กุญแจรถหาย ควรทำอย่างไรดี
กุญแจรถยนต์หาย ทําไงดี หนึ่งในปัญหาที่ดูเหมือนเล็กแต่ไม่เล็ก โดยเฉพาะในสถานการณ์คับขัน อย่างการอยู่ข้างนอกที่ต้องใช้รถยนต์ในการเดินทาง เมื่อหากุญแจไม่เจอขึ้นมา ก็เดินทางไปไหนต่อไม่ได้ นอกจากจะเสียเวลาแล้ว ยังอาจจะเสียการเสียงานได้ด้วยเหมือนกัน ใครที่ยังไม่เคยประสบปัญหานี้ แต่อยากจะเตรียมตัวให้พร้อมไว้ก่อน เพราะเมื่อเกิดเหตุการณ์จริงขึ้นมาจะได้ไม่ลนลานจนทำอะไรไม่ถูก มาลองอ่านบทความนี้กัน เรามีวิธีรับมือกุญแจรถหายมาฝาก
เลือกอ่านตามหัวข้อ
กุญแจรถยนต์มีกี่ประเภท
ก่อนจะพูดถึงวิธีรับมือเรื่องกุญแจรถหาย เราอยากจะให้ทุกคนทำความเข้าใจถึงประเภทกุญแจรถยนต์กันก่อน ว่ามันมีทั้งหมดกี่ประเภท แล้วรถยนต์คันที่เราใช้กันอยู่มันเป็นประเภทไหน เพราะจะได้เข้าใจตรงกันว่าเวลาเกิดปัญหา จะมีวิธีไหนบ้างที่สามารถแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้านั้นได้ เรามาดูกันดีกว่า
1. กุญแจรถยนต์ธรรมดา (Traditional Key)
กุญแจรถยนต์ประเภทนี้ เป็นกุญแจที่ใช้งานในรถยนต์รุ่นเก่า ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับกุญแจบ้านทั่วไป โดยมีฟันที่ถูกออกแบบมาไขทั้งประตู กระโปรงหลัง และใช้ในการสตาร์ทรถไปพร้อม ๆ กัน ความปลอดภัยในการใช้งานจึงค่อนข้างต่ำ และถูกโจรกรรมได้ง่าย แต่ก็มีข้อดีตรงที่สามารถให้ช่างกุญแจปั๊มเพิ่มไว้ใช้งานได้ทันที เมื่อเกิดหายขึ้นมา
2. กุญแจรถยนต์ทรานส์พอนเดอร์ (Transponder Key)
กุญแจทรานส์พอนเดอร์ หรือที่เรียกกันว่ากุญแจรีโมต จะมีลักษณะเหมือนกับกุญแจรถแบบธรรมดาที่ใช้ฟันในการไขสตาร์ทรถ และประตูตามปกติ แต่จะมีระบบรีโมตในการใช้งานพ่วงติดมากับตัวกุญแจ ซึ่งระบบรีโมตที่ว่านี้จะเรียกว่าอิมโมบิไลเซอร์ ที่มีการอ่านชิปการเข้ารหัสระหว่างกุญแจกับเต้าสตาร์ท หากตรงกันก็สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ได้ แต่หากไม่ตรงกันก็จะไม่สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ติด ซึ่งค่ายรถยนต์แต่ละเจ้าก็จะมีการเข้ารหัสที่ไม่เหมือนกัน จึงค่อนข้างมีความปลอดภัยสูง ต่อให้มีกุญแจสำรองแต่ถ้าไม่มีการเข้ารหัสไว้ ก็จะไม่สามารถเสียบใช้งานได้เช่นกัน
3. กุญแจรถยนต์สมาร์ทคีย์ (Smart Key)
กุญแจสมาร์ทคีย์ หรือที่หลายคนเรียกว่าคีย์เลส จะมีระบบการทำงานของตัวรีโมตที่คล้ายกับแบบทรานส์พอนเดอร์ คือการเข้ารหัสกุญแจไว้ให้ตรงกับระบบการทำงานในรถยนต์ โดยไม่จำเป็นจะต้องมีดอกกุญแจในการไขสตาร์ทรถ เพียงแค่อยู่ใกล้ในระยะที่สัญญาณส่งถึงเท่านั้น ก็จะสามารถกดปุ่มสตาร์ทได้ทันที โดยมากจะพบกุญแจประเภทนี้ในรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เพราะมีความสะดวกสบายในการใช้งานที่มากกว่านั่นเอง
4. กุญแจรถยนต์เอฟโอบี (Key Fob)
กุญแจเอฟโอบี จะมีหลักการทำงานที่คล้ายกับแบบสมาร์ทคีย์ แต่จะมีการเพิ่งฟังก์ชันในการใช้งานใหม่ ๆ เพิ่มเข้ามา อย่างเช่น การสตาร์ทเครื่องยนต์จากระยะไกล เปิดแอร์ในรถไว้รอล่วงหน้า หรือปุ่มกดเพื่อส่งสัญญาณขโมย โดยจะมีการทำงานผ่านระบบสัญญาณวิทยุ ด้วยการเข้ารหัสไว้เพื่อป้องกันการส่งสัญญาณทับซ้อนจากกุญแจดอกอื่น และจะมีระยะที่กุญแจสามารถใช้งานด้วยเช่นกันเพื่อป้องกันการโจรกรรม
7 วิธีรับมือ เมื่อกุญแจรถหาย
หลังจากได้รู้ถึงข้อมูลกุญแจแต่ละประเภทกันไปแล้ว เรามาดูถึงวิธีในการรับมือกันบ้างดีกว่า เมื่อเกิดเหตุกุญแจรถหายขึ้นมา จะมีขั้นตอนในการรับมือปัญหาดังกล่าวอย่างไรบ้าง
1. ตั้งสติแล้วหาให้ดี
เมื่อเกิดเหตุการณ์กุญแจรถยนต์หายขึ้นมา อันดับแรกคือการตั้งสติให้ดีก่อน หลายครั้งเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น คนส่วนใหญ่มักจะเกิดอาการลนลาน และไม่พยายามนึกให้ดี ๆ ว่าจับกุญแจครั้งสุดท้ายตอนไหน หรือมีเผลอไปวางไว้ที่ไหนหรือเปล่า หากค้นหาจนทั่วแล้วไม่มีจริง ๆ ค่อยใช้วิธีอื่นในการแก้ปัญหานี้ต่อไป
2. ติดต่อคนที่บ้านเพื่อเอากุญแจสำรอง
ถ้าค้นจนทั่วแล้ว และมั่นใจว่าหายแน่ ๆ ให้รีบติดต่อคนที่บ้านเพื่อดึงกุญแจสำรองมาใช้งานทันที ซึ่งเป็นวิธีที่รวดเร็วที่สุดในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้น เพราะกุญแจสำรองที่ได้มาตอนรับรถ ก็ถูกผลิตขึ้นมาเผื่อเหตุการณ์ฉุกเฉินแบบนี้โดยเฉพาะ
3. ติดต่อศูนย์บริการรถยนต์
อีกหนึ่งวิธีที่ควรทำเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถ ก็คือการติดต่อศูนย์บริการรถยนต์หลังเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น เพื่อทำกุญแจชุดใหม่ทั้งหมดขึ้นมาใช้งานกับประตูทุกบาน ฝากระโปรงรถ และระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ เพื่อป้องกันการโจรกรรมที่อาจเกิดขึ้นจากชุดกุญแจที่หายไป
4. ติดต่อเคลมประกันรถยนต์ชั้น 1
หากมีประกันชั้น 1 ติดรถไว้ นี่ก็เป็นอีกหนึ่งข้อดีเมื่อเกิดเหตุกุญแจรถหาย เพราะประกันชั้น 1 จะให้ความคุ้มครองในการชดเชยค่าสินไหมตรงส่วนนี้ให้ โดยที่เจ้าของรถจะไม่ต้องออกค่าทำกุญแจชุดใหม่ทั้งหมดเอง จึงช่วยประหยัดเงินไปได้อีกพอสมควรเลยทีเดียว
5. ใช้บริการฉุกเฉินบนท้องถนนจากบริษัทประกันที่ทำไว้
แม้ว่าประกันชั้น 1 จะมีความคุ้มครองที่ครอบคลุมกว่า แต่สำหรับคนที่ทำประกันชั้นอื่นไว้ ส่วนใหญ่ประกันแต่ละเจ้าก็จะมีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินให้ จึงสามารถเรียกขอความช่วยเหลือในการเปิดประตูรถ ซึ่งมีข้อดีในเรื่องของความปลอดภัยที่มากกว่าการจ้างช่างนอกมาสะเดาะกุญแจ
ถ้ากุญแจรถหาย ไม่มีสำรอง ทำไงดี
ถ้ากุญแจรถหาย ไม่มีสำรอง หากมีประกันก็โทรเรียกขอความช่วยเหลือฉุกเฉินตามขั้นตอนด้านบน แต่หากไม่มีประกัน วิธีที่ปลอดภัยที่สุดก็คือการติดต่อศูนย์บริการเพื่อขอความช่วยเหลือ รวมไปถึงการทำกุญแจชุดใหม่ไว้ใช้งานเพื่อความปลอดภัยจากการโจรกรรม
กุญแจรถหาย ทำใหม่เท่าไหร่
กุญแจแต่ละประเภทจะมีค่าใช้จ่ายในการทำใหม่ที่แตกต่างกันไปตามยี่ห้อรถ และประเภทของตัวกุญแจ ซึ่งแบ่งได้คร่าว ๆ ประมาณนี้
- กุญแจรถยนต์ธรรมดา : ค่าใช้จ่ายในการทำใหม่จะอยู่ที่ 500 - 1,000 บาท
- กุญแจรถยนต์ทรานส์พอนเดอร์ : ค่าใช้จ่ายในการทำใหม่จะอยู่ที่ 1,000 - 2,000 บาท
- กุญแจรถยนต์สมาร์ทคีย์ : ค่าใช้จ่ายในการทำใหม่จะอยู่ที่ 2,000 - 5,000 บาท
- กุญแจรถยนต์เอฟโอบี : ค่าใช้จ่ายในการทำใหม่จะอยู่ที่ 5,000 ขึ้นไป
สรุปบทความ กุญแจรถหาย ควรทำอย่างไรดี
เห็นกันแล้วใช่ไหมว่า กุญแจรถหายที่ดูเป็นเรื่องไม่ค่อยจะสำคัญสักเท่าไหร่ แต่พอเกิดเหตุการณ์จริงขึ้นมา ก็ทำเอาเสียเวลากันไปพอสมควร เพราะถ้าหากเป็นการใช้รถในการเดินทางท่องเที่ยว ปัญหานี้ก็อาจจะไม่ได้น่าเสียอารมณ์สักเท่าไหร่ แต่หากเป็นการใช้รถเดินทางไปทำธุระ หรือติดต่องานขึ้นมาละก็ ปัญหานี้ก็เรียกได้ว่าเสียหายหลายแสนเลยทีเดียว จึงไม่ควรอย่างยิ่งที่จะปล่อยให้เหลือกุญแจเพียงดอกเดียวไว้ใช้งาน แต่เราเข้าใจดีว่าภาระค่าใช้จ่ายในการดูแลรถนั้นก็ไม่น้อย ไหนจะค่าเปลี่ยนยาง เปลี่ยนถ่ายของเหลว ซ่อมแซมชิ้นส่วนที่สึกหรอต่าง ๆ จนทำเอาเงินในกระเป๋าแทบฉีก
การมีตัวช่วยที่ตอบโจทย์การหมุนเวียนเงินไว้ใช้จ่ายสำหรับคนมีรถอย่าง KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน ที่ให้วงเงินก้อนใหญ่ สมัครง่าย ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก มีบริการพี่เบิ้ม Delivery พร้อมเดินทางไปตรวจสอบสภาพรถถึงที่หน้าบ้าน อนุมัติไว รับเงินทันที โดยไม่ต้องมีคนค้ำ พร้อมผ่อนได้นานสูงสุด 84 เดือน คืออีกหนึ่งทางเลือกสุดตอบโจทย์ของคนอยากได้เงินก้อนแบบทันใจ และยังสามารถเลือกรับบัตรกดเงินสด KTC พี่เบิ้ม สำหรับใช้เงินฉุกเฉิน กดฟรีไม่มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม
สมัคร KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน แบบไม่มีคนค้ำ
วงเงินใหญ่ รู้ผลไว รับเงินก้อนทันที
*กรุณาศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ก่อนทำการสมัคร*
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ และธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด*
*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ย 21% - 24% ต่อปี*