สืบเนื่องจากรัฐบาลเปิดโอกาสให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ได้ลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า และค่าน้ำประปา 1 ครัวเรือนต่อ 1 สิทธิ์ต่อ 1 รหัสประจำบ้าน โดยผู้ที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติตามโครงการแล้ว จะต้องทำการยืนยันตัวตนให้เรียบร้อย และลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิ์ลดค่าไฟ/ค่าไฟฟ้าฟรีกับหน่วยงานผู้ให้บริการเพียงหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งเท่านั้น
ช่องทางการลงทะเบียนลดค่าไฟ/ค่าไฟฟ้าฟรี เงื่อนไขต่างๆ สำหรับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
- สำนักงานการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) หรือผ่านเว็บไซต์ https://meagate1.mea.or.th/welfareregis หรือโทร 1130
- สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) หรือผ่านเว็บไซต์ https://welfareregis.pea.co.th หรือโทร 1129
- กิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ (กทร.) หรือผ่านเว็บไซต์ https://sea.co.th หรือโทร 086 848 1284
วิธีลงทะเบียนขอลดค่าไฟฟ้า 2567
- เข้าเว็บไซต์ การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) หรือ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) หรือ กิจการไฟฟ้า สวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ (กทร.)
- กรอกข้อมูลรหัสเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้า (เลขมิเตอร์ไฟฟ้า) ที่ต้องการเข้าร่วมโครงการ (เฉพาะหมายเลข 8 หลัก)
- กรอกบัญชีแสดงสัญญา (เฉพาะหมายเลข 9 หรือ 10 หลัก)
- กรอกชื่อ-นามสกุล (ระบบจะค้นหาข้อมูลจากรหัสเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้า)
- กรอกที่อยู่ (ระบบจะค้นหาข้อมูลจากรหัสเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้า)
- กรอกหมายเลขบัตรประชาชนตามที่ระบุในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
- เบอร์โทรศัพท์ของผู้ลงทะเบียน
- กรอก E-mail ของผู้ลงทะเบียน
- กดปุ่มลงทะเบียน
เงื่อนไขการรับสิทธิ์ส่วนลดค่าไฟ/ค่าไฟฟ้าฟรีจากการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.)
- ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 50 หน่วยต่อเดือน ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 3 เดือน จะได้รับสิทธิ์ค่าไฟฟ้าฟรีตามมาตรการที่มีอยู่ในปัจจุบัน
- ใช้ไฟฟ้าเกิน 50 หน่วยต่อเดือน แต่ไม่เกิน 315 บาท จะได้รับการสนับสนุนค่าไฟฟ้าในวงเงินไม่เกิน 315 บาท ต่อครัวเรือนต่อเดือน ภายใต้มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (ใบแจ้งค่าไฟฟ้าจะแสดงยอดเงินเป็น 0 บาท)
- ใช้ไฟฟ้าเกิน 315 บาท ต่อครัวเรือนต่อเดือน ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นผู้รับภาระค่าไฟฟ้าทั้งหมด
เงื่อนไขการรับสิทธิ์ส่วนลดค่าไฟ/ค่าไฟฟ้าฟรีจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.)
- ผู้ได้รับสิทธิ์สวัสดิการแห่งรัฐต้องลงทะเบียนกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เพื่อขอรับสิทธิ์ช่วยเหลือค่าไฟฟ้าไม่เกิน 315 บาท/เดือน/ครัวเรือน/สิทธิ์
- การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จะดำเนินการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าตามสถานที่ใช้ไฟฟ้าที่ได้ลงทะเบียนไว้และเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังกำหนด
- หากใช้ไฟฟ้าจำนวนเงินเกินกว่า 315 บาท/เดือน จะไม่ได้รับสิทธิ์และต้องชำระค่าไฟฟ้าภายในระยะเวลาที่กำหนด
- กรณีลงทะเบียนกับการใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัย ที่ติดตั้งมิเตอร์ไม่เกิน 5 แอมป์ และไม่เป็นนิติบุคคล หากใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 50 หน่วยต่อเดือน ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 3 เดือน จะได้รับสิทธิ์ค่าไฟฟ้าฟรี 50 หน่วย ตั้งแต่ค่าไฟฟ้าประจำเดือนพฤษภาคม 2566 เป็นต้นไป
ลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว จะได้รับสิทธิ์ส่วนลดค่าไฟ/ค่าไฟฟ้าฟรีเมื่อไหร่?
ในกรณีลงทะเบียนรับสิทธิ์ส่วนลดค่าไฟฟ้ากับ กฟน. หรือ กฟภ. หรือ กทร. สำเร็จภายในวันสิ้นเดือน จะได้รับสิทธิ์ครั้งแรก สำหรับใบแจ้งหนี้ค่าบริการรอบถัดไปตามเงื่อนไขที่กำหนด และจะไม่ได้รับสิทธิ์ย้อนหลัง ดังนี้
ช่วงเวลาการลงทะเบียน |
ใบแจ้งหนี้ค่าบริการที่ได้รับสิทธิค่าไฟฟ้าครั้งแรก |
1 - 30 มีนาคม 2567 |
เดือนพฤษภาคม 2567 |
1 - 30 เมษายน 2567 |
เดือนมิถุนายน 2567 |
1 - 31 พฤษภาคม 2567 |
เดือนกรกฎาคม 2567 |
ช่องทางลงทะเบียนขอลดค่าน้ำ สำหรับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
- สำนักงานการประปานครหลวง (กปน.) หรือผ่านเว็บไซต์ https://eservicesapp.mwa.co.th/ES/MWAWelfareServlet หรือโทร 1125
- สำนักงานการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) หรือผ่านเว็บไซต์ https://register.pwa.co.th/welfare-register.html หรือโทร 1662
วิธีลงทะเบียนรับสิทธิ์ลดค่าน้ำประปา 2567
- เข้าเว็บไซต์ การประปานครหลวง หรือ การประปาส่วนภูมิภาค
- กรอกข้อมูลให้ครบถ้วน ชื่อ-นามสกุล ของผู้ลงทะเบียน (ตามบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ)
- กรอกหมายเลขบัตรประชาชนของผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของผู้ลงทะเบียน
- กรอก E-mail ของผู้ลงทะเบียน (ถ้ามี)
- กรอกเบอร์โทรศัพท์ของผู้ลงทะเบียน (ถ้ามี)
- เลือกสาขาของบ้านที่จะใช้สิทธิ์สวัสดิการ
- กรอกเลขที่ผู้ใช้น้ำเลขที่ผู้ใช้น้ำของบ้านที่จะใช้สิทธิ์สวัสดิการ
- เลือกรูปภาพที่ปรากฏให้ถูกต้อง
- คลิกที่ปุ่ม “ตกลง”
เงื่อนไขการรับสิทธิ์ส่วนลดค่าน้ำจากการประปานครหลวง (กปน.)
ใบแจ้งค่าน้ำประปาที่มีการใช้น้ำประปาประจำเดือนไม่เกิน 315 บาท
- หากมีการใช้น้ำประปาไม่เกิน 100 บาท จะได้รับการสนับสนุนวงเงินค่าน้ำประปาตามจำนวนค่าน้ำประปาที่ใช้จริง
- หากมีการใช้น้ำประปาเกิน 100 บาท แต่ไม่เกิน 315 บาท จะได้รับการสนับสนุนวงเงินค่าน้ำประปาจำนวน 100 บาท
- หากมีการใช้น้ำประปาเกิน 315 บาท จะไม่ได้รับการสนับสนุนวงเงินค่าน้ำประปา
เงื่อนไขการรับสิทธิ์ส่วนลดค่าน้ำจากการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.)
- ได้รับการสนับสนุนในใบแจ้งค่าน้ำประปาวงเงินไม่เกิน 100 บาท ต่อครัวเรือนต่อเดือน (ตามจำนวนที่ใช้จริง)
- กรณีใช้น้ำประปาเกิน 100 บาท แต่ไม่เกิน 315 บาท จะได้รับการสนับสนุนค่าน้ำประปาในวงเงิน 100 บาท และจะต้องชำระส่วนที่เกิน 100 บาท ด้วยตนเอง
- กรณีใช้น้ำประปาเกิน 315 บาท จะไม่ได้รับเงินสนับสนุนค่าน้ำประปา
ลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว จะได้รับสิทธิ์ส่วนลดค่าน้ำเมื่อไหร่?
ในกรณีลงทะเบียนรับสิทธิ์ส่วนลดค่าน้ำประปากับ กปน. หรือ กปภ. สำเร็จภายในวันที่ 25 ของแต่ละเดือน จะได้รับสิทธิ์ครั้งแรกสำหรับใบแจ้งหนี้ค่าบริการรอบถัดไปตามเงื่อนไขที่กำหนด โดยจะไม่ได้รับสิทธิ์ย้อนหลัง ดังนี้
ช่วงเวลาการลงทะเบียน |
ใบแจ้งหนี้ค่าบริการที่ได้รับสิทธิ์ค่าไฟฟ้าครั้งแรก |
26 กุมภาพันธ์ - 25 มีนาคม 2567 |
เดือนพฤษภาคม 2567 |
26 มีนาคม - 25 เมษายน 2567 |
เดือนมิถุนายน 2567 |
26 เมษายน - 25 พฤษภาคม 2567 |
เดือนกรกฎาคม 2567 |
เทคนิคประหยัดไฟ ตั้งอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศ 27 องศาเซลเซียส แล้วเปิดพัดลมเบอร์เบาๆ ไปพร้อมกัน ช่วยให้กระจายความเย็นทั่วถึง
แนะนำวิธีลดค่าไฟง่ายๆ ด้วยตนเอง
การประหยัดพลังงานไฟฟ้าเป็นวิธีที่ดีในการช่วยลดรายจ่ายประจำเดือนได้ เพียงแค่เราปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ไฟเล็กๆ น้อยๆ ก็ช่วยให้ค่าไฟฟ้าในบ้านลดลงได้แล้ว และนี่คือตัวอย่าง วิธีลดค่าไฟด้วยตนเอง
- เลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 เช่น เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น เครื่องทำน้ำอุ่น เครื่องซักผ้า หม้อหุงข้าว โทรทัศน์ เพราะเป็นระดับประหยัดไฟสูงสุด
- ตั้งอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศที่ 25 - 27 องศาเซลเซียส และควรเปิดใช้เฉพาะเมื่ออยู่ในห้อง และควรปิดก่อนออกจากห้องประมาณ 1 ชั่วโมง ก็จะช่วยประหยัดค่าไฟได้แล้ว
- เปลี่ยนมาใช้หลอด LED ประหยัดพลังงาน เพราะกินไฟน้อยกว่า แถมยังให้แสงสว่างมากกว่าหลอดไฟแบบธรรมดา และมีอายุการใช้งานที่มากกว่าด้วย
- เปิดหน้าต่างรับลมและแสงแดดจากธรรมชาติ เพื่อช่วยลดความจำเป็นในการเปิดพัดลมหรือเครื่องปรับอากาศ รวมถึงลดการใช้หลอดไฟในตอนกลางวัน
- ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้า และถอดปลั๊กเมื่อไม่ได้ใช้งาน โดยเฉพาะปลั๊กชาร์จโทรศัพท์มือถือ และปลั๊กโทรทัศน์
- ตรวจสอบเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านอย่างสม่ำเสมอ หากพบการชำรุดควรรีบซ่อมแซม เพราะนอกจากจะป้องกันอันตรายได้แล้ว ยังอาจมีการรั่วไหลของกระแสไฟฟ้า ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าสูงขึ้นโดยไม่รู้ตัวได้
ข้อดีของการใช้บัตรเครดิตในการจ่ายค่าไฟ
- สะดวกสบาย จ่ายออนไลน์ได้ทุกที่ ทุกเวลา
- ปลอดภัย ปัจจุบันมีบัตรเครดิต KTC DIGITAL เมื่อใช้จ่ายออนไลน์จะปลอดภัยมากขึ้น เพราะมี Dynamic CVV เลขหลังบัตรที่เปลี่ยนทุกครั้งที่ขอและใช้ได้ภายใน 24 ชั่วโมง อีกทั้งยังเป็นบัตรแบบไร้หมายเลข ไร้แถบแม่เหล็ก หมดกังวลเรื่องการโจรกรรมข้อมูลเมื่อใช้จ่ายที่ร้านค้าทั่วไป
- มีเงินสดไว้สำหรับหมุนเวียน เพียงแค่จ่ายค่าไฟด้วยบัตรเครดิต ก็สามารถนำเงินสดส่วนนั้นมาใช้จ่ายเพื่อจุดประสงค์อื่นๆ ก่อนได้ จึงช่วยบริหารสภาพคล่องทางการเงินได้ดีขึ้น
- ผ่อนจ่ายได้ในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0.74% นานสูงสุด 10 เดือน
- ช่วยสร้างประวัติเครดิตที่ดี เพราะเมื่อใช้จ่ายบัตรเครดิตเป็นประจำและจ่ายชำระหนี้ได้ตามกำหนด จะทำให้คะแนนเครดิตบูโร ส่งผลดีต่อการกู้สินเชื่อในอนาคต
หากพูดถึงบัตรเครดิตที่มีสิทธิประโยชน์สำหรับการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน รวมถึงค่าสาธารณูปโภคต่างๆ บัตรเครดิต KTC นับว่าเป็นบัตรเครดิตที่ตอบโจทย์ การใช้จ่าย อีกทั้งมีบัตรเครดิตให้เลือกหลายประเภท เข้ากับทุกไลฟ์สไตล์ และสำหรับท่านใดที่ต้องการสมัครบัตรเครดิตที่คุ้มค่า สามารถสมัครบัตรเครดิต KTC ออนไลน์ได้ง่ายๆ ตลอด 24 ชั่วโมง
ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC