ตอนนี้เทรนด์ที่กำลังมาแรงในกลุ่มคนวัยทำงานก็คือการวางแผนการเงินสำหรับช่วงชีวิตหลังเกษียณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมนุษย์เงินเดือน ที่อาจจะต้องเก็บเงินและวางแผนการเงินตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะอาจไม่ได้มีเงินบำเหน็จบำนาญเหมือนข้าราชการ ซึ่งการออมเงินนั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าออมเงินอย่างเดียวแต่ขาดการวางแผนแบ่งสรรเรื่องการเก็บเงินสำรองฉุกเฉิน เงินที่ออมอยู่ก็อาจไปไม่ถึงเป้าหมาย เช่น มีเหตุฉุกเฉินต้องใช้เงินด่วน หรือต้องว่างงานกะทันหัน ดังนั้น การมีบัตรเครดิต KTC ติดตัวไว้สักใบ จะช่วยให้รู้สึกอุ่นใจได้ในระดับหนึ่ง ว่าจะมีเงินสำรองสำหรับใช้จ่าย แต่นอกจากการมีบัตรเครดิตแล้ว KTC ยังมี 10 วิธีออมเงินเพื่อการเกษียณว่าจะมีวิธีไหนบ้าง และมีรูปแบบการออมอย่างไร เพื่อเป็นประโยชน์ยามเกษียณสำหรับมนุษย์เงินเดือน
ปัจจุบันมีตัวช่วยมากมายที่จะทำให้ออมเงินได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
รูปแบบการออมเงิน 5 ประเภท มีอะไรบ้าง
การออมเงินในปัจจุบันนี้มีหลายรูปแบบ และมีตัวช่วยมากมายที่จะทำให้คุณออมเงินได้มากยิ่งขึ้น โดยหลักๆ แล้วการออมเงินจะถูกแบ่งออกเป็น 5 ประเภท จึงอยากจะให้ทุกคนได้รู้จัก และศึกษารูปแบบการออมเงินจะได้เริ่มต้นการออมอย่างมีประสิทธิภาพ
1.การออมเงินในบัญชีเงินฝาก
เป็นรูปแบบการออมเงินที่ทำได้ง่ายที่สุดวิธีหนึ่ง รวมถึงยังเป็นวิธีที่ปลอดภัย เพราะมั่นใจได้ว่าถ้าไม่ถอนเงินออกมาใช้ เงินก็จะไม่หายไปไหน โดยสามารถออมเงินในบัญชีสะสมทรัพย์ก็ได้ หรือถ้าใครต้องการดอกเบี้ยที่สูงกว่า ก็อาจเปิดเป็นบัญชีฝากประจำ
2.การออมเงินด้วยประกันชีวิต
หากใครอยากออมเงินในระยะยาว ไม่ได้รีบร้อนใช้เงิน แนะนำให้ลองออมเงินด้วยประกันชีวิต ซึ่งประกันชีวิตในปัจจุบันนี้มีโปรโมชั่นและรูปแบบของประกันให้เลือกเยอะมาก หากอยากได้ผลตอบแทนที่สูง ให้เลือกประกันชีวิตที่เน้นการออมเงินโดยเฉพาะ นอกจากนั้นยังเลือกได้ว่าจะจ่ายแบบสั้นหรือแบบยาว แนะนำว่าถ้าอยากซื้อประกันชีวิตแบบสั้น ให้เลือกแผนจ่ายเบี้ยไม่เกิน 10 ปี
3.การออมเงินในกองทุนรวม
กองทุนรวม หรือ Mutual Funds คือการออมเงินในกองทุนรวม ซึ่งเป็นการนำเงินไปลงทุนในรูปแบบหนึ่งที่รวบรวมเงินจากนักลงทุนหลายๆ คนมาบริหารจัดการโดยผู้เชี่ยวชาญ นั่นก็คือ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ซึ่งวิธีนี้เป็นหนึ่งในวิธีลงทุนสำหรับผู้ที่ไม่เชี่ยวชาญ ไม่มีประสบการณ์ โดยเงินที่รวบรวมได้จะถูกนำไปลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทต่างๆ เช่น หุ้น พันธบัตร หรือทรัพย์สินอื่นๆ นอกจากนั้นยังมีกองทุนรวมพิเศษแบบอื่นๆ อีกมากมาย ทำให้สามารถเข้าถึงการลงทุนที่หลากหลายได้ด้วยเงินลงทุนไม่มาก ผู้ออมเงินจะได้รับผลตอบแทนจากทั้งกำไรของการขายหน่วยกองทุน และเงินปันผลของกองทุนรวม
4.การออมเงินในอสังหาริมทรัพย์
สำหรับคนที่อยากเปลี่ยนเงินสดเป็นทรัพย์สิน อยากให้ลองเลือกดูวิธีการออมเงินในรูปแบบของอสังหาริมทรัพย์ ทั้งการซื้อที่ดิน ซื้อบ้าน หรือว่าซื้อคอนโด เพราะการลงทุนแบบนี้สามารถต่อยอดได้หลายวิธี อีกทั้งมูลค่าของอสังหาริมทรัพย์ยังเติบโตได้หลายเท่า ถ้าหากเลือกลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่ทำเลดี หรือว่าซื้อมาในช่วงราคาต่ำกว่าตลาด แต่การออมเงินด้วยการซื้ออสังหาริมทรัพย์ก็มีความเสี่ยงอยู่ไม่น้อย ข้อดีก็คือมีทรัพย์สินที่ส่งต่อให้กับลูกหลานได้ รวมถึงการเป็นเจ้าของโดยการซื้อขาด
5.การออมเงินในหุ้น
แน่นอนว่าการซื้อหุ้นย่อมมีความเสี่ยง และต้องใช้ประสบการณ์ค่อนข้างมากในการวิเคราะห์ และตัดสินใจซื้อหุ้นแต่ละตัว การซื้อหุ้นเป็นการออมเงินรหนึ่งที่เป็นที่นิยม เพราะถ้าหากว่าคุณไม่รีบร้อน หรือมีเงินเย็นอยู่แล้ว การออมเงินในหุ้นเป็นวิธีการลงทุนที่สามารถให้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว ซึ่งก็สามารถเก็บเล็กผสมน้อย ค่อยๆ ซื้อหุ้นไปเมื่อมีทุนทรัพย์ แต่อย่างไรก็ตามการซื้อหุ้นเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงมาก แนะนำให้ศึกษาให้ดี
เป้าหมายที่แน่ชัดในการออมจะช่วยให้สามารถเลือกวิธีออมที่เหมาะสมได้ดีที่สุด
10 วิธีออมเงินเพื่อการเกษียณ
จริงอยู่ที่ว่าการออมเงินนั้นมีหลายรูปแบบ แต่ก่อนที่คุณจะเริ่มออมเงินจะต้องมีจุดประสงค์ให้แน่ชัดก่อน เพราะว่าจะได้เลือกการออมเงินที่ตอบโจทย์ และตรงจุดประสงค์ อย่างเช่นการออมเงินเพื่อการเกษียณ ก็จะเน้นการออมที่ได้ผลตอบแทนในระยะยาว เมื่อเวลาผ่านไปคุณจะมีเงินเพิ่ม เอาไว้ใช้จ่าย หรือใช้ดูแลตัวเองหลังจากเกษียณ หรือบางคนอยากจะลาออกจากงานก่อนกำหนด โดยไม่ต้องรอถึงอายุ 60 เหมือนข้าราชการ ซึ่ง 10 วิธีการออมเงินเพื่อการเกษียณ จะมีดังต่อไปนี้
1.ออมทอง
สิ่งที่จะมีมูลค่าเมื่อเวลาผ่านไปก็คือ “ทองคำ” เพราะว่าทองคำเป็นสิ่งที่มีมูลค่า และมีความเสถียรในระยะยาว จะถูกเรียกอีกอย่างว่า สินทรัพย์หลบภัย (Safe Haven)โดยที่ไม่มีโลหะ อัญมณี หรือแร่ไหนที่จะสามารถรักษามูลค่าได้ดีเท่าทองคำ ดังนั้นการออมทองจึงนับว่าน่าสนใจ ที่สำคัญคือมีเงินเท่าไหร่ ก็เลือกซื้อทองได้ตามงบประมาณที่มี หรือถ้าหากคุณอยากเริ่มต้นซื้อทองเก็บไว้ แนะนำให้ซื้อทองแท่ง เพราะมูลค่าจะตกน้อยมากที่สุดเมื่อนำไปขาย
2.ตั้งระบบออมเงินอัตโนมัติ
เพื่อเป็นการสร้างวินัยในการออมเงิน ควรที่จะตั้งระบบให้ออมเงินได้อย่างอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดบัญชีเพิ่ม หรือนำไปฝากประจำ แนะนำให้ตั้งวันที่ออมเงินทันทีที่เงินเดือนออก เพราะช่วยให้คุณจัดการกับเงินได้ดีมากยิ่งขึ้น ถ้าใครที่ออมเงินไม่อยู่ หรือใช้เงินเก่ง การออมเงินโดยโอนอัตโนมัติจะช่วยคุณออมเงินได้มีระบบมากขึ้นแน่นอน
3.ออมเงินโดยบวกอัตราเงินเฟ้อ
ถึงแม้คุณจะเริ่มต้นการเก็บเงิน หรือออมเงินตั้งแต่อายุยังไม่มาก สมมุติว่าเริ่มต้นที่อายุ 30 ปี แต่มีแพลนจะเก็บเงินไว้ใช้หลังอายุ 60 ปี แต่ก็อย่าลืมว่าเวลาผ่านไปอัตราเงินเฟ้อก็จะมากขึ้นไปด้วย ให้คิดโดยเฉลี่ยว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ประมาณ 3% ต่อปี แล้วออมเงินโดยทำงานบวกอัตราเงินเฟ้อไปด้วย เพราะเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่เงินจะไม่เฟ้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าอุปโภค และบริโภคนั้นเพิ่มขึ้นทุกปีอย่างแน่นอน
4.ลงทุนใน Super Saving Fund (SSF)
เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดีสำหรับคนอยากออมเงินไว้ใช้เมื่อยามเกษียณ เพราะว่า “Super Saving Fund (SSF)” นั้นเหมาะกับการลงทุนในระยะยาวโดยเฉพาะ โดยคุณสามารถลงทุนในหลักทรัพย์ได้ทุกประเภท ทั้งหุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ หรือว่าตราสารหนี้ ซึ่งสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ด้วย แต่การลดหย่อนก็จะเป็นปีต่อปี ซื้อ SSF ปีไหนก็นำไปลดหย่อนของปีนั้นได้เลย สำหรับเงื่อนไขที่ผู้ลงทุนควรทราบคือจะสามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้เป็นเวลา 10 ปี นับจากวันแรกที่ซื้อ
5.ซื้อกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF)
เพราะจุดประสงค์หลักของ RMF หรือ Retirement Mutual Fund นั้นทำมาเพื่อการออมเงินสำหรับการเกษียณโดยเฉพาะ ซึ่งถ้าหากใครวางแพลนจะเก็บออมเงินเพื่อการเกษียณ อยากให้มาทำความรู้จักกับ RMF ที่ลงทุนในสินทรัพย์ได้หลายรูปแบบมาก จะทั้งไทยหรือต่างประเทศก็ได้หมด มีเงื่อนไขว่าต้องถือหน่วยลงทุนไม่น้อยกว่า 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ซื้อครั้งแรก และจะต้องมีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ ถึงจะสามารถขายคืนได้ ทำให้กองทุนนี้เป็นที่นิยมอยู่ไม่น้อย สำหรับผู้ที่อยากออมเงินเพื่อวัยเกษียณ
6.ออมเงินกับกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช)
ความน่าสนใจของการออมเงินกับ กอช ก็คือไม่ว่าจะเป็นมนุษย์เงินเดือน พนักงานออฟฟิศ หรือผู้ประกอบอาชีพอิสระต่างๆ ที่มีอายุ 15-60 ปี โดยที่จะต้องไม่อยู่ในระบบบำเหน็จ หรือว่าบำนาญ จะออมเงินได้ขั้นต่ำ 50 บาท หรือสูงสุด 13,200 บาท/ปี สามารถแบ่งค่างวดเองได้เลย อยากออมเยอะหรือออมน้อยก็เลือกได้เอง ซึ่งคุณจะได้รับค่าเงินบำนาญเพื่อดำรงชีพหลังจาก 60 ปีขึ้นไป แนะนำให้รีบออม เพราะยิ่งออมตอนอายุน้อยก็จะได้เงินเยอะหลังเกษียณ
7.ซื้อประกันชีวิต
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการซื้อประกัน เป็นอีกหนึ่งวิธีการออมที่ได้ผลจริง และได้ผลตอบแทนจริง แต่อาจจะต้องใช้เวลา และต้องเลือกประกันที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ รวมถึงประเมินค่าเบี้ยที่คุณจะต้องประเมินแล้วว่าจ่ายไหว เพราะประกันบางรูปแบบ จะเน้นการจ่ายค่าเบี้ยที่น้อย แต่ใช้ระยะเวลานาน กับอีกรูปแบบหนึ่งคือได้จ่ายแค่ไม่กี่ปี ได้เงินคืนไว แต่ต้องแลกกับค่าเบี้ยจำนวนเยอะ แนะนำให้ลองเลือกประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ หรือประกันที่เน้นออมเงินโดยเฉพาะ
8.ซื้อประกันบำนาญ
หนึ่งในประเภทของประกันที่เหมาะสำหรับคนที่อยากออมเงินไว้ใช้ในวัยเกษียณ เพราะเป็นการจ่ายเบี้ยประกันเพื่อออมในระยะยาว และคืนหลังจากที่อายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละประกัน แต่เงินคืนที่ได้มาจะได้มาในรูปแบบของเงินบำนาญ ที่ไม่ใช่เงินก้อนเหมือนประกันชีวิตทั่วไป ซึ่งคุณจะมั่นใจว่าจะมีเงินใช้ทุกเดือนยามเกษียณ และมีความเสี่ยงน้อยกว่าการลงทุนในช่องทางอื่น
9.ซื้อพันธบัตรรัฐบาล
แนะนำสำหรับคนที่มีเงิน แต่อยากออมในรูปแบบตราสารหนี้ การลงทุนซื้อพันธบัตรรัฐบาล เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจ เหมาะกับการออมเงินในระยะยาว มีรูปแบบการลงทุนไม่ซับซ้อน ความเสี่ยงต่ำ และมีอัตราดอกเบี้ยที่คงที่ เชื่อถือได้ เพราะว่าออกโดยกระทรวงการคลัง ซึ่งสามารถซื้อได้ที่ธนาคารพาณิชย์ หรือว่าที่วอลเล็ต ส่วนใครที่อยากซื้อพันธบัตรรัฐบาล หรืออยากศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม เข้าไปดูได้ในเว็บธนาคารแห่งประเทศไทย
10.จ่ายค่าประกันสังคม
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าค่าประกันสังคมที่จ่ายไปในทุกเดือน สุดท้ายแล้วจะได้คืน ไม่เฉพาะแค่คนที่ทำงานเป็นพนักงานประจำทั่วไป หรือว่าคนที่ยืนประกันตน และจะได้รับคืนหลังจากอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ ซึ่งจะได้ตั้งแต่เริ่มจ่ายประกันสังคม โดยจะมีการคิดเงินคืนตั้งแต่จ่ายไม่ถึง 1 ปี จนถึงจ่ายตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป เฉพาะอย่างยิ่งถ้าใครจ่ายครบ 15 ปี จะได้รับเงินบำนาญชราภาพ 20% ของค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย (ฐานเงินเดือนสูงสุดที่คิดคือ 15,000 บาท) ส่วนคนที่จ่ายเกิน 15 ปีขึ้นไป จะได้เพิ่มอีก 1.5% ของทุกปี เท่ากับ 20% + (1.5 x จำนวนปี) สามารถตรวจสอบรายละเอียดได้ในเว็บไซต์ประกันสังคม
สิ่งที่จะทำให้วิธีออมเงินเป็นผลสำเร็จก็คือต้องรู้จักการประหยัด และใช้เงินอย่างรู้คุณค่า อีกหนึ่งเคล็ดลับก็คือการใช้ส่วนลด โปรโมชั่นผ่อน 0% หรือการใช้คะแนนแลกรับเครดิตเงินคืนจากบัตรเครดิตให้เป็นประโยชน์ แนะนำใครยังไม่มีบัตรเครดิต ลองเข้าไปสมัครบัตรเครดิต KTC ได้ มีให้สมัครออนไลน์ ส่งเอกสารทางออนไลน์ได้เลย ส่วนใครที่มีบัตรฯ แล้วก็อย่าใช้เงินจนเกินตัว ให้ประเมินรายรับ-รายจ่ายให้ดี ถึงเวลาวันชำระดอกเบี้ย ให้ชำระเต็มเพื่อป้องกันการเกิดดอกเบี้ยที่ตามมา
ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC