เมื่อต้องการเงินก้อนใหญ่เพื่อใช้จ่ายในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการซื้อบ้าน ซื้อรถ หรือลงทุนทำธุรกิจ สินเชื่อคือตัวช่วยสำคัญที่จะทำให้คุณเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น เพราะในปัจจุบันค่าครองชีพที่สูงขึ้น และความต้องการใช้เงินที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้การเก็บออมเงินอาจไม่เพียงพอต่อความต้องการ แต่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าสินเชื่อมีกี่ประเภท และแต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไร ต้องเลือกแบบไหนให้ตอบโจทย์มากที่สุด วันนี้ KTC จะมาไขข้อสงสัยนี้ให้เอง
เลือกอ่านตามหัวข้อ
สินเชื่อ คืออะไร
สินเชื่อ คือ การกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย โดยผู้กู้จะต้องชำระคืนทั้งเงินต้น และดอกเบี้ยตามเงื่อนไขที่ตกลงกัน ภายใต้สัญญาที่มีการกำหนดระยะเวลา และวิธีการชำระเงินที่ชัดเจน สินเชื่อเป็นเครื่องมือทางการเงินที่ช่วยให้ประชาชนสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น เพื่อนำไปใช้ในการอุปโภคบริโภค การลงทุน หรือการประกอบธุรกิจ
สินเชื่อ มีกี่ประเภท
เพื่อให้เข้าใจง่าย และเลือกใช้ได้ตรงความต้องการ เราสามารถแบ่งประเภทสินเชื่อตามลักษณะการค้ำประกันได้เป็น 2 ประเภทหลัก โดยแต่ละประเภทมีข้อดี และข้อจำกัดที่แตกต่างกัน ดังนี้
สินเชื่อแบบมีหลักประกัน
สินเชื่อประเภทนี้ผู้กู้ต้องนำทรัพย์สินมาค้ำประกันการกู้ยืม เช่น บ้าน ที่ดิน หรือรถยนต์ ข้อดีคือได้วงเงินสูงและดอกเบี้ยต่ำ เพราะสถาบันการเงินมีความเสี่ยงน้อย แต่ผู้กู้ต้องระวังการผิดนัดชำระที่อาจนำไปสู่การยึดหลักประกัน นอกจากนี้ ยังมีระยะเวลาผ่อนชำระที่ยาวนานกว่า ทำให้ภาระผ่อนต่องวดไม่สูงมากนัก
สินเชื่อแบบไม่มีหลักประกัน
สินเชื่อที่ไม่ต้องใช้ทรัพย์สินค้ำประกัน พิจารณาจากความสามารถในการชำระหนี้เป็นหลัก ได้วงเงินน้อยกว่าและมีดอกเบี้ยสูงกว่า แต่มีความยืดหยุ่นในการใช้งานมากกว่า เหมาะสำหรับผู้ที่มีรายได้ประจำและต้องการความคล่องตัวในการใช้เงิน โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการนำทรัพย์สินมาเป็นหลักประกัน
ตัวอย่างประเภทสินเชื่อที่ต้องใช้หลักประกัน
เมื่อต้องการวงเงินก้อนใหญ่ สินเชื่อที่มีหลักประกันจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะได้อัตราดอกเบี้ยที่ถูกกว่า มาดูตัวอย่างกัน
สินเชื่อบ้านและที่ดิน
สินเชื่อที่ใช้บ้านหรือที่ดินเป็นหลักประกัน ให้วงเงินสูง ผ่อนได้นานสูงสุดเฉลี่ย 72 เดือน เพราะสำหรับผู้ที่ต้องการเงินก้อนใหญ่ไปหมุนเวียนใช้จ่าย หรือลงทุน
สินเชื่อโฉนดแลกเงิน
สินเชื่อที่นำโฉนดที่ดินมาเป็นหลักประกันเพื่อขอสินเชื่อ ได้วงเงินตามมูลค่าประเมินที่ดิน ดอกเบี้ยต่ำกว่าสินเชื่อส่วนบุคคล เหมาะกับผู้ที่ต้องการเงินทุนระยะยาว
สินเชื่อรถแลกเงิน
สินเชื่อที่นำเล่มทะเบียนรถยนต์มาเป็นหลักประกัน โดยไม่ต้องโอนเล่มทะเบียนให้วุ่นวาย และยังให้วงเงินก้อนใหญ่สูงสุด 1,000,000 บาท และมีระยะเวลาผ่อนที่ยืดหยุ่นถึง 84 เดือน โดยไม่ต้องใช้คนค้ำประกัน
ตัวอย่างประเภทสินเชื่อที่ไม่ต้องใช้หลักประกัน
สำหรับผู้ที่ไม่มีทรัพย์สินค้ำประกัน แต่มีรายได้ประจำ สามารถเลือกใช้สินเชื่อประเภทนี้ได้
สินเชื่อส่วนบุคคล
สินเชื่อเอนกประสงค์ที่พิจารณาจากรายได้ประจำ วงเงินประมาณ 5 เท่าของรายได้ต่อเดือน ใช้เอกสารน้อย อนุมัติเร็ว แต่ดอกเบี้ยค่อนข้างสูง
สินเชื่อบัตรเครดิต
วงเงินหมุนเวียนสำหรับใช้จ่ายแทนเงินสด สามารถผ่อนชำระสินค้าได้ มีสิทธิประโยชน์เสริม เช่น คะแนนสะสม ส่วนลดร้านค้า แต่ต้องระวังเรื่องวินัยการใช้จ่าย
สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์
สินเชื่อรายย่อยขนาดเล็ก วงเงินไม่เกิน 100,000 บาท เน้นช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย มีความยืดหยุ่นในการพิจารณา แต่ดอกเบี้ยค่อนข้างสูง
อยากขอสินเชื่อให้ผ่านฉลุย ต้องเตรียมตัวอย่างไร
ก่อนยื่นขอสินเชื่อ ควรเตรียมความพร้อมเพื่อเพิ่มโอกาสการอนุมัติ ดังนี้
1. ตรวจเช็กและสร้างเครดิตบูโรให้ดี โดยชำระหนี้ตรงเวลา ไม่มีประวัติผิดนัดชำระ จะเพิ่มความน่าเชื่อถือในสายตาสถาบันการเงิน
2. เตรียมเอกสารให้ครบถ้วน ทั้งบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน สลิปเงินเดือน และเอกสารทางการเงินอื่น ๆ ที่แสดงความสามารถในการชำระหนี้
3. ประเมินความสามารถในการผ่อนชำระอย่างรอบคอบ ควรมีภาระผ่อนรวมไม่เกิน 30-40% ของรายได้ต่อเดือน
4. เปรียบเทียบข้อเสนอจากหลายสถาบันการเงิน ทั้งอัตราดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียม และเงื่อนไขอื่น ๆ เพื่อเลือกสินเชื่อที่เหมาะสมที่สุด
เอกสารที่ต้องใช้ในการขอสินเชื่อรถแลกเงิน
การเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนจะช่วยให้การพิจารณาสินเชื่อเป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็ว โดยเอกสารที่จำเป็นต้องใช้ มีดังนี้
- บัตรประชาชนตัวจริง ที่ยังไม่หมดอายุ
- สำเนาทะเบียนบ้าน ที่มีชื่อผู้กู้ปรากฏอยู่
- สเตทเม้นย้อนหลัง 6 เดือน เพื่อแสดงความเคลื่อนไหวทางการเงิน
- เอกสารแสดงรายได้ เช่น สลิปเงินเดือน หรือเอกสารรับรองรายได้
- เอกสารแสดงการประกอบอาชีพ เพื่อยืนยันแหล่งที่มาของรายได้
- สำเนาหน้าแรกของสมุดบัญชีธนาคาร
สรุปบทความ สินเชื่อ คืออะไร มีกี่ประเภท
แม้ว่าสินเชื่อคือทางออกที่ดีในการแก้ไขปัญหาทางการเงิน แต่การวางแผนให้รอบคอบ และพิจารณาความสามารถในการผ่อนชำระ ก็ยังเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดความเสี่ยงด้านการเงินในระยะยาว หากคุณกำลังมองหาสินเชื่อที่ตอบโจทย์ความต้องการ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน คือทางออกที่ช่วยคุณได้ ด้วยวงเงินสินเชื่อก้อนใหญ่ สมัครง่าย ไม่ยุ่งยาก และยังมีบริการ พี่เบิ้ม Delivery ไปประเมินราคารถให้ถึงหน้าบ้าน อนุมัติไวใน 1 ชม. รับเงินก้อนได้ทันที โดยไม่ต้องมีคนค้ำประกัน และผ่อนได้นานสูงสุด 84 เดือน โดยสามารถเลือกรับบัตรกดเงินสด KTC พี่เบิ้ม ไว้ใช้จ่ายในกรณีฉุกเฉินได้อย่างอุ่นใจ หากไม่มีการกดใช้ก็ไม่เสียดอกเบี้ยแต่อย่างใด
*กรุณาศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ก่อนทำการสมัคร*
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ และธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด*
*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ย 21%-24% ต่อปี*
*กรณีที่รถยังผ่อนไม่หมด สามารถนำมาประเมินวงเงินเบื้องต้นก่อนได้*