ทำความรู้จักกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ คืออะไร? จำเป็นหรือไม่สำหรับมนุษย์เงินเดือน
“กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ” คือ หนึ่งในวิธีเก็บเงิน หรือการเก็บออมแบบ “เก็บก่อน ใช้ที่หลัง” ที่มนุษย์เงินเดือนทั้งหลายควรทำความรู้จักกันไว้ให้ดี เพราะกองทุนเลี้ยงชีพคือ หลักประกันคุณภาพชีวิตที่ดีในอนาคต ยามที่คุณเกษียณ หรือไม่สามารถประกอบอาชีพได้เหมือนเดิม ซึ่งคนที่เพิ่งเริ่มต้นชีวิตทำงานใหม่ หรือเหล่า First Jobber ทั้งหลาย จำเป็นที่จะต้องศึกษาเกี่ยวกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพนี้ให้ดี ทั้งความสำคัญและสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับจากกองทุนสำรอง เพื่อให้คุณสามารถวางแผนการเงินในอนาคตได้อย่างมั่นคง
เลือกอ่านตามหัวข้อ
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) คืออะไร?
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือ Provident fund (PVD) คือ รูปแบบกองทุนที่ลูกจ้างและนายจ้างจัดตั้งขึ้นด้วยความสมัครใจเพื่อเก็บเงินออมให้แก่ลูกจ้างในยามเกษียณอายุหรือเป็นกองทุนสำรองเลี้ยงชีพยามลาออก โดบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นกฎหมายที่บัญญัติขึ้นมาภายใต้พระราชบัญญัติกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่นายจ้างและลูกจ้างไม่ต่างจากกฎหมายแรงงาน
นอกจากจุดประสงค์ด้านการออมเงินเพื่ออนาคตที่คล้ายกับการทำประกันสังคมแล้ว การเก็บเงินผ่านกองทุนสำรองเลี้ยงชีพยังช่วยเรื่องการบริหารเงินให้เพิ่มพูล งอกเงยตามสัดส่วนของเงินในกองทุน เป็นการลงทุนที่ความเสี่ยงน้อย
ดูรายละเอียดและขั้นตอนการสมัครประกันสังคมทางออนไลน์ได้ที่นี่ : ยื่นประกันสังคมออนไลน์
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพประกอบด้วยอะไรบ้าง?
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพคือกองทุนที่ไม่มีการจ่ายดอกเบี้ย หรือจ่ายเงินปันผลให้แก่สมาชิก และไม่อนุญาตให้สมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพถอนเงินออกมา แต่จะสะสมเงินจนเป็นเงินก้อนใหญ่ที่เก็บไว้เพื่อรอจ่ายคืนให้แก่สมาชิกที่เกษียณหรือลาออกไปนั่นเอง ซึ่งส่วนประกอบของเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพนี้ ประกอบไปด้วย เงินสะสมจากลูกจ้างและเงินสมทบจากนายจ้าง ที่นำเงินไปลงทุนให้เกิดผลประโยชน์ ดังนี้
เงินสะสมจากลูกจ้าง
เงินส่วนหนึ่งที่ถูกหักจากค่าจ้างของลูกจ้างเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ คือ “เงินสะสม” โดยเงินสะสมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพนี้จะหักเข้ากองทุนในอัตราเงินสะสมเริ่มตั้งแต่ 2%-15% ของเงินเดือน
เงินสมทบจากนายจ้าง
เงินสมทบกองทุนสํารองเลี้ยงชีพ คือ เงินที่นายจ้างสมทบเข้ากองทุน เรียกว่า “เงินสมทบ” โดยหักเข้ากองทุนในอัตราเงินสมทบเริ่มตั้งแต่ 2%-15% ของเงินค่าจ้าง
ผลประโยชน์ของเงินสะสม
ผลประโยชน์ของเงินสะสมจากกองทุนสํารองเลี้ยงชีพ คือ เงินที่งอกเงยมาจากการบริหารกองทุนของบริษัทที่นำเงินไปลงทุน ซึ่งต้องนำมาคำนวณภาษี โดยสามารถนำไปลดหย่อนหรือยกเว้นภาษีได้
ผลประโยชน์ของเงินสมทบ
ผลประโยชน์ของเงินสมทบจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ คือ เงินอีกส่วนที่งอกเงยมาจากการบริหารกองทุนของบริษัทจัดการ และต้องนำมาคำนวณภาษี โดยสามารถนำไปลดหย่อน หรือยกเว้นภาษีได้ เช่นเดียวกันกับผลประโยชน์ของเงินสะสม
ประโยชน์ของการก่อตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
ประโยชน์สำหรับลูกจ้าง
- เพิ่มหลักประกันทางการเงิน ช่วยให้สามารถวางแผนการออมเงินในระยะยาวอย่างต่อเนื่องได้
- เพิ่มหลักประกันแก่ครอบครัว ในยามที่สมาชิกทุพพลภาพหรือเสียชีวิต
- มั่นใจได้ว่าสมาชิกกองทุนจะมีเงินก้อนไว้ใช้จ่ายในยามเกษียณอายุหรือลาออกจากงาน
- สามารถออมเงินผ่านกองทุนได้อย่างต่อเนื่อง แม้จะมีการย้ายงานแต่ยังสามารถเก็บเงินไว้ที่กองทุนเลี้ยงชีพเดิมได้
- เงินที่นำเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพจะอยู่ภายใต้การบริหารของบริษัทจัดการมืออาชีพ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด
- สามารถใช้ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอย่าง ภ.ง.ด. 90 และ ภ.ง.ด. 91 ได้ โดยนำผลประโยชน์ของเงินสะสมไปลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริงไม่เกิน 10,000 บาท ส่วนที่เกิน 10,000 บาท แต่ไม่เกิน 15% ของรายได้ และไม่เกิน 490,000 บาท จะได้รับการยกเว้น โดยไม่ต้องนำไปคำนวณ
ประโยชน์สำหรับนายจ้าง
- ลูกจ้างมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อนายจ้าง ส่งผลให้การทำงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดบรรยากาศที่ดีในการทำงาน
- สร้างแรงจูงใจในการทำงานให้แก่ลูกจ้าง ช่วยให้ลูกจ้างมีความมุ่งมั่นในการทำงาน และลดอัตราการลาออกจากงานของลูกจ้าง
- การมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นหนึ่งในสวัสดิการพนักงานคือ การสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและเสริมความมั่นคงให้แก่บริษัทและนายจ้าง
- สามารถใช้ผลประโยชน์ของเงินสมทบที่นำเข้ากองทุนเลี้ยงชีพมาลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริงไม่เกิน 15% ของเงินค่าจ้าง
สรุปเกี่ยวกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หลักประกันคุณภาพชีวิตของคนวัยทำงาน
หลายคนคงจะเข้าใจกันแล้วว่า กองทุนสำรองเลี้ยงชีพคือ สิ่งสำคัญที่จำเป็นต่อวัยทำงานผู้มีรายได้จากค่าแรงขั้นต่ำ เนื่องจากเป็นหลักประกันคุณภาพชีวิตในอนาคต และเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยวางแผนการเงินระหว่างทำงาน เพื่อให้มีเงินสะสมไว้ใช้ในยามที่เกษียณ ลาออก หรือไม่สามารถทำงานได้ดังเดิม ดังนั้นมนุษย์เงินเดือน โดยเฉพาะ First Jobber ยิ่งต้องศึกษาเกี่ยวกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพไว้ เพื่อประโยชน์ในอนาคตของตัวคุณ!
ต้องการเงินด่วน ให้บัตรกดเงินสด KTC PROUD เป็นอีกหนึ่งตัวเลือก ไว้เป็นเงินสำรองในยามฉุกเฉิน โดยคุณสามารถกดเงินสดผ่านตู้ ATM ทั่วไทย หรือโอนเงินผ่านแอปพลิเคชัน KTC Mobile ตลอด 24 ชั่วโมง ตามวงเงินที่ได้รับการอนุมัติ ก็รับเงินได้ทันที แบบฟรีค่าธรรมเนียม
หากคุณกำลังวางแผนด้านการเงินอยู่ บัตรกดเงินสด KTC PROUD ก็ตอบโจทย์ ด้วยระยะเวลาผ่อนจ่ายยาวนานกว่าบัตรเครดิต ทำให้คุณมีเวลาคิดคำนวณและวางแผนการใช้จ่ายได้ง่ายขึ้น พร้อมเพิ่มสภาพคล่องทางการใช้จ่าย ลดความกังวลเรื่องเงินให้กับคุณ เพียงมีเงินเดือนขั้นต่ำ 12,000 บาท ก็สมัครบัตรกดเงินสด KTC PROUD ได้เลย
ตอบโจทย์ทุกการใช้จ่าย สมัครบัตรกดเงินสด KTC PROUD ทางออนไลน์ได้ที่นี่
ไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปี
*กู้เท่าที่จําเป็นและชําระคืนได้ตามกําหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 20% - 25% ต่อปี