รู้หรือไม่ครับว่า รถพุ่มพวงเป็นหนึ่งในรถที่ได้รับความนิยมในการเลือกซื้อสินค้าและวัตถุดิบสดใหม่ในชุมชนโดยที่ไม่จำเป็นจะต้องเดินทางออกไปซื้อของด้วยตัวเอง เพราะมีรถพร้อมสินค้าที่พร้อมมาเสิร์ฟให้เราถึงหน้าบ้าน ยิ่งในสถานการณ์ปัจจุบัน ที่หลาย ๆ คนยังต้องทำงานอยู่ที่บ้าน อาจจะไม่มีเวลาเดินทางไปช้อปปิ้งด้วยตัวเอง รถพุ่มพวงจึงกลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่สนใจสร้างธุรกิจเป็นของตัวเอง
สำหรับใครที่คิดจะทำรถพุ่มพวงแต่ไม่รู้ว่าต้องเริ่มจากตรงไหน วันนี้พี่เบิ้มจะพาทุกคนมาดูถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการทำธุรกิจรถพุ่มพวง พร้อมกับแนะนำการเลือกสินเชื่อให้กับผู้ที่สนใจนำไปต่อยอดได้ลองไปอ่านเพิ่มเติมกันครับ
คิดจะทำรถพุ่มพวงต้องมีอะไรบ้าง?
อันที่จริงแล้วการทำรถพุ่มพวงก็เหมือนกับการทำธุรกิจประเภทอื่น ๆ นั่นแหละครับ ที่ต้องเตรียมพร้อมเรื่องเงินทุนสำรองสำหรับเริ่มและต่อยอดธุรกิจนั่นเอง ในเมื่อเงินเป็นตัวแปรสำคัญในการเติมเต็มความฝันของเราแบบนี้ พี่เบิ้มจึงอยากให้ทุกคนลองปรึกษาธนาคารเพื่อให้เจ้าหน้าที่แนะนำการเลือกสินเชื่อที่เหมาะกับตัวเองไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ จะได้วางแผนและเตรียมพร้อมรับมือกับค่าใช้จ่ายก่อนเริ่มทำธุรกิจตามรายละเอียดด้านล่าง ซึ่งพี่เบิ้มก็ได้รวบรวมมาไว้ให้แล้ว ตามไปดูกันครับ
ต้องมีรถกระบะติดแคปเป็นของตัวเอง
ถ้าใครมีรถกระบะอยู่แล้ว สิ่งที่เราต้องทำเป็นลำดับแรก ก็คือการติดแคปให้เหมาะกับการบรรทุกสินค้า โดยค่าใช้จ่ายในการติดแคปเพื่อทำรถพุ่มพวงส่วนใหญ่มักจะเริ่มต้นที่ 3,000 บาท ไปจนถึง 7,000 บาทครับผม
ต้องมีแหล่งพื้นที่ขายประจำ
หลังจากมีเงินทุนพร้อมแล้ว สเต็ปต่อมาก็ถึงเวลาที่เราจะได้ลงสังเวียนของจริงกันล่ะ พี่เบิ้มขอกระซิบไว้หน่อยนะครับว่า หัวใจสำคัญของการทำรถพุ่มพวงให้ประสบความสำเร็จก็คือเรื่องของการมีพื้นที่ขายประจำเป็นของตัวเอง และการรู้จักเข้าหาและผูกมิตรกับลูกค้านั่นเองครับ นี่ถือเป็นจุดเด่นของรถพุ่มพวงที่ต่างจากคู่แข่งรายอื่น ๆ อย่างซูเปอร์มาร์เก็ตหรือแอปฯ ส่งอาหาร เพราะว่ารถพุ่มพวงสามารถเข้าถึงลูกค้าได้โดยตรง ทำให้เรามีโอกาสเพิ่มความสนิทสนมระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายได้ดีกว่า และยิ่งเมื่อเราคุ้นเคยกับลูกค้ามากเท่าไร โอกาสที่ลูกค้าจะซื้อสินค้าและบอกต่อความต้องการให้กับเราก็ยิ่งมีเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น โดยวิธีที่ดีที่สุดที่จะช่วยให้เรามีแหล่งขายและลูกค้าประจำคือการขับรถไปตามเป็นแคมป์คนงาน หมู่บ้าน และซอยต่าง ๆ เป็นประจำทุกวัน
มีสินค้าใหม่ ๆ เวียนเข้ามาขายเรื่อย ๆ
การนำสินค้าแบบเดิม ๆ มาขายทุกวันอาจจะทำให้ลูกค้าเบื่อได้ พี่เบิ้มก็เลยอยากจะแนะนำให้ทุกคนพยายามหาสินค้าใหม่ ๆ มาลองขายเพิ่มเติม และลองหมุนเวียนสินค้าไปเรื่อย ๆ เพราะนอกจากจะช่วยให้เราได้ลองตลาดแล้ว การเสนอสินค้าที่ฉีกไปจากของเดิม ก็จะช่วยให้ลูกค้ามีทางเลือกเพิ่มมากขึ้นครับ
วางแผนค่าใช้จ่ายให้ดี
ต้นทุนของการทำรถพุ่มพวงสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ส่วน ได้แก่ค่าน้ำมันรถและค่าสินค้าต่าง ๆ เช่น ของใช้ในครัวเรือน กับข้าว และผลไม้ ถึงแม้เราจะสามารถคำนวณค่าน้ำมันจากเส้นทางประจำที่เราวิ่งในแต่ละวันและคำนวณค่าสินค้าจากยอดขายได้ แต่เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าในระหว่างที่กำลังทำรถพุ่มพวงอยู่นั้น จะมีเหตุจำเป็นให้ต้องใช้เงินเกิดขึ้นกับตัวเองเมื่อไร และด้วยสาเหตุนี้เอง พี่เบิ้มจึงอยากให้ทุกคนวางแผนการใช้จ่ายให้ดี และถ้ามีความจำเป็นต้องหาเงินทุนเพิ่มเติมเมื่อไร ก็ให้รีบปรึกษาเจ้าหน้าที่ธนาคารเพื่อรับคำแนะนำการเลือกสินเชื่อไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อเตรียมตัวเองให้พร้อมรับมือกับความเสี่ยง และหลีกเลี่ยงการกู้เงินนอกระบบที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงเกินจริง
สำหรับคนที่ต้องการเงินลงทุนเพื่อไปทำรถพุ่มพวง พี่เบิ้มขอแนะนำสินเชื่อทะเบียนรถยนต์ ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากที่สุด เพราะเราสามารถนำรถไปแลกเงินสดได้โดยที่ตัวเราเองยังสามารถนำรถกลับมาใช้ได้ตามปกติ และที่สำคัญเลยก็คือสินเชื่อดังกล่าวยังมีดอกเบี้ยต่ำ อีกทั้งยังไม่มีความเสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สินเหมือนกับการกู้เงินนอกระบบอีกด้วยครับ
จบไปแล้วกับรายละเอียดว่าด้วยขั้นตอนการเริ่มทำรถพุ่มพวง สำหรับใครที่คิดจะทำรถธุรกิจดังกล่าวแต่ไม่มีเงินทุนก็สามารถขอสินเชื่อทะเบียนรถ KTC พี่เบิ้มได้ เพราะให้วงเงินใหญ่ ใจกว้าง ขั้นตอนการสมัครไม่ซับซ้อน ใครสนใจสามารถคลิกที่นี่เพื่อปรึกษาและรับคำแนะนำการเลือกสินเชื่อจากทีมงานของพี่เบิ้มได้เลยครับ