ในปัจจุบันที่ธุรกรรมทางการเงินสามารถทำได้ง่ายๆ ผ่านอินเทอร์เน็ต และ Mobile Banking ความสะดวกสบายดันมาพร้อมกับความเสี่ยงของการตกเป็นเหยื่อให้เหล่ามิจฉาชีพออนไลน์ ทั้งแก๊งคอลเซนเตอร์ที่ปลอมตัวเป็นพนักงานธนาคาร หรือเบอร์แปลกที่ส่งข้อความมาหลอกเราให้ดาวน์โหลดแอปดูดเงิน ในบทความนี้ KTC มีวิธีป้องกันแอปดูดเงินมาฝาก เอาตัวรอดจากมิจฉาชีพออนไลน์ได้แค่ทำตามคำแนะนำ 5 ข้อต่อไปนี้
5 วิธีป้องกันแอปดูดเงิน เอาตัวรอดจากเหล่ามิจฉาชีพ
ป้องกันมิจฉาชีพออนไลน์
1. ตั้งสติเมื่อได้รับข้อความ SMS, LINE, หรือ อีเมล และไม่กดเข้าลิงก์ที่ถูกแนบมากับข้อความ
วิธียอดฮิตที่กลุ่มมิจฉาชีพออนไลน์ใช้เพื่อเข้าถึงบัญชีของคุณ คือการส่งข้อความมาที่เบอร์ อีเมล หรือไลน์ของคุณ โดยปลอมแปลงเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร ข้อความเหล่านี้มักมีเนื้อหาที่ทำให้คุณรู้สึกร้อนใจ เช่น “บัญชีของคุณกำลังถูกแฮ็ก” หรือ “เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบการโอนเงินจำนวน xx,xxx จากบัญชีของคุณ” และมักมาพร้อมกับลิงก์ เมื่อได้รับข้อความเหล่านี้ ให้ตั้งสติเอาไว้ก่อน และไม่กดเข้าลิงก์ที่แนบมากับข้อความ เพราะลิงก์เหล่านี้มักพาคุณไปสู่เว็บไซต์หรือแอปดูดเงิน ที่จะหลอกให้คุณใส่เลขบัญชี หรือข้อมูลส่วนตัวอื่นๆ ฉะนั้น วิธีป้องกันแอปดูดเงินที่ทำได้ง่ายๆ คือ ไม่คลิกลิงก์ที่มาจากเบอร์แปลกหรือแหล่งที่มาที่น่าสงสัย แต่หากอยากตรวจสอบให้แน่ใจว่าเงินในบัญชียังอยู่ครบ ปลอดภัย ให้ตรวจสอบโดยการเข้าผ่านเว็บไซต์หรือแอป official ของธนาคารจริงๆ หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ธนาคารโดยตรง
วิธีเช็กเว็บไซต์ธนาคาร:
- สังเกตชื่อเว็บและ URL ให้ดี เว็บปลอมมักมีการใช้ตัวเลขแทนพยัญชนะ เช่น ใช้เลข 0 แทนตัว O หรือมีการใส่พยัญชนะ-ตัวเลขเพิ่ม เช่น www.ktc1.co.th
- เว็บไซต์ของธนาคารจะมี URL ที่เริ่มต้นด้วย “https://” ซึ่งตัว ‘s’ จะเป็นบ่งบอกว่าเว็บนี้มีการสื่อสารโอนถ่ายข้อมูลที่ปลอดภัย สามารถทำธุรกรรมได้โดยไม่ต้องกลัวข้อมูลรั่วไหล
2. ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันจาก App Store หรือ Play Store เท่านั้น
วิธีป้องกันมิจฉาชีพออนไลน์ต่อมา คือการดาวน์โหลดแอปที่เชื่อถือได้เท่านั้น ในปัจจุบันเทคโนโลยี Mobile Banking ทำให้เราสามารถจ่าย ถอน โอน ผ่านแอปได้ เป็นอะไรที่สะดวก รวดเร็ว และถูกใจคนวัยทำงานสุดๆ แต่แอปที่ใช้เป็นแอปของธนาคารที่ดาวน์โหลดจากแพลตฟอร์มที่ปลอดภัยและมีการรับรองผู้ดูแลระบบปฏิบัติการอย่าง App Store หรือ Play Store เท่านั้น ที่สำคัญ แอปอื่นๆ บนมือถือของคุณ ไม่ว่าจะเป็น แอปแต่งรูป หรือเกม ก็ควรจะเป็นแอปจากแพลตฟอร์มที่ปลอดภัยด้วย เพราะแอปเหล่านี้อาจสามารถเข้าถึงข้อมูลในมือถือของคุณได้
นอกจาก App Store และ Play Store แล้ว ก็ยังมีแพลตฟอร์มอย่าง Samsung Galaxy Store, Huawei AppGallery, และ Aptoide ที่คุณสามารถดาวน์โหลดแอปลงมือถือได้อย่างปลอดภัย โดยไม่ต้องกลัวข้อมูลรั่วไหล
3. ไม่ใช้มือถือที่มีการปลอดล็อก เช่น Root หรือ Jailbreak ในการทำธุรกรรม
หลายคนๆ อาจจะชอบปรับเปลี่ยนหรือ custom โทรศัพท์ของตัวเองด้วยการ Root (Android) หรือ Jailbreak (IOS) ซึ่งการปลดล็อกเครื่องแบบนี้จะมีข้อดีในด้านการเปลี่ยนระบบปฏิการ หรือด้านการติดตั้งแอปต่างๆ แต่ข้อเสียก็คือโทรศัพท์ของคุณจะเสี่ยงต่อการถูกขโมยข้อมูล
4. อัปเดตแอปธนาคารให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดเสมอ
การอัปเดตแอปธนาคารเป็นประจำเป็นอีกหนึ่งวิธีป้องกันแอปดูดเงินที่หลายคนอาจจะไม่เคยรู้ แอปธนาคารมีการพัฒนาปรับปรุงระบบเพื่อรักษาความปลอดภัยและป้องกันมิจฉาชีพอยู่เสมอ ดังนั้นเพียงแค่คุณอัปเดตแอป Mobile Banking ของคุณเป็นประจำก็สามารถป้องกันมิจฉาชีพออนไลน์ได้แล้ว
โดยปกติแล้ว ก่อนอัปเดตแอปทุกครั้ง จะมีข้อความเด้งขึ้นมาเตือนเพื่อให้คุณกด “ตกลง” หรือ “อัปเดต” หลายคนอาจจะเคยเป็น เวลาเปิดแอปมาเพื่อจะสแกนจ่ายเงิน ดันมาเจอข้อความเตือนให้อัปเดตแอปก่อน ทำให้การจ่ายล่าช้าติดขัดกันไป ซึ่งวิธีการแก้ปัญหาตรงนี้ก็ง่ายนิดเดียว เพียงตั้งค่าแอปให้เป็นการอัปเดตอัตโนมัติ เท่านี้ก็มั่นใจได้แล้วว่า แอปของคุณจะเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดอยู่เสมอและสามารถทำธุรกรรมผ่าน Mobile Banking ได้อย่างปลอดภัย
5. ไม่แชร์ข้อมูลส่วนตัว เลขบัญชี และเลขบนบัตรกับคนแปลกหน้า
หลายๆ คนคงเคยได้ยินข่าวแก๊งคอลเซนเตอร์ที่ปลอมแปลงเป็นเจ้าหน้าที่หรือพนักงานหน่วยงานต่างๆ ก่อนจะขอข้อมูลบัตรประชาชนหรือข้อมูลเลขบัตร โดยจะมีมุกหรือกลวิธีในการพูดที่ทำให้คุณรู้สึกว่า จำเป็นต้องเร่งจัดการเรื่องให้เสร็จตอนนั้น หรืออาจจะมีเป็นการขู่ว่าจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเกี่ยวข้อง หากเหตุการณ์แบบนี้ รีบกดตัดสายทันที และแจ้งความออนไลน์ที่ https://www.thaipoliceonline.com กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) หรือโทร 1441
ป้องกันแอพดูดเงิน
หากพลาดกดลิงก์ ดาวน์โหลดแอปที่ไม่รู้จัก หรือแชร์ข้อมูลส่วนตัวไปแล้ว ต้องทำอย่างไร
มิจฉาชีพมาในหลายรูปแบบ มีการคิดมุกใหม่ กลวิธีใหม่เพื่อหลอกดูดเงินของคุณเสมอ แต่คุณพลาดกดลิงก์ประหลาดหรือกรอกข้อมูลเลขบัตรเครดิต-เลขบัญชีในเว็บที่น่าสงสัยแล้ว ควรรีบติดต่อธนาคารเพื่อแจ้งอายัดบัตรเครดิต หรือ บัตรเดบิตทันที เพื่อป้องกันไม่ให้มิจฉาชีพนำข้อมูลเลขบัตรของคุณไปใช้และปฏิเสธรายการการโอนจ่ายที่ผิดปกติ
สำหรับสมาชิกบัตรเครดิต KTC หากเกิดปัญหาหรือต้องการอายัดบัตร สามารถกดอายัดชั่วคราวผ่านแอปพลิเคชัน KTC Mobileได้ทันที และติดต่อ KTC PHONE 02 123 5000 กด 1 ทางธนาคารจะทำการสอบถามข้อมูลเพื่อยืนยันว่าผู้โทรแจ้งอายัดบัตรเป็นเจ้าของบัตรจริง และจะดำเนินการอายัดบัตรให้ทันที
KTC ใส่ใจในความปลอดภัยของคุณ