โปรโมชั่น 
บริการท่องเที่ยว
ช้อปสินค้าออนไลน์
เข้าสู่ระบบ
รวมเรื่องที่ควรรู้กับการจดทะเบียนพาณิชย์ออนไลน์
ในปัจจุบัน ช่องทางออนไลน์ได้กลายเป็นสื่อหลักที่ทุกคนเลือกเสพ ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ฟังเพลง หรือแม้แต่การเลือกซื้อสินค้าตามที่ต้องการ เพราะมีความสะดวกสบายในการใช้งานเป็นอย่างมาก เมื่อเทียบกับวิธีเดิม ๆ เมื่อก่อน จึงทำให้การซื้อขายของบนโลกออนไลน์นั้นเติบโตขึ้นอย่างมหาศาลในช่วงหลายปีมานี้ รวมไปถึงจำนวนร้านค้าออนไลน์ก็เพิ่มมากขึ้นกว่าแต่ก่อน แต่ในหลาย ๆ ครั้งผู้ซื้อก็มักจะเกิดความลังเลในการซื้อ เพราะไม่รู้ว่าร้านไหนขายของแท้ และมีตัวตนจริง ๆ ที่เชื่อถือได้ ไม่ใช่ร้านที่มีแต่หน้าร้าน แต่ไม่มีสินค้าขายอยู่จริง และหลอกให้โอนเงินไปฟรี ๆ นี่จึงเป็นสาเหตุที่ว่า ทำไมการจดทะเบียนพาณิชย์ออนไลน์ ถึงมีความสำคัญสำหรับคนที่ค้าขายออนไลน์เป็นอย่างมาก เราขออาสาพาไปทำความเข้าใจกัน
เลือกอ่านตามหัวข้อ
ทำความรู้จักการจดทะเบียนพาณิชย์ออนไลน์
การจดทะเบียนการค้าออนไลน์ คือการยืนยันตัวตนในการทำธุรกิจบนแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อใช้ยืนยันว่าเป็นธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย มีตัวตนอยู่จริง และมีสำนักงานที่ติดต่อได้ จึงมีความน่าเชื่อถือมากกว่าธุรกิจที่ไม่ได้ดำเนินการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เพราะแพลตฟอร์มออนไลน์ส่วนใหญ่ สามารถสร้างหน้าร้านเสมือนจริงได้ง่าย จึงเป็นเรื่องยากของผู้บริโภคที่จะแยกได้ว่าร้านไหนมีตัวตนจริง และร้านไหนไม่มีตัวตนอยู่จริงนั่นเอง
เครื่องหมายจดทะเบียนพาณิชย์ออนไลน์มีกี่แบบ
เครื่องหมายจดทะเบียนพาณิชย์ออนไลน์ จะแบ่งได้เป็น 2 แบบ ซึ่งก็คือ เครื่องหมาย DBD Registered และ DBD Verified ที่มีความแตกต่างในการรับรอง ดังนี้
- DBD Registered : เครื่องหมายนี้เป็นการรับรองว่าบุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคลได้ยื่นจดทะเบียนร้านค้าออนไลน์กับทางกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
- DBD Verified : เครื่องหมายนี้จะถูกออกให้กับร้านค้าออนไลน์ที่ยื่นจดทะเบียนการค้าออนไลน์ผ่านแล้วเท่านั้น โดยจะเป็นการใช้รับรองความน่าเชื่อถือในการดำเนินธุรกิจ ด้วยการผ่านเกณฑ์การประเมินคุณภาพมาตรฐานในธุรกิจ E-commerce ซึ่งจะมีแบ่งออกเป็นอีก 3 ระดับ ก็คือ Silver Gold และ Platinum
DBD Verified แต่ละระดับต่างกันอย่างไร
- Silver : เป็นการรับรองความน่าเชื่อถือในระดับดี โดยจะออกให้บุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคลที่ได้จดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ทะเบียนการค้า และจะต้องได้รับเครื่องหมาย DBD Registered แล้วเท่านั้น
- Gold : เป็นการรับรองความน่าเชื่อถือในระดับดีมาก โดยจะออกให้เฉพาะนิติบุคคล ที่จดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่น้อยกว่า 1 ปี และต้องมีการส่งงบการเงินไม่ต่ำกว่า 1 ปีเช่นกัน อีกทั้งยังต้องผ่านเกณฑ์มาตรฐานในการดำเนินธุรกิจ E-commerce
- Platinum : เป็นการรับรองความน่าเชื่อถือในระดับดีเด่น โดยจะออกให้เฉพาะนิติบุคคล ที่จดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่น้อยกว่า 2 ปี และต้องมีการส่งงบการเงินไม่ต่ำกว่า 2 ปีร่วมด้วย อีกทั้งยังต้องผ่านเกณฑ์มาตรฐานในการดำเนินธุรกิจ E-commerce รวมไปถึงคุณสมับติอื่น ๆ อย่างการประกวดรางวัลเว็บไซต์ที่จัดโดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
ข้อดีของการจดทะเบียนพาณิชย์ออนไลน์
เมื่อพูดถึงการจดเทียนพาณิชย์ออนไลน์ ความน่าเชื่อถืออาจจะเป็นข้อดีที่หลายคนนึกถึงมากที่สุด แต่ในความเป็นจริงแล้วยังมีข้อดีในส่วนอื่น ที่จะช่วยให้ธุรกิจของผู้ที่ยื่นจดทะเบียนเติบโตได้มากขึ้นกว่าเดิมเช่นกัน จะมีอะไรบ้าง เรามาดูกันดีกว่า
เพิ่มความน่าเชื่อถือให้ธุรกิจ
สิ่งแรกที่เราได้พูดกันไปหลายรอบแล้วก็คือ ความน่าเชื่อถือทางธุรกิจ การจดทะเบียนพาณิชย์บุคคลธรรมดา ออนไลน์ หรือแบบนิติบุคคล เป็นการยืนยันตัวตนให้ผู้บริโภคได้รับรู้ว่า ร้านค้าออนไลน์ที่เราดำเนินกิจการอยู่นั้น มีการขึ้นทะเบียนในการทำธุรกิจจริง มีตัวตน และสำนักงานอยู่จริง ไม่ได้เป็นร้านค้าหลอกที่ไม่ได้มีสินค้า หรือบริการให้จำหน่าย
โอกาสเผยแพร่ธุรกิจคุณในเว็บกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
ธุรกิจทั้งหมดที่ทำการจดทะเบียนร้านค้าออนไลน์ จะถูกนำมาจัดทำฐานข้อมูลแยกตามประเภทของธุรกิจ และมีโอกาสที่จะถูกนำไปเผยแพร่ผ่านสื่อต่าง ๆ ซึ่งเป็นการสร้างการรับรู้ในตัวแบรนด์ หรือสินค้าในวงกว้างได้มากขึ้น
สามารถอัปเกรดเป็นเครื่องหมาย DBD Verified ได้
นอกจากการรับรองความน่าเชื่อถือแล้ว เครื่องหมายอีกตัวอย่าง DBD Verified จะถูกออกให้กับร้านค้าออนไลน์ ที่ผ่านเกณฑ์ในการดำเนินธุรกิจ E-commerce เพิ่มเข้าไปอีก โดยจะมีเกณฑ์การพิจารณาจากการส่งงบการเงิน การเข้าประกวดโครงการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นภายใต้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และต้องเป็นร้านที่จดทะเบียนพาณิชย์ออนไลน์ตามระยะเวลาที่กำหนดเท่านั้น ซึ่งจะเป็นเหมือนตรารับรองในด้านคุณภาพที่มากกว่าแค่ความน่าเชื่อถือนั่นเอง
กลุ่มธุรกิจที่ต้องจดทะเบียนพาณิชย์ออนไลน์
หลายคนอาจเกิดความสงสัย ว่าต้องทำธุรกิจแบบไหนถึงจะเข้าข่ายการจดทะเบียนพาณิชย์ออนไลน์ สามารถแบ่งออกได้ทั้งหมด ดังนี้
- การซื้อขายสินค้า หรือบริการผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ (ร้านค้าออนไลน์)
- การให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP)
- การเป็นตัวกลางในการขายสินค้า และบริการออนไลน์ (E-Marketplace)
- การให้บริการรับฝากเว็บไซต์ (Web Hosting)
7 ขั้นตอนจดทะเบียนพาณิชย์ออนไลน์
ใครที่ยังไม่รู้ว่ายื่นจดทะเบียนที่ไหน และต้องทำอย่างไรบ้าง มาทำตามขั้นตอนด้านล่างนี้ได้เลย
1. แจ้งความจำนงผ่านเว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
2. ขอแบบ ทพ. หรือเอกสารที่ต้องใช้ในการยื่นคำขอจดเทียนพาณิชย์
3. กรอกรายละเอียดเกี่ยวกับเว็บไซต์ หรือแพลตฟอร์มที่ทำธุรกิจบนเอกสาร ทพ. (1 ใบ ต่อ 1 แพลตฟอร์ม)
4. พิมพ์เอกสารที่กรอกไว้จากหน้าแรกเว็บไซต์
5. วาดภาพแผนที่ตั้งกิจการในการชี้แจงรายละเอียด
6. หากเป็นการจดในนามนิติบุคคล จะต้องเตรียมหนังสือรับรองในการขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วน หรือบริษัทเพิ่มเติมด้วย
7. หากเป็นกรณีมอบอำนาจ จะต้องมีหนังสือมอบอำนาจควบคู่กับสำเนาบัตรประชาชนมายื่นด้วย
สรุปบทความ รวมเรื่องที่ควรรู้กับการจดทะเบียนพาณิชย์ออนไลน์
เห็นกันแล้วใช่ไหมว่า การยื่นจดทะเบียนพาณิชย์ออนไลน์นั้นมีแต่ข้อดีเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความน่าเชื่อถือ การการันตีคุณภาพของสินค้า และมาตรฐานในการดำเนินธุรกิจร่วมด้วยแล้ว ยังเป็นการเปิดโอกาสในการเข้าถึงตลาดที่กว้างขึ้น ผ่านการมีรายชื่ออยู่ในทะเบียนพาณิชย์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าอีกด้วย ใครที่มีร้านค้าออนไลน์ แต่ยังไม่ได้จดทะเบียน ต้องรีบศึกษาทำความเข้าใจแล้วไปจดทะเบียนกันได้แล้ว แต่สำหรับใครที่กำลังมีปัญหาทางธุรกิจ และกำลังต้องการเงินทุนมาหมุนเวียนหรือต่อยอดธุรกิจ
หากคุณมีรถไว้ใช้งาน และต้องการเงินก้อนฉุกเฉิน ให้ KTC พี่เบิ้มรถแลกเงินดูแลคุณดีกว่า เพราะเรามีวงเงินก้อนใหญ่ สมัครง่าย อนุมัติไว ไม่มีขั้นตอนที่ยุ่งยาก มีบริการพี่เบิ้ม Delivery พร้อมเดินทางไปตรวจสอบสภาพรถถึงที่หน้าบ้าน รับเงินได้ทันที โดยไม่ต้องมีคนค้ำ พร้อมให้ผ่อนชำระได้นานสูงสุด 84 เดือน ตอบโจทย์คนต้องการเงินทุนหมุนเวียนได้อย่างทันใจ และยังสามารถเลือกรับบัตรกดเงินสด KTC พี่เบิ้ม สำหรับใช้เงินฉุกเฉิน กดฟรีไม่มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม
สมัคร KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน ไม่ต้องมีคนค้ำ
รู้ผลไว รับเงินทันที พร้อมผ่อนนาน 84 เดือน
*กรุณาศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ก่อนทำการสมัคร*
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ และธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด*
*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ย 21% - 24% ต่อปี*
