเงื่อนไข พร้อมศึกษารายละเอียดอย่างรอบคอบ เพื่อช่วยให้กระบวนการกู้ยืมเป็นไปได้อย่างราบรื่นและส่งผลดีต่อผู้กู้นั่นเอง
นอกจากการกู้เงินแล้ว บัตรเครดิตยังถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือทางการเงิน ที่ช่วยจัดการค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการแบ่งจ่ายที่ยืดหยุ่นและสิทธิประโยชน์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวัน บัตรเครดิต KTC ตอบโจทย์ทุกความต้องการ พร้อมทั้งมอบสิทธิประโยชน์ที่หลากหลายให้กับทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต สำหรับใครที่สนใจสามารถสมัครบัตรเครดิต KTC ผ่านทางออนไลน์ และ สมัครบัตรกดเงินสด KTC PROUD ได้ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC