สรุปดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ได้วันไหน ใครได้บ้าง ลงทะเบียนอย่างไร ?

หลังจากที่เราได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาลกันมาสักพักใหญ่ๆ ล่าสุดทางรัฐบาลพรรคเพื่อไทยก็ได้เปิดเผยข้อสรุปของดิจิทัลวอลเล็ตเงื่อนไขล่าสุดออกมาแล้ว และเราจะพาคุณไปอัพเดทความคืบหน้าล่าสุดของโครงการ พร้อมรายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับเงื่อนไข กำหนดการลงทะเบียน วิธีการจ่ายเงิน รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าที่สามารถซื้อได้และไม่ได้ด้วยการจ่ายเงินในโครงการนี้

ดิจิทัลวอลเล็ต คืออะไร ?

ดิจิทัลวอลเล็ต คือ กระเป๋าเงินดิจิทัล ซึ่งเป็นเครื่องมือในการทำธุรกรรมทางการเงิน คอยทำหน้าที่เป็นตัวกลางแทนกระเป๋าเงินจริง โดยการโอนเงินสดเข้ามาไว้ในดิจิทัลวอลเล็ต และสามารถนำไปชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้ด้วยการสแกนผ่านสมาร์ทโฟน ซึ่งไม่เพียงแต่จะเป็นวิธีการจ่ายเงินที่สะดวกและปลอดภัย แต่ดิจิทัลวอลเล็ตยังเป็นช่องทางสำคัญในการกระจายความช่วยเหลือจากภาครัฐสู่ประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่น โครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทของรัฐบาล ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ บรรเทาภาระค่าครองชีพ และวางรากฐานสำหรับระบบเศรษฐกิจดิจิทัลในอนาคต

ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 ได้วันไหน ?

สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนตามเงื่อนไข จะทราบผลการพิจารณาเป็นผู้มีสิทธิ์ได้รับเงินดิจิทัลวอลเล็ตผ่านช่องทางที่รัฐบาลกำหนด

ในวันที่ 22 กันยายน 2567 และจะเริ่มใช้จ่ายได้ในช่วงไตรมาส 4 นี้ หรือช่วงเดือนตุลาคม - ธันวาคม 2567

ดิจิทัลวอลเล็ต ใครได้รับสิทธิ์บ้าง ต้องมีคุณสมบัติอะไร ?

สำหรับผู้ที่มีสิทธิ์ได้รับดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท จะต้องมีคุณสมบัติดังนี้

• ประชาชนที่มีชื่อและที่อยู่ในทะเบียนบ้าน
• สัญชาติไทย
• อายุตั้งแต่ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป (ก่อนวันที่ 16 กันยายน 2567)
• ไม่เป็นผู้มีรายได้เกิน 840,000 บาท (สำหรับปีภาษี 2566)
• ไม่เป็นผู้ที่มีเงินฝากกับธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจรวมกันเกิน 500,000 บาท (ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567)
• ไม่เป็นผู้ที่อยู่ระหว่างต้องโทษจำคุกในเรือนจำ
• ไม่เป็นผู้ที่ถูกระงับสิทธิ์หรือถูกเรียกเงินคืนในมาตรการ/โครงการอื่นๆ ของรัฐ
• ไม่เป็นผู้ฝ่าฝืนเงื่อนไขของมาตรการ/โครงการอื่นๆ ของรัฐ

ดิจิทัลวอลเล็ต สามารถซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคได้

ดิจิทัลวอลเล็ต ซื้ออะไรได้ อะไรไม่ได้บ้าง ?

สินค้าที่สามารถซื้อได้

• สินค้าอุปโภคบริโภค เช่น ข้าวสาร, อาหารแห้ง, ไข่ไก่, ซอสปรุงรส, เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์, สบู่, ยาสีฟัน, ผงซักฟอก
• สินค้าเพื่อการศึกษา เช่น เครื่องเขียน, สมุด, ปากกา, ดินสอ, เครื่องแบบนักเรียน
• สินค้าวัตถุดิบเพื่อการเกษตร เช่น ปุ๋ย, ยาปราบศัตรูพืช, เมล็ดพันธุ์พืช
• สินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ชุมชน เช่น ผักสด, ผลไม้, อาหารสด, เครื่องจักสาน
• ยารักษาโรค เช่น ยาแก้ปวด, ยาลดไข้, ยาแก้ท้องเสีย

สินค้าที่ไม่สามารถซื้อได้

• สลากกินแบ่งรัฐบาล
• เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
• ผลิตภัณฑ์ยาสูบ
• กัญชา
• กระท่อม
• พืชกระท่อม
• ผลิตภัณฑ์กัญชาและกระท่อม
• บัตรกำนัล บัตรเงินสด
• ทองคำ
• เพชร พลอย อัญมณี
• น้ำมันเชื้อเพลิง
• ก๊าซธรรมชาติ

ดิจิทัลวอลเล็ต มีเงื่อนไขอะไรบ้าง ?

สำหรับเงื่อนไขโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท มีดังนี้

1.การใช้จ่ายระหว่างประชาชนกับร้านค้า

• สามารถใช้จ่ายได้กับร้านค้าขนาดเล็ก ร้านสะดวกซื้อขนาดเล็ก ไม่รวมห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีก-ค้าส่งสินค้าขนาดใหญ่ ระดับประเทศ และระดับท้องถิ่น
• หากประชาชนมีที่อยู่ตามทะเบียนบ้านในอำเภอใด ก็ต้องซื้อสินค้าจากร้านค้าในอำเภอเดียวกันเท่านั้น และต้องซื้อขายแบบพบหน้า (Face to Face) ซึ่งคำว่าซื้อขายแบบพบหน้านี้ จะมีการตรวจสอบ
• ที่อยู่ของร้านค้าตามที่ลงทะเบียนโครงการ
• ที่อยู่ของประชาชนตามทะเบียนบ้านในขณะที่ลงทะเบียนโครงการ
• พิกัดที่อยู่ของประชาชนในขณะที่ใช้จ่ายกับร้านค้าต้องอยู่ในเขตอำเภอเดียวกันการชำระเงินจึงจะสมบูรณ์

2.การใช้จ่ายระหว่างร้านค้ากับร้านค้า : ร้านค้าทุกประเภทสามารถซื้อขายสินค้าระหว่างกันได้ และไม่มีเงื่อนไขว่าต้องเป็นการซื้อขายแบบพบหน้า (Face to Face) จึงซื้อขายสินค้าระหว่างกันได้แม้จะอยู่ต่างพื้นที่ ซึ่งคาดว่าจะมีประมาณ 2 ล้านร้านค้า

3. ประเภทสินค้า : สามารถซื้อสินค้าได้ทุกประเภท ยกเว้น Negative List ได้แก่ สลากกินแบ่งรัฐบาล เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผลิตภัณฑ์ยาสูบ กัญชา กระท่อม พืชกระท่อม ผลิตภัณฑ์กัญชาและกระท่อม บัตรกำนัล บัตรเงินสด ทองคำ เพชร พลอย อัญมณี น้ำมันเชื้อเพลิง ก๊าซธรรมชาติ เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องมือสื่อสาร (กระทรวงพาณิชย์ อาจพิจารณาแก้ไขปรับปรุงรายการสินค้า Negative List เพิ่มเติมได้)

ดิจิทัลวอลเล็ต ลงทะเบียนอย่างไร ?

กลุ่ม 1 : ไม่เคยลงทะเบียน/ยืนยันตัวตนผ่านแอป “ทางรัฐ” มีขั้นตอนดังนี้

1. ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันทางรัฐก่อน โดยดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ iOS และ Android
2. เปิดแอปพลิเคชันขึ้นมา
3. กดปุ่มลงทะเบียนรับสิทธิ์โครงการ
4. อ่านรายละเอียดและเลือกยอมรับ
5. กรอกรายละเอียด
6. ยืนยันตัวตน ทำตามคำแนะนำจนเสร็จสิ้น
7. ระบบรับข้อมูลการลงทะเบียน
8. กดยืนยัน
9. ระบบตรวจสอบข้อมูลส่วนบุคคล
10. เมื่อตรวจสอบเสร็จสิ้นระบบจะแจ้งผู้ใช้งานสร้างบัญชีผู้ใช้
11. ตั้งรหัสส่วนบุคคล
12. ระบบตรวจสอบสิทธิ์
13. การลงทะเบียนเสร็จสิ้น

กลุ่ม 2 : เคยลงทะเบียน/ยืนยันตัวตนผ่านแอป “ทางรัฐ” มีขั้นตอนดังนี้

1. เปิดแอปพลิเคชันทางรัฐ
2. กดอนุญาตให้แอปเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
3. อ่านและยอมรับเงื่อนไขโครงการฯ
4. การลงทะเบียนเสร็จสิ้น

กำหนดการลงทะเบียนและจ่ายเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท

• กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีสมาร์ทโฟน : 1 สิงหาคม - 15 กันยายน 2567

สำหรับประชาชนทั่วไปที่มีสมาร์ทโฟน สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐได้ ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม - 15 กันยายน 2567

• กลุ่มประชาชนที่ไม่มีสมาร์ทโฟน : 16 กันยายน - 15 ตุลาคม 2567

สำหรับประชาชนทั่วไปที่ไม่มีสมาร์ทโฟน สามารถลงทะเบียนและยืนยันตัวตนได้ในวันที่ 16 กันยายน - 15 ตุลาคม 2567 โดยขณะนี้ยังอยู่ระหว่างเตรียมการให้เข้าร่วมโครงการ ซึ่งจะมีการประกาศช่องทางลงทะเบียนและรายละเอียดต่างๆ ที่แน่ชัดอีกครั้ง

• ร้านค้า : 1 ตุลาคม 2567

สำหรับร้านค้าสามารถลงทะเบียนได้ในวันที่ 1 ตุลาคม 2567

โดยจะมีการแถลงข่าวเพิ่มเติมเพื่อแจ้งเกี่ยวกับคุณสมบัติของร้านค้า ช่องทางและวิธีการสมัครเข้าร่วมโครงการและเงื่อนไขอื่นๆ ให้ทราบอีกครั้ง

ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ได้รับสิทธิ์ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตหรือไม่ บัตรเครดิต KTC ก็พร้อมมอบประสบการณ์การใช้จ่ายของคุณให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น เรื่องการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน การชำระค่าสาธารณูปโภคต่างๆ พร้อมรับสิทธิประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย เช่น รับคะแนนสะสม KTC FOREVER เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรฯ ทุก 25 บาท = 1 คะแนน KTC FOREVER เครดิตเงินคืน ส่วนลดร้านอาหาร ส่วนลดร้านค้าออนไลน์ ฯลฯ สำหรับใครที่สนใจ สามารถสมัครบัตรเครดิต KTC ผ่านทางออนไลน์ได้ง่ายๆ ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC