• บัตรเครดิต
    • ผลิตภัณฑ์บัตรเครดิต
    • คะแนน
    • ผ่อนชำระ
    • บริจาค
    • บริการหักค่าใช้จ่ายอัตโนมัติ
    • อัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม
    • KTC Device Pay
  • สินเชื่อบุคคล
    • ผลิตภัณฑ์สินเชื่อ
    • บัตรกดเงินสด KTC PROUD
    • สินเชื่ออเนกประสงค์ KTC CASH
    • สินเชื่อ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน
    • ผ่อนชำระ
    • อัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม
  • โปรโมชั่น
  • ธุรกิจร้านค้า
    • บริการธุรกิจร้านค้า
    • บริการเครื่องรูดบัตร EDC 
    • บริการ QR Code Payment
    • บริการรับชำระเงินออนไลน์
    • บริการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติ
    • บริการรับชำระเงินผ่านลิงก์
    • บริการรับชำระด้วย ALIPAY & ALIPAY+
  • บริการท่องเที่ยว
  • ช้อปสินค้าออนไลน์
  • บริการลูกค้า
    • ติดต่อ KTC
    • แอป KTC Mobile
    • ช่องทางการชำระเงิน
    • บริการ KTC E-Book
    • ดาวน์โหลดแบบฟอร์มและคู่มือ
    • คำถามที่พบบ่อย
บัตรเครดิต
บัตรเครดิต
  • ผลิตภัณฑ์บัตรเครดิต
  • คะแนน
  • ผ่อนชำระ
  • บริจาค
  • บริการหักค่าใช้จ่ายอัตโนมัติ
  • อัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม
  • KTC Device Pay
สินเชื่อบุคคล
สินเชื่อบุคคล
  • ผลิตภัณฑ์สินเชื่อ
  • บัตรกดเงินสด KTC PROUD
  • สินเชื่ออเนกประสงค์ KTC CASH
  • สินเชื่อ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน
  • ผ่อนชำระ
  • อัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม
โปรโมชั่น โปรโมชั่น
ธุรกิจร้านค้า
ธุรกิจร้านค้า
  • บริการธุรกิจร้านค้า
  • บริการเครื่องรูดบัตร EDC
  • บริการ QR Code Payment
  • บริการรับชำระเงินออนไลน์
  • บริการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติ
  • บริการรับชำระเงินผ่านลิงก์
  • บริการรับชำระด้วย ALIPAY & ALIPAY+
บริการท่องเที่ยวบริการท่องเที่ยว ช้อปสินค้าออนไลน์ช้อปสินค้าออนไลน์
บริการลูกค้า
บริการลูกค้า
  • ติดต่อ KTC
  • แอป KTC Mobile
  • ช่องทางการชำระเงิน
  • บริการ KTC E-Book
  • ดาวน์โหลดแบบฟอร์มและคู่มือ
  • คำถามที่พบบ่อย
เปลี่ยนภาษา

EN

TH

KTC Search Icon KTC Search Icon
สมัครบัตร
KTC Login Icon KTC Login Icon เข้าสู่ระบบ KTC Mobile Login
KTC Profile

บัญชีของฉัน

  • KTC Online

    บัตร KTC ของฉัน

  • KTC Promotions

    โปรโมชั่นของฉัน

  • KTC Logout

    ออกจากระบบ

KTC Online Profile
  1. หน้าหลัก
  2. /
  3. บทความ
  4. /
  5. Knowledge
  6. /
  7. แอปการเงินไหนดี? รวม 15 แอปจัดการเงินยุคใหม่ วางแผนการเงิน รายรับ-รายจ่าย และลงทุน
  1. หน้าหลัก
  2. /
  3. บทความ
  4. /
  5. Knowledge
  6. /
  7. แอปการเงินไหนดี? รวม 15 แอปจัดการเงินยุคใหม่ วางแผนการเงิน รายรับ-รายจ่าย และลงทุน
แอปการเงิน

แอปการเงินไหนดี? รวม 15 แอปจัดการเงินยุคใหม่ วางแผนการเงิน รายรับ-รายจ่าย และลงทุน

หมวดหมู่ : Knowledge

ใช้เงินไม่รู้ตัว เก็บเงินไม่อยู่ ส่วนเรื่องลงทุนนั้นก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไงดี เหล่านี้เป็นปัญหาเหล่านี้กำลังกลายเป็นเรื่องใกล้ตัวของใครหลายคน ส่งผลให้ไม่มีเงินเก็บ และพลาดโอกาสในการนำเงินที่มีไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่แอปการเงินเข้ามาเป็นตัวช่วยสำคัญ เป็นเสมือนผู้ช่วยส่วนตัวที่คอยติดตามการใช้จ่าย จัดหมวดหมู่รายการต่าง ๆ และช่วยวางแผนการเงินแบบเรียลไทม์ ทำให้เราสามารถเห็นภาพรวมของการเงินได้อย่างชัดเจนและตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูล เหมาะกับ Gen Z ที่เติบโตมาพร้อมกับเทคโนโลยี และ First Jobber ที่เพิ่งเริ่มต้นทำงานและต้องการเรียนรู้การจัดการเงินอย่างเป็นระบบ บทความนี้จะมาพูดถึงประโยชน์ของแอปการเงิน แนะนำแอปดี ๆ พร้อมแนะนำวิธีเลือกใช้แอปให้เหมาะกับตัวเอง

แอปการเงินคืออะไร? ใช้ทำอะไรได้บ้าง?

แอปการเงิน คือ แอปที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานงานสามารถจัดการ ตรวจสอบ และทำธุรกรรมทางการเงินส่วนบุคคลได้สะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ละแอปมีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลายมาก ขึ้นอยู่กับประเภทของแอปนั้น ๆ โดยสามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มใหญ่ตามฟังก์ชันการใช้งานได้ 5 กลุ่มด้วยกัน

1. แอปธนาคาร (Mobile Banking Apps)
เป็นแอปการเงินที่ช่วยให้คุณจัดการเรื่องการเงินได้ง่าย สะดวก และปลอดภัยจากทุกที่ ไม่ว่าจะโอนเงิน จ่ายบิล หรือลงทุน ซึ่งในไทยก็มีแอปจากธนาคารหลากหลายเจ้า ขึ้นอยู่กับความสะดวกของผู้ใช้

ฟีเจอร์ทั่วไป

  • โอนเงิน : โอนระหว่างบัญชีตัวเอง, โอนให้บุคคลอื่น, โอนไปต่างธนาคาร (พร้อมเพย์)
  • จ่ายบิล : ชำระค่าสาธารณูปโภค (น้ำ, ไฟ), ค่าโทรศัพท์, ค่าบัตรเครดิต, ค่าประกัน ฯลฯ
  • ตรวจสอบยอดเงิน : ดูยอดคงเหลือในบัญชีเงินฝาก บัตรเครดิต สินเชื่อ
  • ดูรายการเดินบัญชี (Statement) : ตรวจสอบประวัติการทำธุรกรรมย้อนหลัง
  • เปิดบัญชี/ขอสินเชื่อ : สมัครผลิตภัณฑ์ทางการเงินบางประเภทได้โดยตรงผ่านแอป
  • ตั้งแจ้งเตือน : แจ้งเตือนเมื่อเงินเข้า-ออก, แจ้งเตือนเมื่อบิลครบกำหนด
  • ผูกพร้อมเพย์/ถอนเงินไม่ใช้บัตร : ทำธุรกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับบัญชีธนาคาร

2. แอปจัดการงบประมาณและบันทึกรายรับ-รายจ่าย (Budgeting & Expense Tracking Apps)
แอปการเงิน วางแผนงบประมาณและเป้าหมายการเงินและบันทึกรายรับ-รายจ่าย คือแอปที่ช่วยให้คุณ จัดสรรเงินรายเดือน ว่าจะใช้อะไรบ้าง และวางแผนเก็บเงินตามเป้าหมาย เช่น เก็บเงินเที่ยว, ซื้อของชิ้นใหญ่, หรือเก็บเงินฉุกเฉิน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการมีวินัยทางการเงิน และอยากเห็นความคืบหน้าของเป้าหมายแบบชัดเจน

  • บันทึกรายรับ-รายจ่าย : จดบันทึกเงินเข้าและเงินออกในแต่ละวัน
  • จัดหมวดหมู่ค่าใช้จ่าย : แยกประเภทค่าใช้จ่ายเพื่อดูว่าเงินไปไหนบ้าง (เช่น ค่าอาหาร, ค่าเดินทาง, ค่าบันเทิง)
  • ตั้งงบประมาณ : กำหนดวงเงินสำหรับการใช้จ่ายแต่ละหมวดหมู่ เพื่อควบคุมไม่ให้ใช้จ่ายเกินตัว
  • ติดตามเป้าหมายทางการเงิน : เช่น ตั้งเป้าหมายเก็บเงินดาวน์บ้าน, เก็บเงินฉุกเฉิน, เงินสำหรับท่องเที่ยว
  • สร้างรายงาน/กราฟ : สรุปพฤติกรรมการใช้จ่ายในรูปแบบที่เข้าใจง่าย เพื่อวิเคราะห์และปรับปรุง

3. แอปลงทุน (Investment Apps)
แอปลงทุน (Investment Apps) คือแอปการเงินที่ช่วยให้คุณสามารถ ลงทุนได้ง่าย สะดวก และเริ่มต้นได้แม้มีทุนน้อย โดยไม่ต้องมีความรู้เชิงลึกมาก่อน ปัจจุบันมีแอปหลากหลายที่ออกแบบมาเพื่อผู้เริ่มต้น นักลงทุนรายย่อย ไปจนถึงนักลงทุนจริงจัง ซึ่งในไทยก็มีให้เลือกหลายแบบ

ฟีเจอร์ทั่วไป

  • ซื้อขายหลักทรัพย์: หุ้นไทย, หุ้นต่างประเทศ, กองทุนรวม, อนุพันธ์
  • ซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซี: แลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลต่างๆ
  • ดูข้อมูลตลาด: ราคาเรียลไทม์, กราฟราคา, ข่าวสาร, บทวิเคราะห์
  • จัดการพอร์ตการลงทุน: ตรวจสอบมูลค่าพอร์ต, กำไร/ขาดทุน
  • Robo-Advisor: แนะนำการจัดสรรสินทรัพย์ลงทุนตามความเสี่ยงที่รับได้ (เช่น Finnomena, ODINI)

4. แอปกระเป๋าเงินดิจิทัล (E-Wallets / Digital Wallets)
แอปการเงินที่ช่วยให้คุณสามารถ ใช้จ่าย โอนเงิน เติมเงิน และชำระบริการต่าง ๆ ได้โดยไม่ต้องใช้เงินสด ผ่านสมาร์ ทโฟน โดยเฉพาะในยุคไร้เงินสด (Cashless Society) ที่เติบโตอย่างรวดเร็วในไทย ซึ่งฟังก์ชันการใใช้งานอาจจะคล้ายกับแอปธนาคาร แต่แตกต่างกันตรงที่แอป Digital Wallets ต่าง ๆ ไม่จำเป็นต้องมีบัญชีธนาคาร และยังมีโปรโมชั่นเวลาใช้จ่าย เช่น cashback, coins หรือ คูปองส่วนลด

ฟีเจอร์ทั่วไป

  • ชำระเงิน : ใช้สแกน QR Code หรือแตะจ่ายที่ร้านค้าโดยตรง แทนการใช้เงินสดหรือบัตร
  • เติมเงินมือถือ : เติมเงินค่าโทรศัพท์
  • โอนเงิน : โอนระหว่างผู้ใช้แอปด้วยกัน
  • สะสมคะแนน/รับโปรโมชั่น : ได้รับสิทธิพิเศษหรือส่วนลดจากร้านค้าพันธมิตร
  • จัดการบัตร : เก็บข้อมูลบัตรเครดิต/เดบิต และบัตรสะสมคะแนนไว้ในแอป

5. แอปสินเชื่อและบัตรเครดิต (Lending & Credit Card Apps)
แอปสินเชื่อและบัตรเครดิต (Lending & Credit Card Apps) คือแอปการเงินที่ช่วยให้คุณสามารถ สมัคร ขออนุมัติ และจัดการสินเชื่อหรือบัตรเครดิตได้ผ่านมือถือ โดยไม่ต้องไปสาขา บางแอปยังให้ยืมเงินด่วนหรือจัดการวงเงินได้ทันทีแบบออนไลน์ ซึ่งกำลังได้รับความนิยมในยุคการเงินดิจิทัลครับ
ฟีเจอร์ทั่วไป

  • สมัครสินเชื่อ/บัตรเครดิต: ยื่นขอผลิตภัณฑ์ทางการเงินได้สะดวกขึ้น
  • ตรวจสอบสถานะหนี้: ดูยอดหนี้คงเหลือ, กำหนดชำระ, ประวัติการผ่อนชำระ
  • จัดการการชำระ: ชำระค่างวด, ขอปรับโครงสร้างหนี้ (บางกรณี)
  • ขอเพิ่มวงเงิน/ปิดบัตร: ทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับบัตรเครดิต

แนะนำ 15 แอปการเงิน ช่วยวางแผนเรื่องเงินปี 2025

แอปการเงินมีด้วยกันมากมายหลายแอป ซึ่งบางแอปก็ทำหน้าที่เป็นเสมือนกระเป๋าเงินไว้เก็บเงินแล้วใช้จ่ายออกไปหรือไว้ติดตามการใช้จ่าย อย่างแอปธนาคารหรือแอปบัตรเครดิต แต่สำหรับการวางแผนการเงิน ไม่ว่าจะเป็นบันทึกรายรับ-รายจ่าย, ตั้งเป้าหมายเก็บเงิน หรือลงทุน ก็มีแอปมากมายให้ได้เลือกใช้ตาม ซึ่งวันนี้เราคัดมาให้มากถึง 15 แอปด้วยกัน

แอปจัดการงบประมาณและบันทึกรายรับ-รายจ่าย อันไหนดี?

1. Metang

แอป metang

แอป MeTang หรือ มีตังค์ สะดุดตาตั้งแต่ไอคอนแอปที่เป็นรูปน้องแมว แต่นอกจากความน่ารักแล้วยังถือเป็นหนึ่งในแอปการเงินสำหรับบันทึกรายรับ–รายจ่ายฝีมือคนไทยที่น่าใช้ที่สุด ด้วยฟีเจอร์การใช้งานที่ครอบคลุมตั้งแต่สร้างหลายบัญชีได้ ทั้งเงินสด เงินฝาก บัตรเครดิต มีระบบแจ้งเตือนวันที่ตัดยอด, แบ่งหมวดหมู่ & กราฟ แยกตาม Category, สรุปเป็นภาพและกราฟให้ดูเข้าใจง่าย, ตั้ง Budget, สำรองข้อมูล และ Export ข้อมูลออกมาได้ด้วย

2.Oh My Cost

แอป Oh My Cost

เป็นอีกหนึ่งที่มีไอคอนน่ารัก ๆ ไม่เพียงแค่ไอคอนแอปที่เป็นรูปกระเป๋าตังค์แต่ยังรวมถึงไอคอนภายในแอปการเงินที่ใช้บันทึกรายจ่ายวช ด้วยไอคอนน่ารักให้เลือกกว่า 500 แบบ ใช้ง่ายเน้นความสนุก เพราะหน้าตาแอปเป็นมิตร ทำให้การบันทึกรายรับรายจ่ายดูไม่เครียดหรือเป็นทางการมากเกินไป ความพิเศษคือสร้างโปรไฟล์หรือบัญชีได้หลายบัญชีในแอปเดียวและยังตั้งงบรายเดือน, มีระบบตั้งงบจำกัดรายจ่ายและดูกราฟสรุปรายเดือนอย่างเรียบง่าย

3.Money Lover

แอป Money Lover

ใครเป็นสาย All in one ไม่ชอบสลับแอปไปมาให้ซับซ้อน แอป Money Lover จะเหมาะมาก เพราะฟีเจอร์ครบทั้งจดรายจ่าย, ตั้งงบ, เชื่อมบัญชี ซึ่งรองรับได้หลายบัญชีหลายบัญชีด้วย มีสกุลในเลือกเยอะ ไม่ว่าจะอยู่ไทยอยู่ต่างประเทศก็สามารถใช้บันทึกรายรับ-รายจ่ายได้ สามารถติดตามหนี้ วางแผนการออม สร้างงบและติดตามรายจ่ายเฉพาะ event เช่น เที่ยว หรืองานวันเกิด ไม่ต้องกลัวว่าจะเผลอใช้เงินเกิน เพราะแอปการเงินนี้มีระบบแจ้งเตือนหากใช้เกินงบที่ตั้งไว้

4.Piggipo

แอป Piggipo

แอปการเงินบันทึกรายรับ–รายจ่ายที่เน้นการจัดการ บัตรเครดิต อย่างครบเครื่อง โดยสามารถเพิ่มบัตรเครดิตได้ไม่จำกัด เพราะตัวแอปรองรับการจัดเก็บข้อมูลบัตรหลายใบ พร้อมตั้งวงเงิน, วันตัดรอบ และวันครบกำหนดได้เอง ช่วยยืนยันยอดก่อนจ่ายจริง ลดความเสี่ยงข้อมูลผิดพลาด อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่น่าสนใจมาก ๆ คือ คำนวณ Cash‑back, Refund & Interest สามารถบันทึกเครดิตเงินคืน, คำนวณดอกเบี้ยทั้งกรณีชำระเต็มหรือขั้นต่ำได้ มีระบบเตือนก่อนวันครบกำหนด พร้อมแนะนำว่าควรจ่ายบัตรไหนก่อนเพื่อจัดการวงเงินอย่างมีประสิทธิภาพ

5.Monefy

แอป Monefy

Monefy เป็นแอปการเงินที่จัดการการเงินส่วนบุคคลที่ออกแบบมาเพื่อการ บันทึกค่าใช้จ่ายอย่างรวดเร็ว เพียงสองครั้งแตะ ก็สามารถเพิ่มรายการได้ทันที มีกราฟวงกลมที่ดูเข้าใจง่าย แสดงสัดส่วนการใช้จ่ายในแต่ละหมวดทันที ตั้งรายการประจำ เช่น บิลค่าน้ำ ค่าเช่า และตั้งแจ้งเตือนได้ ใครมีเงินหลายส่วน อยากแยกไว้ก็ทำสามารถสร้างหลายบัญชแบ่งเป็นเงินสด บัตรเครดิต มีอินเตอร์เฟซเรียบง่าย ฟีเจอร์ในแอปไม่ซับซ้อน เหมาะกับคนอยากจดเร็ว ๆ หรือเพิ่งเริ่มทำบันทึกรายรับ-รายจ่าย

6.YNAB (You Need A Budget)

แอป YNAB

เป็นแอปสำหรับคนที่ต้องการเปลี่ยนวิธีคิดเรื่องเงิน ไม่ใช่แค่จดรายจ่าย อยากกำหนดเป้าหมายอย่างจริงจัง ฟีเจอร์เยอะมาก เหมาะกับคนอยากควบคุมรายจ่ายทุกบาท วางแผนล่วงหน้าได้หลายเดือน ซิงค์ข้อมูลทันทีทั้งมือถือ, เว็บ, แท็บเล็ต (แม้ Offline) ทำให้สามารถเข้าถึงบัญชี และรายการงบได้ทุกที่ตั้งเป้าหมายออม และเครื่องมือช่วยคำนวณลดหนี้อย่างละเอียด นอกจากนี้ยังมีกราฟและรายงานภาพรวมทั้งรายรับรายจ่ายและมูลค่าสุทธิของทรัพย์สิน

7.Money Manager Expense & Budget

แอป Money Manager

เป็นแอปการเงินที่ช่วยจดรายรับ-รายจ่ายและ วางแผนงบประมาณ สามารถตั้งเป้าหมายการเงิน เช่น เงินแต่งงาน เงินเรียนต่อ แยกได้หลายบัญชี รองรับบัตรเครดิต, เดบิต, สินเชื่อ, รายได้ และบัญชีออมทรัพย์, พร้อมฟีเจอร์โอนเงินระหว่างบัญชีโดยไม่ต้องบันทึกซ้ำ มีกราฟวงกลม/กราฟเปรียบเทียบ ดูภาพรวมง่าย ใครมีรายการที่ใช้บ่อย ๆ ก็แนบรูปใบเสร็จแล้ว Bookmark ไว้ได้ รวมไปถึง ตั้งรายการประจำ เช่น ค่าน้ำ ค่าเช่า ผ่อนสินค้า พร้อมระบบแจ้งเตือน บันทึกรายการเป็นหลายสกุลเงิน พร้อมแก้ Exchange rate ด้วยตัวเอง ที่สำคัญคือรองรับภาษาไทย อินเทอร์เฟซเข้าใจง่าย มือใหม่หัดวางแผนการเงินควรมี

8.Spendee

แอป Spendee

ใครชอบแอปน่ารัก ๆ สีสันสดใส Spendee เหมาะมากเพราะเป็นแอปการเงินที่ออกแบบให้ใช้งานง่าย สามารถใช้งานคนเดียวหรือจะใช้ร่วมกับคนอื่นก็ได้เพราะตัวแอปมีฟีเจอร์ที่สามารถสร้างกระเป๋าเงินร่วมกับคนในครอบครัวหรือเพื่อน แชร์ข้อมูลและจัดการงบพร้อมกันได้ แถมนอกจากเงินแล้วยังรองรับเชื่อมต่อบัญชีเงินและสกุลเงินดิจิทัล ให้รายการอัปเดตรายวันโดยอัตโนมัติ แล้วตั้งงบรายหมวดรายเดือน/รายปี มีการแจ้งเตือนไปยังผู้ใช้เมื่อใกล้จะใช้เกินงบ และแนะนำงบรายวันได้ มีกราฟ & รายงานสรุป มีกราฟวงกลม กราฟเปรียบเทียบ และอินโฟกราฟิกแสดงภาพรวมรายรับ–รายจ่าย ทำให้มองเห็นการใช้จ่ายในแต่ละเดือนง่ายขึ้น

9.SET Happy Money

แอป SET Happy Money

เป็นแอปที่พัฒนาโดย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เป็นแอปการเงินช่วยบริหารการเงินแบบครบเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นบันทึกรายรับ-รายจ่าย แยกหมวดหมู่ รายวัน / เดือน / ปี จัดการสินทรัพย์–หนี้สิน พร้อมวิเคราะห์ภาพรวมสุขภาพการเงิน ตั้งงบใช้จ่าย–ออมเงิน, เป้าหมายการออม, แจ้งเตือนเมื่อถึงกำหนดจ่าย และมีกราฟสรุปสถานะการเงินหน้าเดียว, ฟังก์ชันแบ็กอัป, ซิงก์หลายอุปกรณ์, ใช้ออฟไลน์ได้

10.PocketGuard

แอป PocketGuard

PocketGuard เป็นแอปการเงินที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการงบประมาณและวางแผนการเงินได้อย่างง่ายดาย โดยมีจุดเด่นคือการแสดงยอดเงินที่ เหลือใช้ ได้อย่างชัดเจนและเรียลไทม์ โดยจะหักลบค่าใช้จ่ายที่แน่นอน (เช่น บิลค่าใช้จ่ายประจำ) และเงินที่จัดสรรไว้สำหรับเป้าหมายการออมแล้ว เพื่อแสดงให้เห็นว่ามีเงินเหลือเท่าไหร่ในแต่ละเดือน ทำให้้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าจะใช้จ่ายอะไรได้บ้างโดยไม่กระทบกับค่าใช้จ่ายที่จำเป็นและเป้าหมายการออม นอกจากนี้ยังสามารถตั้งงบประมาณาณเอาไว้สำหรับการใช้จ่ายต่างๆ ได้ และแอปจะแจ้งเตือนเมื่อใช้จ่ายใกล้ถึงงบประมาณที่ตั้งไว้ ช่วยให้ควบคุมการใช้จ่ายได้ดีขึ้น เหมาะมากกับการเก็บเงินและวางแผนการเงินในแต่ละเดือน

แอปลงทุน

1.Streaming

แอป Streaming

เป็นแอปพลิเคชันหลักที่ใช้โดยบริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) ส่วนใหญ่ในประเทศไทย แอปลงทุนที่ใช้สำหรับซื้อขายหุ้น อนุพันธ์ และกองทุนรวมในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET และ TFEX) มีฟีเจอร์ครบครันสำหรับการเทรด ดูข้อมูลราคาเรียลไทม์ งบการเงิน และข่าวสาร

2.Finnomena

แอป Finnomena

แอปลงทุนที่เน้นกองทุนรวมเป็นหลัก มี Robo-Advisor ช่วยจัดพอร์ตให้เหมาะสมกับความเสี่ยงที่คุณรับได้ มีบทวิเคราะห์และบทความให้ความรู้มากมาย เหมาะสำหรับคนเริ่มต้นลงทุนในกองทุนรวม ผู้ที่ต้องการคำแนะนำในการจัดพอร์ต และผู้ที่ต้องการลงทุนในกองทุนรวมที่หลากหลายาย

3.ODINI

แอป ODINI

เป็นแอปพลิเคชันสำหรับการลงทุนในกองทุนรวมอัตโนมัติ (Robo-advisor) ตัวแรกในประเทศไทย โดยออกแบบมาเพื่อให้ผู้ที่ไม่มีความรู้ด้านการลงทุนสามารถเริ่มต้นได้ง่ายและสะดวก เน้นการลงทุนในกองทุน ETF ทั่วโลก เพื่อสร้างพอร์ตที่กระจายความเสี่ยง เหมาะมากสำหรับคนที่ต้องการลงทุนแบบ Passive Investing ในกองทุน ETF ทั่วโลก และผู้ที่ไม่มีเวลาติดตามตลาดด้วยตัวเอง

4.Bitkub

แอป Bitkub

แอปลงทุนเทรดคริปโตของไทยที่ได้รับใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. มีเหรียญคริปโตที่ได้รับความนิยมให้ซื้อขาย และมีระบบที่ใช้งานง่ายสำหรับคนไทย รองรับการซื้อขายกว่า 80 สกุลเงินดิจิทัล เช่น Bitcoin (BTC), Ethereum (ETH), Solana (SOL), Dogecoin (DOGE), Cardano (ADA) และเหรียญภายในระบบอย่าง Bitkub Coin (KUB) มีระบบซื้อขายตลอด 24 ชั่วโมง สามารถฝาก-ถอนเงินผ่านบัญชีธนาคารไทยแบบเรียลไทม์

5.FinVest

แอป FinVest

แอปลงทุนกองทุนต่างประเทศโดยตรง สามารถซื้อขายกองทุนจาก 33 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ชั้นนำทั่วโลก โดยไม่ต้องผ่านตัวกลาง (Feeder Fund) ช่วยลดค่าธรรมเนียมซ้ำซ้อน ใช้เงินบาทในการลงทุนได้ โดยระบบจะคำนวณอัตราแลกเปลี่ยนแบบเรียลไทม์ ทำให้สามารถลงทุนในกองทุนต่างประเทศได้โดยไม่ต้องแลกเปลี่ยนสกุลเงินล่วงหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศด้วยเงินลงทุนไม่สูง

วิธีเลือกแอปการเงิน แอปลงทุน ให้เหมาะกับคุณ

1. รู้เป้าหมายของตัวเองก่อน
ก่อนอื่นให้ลองมองเป้าหมายของตัวเองก่อนว่าอยาก เก็บออมเงิน ใช้แอปการเงินช่วยเก็บเงิน หรือทำงบประมาณ, อยาก เริ่มลงทุน เช่น กองทุนรวม, หุ้น, คริปโต, อยาก ติดตามรายจ่าย-รายรับ อย่างมีวินัย หรืออยาก วางแผนเกษียณ, วางแผนภาษี และมีเป้าหมายการเงินระยะยาว เมื่อรู้เป้าหมายของตัวเอง ก็จะช่วยให้เลือกแอปการเงินที่เหมาะกับตัวเองได้ง่ายขึ้น

2. ดูความง่ายในการใช้งาน (User Experience
UX ของแอปการเงินถือว่ามีความสำคัญมาก เพราะจะเป็นตัวบอกเลยว่าเราเหมาะกับแอปแค่ไหน เพราะแอปแต่ละแอปถูกออกแบบมาแตกต่างกัน บางแอปเน้นความสะดวกรวดเร็ว ก็จะเหมาะกับคนที่ชอบทำอะไรรวดเร็ว บางแอปเน้นความละเอียด ต้องบันทึกเยอะ ก็จะเหมาะกับคนที่ต้องการรายละเอียดเพื่อนำไปวิเคราะห์การเงินแบบจริงจัง ซึ่งแนะนำว่าถ้าเป็นมือใหม่ก็ควรจะเลือกแอปที่ใช้งานง่าย มีระบบไม่ซับซ้อน

3.เช็คความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือ
แอปการเงินใด ๆ ก็ตามที่เกี่ยวข้องกับการเงิน ควรเป็นแอปที่ได้รับการรับรองจากธนาคาร หรือ ก.ล.ต. โดยเฉพาะบางแอปที่ต้องใส่ข้อมูลบัตรเครดิต โดยแอปที่ดีและปลอดภัยจะต้องได้รับการยืนยันตัวตน (e-KYC) ที่ได้มาตรฐาน, มีการล็อกอินด้วยรหัสผ่าน, PIN, ลายนิ้วมือ หรือ Face ID, มีระบบ OTP สำหรับการทำธุรกรรม และ ไม่มีการบันทึกรหัสผ่านในตัวเครื่องแบบไม่ปลอดภัย

ประโยชน์ที่ได้จากการใช้แอปการเงินเป็นประจำ

1. ควบคุมรายรับ-รายจ่ายได้ดีขึ้น
ถ้าใช้แอปการเงินช่วยบันทึกรายจ่ายและรายรับแบบอัตโนมัติหรือง่าย ๆ ไม่ต้องจดเอง เห็นพฤติกรรมการใช้เงินในชีวิตจริง เช่น ใช้กับกาแฟเยอะเกินไปโดยไม่รู้ตัว และยังช่วยปรับพฤติกรรมการใช้เงินให้อยู่ในงบประมาณ

2. เห็นภาพรวมการเงินอย่างชัดเจน
พอมีการบันทึกรายรับรายจ่าย หรือผูกบัญชีต่าง ๆ ไว้ ก็จะทำให้รู้ว่าแต่ละเดือนมีเงินเหลือเท่าไหร่ หรือหนี้สินมากน้อยแค่ไหน ช่วยให้เห็นภาพรวมของเงินมากขึ้น เพื่อที่จะได้วางแผนการใช้เงินหรือวางแผนลงทุนต่อไป

3. ช่วยออมเงินอย่างมีวินัย ลดความเสี่ยงในการใช้เงินเกินตัว
หลาย ๆ แอปการเงินมีระบบออมเงินอัตโนมัติ เช่น หักเงินรายวัน รายเดือน ทำให้เก็บเงินได้มากขึ้นในระยะยาว หรือสามารถตั้งเป้าหมายได้ เช่น ออมเพื่อเที่ยว เกษียณ หรือซื้อของชิ้นใหญ่ และมีการแจ้งเตือนเมื่อใช้เงินเกินงบ ช่วยติดตามยอดหนี้บัตรเครดิตหรือผ่อนสินค้าทุกเดือน

4.วางแผนเป้าหมายระยะยาวได้
ตั้งเป้าเกษียณ รายได้หลังเกษียณ หรือเป้าหมายระยะยาวอื่น บางแอปการเงินจะช่วยคำนวณว่าเดือนนี้ต้องลงทุน/ออมเท่าไหร่ ซึ่งจะช่วยสร้างวินัยในการวางแผนอนาคตอย่างยั่งยืน

5.ประหยัดเวลาและลดข้อผิดพลาด
ไม่ต้องจดใส่กระดาษ ไม่ต้องคำนวณเอง เพราะแอปสามารถแยกหมวดหมู่ค่าใช้จ่ายให้อัตโนมัติ ช่วยลดการลืมหรือจดผิด และทำให้วางแผนได้แม่นยำกว่าเดิม

การเริ่มต้นวางรากฐานการเงินที่ดีตั้งแต่แรกจะช่วยสร้างนิสัยการออมและการลงทุนที่ยั่งยืนไปตลอดชีวิต โดยเฉพาะกับคนที่มีบัตรเครดิต อาจจะต้องระมัดระวังในการใช้จ่ายเพื่อไม่ให้เผลอใช้เกินตัว ซึ่งสำหรับสมาชิกบัตร KTC ถ้าไม่อยากโหลดหลายแอป ก็สามารถติดตามการใช้จ่ายของบัตรเครดิตในแอป KTC Mobile ได้ สะดวก ปลอดภัย ให้คุณใช้งานได้ทุกช่วงเวลา ครบครันในแอปเดียว แต่ถ้าใครยังไม่มีบัตรเครดิต ก็สามารถสมัครบัตรเครดิต KTC ผ่านช่องทางออนไลน์ได้ ทุกที่ทุกเวลา พร้อมรับคะแนน KTC FOREVER จากทุกการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต สะสมได้ไม่จำกัด และไม่มีวันหมดอายุ สามารถใช้คะแนนแลกรับส่วนลดหรือเครดิตเงินคืนได้ สมัครบัตรเครดิต KTC ไม่ยาก กดสมัครได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC

สมัครออนไลน์ด้วยตนเอง

ผลิตภัณฑ์บัตรเครดิต
และบัตรกดเงินสด KTC PROUD

QR Code สมัครออนไลน์ด้วยตนเอง
สแกนเพื่อสมัครบัตร
ศึกษาเพิ่มเติม

สมัครออนไลน์
ด้วยตนเอง

ผลิตภัณฑ์บัตรเครดิต
และบัตรกดเงินสด
KTC PROUD

เริ่มสมัครเลย ศึกษาเพิ่มเติม

ลงชื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ

ให้คำปรึกษา และอำนวยความสะดวก
ในการสมัครผลิตภัณฑ์ของ KTC

บัตรเครดิต KTC บัตรเครดิต KTC สินเชื่ออเนกประสงค์ KTC CASH สินเชื่ออเนกประสงค์ KTC CASH KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน บิ๊กไบค์ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน บิ๊กไบค์
บัตรกดเงินสด KTC PROUD บัตรกดเงินสด KTC PROUD สินเชื่อทะเบียนรถยนต์ KTC พี่เบิ้ม KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน รถยนต์ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน มอเตอร์ไซค์ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน มอเตอร์ไซค์
บัตรเครดิต KTC บัตรเครดิต KTC บัตรกดเงินสด KTC PROUD บัตรกดเงินสด KTC PROUD สินเชื่ออเนกประสงค์ KTC CASH สินเชื่ออเนกประสงค์ KTC CASH สินเชื่อทะเบียนรถยนต์ KTC พี่เบิ้ม KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน รถยนต์ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน บิ๊กไบค์ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน บิ๊กไบค์ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน มอเตอร์ไซค์ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน มอเตอร์ไซค์

เกี่ยวกับเรา

  • วิสัยทัศน์ / พันธกิจ
  • ข้อมูลทั่วไป
  • โครงสร้างการถือหุ้นกลุ่มบริษัท
  • โครงสร้างองค์กร
  • คณะกรรมการ
  • คณะผู้บริหาร
  • เลขานุการบริษัท
  • หัวหน้างานกำกับดูแล และหัวหน้างานตรวจสอบภายใน
  • ผู้ควบคุมดูแลการทำบัญชี
  • นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  • ข่าวประชาสัมพันธ์
  • บทความ
  • สมัครงาน / ฝึกงาน

บริการลูกค้า

  • บริการออนไลน์
  • อัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม
  • คำนวณดอกเบี้ย / ค่าธรรมเนียม
  • ช่องทางการชำระเงิน
  • บริการหักค่าใช้จ่ายรายเดือนอัตโนมัติ
  • ดาวน์โหลด
  • ประกาศบริษัท
  • คำถามที่พบบ่อย
  • แผนผังเว็บไซต์

การพัฒนาเพื่อความยั่งยืน

  • มิติเศรษฐกิจ
  • มิติสังคม
  • มิติสิ่งแวดล้อม
  • การควบคุมภายในและการบริหารจัดการความเสี่ยง
  • การรับรองมาตรฐานระบบบริหารจัดการความมั่นคงปลอดภัยสําหรับสารสนเทศ (ISO/IEC 27001:2013)

นักลงทุนสัมพันธ์

  • ข้อมูลสำคัญทางการเงิน
  • ข้อมูลนำเสนอ
  • ข้อมูลสำหรับผู้ถือหุ้น
  • ข้อมูลและกิจกรรมหุ้นกู้
  • นโยบาย
  • ติดต่อนักลงทุนสัมพันธ์

KTC PHONE

02 123 5000
CAC Certified

ดาวน์โหลดแอป

KTC Mobile
KTC Mobile KTC Mobile KTC Mobile
KTC Facebook KTC Twitter KTC Instagram KTC LINE
© 2563 บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
ติดตามข่าวสารได้ที่
KTC LINE KTC LINE KTC Facebook KTC Facebook KTC instagram KTC instagram KTC Youtube KTC Youtube KTC TikTok KTC TikTok KTC twitter KTC twitter

EN

TH

KTC LIVE CHAT

Live Chat

KTC LIVE CHAT
สมัครบัตรเครดิต KTC
สมัครกดเงินสด KTC PROUD
ทั้งหมด
โปรโมชั่น
ผลิตภัณฑ์
บทความ
ข่าวประชาสัมพันธ์
0 ผลลัพธ์
คุณกำลังหมายถึง?
    ดูเพิ่มเติม

    ไม่พบผลลัพธ์ที่ค้นหา

    ตรวจสอบคำค้นหาของคุณแล้วลองอีกครั้ง
    ลองค้นหาด้วยคำหลักที่น้อยลง
    ประวัตการค้นหา
    ไม่มีประวัตการค้นหา
    ลบทั้งหมด
    KTC
    ตัวกรองโปรโมชั่น
    หมวดหมู่โปรโมชั่น
    • เลือกทั้งหมด
    • ล้างทั้งหมด
    ประเภทบัตรทั้งหมด
    • เลือกทั้งหมด
    • ล้างทั้งหมด
    เลือกผลิตภัณฑ์

    บัตรเครดิต KTC

    บัตรกดเงินสด KTC PROUD

    สินเชื่ออเนกประสงค์ KTC CASH

    สินเชื่อทะเบียนรถยนต์ <span>KTC พี่เบิ้ม</span>

    สินเชื่อทะเบียนรถยนต์ KTC พี่เบิ้ม

    Filter

    ตัวกรอง

    Search
    www.ktc.co.th ไม่รองรับเบราว์เซอร์ Internet Explorer
    หากดำเนินการต่อ การใช้งานในบางเมนู/รายการอาจไม่สมบูรณ์

    สงวนสิทธิ์ © 2563 บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน)

    EN

    TH

    Live Chat