“สิงคโปร์” เกาะเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยเรื่องน่าทึ่งแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สิงคโปร์เป็นประเทศที่ผสมผสานความหลากหลายทางวัฒนธรรมได้อย่างกลมกลืน ทั้งจีน มาเลย์ อินเดีย และตะวันตก การไปเที่ยวสิงคโปร์จึงเป็นการท่องเที่ยวที่จะได้สัมผัสกับความล้ำสมัยของตึกระฟ้าที่ตั้งตระหง่านเคียงคู่กับอาคารโบราณสไตล์โคโลเนียล ในพื้นที่เพียง 728 ตารางกิโลเมตร แต่อัดแน่นไปด้วยแลนด์มาร์คระดับโลกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Marina Bay Sands, Gardens by the Bay หรือ Sentosa Island
การเที่ยวสิงคโปร์ด้วยตัวเองก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะด้วยระบบขนส่งภายในประเทศที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย อีกทั้งยังเป็นประเทศที่สะอาดมาก ๆ ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลางในการสื่อสาร จึงไม่ต้องกังวลเรื่องการสื่อสาร การมาเยือนสิงคโปร์จึงถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่สายท่องเที่ยวไม่ควรพลาด

เรื่องที่ควรรู้ก่อนเดินทางเที่ยวสิงคโปร์ ด้วยตัวเอง
การเตรียมตัวให้พร้อมคือกุญแจสำคัญสู่การเดินทางที่ราบรื่น โดยเฉพาะเมื่อต้องวางแผนเที่ยวสิงคโปร์ด้วยตัวเอง การเตรียมตัวอย่างรอบคอบจะช่วยให้คุณดื่มด่ำกับการท่องเที่ยวได้อย่างเต็มที่ มาดูกันว่าก่อนออกเดินทาง มีข้อมูลอะไรที่คุณควรรู้บ้าง
เที่ยวสิงคโปร์จำเป็นต้องขอวีซ่าหรือไม่?
สำหรับคนไทยที่ต้องการเดินทางไปเที่ยวสิงคโปร์ ไม่จำเป็นต้องขอวีซ่าล่วงหน้า โดยสามารถอยู่ภายในสิงคโปร์ได้สูงสุด 30 วัน เพียงมีหนังสือเดินทางที่มีอายุเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน มีตั๋วเครื่องบินขากลับหรือไปประเทศที่สาม และหลักฐานทางการเงินที่เพียงพอสำหรับการท่องเที่ยว เพียงแค่นี้ก็ทำให้การเที่ยวสิงคโปร์ด้วยตัวเองเป็นเรื่องง่าย ๆ สำหรับคนไทย
สกุลเงินที่ใช้ในประเทศสิงคโปร์
สิงคโปร์จะใช้สกุลเงินดอลลาร์สิงคโปร์ (Singapore Dollar: SGD) ซึ่งจะมีธนบัตรหลายชนิดตั้งแต่ $2 ไปจนถึง $10,000 ส่วนเหรียญก็มีทั้ง 5¢ ไปจนถึง $1 โดยปัจจุบันอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ประมาณ 1 SGD = 26-27 บาทไทย (อ้างอิงอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 1 พฤษภาคม 2025)
ภาษาและการสื่อสารกับผู้คนที่สิงคโปร์
สิงคโปร์มีภาษาราชการ 4 ภาษา ได้แก่ ภาษาอังกฤษ จีนกลาง มาเลย์ และทมิฬ โดยภาษาอังกฤษจะถูกใช้เป็นหลักในการสื่อสารทั้งในหน่วยงานราชการและสถานที่ทั่วไป ทำนักท่องเที่ยวสามารถสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษได้โดยไม่มีปัญหา ประชากรสิงคโปร์จะประกอบไปด้วยหลายเชื้อชาติ โดยส่วนใหญ่เป็นชาวจีน รองลงมาคือมาเลย์ อินเดีย และชาติอื่น ๆ
อากาศและฤดูกาลที่เหมาะกับการเที่ยวสิงคโปร์
สิงคโปร์มีสภาพภูมิอากาศแบบร้อนชื้นตลอดทั้งปี ซึ่งจะมีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 26-32 องศาเซลเซียส โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเที่ยวสิงคโปร์ด้วยตัวเอง คือ เดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายน และมิถุนายนถึงสิงหาคม เนื่องจากมีปริมาณฝนน้อยกว่าช่วงอื่น อย่างไรก็ตามสิงคโปร์มักมีฝนตกกะทันหันได้ทุกเดือน จึงควรพกร่มหรือเสื้อกันฝนติดตัวเสมอ
Tips: ลองดูเพิ่มเติมว่าเดือนพฤศจิกายน เที่ยวไหนดี? หรือจะเป็นเดือนธันวาคม เที่ยวไหนดี?
การเดินทางในประเทศสิงคโปร์เป็นอย่างไร?
อย่างที่รู้กันไปแล้วว่าการเดินทางเที่ยวสิงคโปร์ด้วยตัวเองนั้น สะดวกสบายมาก ๆ ด้วยระบบขนส่งสาธารณะที่มีคุณภาพ ทั้งรถไฟใต้ดิน MRT และรถไฟฟ้า LRT ที่ครอบคลุมเกือบทุกพื้นที่สำคัญของประเทศ นอกจากนี้ยังมีรถโดยสารประจำทาง แท็กซี่ และ Grab ให้ใช้บริการได้ทั่วไป
H3 : การใช้งานอินเทอร์เน็ตในสิงคโปร์
อินเทอร์เน็ตถือเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากสำหรับการเที่ยวสิงคโปร์ด้วยตัวเอง เพราะเราต้องใช้อินเทอร์เน็ตในการเปิดแมพนำทาง ค้นหาข้อมูล และจองบริการต่าง ๆ ทางเลือกที่ดีที่สุดคือซื้อซิมการ์ดท่องเที่ยวที่สนามบินหรือร้านสะดวกซื้อ โดยมีให้เลือกหลายแพ็คเกจตั้งแต่ 1 วันถึง 30 วัน ในราคาเริ่มต้นประมาณ 12 SGD (ประมาณ 300 บาท)
แนะนำ 8 พิกัดน่าเที่ยวสิงคโปร์ ด้วยตัวเอง

ในปี 2025 สถานที่เที่ยวสิงคโปร์หลายแห่งได้รับการปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำเสนอประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับนักท่องเที่ยว ซึ่งเหมาะอย่างมากกับทริปเที่ยวสิงคโปร์ด้วยตัวเอง เรามาดูกันว่าที่เที่ยวสิงคโปร์ในปี 2025 นี้มีที่ไหนที่ควรเช็กอินบ้าง
1.Gardens by the Bay
Gardens by the Bay คือ สวนพฤกษศาสตร์แห่งอนาคตริมอ่าวมารีน่าที่ผสมผสานเทคโนโลยีกับความงามของธรรมชาติได้อย่างน่าทึ่ง สำหรับคนที่มาเที่ยวสิงคโปร์ด้วยตัวเองสามารถเดินชมต้นไม้ยักษ์ Supertree Grove และสะพานลอยฟ้า OCBC Skyway เพื่อชมวิวเมืองจากมุมสูง รวมถึงโดม Cloud Forest และ Flower Dome ที่เป็นเรือนกระจกขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
การเดินทาง: นั่ง MRT สายสีน้ำเงินมาลงที่สถานี Bayfront แล้วเดินตามป้ายประมาณ 5-10 นาที หรือนั่งรถบัสสาย 400 จาก Marina Bay Sands
เวลาเปิดปิด: สวนเปิด 5.00-2.00 น. ส่วนโซน Flower Dome และ Cloud Forest เปิด 9.00-21.00 น. ทุกวัน
2.Marina Bay Sands
โรงแรมและศูนย์การค้าหรูที่เป็นสัญลักษณ์ของสิงคโปร์ ด้วยรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์คล้ายเรือลอยอยู่บนตึกสูง นักท่องเที่ยวนิยมขึ้นไปชมวิวและถ่ายรูปที่ Infinity Pool และ SkyPark Observation Deck ซึ่งสามารถมองเห็นวิวพาโนรามาของเมืองและอ่าวมารีน่าได้ 360 องศา
การเดินทาง: นั่ง MRT สายสีน้ำเงินหรือสีเหลืองมาลงที่สถานี Bayfront แล้วเดินเข้าทางเชื่อมโดยตรง
เวลาเปิดปิด: SkyPark Observation Deck เปิด 11.00-21.00 น. (จันทร์-พฤหัสบดี) และ 11.00-22.00 น. (ศุกร์-อาทิตย์)
3.Universal Studios Singapore
สวนสนุกระดับโลกบนเกาะเซ็นโตซาที่มีเครื่องเล่นและการแสดงจากภาพยนตร์ชื่อดังของ Universal Studios แบ่งออกเป็น 7 โซน ได้แก่ Hollywood, New York, Sci-Fi City, Ancient Egypt, Lost World, Far Far Away และ Minion Land ที่เหมาะสำหรับคนที่เที่ยวสิงคโปร์ด้วยตัวเองทุกเพศทุกวัย
การเดินทาง: นั่ง MRT สายสีน้ำเงินมาลงที่สถานี HarbourFront แล้วต่อ Sentosa Express ที่ชั้น 3 ของห้าง VivoCity ไปลงที่สถานี Waterfront หรือนั่งกระเช้า Singapore Cable Car จาก HarbourFront Tower 2
เวลาเปิดปิด: เปิด 10.00-19.00 น. (วันธรรมดา) และ 10.00-20.00 น. (วันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดนักขัตฤกษ์)
*ควรตรวจสอบตารางล่าสุดบนเว็บไซต์เนื่องจากอาจมีการเปลี่ยนแปลง
4.Jewel Changi Airport
Jewel Changi เป็นศูนย์การค้าและแหล่งท่องเที่ยวที่มีน้ำตกในร่มที่สูงที่สุดในโลก (Rain Vortex) อยู่กลางอาคาร ล้อมรอบด้วยสวนพฤกษศาสตร์ Shiseido Forest Valley สูง 5 ชั้น นักท่องเที่ยวสามารถช้อปปิ้ง รับประทานอาหาร และเพลิดเพลินกับกิจกรรมต่าง ๆ ได้ในที่เดียว
การเดินทาง: นั่ง MRT สายสีเขียวหรือสายสีน้ำเงินมาลงที่สถานี Changi Airport แล้วเดินตามป้ายไปยัง Jewel ซึ่งเชื่อมต่อกับ Terminal 1, 2 และ 3
เวลาเปิดปิด: เปิด 24 ชั่วโมงทุกวัน (แต่ร้านค้าส่วนใหญ่เปิด 10.00-22.00 น.) ส่วน Rain Vortex จะมีการแสดงแสงสี ทุก 1 ชั่วโมง ตั้งแต่ 19.30-23.30 น.
5.Merlion Park
สัญลักษณ์สำคัญที่ไม่ควรพลาดสำหรับทริปเที่ยวสิงคโปร์ด้วยตัวเอง คือ การแวะถ่ายรูปกับรูปปั้นเมอร์ไลออน สิงห์พ่นน้ำครึ่งปลาครึ่งสิงโตสูง 8.6 เมตรที่ตั้งตระหง่านริมอ่าวมารีนา ที่ชาวสิงคโปร์ใช้เป็นสัญลักษณ์ของประเทศ โดยนักท่องเที่ยวจะนิยมมาถ่ายภาพกับรูปปั้นโดยมีฉากหลังเป็นตึก Marina Bay Sands
การเดินทาง: นั่ง MRT สายสีเขียวหรือสายสีแดงมาลงที่สถานี Raffles Place แล้วเดินผ่านโรงแรม Fullerton ประมาณ 5 นาที หรือลงที่สถานี Esplanade และเดินตามป้ายประมาณ 7-10 นาที
เวลาเปิดปิด: เปิดตลอด 24 ชั่วโมง แต่ช่วงเวลาที่สวยที่สุดคือยามเย็นประมาณ 18.00-19.00 น. ที่มีแสงสวยและสามารถชมพระอาทิตย์ตกได้
6.Chinatown
ย่านวัฒนธรรมที่คึกคักที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวสิงคโปร์ด้วยตัวเอง Chinatown จะมีแลนมาร์คสำคัญอย่างวัด Buddha Tooth Relic Temple อันงดงามและตลาดถนนคนเดินที่จะเต็มไปด้วยร้านอาหารท้องถิ่น ร้านค้าที่ขายของที่ระลึก และบรรยากาศแบบดั้งเดิมที่สะท้อนความหลากหลายทางวัฒนธรรมของสิงคโปร์
การเดินทาง: Chinatown - นั่ง MRT ลงสถานี Chinatown (สายสีน้ำเงินหรือสีม่วง)
เวลาเปิดปิด: ร้านค้าส่วนใหญ่เปิด 10.00-22.00 น. ส่วนตลาดกลางคืนในย่าน Chinatown จะเปิด 17.00-23.00 น.
7.Singapore Zoo และ Night Safari
ทางเลือกที่ยอดฮิตสำหรับคนที่เที่ยวสิงคโปร์ด้วยตัวเองและรักสัตว์ สวนสัตว์สิงคโปร์มีชื่อเสียงในระดับโลกด้วยแนวคิด "Open Zoo" และ Night Safari ที่เป็นสวนสัตว์กลางคืนแห่งแรกของโลกที่เปิดโอกาสให้ชมสัตว์ป่านักล่ายามค่ำคืน ครอบคลุมพื้นที่กว่า 35 เฮกตาร์ของป่าเขตร้อน มีสัตว์มากกว่า 900 ตัวจาก 100 สายพันธุ์
การเดินทาง: นั่งรถบัสสาย 138 จากสถานี Ang Mo Kio MRT (สายสีแดง) หรือนั่งแท็กซี่โดยตรง
เวลาเปิดปิด: Singapore Zoo เปิด 8.30-18.00 น. ทุกวัน ส่วน Night Safari เปิด 19.15-00.00 น.
8.Sentosa Island
เกาะท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับทริปเที่ยวสิงคโปร์ด้วยตัวเองที่มีกิจกรรมและสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ที่นอกจาก Universal Studios แล้ว ยังมีชายหาดที่สวยงามอย่าง Siloso, Palawan และ Tanjong Beach, S.E.A. Aquarium พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำขนาดใหญ่ และ Sentosa Merlion รูปปั้นเมอร์ไลออนขนาดใหญ่สูง 37 เมตร
การเดินทาง: นั่ง MRT สายสีน้ำเงินมาลงที่สถานี HarbourFront แล้วต่อ Sentosa Express ที่ชั้น 3 ของห้าง VivoCity ไปยังเกาะเซ็นโตซา หรือเดินข้ามสะพาน Sentosa Boardwalk จาก VivoCity
เวลาเปิดปิด: เกาะเซ็นโตซาเปิดตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งแต่ละสถานที่ท่องเที่ยวจะมีเวลาเปิดทำการต่างกัน
เที่ยวสิงคโปร์ด้วยตัวเอง อย่างสบายใจด้วยบัตรกดเงินสด KTC PROUD
การเที่ยวสิงคโปร์ด้วยตัวเองเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่าที่เต็มไปด้วยเสน่ห์น่าสนใจ ด้วยระบบขนที่มีประสิทธิภาพ การใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร และมีความปลอดภัยสูง นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสความหลากหลายทางวัฒนธรรม ชมสถาปัตยกรรมล้ำสมัย เพลิดเพลินกับอาหารท้องถิ่น และท่องแหล่งช้อปปิ้งชั้นนำ ทั้งหมดนี้ทำให้สิงคโปร์เป็นจุดหมายปลายทางที่สมบูรณ์แบบสำหรับนักเดินทางทุกกลุ่ม
นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมมนุษย์เงินเดือนอย่างเราควรมีเงินสำรองติดตัวไว้เสมอบัตรกดเงินสด KTC PROUDอาจเป็นทางเลือกที่ช่วยให้คุณสามารถบริหารค่าใช้จ่ายได้อย่างคล่องตัว โดยมีคุณสมบัติที่เหมาะสำหรับมนุษย์เงินเดือนที่ต้องการความยืดหยุ่นทางการเงิน
บัตรกดเงินสด KTC PROUD พกไว้ไม่สะดุด ทุกการใช้จ่ายที่จำเป็น
- สมัครง่าย เงินเดือน 12,000 บาท ก็สมัครได้
- อนุมัติไว เลือกรับเงินโอนเข้าบัญชีได้ทันที เมื่ออนุมัติ
- เบิกเงินได้ 24 ชั่วโมง ผ่านแอป KTC Mobile และ ATM ทั่วประเทศ
- ผ่อนสินค้า 0% นานสูงสุด 24 เดือน ณ ร้านค้าที่ร่วมรายการ
- รูดซื้อสินค้า และช้อปออนไลน์ พร้อมรับสิทธิพิเศษทั้งปี
หมดปัญหาค่าใช้จ่ายฉุกเฉินด้วยบัตรกดเงินสด KTC PROUD

*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ย 25% ต่อปี





