15 วิธีดูแลตัวเองแบบง่าย ๆ ที่คุณก็ทำได้ เพื่อสุขภาพที่ดีทั้งร่างกายและจิตใจ
ลองนึกภาพว่าถ้าคุณมีสุขภาพแข็งแรง จิตใจสดชื่นจะส่งผลดีต่อชีวิตของคุณมากแค่ไหน? แน่นอนว่าคุณจะมีทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีสมาธิ ใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจ มีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข เพราะฉะนั้นในบทความนี้ เราจะมาแนะนำ 15 วิธีดูแลตัวเองง่าย ๆ ที่ไม่ว่าใครก็สามารถทำได้ เพื่อสุขภาพกายและสุขภาพใจที่ดีแบบยั่งยืน
เลือกอ่านตามหัวข้อ
ข้อดีของการดูแลตัวเอง
การดูแลตัวเองให้ดีนั้นส่งผลดีต่อชีวิตของเราหลายด้าน ทั้งด้านสุขภาพกาย สุขภาพจิต และประสิทธิภาพในการทำงาน เมื่อเราเริ่มดูแลตัวเอง มีการดูแลรักษาสุขภาพ ร่างกายก็จะแข็งแรง จิตใจผ่อนคลาย ช่วยให้มีพลังงานเพียงพอที่จะขับเคลื่อนชีวิตและทำในสิ่งที่อยากทำได้อย่างเต็มที่ สามารถบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้การดูแลสุขภาพของตัวเองยังช่วยเสริมสร้างความมั่นใจ ทำให้ใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขและสามารถรับมือกับปัญหาอุปสรรคได้
แนะนำ 15 วิธีดูแลตัวเอง สร้างสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดีแบบยั่งยืน
1. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
การวางแผนเพื่อดูแลตัวเองควรเริ่มจากการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ได้แก่ ผักและผลไม้ซึ่งให้วิตามิน เกลือแร่ และใยอาหาร เนื้อสัตว์ให้โปรตีน ธัญพืชเพื่อได้รับคาร์โบไฮเดรต รวมถึงไขมันดีในสัดส่วนที่เหมาะสมกับความต้องการของร่างกาย ซึ่งการได้รับสารอาหารครบถ้วนจะช่วยให้ร่างกายมีพลังงานเพียงพอในการใช้ชีวิตและทำกิจกรรมต่าง ๆ ตลอดทั้งวัน
2. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
สุขภาพดีสร้างได้ด้วยการออกกำลังกาย เพราะการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะทำให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงในการเกิดโรค และยังช่วยคลายความเครียดได้ดี นอกจากนี้การออกกำลังกายยังกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนเอนโดรฟินซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความสุข ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและมีอารมณ์ดี
3. บริการสภาพคล่องทางการเงินให้ดี
การบริหารสภาพคล่องทางการเงินอย่างเหมาะสมจะช่วยให้คุณมีเงินเพียงพอสำหรับใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน รวมทั้งยังสามารถวางแผนการลงทุนและออมเงินสำหรับอนาคตได้ โดยการมีสภาพคล่องทางการเงินที่ดียังช่วยลดความเครียดจากปัญหาหนี้สินและป้องกันปัญหาการขาดสภาพคล่องได้อีกด้วย
โดยหนึ่งในตัวช่วยสำหรับการบริหารจัดการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ คือ การใช้บริการบัตรกดเงินสด KTC PROUD นอกจากจะเป็นตัวช่วยในยามฉุกเฉินที่จำเป็นต้องใช้เงินอย่างเร่งด่วนแล้ว ยังสามารถใช้จ่ายได้ที่ศูนย์ดูแลสุขภาพที่ร่วมรายการทั่วประเทศที่ร่วมรายการ ซึ่งการจ่ายผ่อนระยะยาวจะช่วยให้มีสภาพคล่องในการใช้จ่ายที่ยืดหยุ่น ขณะที่การได้รับเครดิตเงินคืนก็จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกทางหนึ่งด้วย
4. ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว
น้ำมีความสำคัญต่อสุขภาพร่างกาย ช่วยให้ระบบต่าง ๆ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การดื่มน้ำให้ได้ปริมาณที่เหมาะสมในแต่ละวันจะช่วยให้ร่างกายสดชื่นและสามารถขับถ่ายได้ดี ซึ่งโดยทั่วไปควรดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว นอกจากเรื่องของสุขภาพภายในแล้ว ยังช่วยบำรุงผิวพรรณดูมีชีวิตชีวาและกระจ่างใส
5. พักผ่อนให้เพียงพอ 7-8 ชั่วโมง
การพักผ่อนให้เพียงพอเป็นอีกหนึ่งวิธีดูแลตัวเองที่สำคัญ โดยควรนอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งการนอนหลับเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายจะได้ฟื้นฟูจากความเหนื่อยล้า เซลล์ต่าง ๆ จะมีการสร้างใหม่ นอกจากนี้ ในระหว่างนอนหลับสมองจะปล่อยสารเมลาโทนินที่มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระช่วยชะลอวัยและลดความเสี่ยงการเกิดโรคต่าง ๆ
6. หาเวลาทำกิจกรรมที่ผ่อนคลาย
วิธีดูแลตัวเองด้วยการผ่อนคลายความเครียดเป็นอีกกิจกรรมที่ควรทำ เพราะความเครียดที่สะสมเรื้อรังอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพได้ โดยควรมีเวลาพักผ่อนซึ่งอาจจะเป็นการใช้สวัสดิการพนักงานที่เป็นสิทธิ์ลาพักร้อนหรือพักอย่างน้อยวันละ 30 นาทีระหว่างวันเพื่อทำสิ่งที่ตัวเองชื่นชอบ เช่น ดูหนัง ฟังเพลง หรืองานอดิเรกต่าง ๆ ที่จะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ลดความเครียดและคลายความกังวลได้
7. หลีกเลี่ยงบุหรี่และสุรา
การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ส่งผลเสียต่อสุขภาพและระบบต่าง ๆ ของร่างกาย ทั้งยังอาจก่อให้เกิดโรคร้ายแรงได้ เช่น มะเร็งปอด โรคหัวใจ โรคตับ และโรคอื่น ๆ อีกมากมาย การงดสูบบุหรี่และลดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จึงเป็นวิธีดูแลตัวเองที่ดีที่สุดที่จะช่วยให้มีสุขภาพดี แข็งแรง แถมยังช่วยให้ประหยัดเงิน แถมยังดีต่อภาพลักษณ์และบุคลิกโดยรวมอีกด้วย
8. พบปะสังสรรค์กับคนรอบข้าง
มนุษย์เป็นสัตว์สังคมโดยธรรมชาติ การมีปฏิสัมพันธ์และความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้คนรอบข้างจึงเป็นวิธีดูแลตัวเองที่จะช่วยให้คุณรู้สึกมีที่พึ่งทางจิตใจ อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์บางอย่าง เช่น การระบาดของโรคติดต่อ อาจต้องคำนึงถึงเรื่องการรักษาระยะห่าง แต่ก็สามารถติดต่อสื่อสารกับคนอื่นได้ผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น โทรศัพท์ วิดีโอคอล หรือโซเชียลมีเดียต่าง ๆ นอกจากนี้ การเลี้ยงสัตว์ก็มีส่วนช่วยทำให้สุขภาพจิตดีขึ้นได้ เช่น การเลี้ยงแมว สุนัข เป็นต้น
9. หยุดนิสัยที่เสี่ยงภัยต่อสุขภาพ
ความเคยชินบางอย่าง เช่น การนอนดึก ฟังหูฟังเสียงดัง เล่นเกม หรือจ้องหน้าจอโทรศัพท์มากจนเกินไปอาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพในระยะยาว บางคนยังอาจนำไปสู่การพนัน การทะเลาะวิวาทและเกิดอันตรายได้ ดังนั้น การหยุดกิจกรรมหรือพฤติกรรมเสี่ยงเหล่านี้จึงเป็นวิธีดูแลตัวเองที่จะช่วยส่งเสริมให้คุณมีสุขภาวะที่ดียิ่งขึ้น
10. ฝึกสมองอย่างสม่ำเสมอ
การท้าทายสมองด้วยการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เป็นวิธีดูแลตัวเองที่ช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบความจำ การคิดวิเคราะห์ และการตัดสินใจ โดยการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ทำได้หลายแบบ เช่น อ่านหนังสือ เล่นเกมฝึกสมอง เรียนภาษา ไปจนถึงการเรียนรู้ทักษะใหม่หรือทำกิจกรรมที่ไม่เคยทำ ทั้งหมดนี้ส่งผลดีต่อสมอง ลดโอกาสเสี่ยงต่อภาวะสมองเสื่อม และช่วยให้มีสุขภาพจิตที่ดี
11. ตรวจสุขภาพประจำปี
การตรวจสุขภาพประจำปีเป็นวิธีดูแลตัวเองที่ทุกคนควรทำเพื่อค้นหาความผิดปกติ คัดกรองโรคต่าง ๆ และป้องกันโรคร้ายแรงได้ทันท่วงที โดยหากพบความผิดปกติ แพทย์จะสามารถวินิจฉัยโรคและเริ่มต้นรักษาได้ทันที จึงเป็นวิธีที่จะช่วยช่วยลดความรุนแรงด้านโรคภัย เพิ่มโอกาสหาย และลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลในระยะยาวได้
12. ทาครีมกันแดดทุกวัน เพื่อป้องกันรังสียูวี
การทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันแสงแดดที่เป็นสาเหตุหลักของการเกิดริ้วรอย ฝ้า กระ และมะเร็งผิวหนังเท่านั้น แต่ยังเป็นวิธีดูแลตัวเองที่ช่วยชะลอวัยและสุขภาพผิวให้ดูอ่อนเยาว์อีกด้วย ดังนั้น การทาครีมกันแดดที่มีค่าสารป้องกันรังสียูวีที่เพียงพอหรือ SPF 30 ขึ้นไป จึงควรเป็นวิธีดูแลตัวเองประจำวันที่ไม่ควรมองข้าม
13. ทำความสะอาดร่างกายอยู่เสมอ
การดูแลสุขอนามัยส่วนตัว เช่น การอาบน้ำ สระผม แปรงฟัน ไม่เพียงแค่เป็นการรักษาความสะอาดของร่างกายเท่านั้น แต่ยังเป็นเหมือนการรีเฟรชร่างกาย ทำให้คุณรู้สึกสดชื่น มีแรงบันดาลใจและความพร้อมในการเริ่มต้นวันใหม่ ๆ โดยการดูแลสุขอนามัยอย่างเหมาะสมจะมีส่วนช่วยให้เรามีความมั่นใจมากขึ้นและพร้อมทำกิจกรรมอื่น ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ
14. เลี่ยงการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ก่อนนอน
ทุกวันนี้เราล้วนต้องใช้งานอุปกรณ์ดิจิทัลอย่างเลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ หรือแท็บเล็ต ซึ่งแสงจากหน้าจออาจส่งผลเสียต่อคุณภาพการนอนหลับและสุขภาพโดยรวมได้ ดังนั้น ถ้าต้องใช้งานอุปกรณ์ดิจิทัลในช่วงเวลาใกล้เข้านอน ควรหลีกเลี่ยงการจ้องจอเป็นเวลานานและพยายามเปลี่ยนไปทำกิจกรรมอื่น ๆ อย่างน้อย 1-2 ชั่วโมงก่อนนอน เพื่อไม่ให้ร่างกายถูกรบกวนจากแสงสีฟ้า
15. กำหนดเป้าหมายในชีวิตและติดตามผล
การกำหนดเป้าหมายและติดตามผลจะช่วยให้คุณมีแรงจูงใจและความมุ่งมั่นในการดูแลตัวเองและทำสิ่งต่าง ๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งใจเอาไว้ เช่น การลดน้ำหนักหรือการปรับพฤติกรรมด้านสุขภาพ โดยการติดตามความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องจะทำให้คุณเห็นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น ทั้งความสำเร็จและปัญหา ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถปรับเปลี่ยนวิธีการหรือเทคนิคให้เหมาะสมได้ทันท่วงที
สร้างสุขภาพกาย และสุขภาพจิตที่ดีจากการดูแลตัวเอง
ทั้งหมดนี้คือวิธีดูแลตัวเองที่คุณสามารถเลือกปฏิบัติได้ง่าย ๆ ในชีวิตประจำวัน บางวิธีอาจดูเป็นเรื่องเล็กน้อยแต่เมื่อหมั่นปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอรับประกันได้ว่าจะส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวม ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะมีชีวิตยุ่งแค่ไหน ก็อย่าลืมที่จะแบ่งเวลามาเพื่อดูแลตัวเองบ้าง เพราะการมีสุขภาพกายและสุขภาพจิตใจที่ดีคือรากฐานสำคัญของความสุขในการใช้ชีวิต
และสำหรับใครที่มองหาตัวช่วยในการใช้จ่ายเพื่อดูแลตัวเองหรือจำเป็นต้องใช้จ่ายในยามฉุกเฉิน ขอแนะนำบัตรกดเงินสด KTC PROUD ที่มีฟังก์ชันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการรูดที่ร้านค้าและช้อปออนไลน์ การโอนเงินผ่านแอปพลิเคชัน การกดเงินที่ตู้ ATM ทั่วไทยแบบฟรีค่าธรรมเนียม ไปจนถึงการผ่อนสินค้าและบริการ เรียกได้ว่ามีครบจบในบัตรเดียว
คุณภาพชีวิตดีขึ้นได้ด้วยบัตรกดเงินสด KTC PROUD
*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ย 25% ต่อปี