อยากตั้งเป้าหมายออมเงินสร้างเนื้อสร้างตัวทั้งทีก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะหลังจากเงินเดือนออกเมื่อไหร่ ก็ไม่พ้นต้องจ่ายค่าบ้าน ผ่อนคอนโด รวมทั้งบิลอื่นๆ ที่รออยู่ตรงหน้า ทำให้การเก็บเงินดูเหมือนเป็นเรื่องไกลตัวออกไปทุกที ดังนั้นในบทความนี้เราจึงนำทริกเก็บเงินเล็กๆ น้อยๆ มาฝากมนุษย์เงินเดือนทุกคน รู้แล้วเตรียมพร้อมมีเงินเก็บกันถ้วนหน้าได้เลย
เลือกอ่านตามหัวข้อ
ออมเงินง่าย ๆ ด้วย 15 วิธี เข้าใจง่าย ทำตามได้ไม่ยาก
หากออมเงินไม่ได้ เพราะมีภาระค่าใช้จ่ายเยอะ และไม่รู้ว่าควรเริ่มต้นเก็บเงินอย่างไรดี ก็มาหัดเริ่มออมเงินง่ายๆ ด้วย 15 วิธีที่ทุกคนเข้าใจได้ดังต่อไปนี้
1. ก่อนออมให้ตั้งเป้าหมายออมเงิน
ก่อนจะเริ่มศึกษาถึงวิธีเก็บเงินอย่างจริงจัง อันดับแรกต้องกำหนดเป้าหมายเสียก่อนว่าจะออมเงินไปทำไม? เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว เราจะขาดแรงบันดาลใจที่จะเก็บเงินอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเป้าหมายการออมเงินที่ดี ก็ควรเป็นเป้าหมายที่ทำได้ในระยะยาว เช่น ซื้อบ้านหลังแรก หรือเก็บเงินแต่งงาน เป็นต้น และเมื่อตั้งเป้าหมายได้แล้วว่าจะนำเงินเก็บไปใช้เพื่อทำอะไร เราก็จะตั้งใจเก็บเงินทุกเดือน ไม่นำเงินเก็บไปซื้อของฟุ่มเฟือยได้ง่ายๆ นั่นเอง
2. เงินเดือนออกออมก่อนใช้
การออมเงินหลังใช้จ่ายเป็นวิธีออมเงินที่ไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร เพราะเราอาจใช้เงินจนหมดก่อนที่จะออมเงินได้ จากการที่เห็นสิ่งล่อตาล่อใจต่างๆ ทั้งหนังเรื่องใหม่ออกฉาย หรือร้านบุฟเฟ่ต์จัดโปร ด้วยเหตุนี้หลังจากเงินเดือนออก จึงควรแบ่งเงินเพื่อเก็บออมทันทีอย่างน้อย 10% หรือหากมีภาระค่าใช้จ่ายสูง ก็อาจหักแค่ 5% แทน ซึ่งการออมเงินก่อนใช้ ย่อมการันตีว่าเราจะมีเงินเก็บแน่นอน
3. สมัครแอปออมเงิน
แอปออมเงินเป็นมากกว่าแค่แอปโมบายแบงก์กิ้งทั่วไป เพราะนอกจากจะให้อัตราดอกเบี้ยสูงกว่าแล้ว ยังเป็นแอปรายรับรายจ่าย ที่ให้ผู้ใช้งานจัดทำบัญชีด้วยตนเอง และสร้าง Pie Chart แสดงรายจ่ายอย่างเป็นสัดส่วนว่าในเดือนที่ผ่านมาใช้จ่ายกับรายการใดไปแล้วบ้าง ทำให้เห็นภาพรวมพฤติกรรมการใช้เงินของตนเอง นำไปสู่การลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น และเริ่มเก็บตังค์ได้
4. สมัครบัญชีเงินฝากประจำแทนบัญชีเงินฝากออมทรัพย์
บัญชีเงินฝากประจำนอกจากจะให้อัตราดอกเบี้ยสูงกว่าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์แล้ว การเปิดบัญชีเงินฝากประจำยังเป็นวิธีเก็บเงินที่ช่วยให้เราออมเงินได้ เพราะเจ้าของบัญชีต้องฝากเงินเข้าเป็นประจำตามที่กำหนด ซึ่งหากไม่ได้ฝากเงินเข้าแล้ว ในงวดถัดไปก็จะได้ดอกเบี้ยในเรตบัญชีเงินฝากออมทรัพย์แทน และเมื่อฝากเงินไปเรื่อยๆ ในระยะยาว เราก็จะมีเงินก้อนใหญ่ได้ด้วยผลตอบแทนของอัตราดอกเบี้ยทบต้น
5. จัดทำตารางออมเงิน
ตารางออมเงินเป็นวิธีออมเงินที่แม้จะดูเก่า แต่ก็ทำให้ใครหลาย ๆ คนประสบความสำเร็จในการออมเงินมานักต่อนักแล้ว วิธีคือผู้ออมสร้างตารางขึ้นมาหนึ่งฉบับ ที่มีจำนวนเดือน และจำนวนวันเท่ากับวันที่ในปฏิทิน โดยภายในตารางจะกำหนดให้ในแต่ละวันออมเงินมากน้อยแตกต่างกันออกไป เช่น วันละ 10 บาท 20 บาท หรือ 30 บาท เป็นต้น หากออมเงินได้ทุกวันตามที่ได้ออกแบบเอาไว้ ช่วงสิ้นปีก็จะมีเงินเก็บไม่น้อยเลยทีเดียว
6. สมัครกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นหนึ่งในสวัสดิการของพนักงานบริษัท โดยสามารถเลือกหักเงินสมทบเข้ากองทุนฯ ได้ตั้งแต่ช่วง 2% -15% ของเงินเดือน จากนั้นฝั่งนายจ้างจะจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนในช่วง 2% -15% เช่นกัน แต่ต้องไม่ต่ำกว่าอัตราที่ลูกจ้างจ่ายสมทบ ซึ่งวิธีออมเงินในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ มีข้อดีคือ ลูกจ้างจะมีเงินก้อนไว้ใช้หลังเกษียณ และเงินที่จ่ายสมทบก็สามารถนำไปใช้หักลดหย่อนภาษีได้ตามจริง สูงสุดไม่เกิน 15% ของรายได้
7. สมัครสหกรณ์ออมทรัพย์
หากใครทำงานราชการ หรือบริษัทที่มีสหกรณ์ออมทรัพย์ การออมเงินในสหกรณ์ออมทรัพย์ก็นับว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะให้อัตราดอกเบี้ยสูงกว่าธนาคารพาณิชย์ นอกจากนี้สหกรณ์ออมทรัพย์ยังให้ปันผลเฉลี่ย 5 -7% ทุกปีให้แก่สมาชิก ซึ่งถือว่าเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่สูงมาก โดยแทบไม่มีความเสี่ยงเลย แต่สหกรณ์ออมทรัพย์จะให้ถอนเงินปันผลพร้อมเงินต้นออกมาได้ก็เมื่อเกษียณ หรือหมดสภาพการเป็นสมาชิกเท่านั้น
8. ซื้อประกันสะสมทรัพย์
การออมเงินในประกันสะสมทรัพย์เป็นวิธีที่หลายคนมองข้าม เพราะเข้าใจว่าระยะเวลาความคุ้มครองของประกันสะสมทรัพย์สั้นกว่าประกันชีวิตตลอดชีพ รวมทั้งให้วงเงินคุ้มครองน้อยกว่า แต่การออมเงินกับประกันสะสมทรัพย์มีข้อดีตรงที่ เมื่อครบกำหนดสัญญาจะได้เงินต้นพร้อมดอกเบี้ยจำนวนหนึ่ง ซึ่งระหว่างสัญญาก็จะได้ผลตอบในรูปแบบดอกเบี้ยที่สูงกว่าเงินฝากประจำกลับมาอย่างสม่ำเสมอ และไม่เสียภาษี 15% เหมือนกับดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคารพาณิชย์
9. ซื้อของช่วงลดโปรโมชัน
ก่อนจะซื้อของหยุดคิดสักนิดว่าเราจำเป็นซื้อในทันทีหรือไม่ หากไม่รีบซื้อแล้ว ก็ควรรอให้สินค้าชิ้นนั้นจัดโปรโมชัน หรือกดโค้ดรับส่วนลดที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกเดือน เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้เราประหยัดเงินในกระเป๋าได้ง่าย ๆ
10. บัตรเครดิตคิดให้ดีก่อนรูด
บัตรเครดิตออกแบบมาให้ผู้ใช้งานได้รับความสะดวกสบาย เพียงแค่แตะจ่าย ก็ซื้อสินค้าได้ทันที ซึ่งในจุดนี้เองที่ทำให้ผู้ใช้งานบางคนไม่รู้ตัวเลยว่าใช้บัตรเครดิตรูดซื้อของไปเท่าไหร่แล้ว และเมื่อเห็นสิ่งของล่อตาล่อใจราคาแพง ก็มีแนวโน้มรูดซื้อในทันทีอย่างไม่ยั้งคิด เช่น รูดบัตรเพื่อผ่อนมือถือ เป็นต้น ซึ่งทำให้เกิดวัฏจักรการเป็นหนี้เรื้อรังตามมา ด้วยเหตุนี้ก่อนรูดบัตรเครดิตควรคิดเสมอว่าของที่จะซื้อจำเป็นหรือไม่ และควรคิดว่าการรูดบัตรเครดิต ก็เหมือนกับการใช้เงินสดทุกครั้ง เพราะในหลาย ๆ ครั้งบัตรเครดิตคือกับดักแห่งหนี้สำหรับคนใช้เงินไม่มีวินัยทางการเงิน
11. หลีกเลี่ยงการสร้างหนี้นอกระบบ
การสร้างหนี้นอกระบบนับเป็นอุปสรรคของการเก็บเงินโดยแท้จริง เพราะไม่ว่าคุณจะมีเทคนิคการออมเงินที่ดีขนาดไหน ถ้าก่อหนี้นอกระบบเมื่อไหร่ ก็แทบพับแผนเก็บเงินไปได้เลย เนื่องจากหนี้นอกระบบมาพร้อมกับอัตราดอกเบี้ยที่สูงมาก เรียกได้ว่าหาเงินได้เท่าไหร่ต้องจ่ายไปกับดอกเบี้ยเงินกู้ทั้งหมด แต่หากต้องการเงินด่วนใช้จ่ายยามฉุกเฉินจริง ๆ ควรเลือกสมัครบัตรกดเงินสดแทนที่จะกู้เงินนอกระบบ ซึ่งคิดอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า และอยู่ภายใต้การดูแลของกฎหมาย
12. เพิ่งเริ่มทำงานอย่าเพิ่งซื้อบ้าน
หากเพิ่งเริ่มทำงาน แนะนำว่าอย่ารีบกู้ซื้อบ้านในทันที เพราะการผ่อนบ้านกับธนาคารใช้เวลานานหลายปีกว่าจะผ่อนชำระได้ทั้งหมด ซึ่งในระหว่างผ่อนบ้าน เราเองก็ยังไม่รู้ว่าจะทำงานกับที่เดิมไปอีกนานแค่ไหน และถ้าต้องย้ายที่ทำงานใหม่ที่ให้เงินเดือนสูงกว่า แต่ไกลกว่าที่ทำงานแห่งเดิม ก็อาจทำให้เราปฏิเสธรับงานนั้น ทั้งที่ให้ข้อเสนอดีกว่า โดยจะเห็นได้ว่าการซื้อบ้านเร็ว นอกจากจะเสียโอกาสสร้างรายได้มากขึ้นแล้ว ยังต้องรับภาระค่าใช้จ่ายจำนวนมาก ส่งผลให้เก็บเงินยากขึ้นในอนาคต
13. เหรียญในกระเป๋าอย่ามองข้าม
เมื่อได้เงินทอนเป็นเศษเหรียญบาท เหรียญสิบ บางคนไม่อยากพกติดกระเป๋าให้หนัก เลยแก้ปัญหาด้วยการนำเศษเหรียญเหล่านี้ไปซื้อเครื่องดื่ม หรือนำไปทำบุญแทน แต่รู้หรือไม่ว่าหากหยอดเศษเหรียญเหล่านี้ใส่กระปุกไปเรื่อยๆ ทุกวัน จากเงินเล็กน้อยทำเป็นนิสัย ก็กลายเป็นเงินก้อนได้โดยไม่รู้ตัว
14. จัดทำบัญชีรายรับรายจ่ายเบื้องต้น
การทำบัญชีรายรับรายจ่ายหลายคนมองว่าเป็นเรื่องยุ่งยาก และมองว่าในยุคนี้สามารถสแกนจ่ายด้วยโมบายแบงก์กิ้งอยู่แล้ว จะทำรายรับรายจ่ายไปอีกทำไม? โดยการทำรายรับรายจ่ายด้วยสมุดบัญชีจริงๆ จะทำให้เราตระหนักว่าแต่ละวันใช้จ่ายไปแล้วเท่าไหร่ ซึ่งให้ความรู้สึกแตกต่างจากการเปิดเช็กยอดค่าใช้จ่ายในแอปโมบายแบงก์กิ้ง รวมทั้งยังช่วยฝึกวินัยออมเงินให้คิดก่อนใช้จ่าย และช่วยในการวางแผนการเงินได้อีกด้วย
15. แทนที่จะซื้อหวยเอาเงินมาออมดีกว่า
คนไทยกับหวยเป็นของคู่กัน ใกล้ถึงวันที่ 1 และ 16 ของเดือน เลขเด็ดตามท้องตลาดเรียกได้ว่าแทบเกลี้ยงยกแผง ซึ่งอย่างที่เราทราบกันดีว่าโอกาสถูกหวยจริงๆ มีน้อยมาก ดังนั้นแทนที่จะหวังรวยจากหวย สู้เอาเงินซื้อล็อตเตอรี่มาออมเงินกันดีกว่า รับรองว่าออมทุกงวดเมื่อถึงสิ้นปี เผลอๆ ได้จับเงินก้อนเยอะกว่ารางวัลเลขท้าย 3 ตัวเสียอีก
ยิ่งเริ่มออมเงินเร็วเท่าไหร่ ชีวิตหลังเกษียณยิ่งสบายเท่านั้น
15 วิธีออมเงินตามที่ได้กล่าวไปข้างต้นหวังเป็นอย่างยิ่งว่าชาวออฟฟิศทุกคนจะสามารถนำไปปรับใช้ และสร้างสูตรออมเงินได้ด้วยตนเอง จนมีเงินเก็บตามที่ได้ตั้งใจเอาไว้ ซึ่งยิ่งออมเงินได้เร็วเท่าไหร่ ในอนาคตก็จะมีเงินเหลือใช้จ่ายในยามเกษียณได้อย่างมั่นคง
อย่างไรก็ตามหากกำลังตั้งใจออมเงินเพื่อสร้างอนาคต แล้วเกิดเหตุฉุกเฉินตกงานต้องใช้เงินด่วนกะทันหัน เงินเก็บที่มีก็ไม่เพียงพอ ปัญหานี้จะหมดไปเมื่อสมัครบัตรกดเงินสด KTC PROUD บัตรกดเงินสดที่อนุมัติไว ให้วงเงินใหญ่สูงสุดถึง 1 ล้านบาท พร้อมให้คุณเบิกเงินสดได้ผ่านทางตู้ ATM ทั่วประเทศ หรือแอปพลิเคชัน KTC Mobile
*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ย 25% ต่อปี
วางแผนการเงินและจัดการภาระค่าใช้จ่ายยามฉุกเฉิน ด้วยบัตรกดเงินสด KTC PROUD