ช่วงเวลาสิ้นปี เป็นช่วงเวลาที่ใครกลาย ๆ คนกำลังวางแผนเที่ยวต่างประเทศในวันหยุดยาว เมื่อซื้อของมาจากต่างประเทศ สิ่งที่ตามมาก็คือภาษีนำเข้าที่ต้องชำระเมื่อสินค้ามาถึงประเทศไทย แต่รู้ไหมว่าเราสามารถขอภาษีมูลค่าเพิ่มที่ได้ชำระไปขณะซื้อสินค้าในต่างประเทศคืนได้ ผ่านการทำ Tax Refund หรือ Vat Refund
KEY TAKEAWAY
- Tax Refund คือการขอคืนภาษีที่รัฐบาลหลายประเทศมอบให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย
- Tax Refund และ VAT Refund คือการขอคืนภาษีเหมือนกัน
- ประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้สามารถขอ Tax Refund ได้ 8%
- แต่ละประเทศมีอัตรา Tax Refund แตกต่างกันในรายละเอียดและเงื่อนไข
เลือกอ่านตามหัวข้อ
Tax Refund อะไร
Tax Refund คือการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มที่นักท่องเที่ยวชำระในขณะที่ซื้อสินค้าในประเทศนั้น ๆ โดยรัฐบาลจะคืนภาษีที่จ่ายไปบางส่วนหรือทั้งหมดเมื่อนักท่องเที่ยวออกจากประเทศ ซึ่งมีการคืนตามเงื่อนไข เช่น มูลค่าการซื้อสินค้าขั้นต่ำ สินค้าประเภทที่เข้าร่วม และสถานที่ยื่นคำร้อง
โดยสามารถตรวจสอบค่า Tax Refund ของแต่ละประเทศได้ผ่านตารางด้านล่างนี้
ประเทศ | สกุลเงิน | มูลค่าการซื้อขั้นต่ำ (สกุลเงินท้องถิ่น) | อัตราการคืนภาษี (%)v |
---|---|---|---|
กรีซ | EUR | 120 | 23 |
โครเอเชีย | KUNA | 740 | 25 |
เช็ก | KORUNA | 2001 | 21 |
เบลเยียม | EUR | 125.01 | 21 |
เดนมาร์ก | KRONE | 300 | 25 |
ฝรั่งเศส | EUR | 175.01 | 20 |
ฟินแลนด์ | EUR | 40 | 24 |
เยอรมัน | EUR | 25 | 19 |
โรมาเนีย | LEU | 250 | 24 |
ลิทัวเนีย | LTL | 200 | 21 |
ลักเซมเบิร์ก | EUR | 74 | 15 |
ลัตเวีย | EUR | 44 | 21 |
นอร์เวย์ | KRONE | 315 | 25 |
เนเธอร์แลนด์ | EUR | 50 | 21 |
โปรตุเกส | EUR | 61.35 | 23 |
โปแลนด์ | ZLOTY | 200 | 23 |
สวิตเซอร์แลนด์ | FRANC | 300 | 8 |
สวีเดน | KRONA | 200 | 25 |
สเปน | EUR | 90.15 | 21 |
สโลวาเกีย | EUR | 175.01 | 20 |
สโลวีเนีย | EUR | 50.01 | 22 |
ตุรกี | LIRA | 100 | 18 |
ไอร์แลนด์ | EUR | ไม่มีขั้นต่ำ | 23 |
เอสโตเนีย | EUR | 38.01 | 20 |
อิตาลี | EUR | 155 | 22 |
ออสเตรีย | EUR | 75 | 20 |
ฮังการี | FORINT | 52001 | 27 |
ขั้นตอนในการขอ Tax Refund
การขอ Tax Refund เป็นวิธีที่ดีในการประหยัดเงินหลังจากการช็อปปิงในต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุโรปที่มีการเก็บ Vat ของสินค้าค่อนข้างแพง ขั้นตอนทั่วไปในการขอ Tax Refund ได้แก่
1. ซื้อสินค้า: ซื้อสินค้าจากร้านค้าที่ร่วมโครงการ Tax Refund มักจะมีป้ายหรือสติกเกอร์ Tax Free ติดไว้บอกชัดเจน
2. ขอเอกสาร Tax Refund: แจ้งพนักงานที่ร้านค้าว่าต้องการขอ Tax Refund และยื่น Passport (หนังสือเดินทาง) เมื่อซื้อสินค้า พนักงานจะให้ใบเสร็จ Tax Refund ที่มีรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้าที่ซื้อ ราคา และข้อมูลส่วนตัวของเรา
3. กรอกแบบฟอร์ม: พนักงานจะยื่นแบบฟอร์มขอคืนภาษีให้กับเรา ให้กรอกข้อมูลอย่างครบถ้วน โดยปกติจะต้องระบุข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล หมายเลข Passport (หนังสือเดินทาง) และหมายเลขบัตรเครดิต
4. เช็กอินที่สายการบิน: เช็กอินที่เคาน์เตอร์สายการบินที่จองไว้เมื่อถึงสนามบิน (แนะนำให้จองไว้ก่อนเพราะบางสนามบินคิวยาวมาก)
5. แสดงสินค้าและเอกสาร: นำสินค้าที่ซื้อ ใบเสร็จ และแบบฟอร์มไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ศุลกากรเพื่อตรวจสอบสินค้าและประทับตราบนเอกสาร Tax Refund
6. รับเงินคืน:หลังจากได้รับเอกสารที่ประทับตราแล้ว ให้ไปยังจุดบริการคืนภาษี (Tax Refund Office) ซึ่งมักจะตั้งอยู่ใกล้กับประตูขึ้นเครื่องบิน สามารถเลือกรับเงินคืนได้หลายวิธี เช่น
6.1 เงินสด: รับเงินสดเป็นสกุลเงินยูโร (สำหรับประเทศในยุโรป)
6.2 โอนเข้าบัตรเครดิต: เลือกบัตรเครดิตที่ใช้ในการชำระค่าสินค้า
6.3 เช็ค: รับเช็คเพื่อนำไปขึ้นเงินภายหลัง
* การขอรีฟันในแต่ละประเทศอาจแตกต่างกันในรายละเอียดและเงื่อนไข ดังนั้นควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนเดินทาง
แนะนำการทำ Tax Refund ใน 3 ประเทศยอดฮิต
ใกล้ช่วงสิ้นปีแล้ว สำหรับคนที่กำลังวางแผนว่าธันวาคม เที่ยวไหนดี? ขอแนะนำ 3 ประเทศยอดฮิต ได้แก่ ประเทศญี่ปุ่น ประเทศเกาหลีใต้ และประเทศออสเตรเลียที่อากาศดี มีธรรมชาติสวยงาม และมีแหล่งช็อปปิงเยอะเหมาะกับการไปเที่ยวพักผ่อนในช่วงสิ้นปี พร้อมซื้อของฝากที่แสนพิเศษให้กับครอบครัวและเพื่อน ๆ อีกทั้งยังสามารถขอ Tax Refund เมื่อไปช็อปปิงได้อีกด้วย โดยมีวิธีการขอ Tax Refund ดังนี้
ประเทศญี่ปุ่น
ญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในประเทศยอดฮิตในช่วงสิ้นปี หลายคนสงสัยว่าควรเที่ยวญี่ปุ่นเดือนไหนดี? สำหรับคนที่ตั้งหน้าตั้งตารอคอยใบไม้เปลี่ยนสี แน่นอนว่าฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน - พฤศจิกายน) เป็นช่วงที่อากาศเย็นสบาย เหมาะแก่การเดินเล่น ส่วนใครที่รอคอยอยากไปเล่นสกี ออนเซ็น หรือเทศกาลหิมะ แนะนำให้ไปช่วงฤดูหนาว (ธันวาคม - กุมภาพันธ์) เพื่อสัมผัสกับอากาศหนาวเย็นและหิมะ และถ้าใครเป็นสายช็อปปิง ก็สามารถขอ Tax Refund ที่ญี่ปุ่นได้ 2 กรณี ได้แก่
กรณีที่ 1: ชำระเงินค่าสินค้าตามจริง โดยไม่ต้องชำระภาษีมูลค่าเพิ่ม
- นักท่องเที่ยวต้องซื้อสินค้าขั้นต่ำ 5,000 เยน ต่อร้านภายในวันเดียวกัน
- นักท่องเที่ยวแสดง Passport ให้พนักงานที่ร้านค้าตรวจสอบเพื่อขอทำ Tax Refund
- หากเอกสารถูกต้อง สามารถซื้อสินค้าได้โดยไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม มักใช้ในร้านค้าขนาดเล็ก เช่น ร้านขายยา
กรณีที่ 2: ชำระเงินค่าสินค้ารวมภาษีแล้วขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม
- นักท่องเที่ยวต้องซื้อสินค้าขั้นต่ำ 5,000 เยน ต่อร้านภายในวันเดียวกัน พร้อมภาษี 8%
- ร้านค้าที่ร่วมรายการ ได้แก่ Keio, Odakyu Shinjuku, Matsuya Ginza, Tobu Ikebukuro, Don Quijote, Lumine Shinjuku, Big camera, Uniqlo และ Matsumoto Kiyoshi
- นักท่องเที่ยวขอใบเสร็จ Tax-Free จากพนักงาน
- นำใบเสร็จ สินค้า และพาสปอร์ตไปแสดงที่ด่านศุลกากรที่สนามบินก่อนออกจากประเทศ
- พนักงานจะบันทึกข้อมูลและติดใบบันทึกไว้ใน Passport
- รับเงินคืนภาษี 8%
ประเทศเกาหลีใต้
อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของผู้คนที่ชื่นชอบซีรีส์เกาหลี และอาหารเกาหลี แน่นอนว่าต้องเป็นเกาหลีในหน้าหนาว ที่มีใบไม้เปลี่ยนสีสวยงามในเดือนพฤศจิกายน โดยเฉพาะในโซลและบริเวณโดยรอบ สวนสาธารณะต่าง ๆ เหมาะแก่การเดินเล่นและถ่ายรูปท่ามกลางบรรยากาศที่เย็นสบาย เกาหลีใต้ยังเป็นแหล่งรวมสกินแคร์และเครื่องสำอางแบรนด์ดังที่ใครไปต้องห้ามพลาด เพราะสามารถขอ Tax Refund ได้เช่นเดียวกัน โดยมีขั้นตอนต่อไปนี้
กรณีที่ 1: ขอคืนภาษีทันที ณ ร้านค้า
- นักท่องเที่ยวต้องเป็นชาวต่างชาติที่อยู่ในเกาหลีน้อยกว่า 6 เดือน หรือคนเกาหลีที่อาศัยในประเทศเกาหลีน้อยกว่า 3 เดือน และไม่ได้จ่ายภาษีของเกาหลี
- นักท่องเที่ยวต้องซื้อสินค้าขั้นต่ำ 30,000 วอน โดยไม่เกิน 300,000 วอน (รวมภาษี)
- แสดง Passport เพื่อยืนยันการซื้อสินค้า และให้พนักงานตรวจสอบคุณสมบัติ
- ชำระเงินตามราคาที่แสดง โดยไม่ต้องเสียภาษีเพิ่ม
กรณีที่ 2: ขอคืนภาษีภายหลังที่สนามบิน
- นักท่องเที่ยวต้องซื้อสินค้าขั้นต่ำ 30,000 วอน โดยไม่เกิน 300,000 วอน (รวมภาษี)
- ชำระเงินรวมภาษี
- ขอใบเสร็จ Tax-Free จากพนักงาน
- นำใบเสร็จ สินค้า และพาสปอร์ตไปแสดงที่ด่านศุลกากร
- ประทับตราบนใบเสร็จ
- รับเงินคืนภาษี โดยภาษีมูลค่าเพิ่มของเกาหลีจะอยู่ประมาณ 10% แต่เมื่อหักค่าธรรมเนียม ไปแล้วจะได้รับภาษีคืน 8%
ประเทศออสเตรเลีย
นอกจากประเทศเกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ประเทศออสเตรเลียก็เป็นอีกหนึ่งประเทศยอดฮิตที่ควรค่าแก่การไปเที่ยวในวันหยุดยาวสิ้นปี เนื่องจากเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวสามารถขอ Tax Refund ได้เช่นเดียวกันกับ 2 ประเทศข้างต้น โดยมีวิธีขอ Tax Refund ดังต่อไปนี้
- ซื้อสินค้าจากร้านค้าที่ร่วมโครงการ Tax Refund ขั้นต่ำ 300 เหรียญ (รวมภาษี) ในร้านค้าเพียงร้านเดียว โดยซื้อสินค้าก่อนออกจากประเทศออสเตรเลีย 60 วัน
- ขอเอกสาร Tax Refund กับพนักงานที่ร้านค้า
- นำสินค้าที่ซื้อ ใบเสร็จ และแบบฟอร์มไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ศุลกากรเพื่อตรวจสอบสินค้าและประทับตราบนเอกสาร Tax Refund
- เลือกรับเงินภาษีคืนได้หลายวิธี เช่น
- โอนเข้าบัตรเครดิต: American Express, VISA, JCB, Master Card
- บัญชีธนาคารออสเตรเลีย: ต้องมี BSB และหมายเลขบัญชี
- เช็ค: รับเช็คเพื่อนำไปขึ้นเงินภายหลัง
Tax Refund ขอภาษีคืนอย่างคุ้มค่า เมื่อช็อปปิงต่างประเทศ
Tax Refund หรือการขอคืนภาษีเป็นสิทธิประโยชน์ที่รัฐบาลหลายประเทศมอบให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย โดยเมื่อนักท่องเที่ยวซื้อสินค้าที่มีมูลค่าถึงเกณฑ์ที่กำหนด จะสามารถขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มที่ได้ชำระไปได้ ในมุมของนักท่องเที่ยววิธีนี้เป็นวิธีที่ดีในการประหยัดเงินขณะเดินทาง หากคุณวางแผนจะเดินทางไปต่างประเทศและต้องการขอคืนภาษี แนะนำให้ลองศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับขั้นตอนการขอคืนภาษีของประเทศนั้น ๆ ดูอย่างละเอียด
สำหรับใครที่กำลังมองหาตัวช่วยทางการเงินที่ตอบโจทย์เป้าหมายทางการเงิน แนะนำบัตรกดเงินสด KTC PROUD ตัวช่วยด้านการเงินยามฉุกเฉิน สำหรับคนที่ต้องการวางแผนการเงินอย่างรอบคอบ ไม่มีค่าธรรมเนียมในการเบิกถอนเงินสด 3% และสามารถเลือกเบิกถอนเงินสดแบบแบ่งชำระรายเดือน นานสูงสุด 60 เดือน
*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ย 25% ต่อปี
วางแผนการเงินให้รอบคอบ ด้วยบัตรกดเงินสด KTC PROUD