ฮั่นแน่! คุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหาวิธีรักษาเครดิตทางการเงินให้ดีอยู่ใช่มั้ยล่ะ? พี่เบิ้มรู้นะว่าหลายคนที่เข้ามาอ่านก็อาจจะเคยได้ยินจากคนอื่นว่าให้รักษาเครดิตการเงินให้ดีอยู่ตลอดเวลา แล้วเคยสงสัยมั้ยว่าทำไมเราถึงต้องรักษาเครดิตทางการเงินให้ดี พี่เบิ้มบอกได้เลยครับว่า ถ้าเรามีเครดิตทางการเงินที่ดี อะไร ๆ ก็จะง่ายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของการขอสินเชื่อนั่นเองครับ ก่อนอื่นเลย เรามารู้กันก่อนว่าเครดิตของเรานั้นสำคัญแค่ไหน แล้วเราจะมีวิธีรักษาเครดิตอย่างไรให้ประวัติไม่ด่างพร้อย บอกเลยว่าห้ามพลาด เพราะพี่เบิ้มมีข้อมูลและเทคนิคในการรักษาเครดิตทางการเงินมาฝากกัน ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเล้ย!
ข้อมูลเครดิตคืออะไร?
สิ่งแรกที่เราต้องรู้ก็คือข้อมูลเครดิตนั่นเอง ข้อมูลเครดิต ตามที่เครดิตบูโรได้บอกเอาไว้นั้น จะเป็นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการชำระหนี้ของลูกค้า โดยข้อมูลในส่วนนี้จะอยู่ในระบบฐานข้อมูลของบริษัทข้อมูลเครดิต (เครดิตบูโร) และจะปรากฎในรายงานข้อมูลเครดิตเมื่อมีผู้ขอเรียกดู
ข้อมูลเครดิตสำคัญอย่างไร
ข้อมูลเครดิตจะเป็นตัวสะท้อนถึงพฤติกรรมและวินัยทางการเงินของเจ้าของข้อมูล ทำให้เห็นถึงความน่าเชื่อถือ (หรือที่เรียกกันว่าคนมีเครดิตดีนั่นล่ะครับ) โดยสถาบันทางการเงินจะใช้ข้อมูลส่วนนี้ไปเป็นหนึ่งในปัจจัยเพื่อพิจารณาอนุมัติสินเชื่อต่าง ๆ ซึ่งถ้าหากว่าใครมีประวัติการชำระหนี้ที่ดี ก็จะได้รับสินเชื่อในอัตราที่เหมาะสม
พี่เบิ้มขอบอกเลยนะครับว่าข้อมูลเครดิตถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะใครที่กำลังต้องการขอสินเชื่อ หรือวางแผนว่าคิดจะขอสินเชื่อในอนาคต
มีเครดิตดี อะไร ๆ ก็ดี
สิ่งที่พี่เบิ้มอยากจะบอกทุกคนเลยก็คือ ต้องวางแผนทางการเงินให้ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพราะว่าถ้ามีประวัติที่ดีมาตั้งแต่แรกแล้วล่ะก็ มักจะได้รับโอกาสทางการเงินมากขึ้น โดยเฉพาะเวลาไปขอสินเชื่อนั่นล่ะครับ เช่น เมื่อทางสถาบันการเงินเห็นประวัติการชำระหนี้ที่ดีของเรา ก็จะปล่อยสินเชื่อให้เราง่ายมากยิ่งขึ้น เพราะถือว่าเป็นลูกค้าที่มีเครดิตการเงินที่ดี เป็นตัวบ่งบอกว่าจะสามารถชำระหนี้ได้นั่นเองครับ
จะรักษาเครดิตยังไงให้ประวัติดีไร้กังวล
1. มีหน้าที่การงานที่มั่นคง
อันดับแรกที่ไม่ควรมองข้ามเลยก็คือเรื่องของหน้าที่การงานและฐานเงินเดือนนั่นเอง พี่เบิ้มบอกเลยนะครับว่าถ้าหากมีเงินเดือนหมุนเวียนอยู่ในบัญชีเป็นประจำ ก็จะทำให้มีความน่าเชื่อถือ เหมือนอย่างที่ใคร ๆ ได้บอกไว้นั่นล่ะครับว่า ถ้าเป็นพนักงานที่มีรายได้ประจำ ก็จะมีเครดิตทางการเงินดีกว่าฟรีแลนซ์ครับ ทำให้ต้องมีการวางแผนดี ๆ ถ้าหากต้องการที่จะขอบัตรเครดิตหรือขอสินเชื่อต่าง ๆ ฉะนั้นคนที่เป็นฟรีแลนซ์ควรวางแผนทางด้านการเงินให้ดี หากต้องการสร้างเครดิตให้กับตัวเองครับ
2. ตรวจเช็กประวัติเครดิตบูโร
เรื่องนี้สำคัญเลยครับ ก่อนที่จะยื่นขอสินเชื่อกับที่ไหนก็ตาม อย่าลืมตรวจเช็กประวัติเครดิตของตัวเองให้ดีก่อน โดยสามารถตรวจสอบได้ที่บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่าเครดิตบูโรนั่นเอง
3. ชำระหนี้ให้ตรงเวลา
สิ่งที่พี่เบิ้มย้ำตลอดเวลาก็คือควรที่จะต้องชำระหนี้ให้ตรงเวลา ไม่ว่าจะเป็นหนี้อะไร ยอดเงินมากน้อยแค่ไหน ก็ควรที่จะต้องชำระให้ตรงเวลาตั้งแต่แรกเลยครับ ซึ่งการชำระเงินนั้น ควรชำระด้วยยอดที่ไม่น้อยกว่ายอดเรียกเก็บขั้นต่ำ แต่ถ้าเกิดใครกลัวว่าจะลืมชำระ พี่เบิ้มแนะนำให้เลือกหักเงินในบัญชีอัตโนมัติไว้ เพื่อให้มั่นใจว่าจะชำระตรงเวลาแน่นอน
4. มีเงินเข้าออกผ่านบัญชีธนาคารเป็นประจำ
อย่างที่พี่เบิ้มบอกไปว่า การที่มีเงินเข้าออกบัญชีธนาคารเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ ก็จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับเครดิตของคุณได้ด้วย เพราะว่าบัญชีเงินฝากถือเป็นหลักฐานทางการเงินชิ้นแรก ๆ ที่ใช้ในการตรวจสอบสถานภาพทางการเงินของแต่ละบุคคล และนั่นก็จะช่วยให้สถาบันการเงินเชื่อมั่นว่า เราเป็นคนที่มีเครดิตดีทางด้านการเงินครับผม
5. ฝากประจำหรือลงทุนทุกเดือน
อีกหนึ่งตัวช่วยที่จะสร้างความมั่นใจให้กับสถาบันทางการเงิน และเพื่อสร้างเครดิตที่ดี คือการนำเงินไปฝากประจำหรือลงทุนทุกเดือนอย่างสม่ำเสมอ ก็จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้สถาบันทางการเงิน และถ้าหากใครยิ่งฝากหรือลงทุนในจำนวนเงินที่ใกล้เคียงกันในแต่ละเดือน (หรือมากกว่านั้น) ก็จะแสดงให้เห็นถึงความมั่นคงทางการเงินของคุณอีกด้วยนะครับ
ก่อนที่จะจากกันไป หวังว่าทุกคนได้รู้เทคนิคการรักษาเครดิตทางการเงินไปเป็นที่เรียบร้อย และถ้าหากใครที่กำลังมองหาตัวช่วยสำหรับปิดยอดหนี้หลายก้อน หรือโปะหนี้บางส่วน รวมถึงเพื่อนำเงินไปเพิ่มสภาพคล่องในกรณีฉุกเฉินต่าง ๆ เพียงแค่คุณมีรถเป็นของตัวเอง ก็สามารถแวะเข้ามาปรึกษากับพี่เบิ้ม เพื่อขอสินเชื่อทะเบียนรถ KTC พี่เบิ้ม ได้ตลอดเวลา หากสนใจเพียงแค่ลงทะเบียนที่นี่ บอกได้เลยว่า สมัครง่าย วงเงินใหญ่ ใจเบิ้ม ๆ รับเงินได้รวดเร็วเมื่ออนุมัติผ่านครับ