การแต่งงานเป็นก้าวสำคัญในชีวิตที่หลายคู่รักใฝ่ฝัน แต่ค่าใช้จ่ายในการจัดงานแต่งงาน ก็อาจสูงเกินกว่าที่หลายคนจะเก็บเงินได้ทัน จึงทำให้หลายคู่ต้องพิจารณาถึงการกู้เงินเพื่อจัดงานแต่งในฝัน แต่การหาเงินแต่งงานจากการกู้นั้นเป็นทางเลือกที่ดีจริงหรือไม่ แล้วมีสินเชื่อแต่งงานให้กู้ยืมบ้างไหม ใครที่กำลังคิดไม่ตกในเรื่องนี้อยู่ เดี๋ยวันนี้ KTC เราจะมาชี้แจ้งรายละเอียดต่าง ๆ พร้อมกับจุดที่ต้องคิดเผื่อก่อนวางแผนแต่งงานให้เอง
เลือกอ่านตามหัวข้อ
กู้เงินแต่งงาน ดีไหม
หากจะถามว่าการกู้เงินแต่งงานดีไหม ก็อาจจะตอบได้ไม่ชัดเจนเท่าไหร่นัก เพราะแต่ละคู่ก็มีความพร้อมในชีวิต รวมไปถึงรายได้ที่ไม่เท่ากัน แต่เราจะมาชี้ให้เห็นถึงข้อดี และข้อเสียคร่าว ๆ ดังนี้
ข้อดี
- สามารถจัดงานแต่งงานในฝันได้โดยไม่ต้องรอเก็บเงิน
- มีเงินทุนเพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายต่างๆ ในงาน
- ไม่ต้องกังวลเรื่องเงินขาดมือระหว่างเตรียมงาน
ข้อเสีย
- เริ่มต้นชีวิตคู่ด้วยภาระหนี้สิน
- ต้องผ่อนชำระหนี้เป็นระยะเวลานาน
- อาจกระทบต่อแผนการเงินในอนาคต เช่น การซื้อบ้าน
แต่งงานใช้เงินเท่าไหร่
ก่อนจะตัดสินใจกู้เงินแต่งงาน สิ่งสำคัญคือต้องประมาณการค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้ชัดเจน เพื่อให้รู้ว่าต้องกู้เงินเท่าไหร่จึงจะเพียงพอ โดยค่าใช้จ่ายหลัก ๆ ในการจัดงานแต่งงานมักแบ่งตามขนาดของงาน ดังนี้
งานแต่งขนาดเล็ก
สำหรับงานแต่งขนาดเล็กที่มีแขกไม่เกิน 100 คน ค่าใช้จ่ายโดยประมาณมักอยู่ที่ 100,000 - 300,000 บาท ซึ่งครอบคลุมค่าสถานที่จัดงาน ค่าอาหารและเครื่องดื่ม ค่าชุดแต่งงาน ค่าแต่งหน้าทำผม ค่าถ่ายภาพ/วิดีโอ ค่าดอกไม้ และการตกแต่งสถานที่ รวมถึงค่าของชำร่วย
งานแต่งขนาดกลาง
สำหรับงานแต่งขนาดกลางที่มีแขก 100-300 คน ค่าใช้จ่ายโดยประมาณอยู่ที่ 300,000 - 700,000 บาท ซึ่งนอกจากรายการค่าใช้จ่ายของงานขนาดเล็กแล้ว ยังอาจรวมถึงค่าวงดนตรีหรือนักร้อง ค่าพิธีกร ค่าเช่าอุปกรณ์ต่าง ๆ เพิ่มเติม เช่น เวที แสง สี เสียง และค่าใช้จ่ายในการถ่าย pre-wedding
งานแต่งขนาดใหญ่
สำหรับงานแต่งขนาดใหญ่ที่มีแขกมากกว่า 300 คนขึ้นไป ค่าใช้จ่ายในการแต่งงานอาจสูงถึง 700,000 บาทขึ้นไปจนถึงหลักล้าน ซึ่งนอกจากรายการค่าใช้จ่ายของงานขนาดกลางแล้ว ยังอาจรวมถึงค่าเช่าสถานที่จัดงานขนาดใหญ่ ค่าจ้างบริษัทจัดงานแต่งงานมืออาชีพ และค่าใช้จ่ายในการจัดงานเลี้ยงฉลองเพิ่มเติม
ค่าใช้จ่ายแฝงในการแต่งงาน
นอกจากค่าใช้จ่ายหลักในการจัดงานแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายแฝงอื่น ๆ ที่คู่บ่าวสาวควรคำนึงถึง เช่น
- เงินสินสอด : ขึ้นอยู่กับการตกลงระหว่างสองครอบครัว อาจตั้งแต่หลักหมื่นจนถึงหลักล้าน
- ค่าช่างภาพ : ราคาแพ็กเกจถ่ายภาพแต่งงานอาจสูงถึง 50,000 - 100,000 บาท สำหรับช่างภาพมืออาชีพ
- ค่าช่างแต่งหน้าทำผม : อาจมีค่าใช้จ่ายประมาณ 5,000 - 20,000 บาท ขึ้นอยู่กับฝีมือและชื่อเสียง
- ค่าชุดแต่งงาน : ราคาเช่าหรือตัดชุดอาจอยู่ที่ 10,000 - 100,000 บาทขึ้นไป
- ค่าของชำร่วย : ขึ้นอยู่กับจำนวนแขกและประเภทของชำร่วย อาจมีค่าใช้จ่าย 10,000 - 50,000 บาท
- ค่าถ่ายพรีเวดดิ้ง : แพ็กเกจถ่ายพรีเวดดิ้งอาจมีราคาตั้งแต่ 10,000 - 100,000 บาท
วางแผนกู้เงินแต่งงานอย่างไรให้เหมาะสม
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การกู้เงินแต่งงานนั้นเป็นการสร้างภาระหนี้สินก้อนใหญ่ ดังนั้น จึงควรวางแผนอย่างรอบคอบเพื่อให้สามารถรับมือกับภาระหนี้ได้ในอนาคต และนี่คือสิ่งที่ควรวางแผนตั้งแต่เนิ่น ๆ ในการจัดงานแต่งงาน
กำหนดวันแต่งงานให้ลงตัว
ควรกำหนดวันแต่งงานล่วงหน้าอย่างน้อย 1-2 ปี เพื่อให้มีเวลาเพียงพอในการวางแผนการเงิน และหาเงินแต่งงานให้ทัน เพราะการมีระยะเวลาเตรียมตัวที่นานพอ จะทำให้ไม่ต้องกู้เงินก้อนใหญ่จนเกินตัว
ตั้งเป้าหมายเพื่อเก็บออมเงิน
หลังจากกำหนดวันแต่งงานแล้ว ควรประมาณการค่าใช้จ่ายทั้งหมด และตั้งเป้าหมายการออมเงินรายเดือน โดยแบ่งภาระการออมระหว่างคู่บ่าวสาวอย่างเหมาะสม ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีในการเก็บเงินถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องกู้เงินเยอะ
กู้เงินแต่งงานเท่าที่จำเป็น
หลังจากเก็บออมได้ระยะหนึ่งแล้ว ให้ประเมินว่ายังขาดเงินอีกเท่าไหร่ และกู้เฉพาะส่วนที่ขาดเท่านั้น ไม่ควรกู้เกินความจำเป็น เพื่อไม่ให้เป็นภาระหนักเกินไปในอนาคต ซึ่งควรพิจารณาปรับลดค่าใช้จ่ายบางส่วนหากจำเป็น เพื่อลดจำนวนเงินที่ต้องกู้ในการจัดงานแต่ง
วิธีเก็บเงินแต่งงานให้ถึงเป้าหมายไวขึ้น
วิธีเก็บเงินแต่งงานให้ถึงเป้าหมายได้ไว ควรเริ่มจากการลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลง เช่น การรับประทานอาหารนอกบ้าน หรือการซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยต่าง ๆ และพยายามหารายได้เสริม อย่างการทำอาชีพที่สอง หรือขายของออนไลน์ ก็เป็นอีกวิธีที่ดีในการหาเงินแต่งงาน หรือหากจะเข้มงวดกับตัวเองสักหน่อย ก็เลือกหักเงินออกมาเก็บออมจากเงินเดือนทุกเดือนเลยยิ่งดี
สรุปบทความ มีงบไม่พอจัดงานแต่ง ควรกู้เงินแต่งงาน ดีไหม
ถึงแม้ว่าการกู้เงินแต่งงาน จะทำให้ได้จัดงานแต่งงานในฝันได้เร็วขึ้น แต่ก็ต้องไม่ลืมวางแผนเรื่องงานเงินให้รอบคอบ เพราะชีวิตคู่ที่เริ่มต้นด้วยการเป็นหนี้คงไม่ใ่ช่เรื่องดีแน่ แต่หากจำเป็นจะต้องหาเงินแต่งงานจริง ๆ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี เพราะมีวงเงินก้อนใหญ่ สมัครง่าย ไม่ยุ่งยาก และยังมีบริการ พี่เบิ้ม Delivery ในการเดินทางไปประเมินสภาพรถถึงหน้าบ้าน แบบอนุมัติไว รับเงินก้อนได้ทันที โดยไม่ต้องมีคนค้ำประกัน แถมยังผ่อนได้นานสูงสุด 84 เดือน พร้อมเลือกรับบัตรกดเงินสด KTC พี่เบิ้มไว้ใช้จ่ายฉุกเฉินได้อย่างอุ่นใจ หากไม่กดใช้ก็ไม่เสียดอกเบี้ยแต่อย่างใด
*กรุณาศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ก่อนทำการสมัคร*
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ และธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด*
*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ย 21%-24% ต่อปี*