หุ้นกู้ ทำความรู้จักอีกทางเลือกของนักลงทุนมือใหม่
ปัจจุบันมีวัยทำงานจำนวนไม่น้อยที่หันมาให้ความสนใจกับการลงทุนมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเศรษฐกิจข้าวยากหมากแพงหรือสภาวะเงินเฟ้อ ทำให้การเก็บออมเงินแบบเงินสดอาาจไม่ใช่ทางเลือกที่ตอบโจทย์มากนัก ดังนั้นการเลือกต่อยอดเงินที่มีอยู่ในมือด้วยการลงทุนในรูปแบบต่าง ๆ อาทิ การลงทุนซื้อหุ้น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ การเทรดหุ้นระยะสั้น โดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุนที่เริ่มมองหาการลงทุนรูปแบบใหม่ หนึ่งในนั้นคือ หุ้นกู้ รูปแบบการลงทุนที่นักลงทุนให้ความสนใจ และทำความเข้าใจความหมายรวมถึงประเภทของหุ้นกู้ก่อนการลงทุน เพื่อให้นักลงทุนได้นำไปทำกิจกรรมตามที่แจ้งไว้ได้ตามวัตถุประสงค์ของการขายหุ้นแต่ละครั้ง โดยบริษัทจะกลายเป็นลูกหนี้และนักลงทุนจะกลายเป็นเจ้าหนี้ ซึ่งจะแตกต่างจากการลงทุนในหุ้นสามารถที่ในการลงทุนหุ้นสามัญผู้ลงทุนจะมีสถานะเป็นเจ้าของตามสัดส่วน เพื่อให้สามารถลงทุนได้แบบไม่มีสะดุดโดยจะมีอายุของหุ้นกู้ที่แตกต่างกันไปทั้ง 3, 5, 7, 10 ปี สำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่กำลังมองหาช่องทางในการลงทุนเพื่อให้ได้ผลตอบแทนในยุคที่เศรษฐกิจผันผวน การลงทุนกับหุ้นกู้จึงกลายมาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน
เลือกอ่านตามหัวข้อ
หุ้นกู้ หมายถึงอะไร ทำไมคนส่วนใหญ่ถึงนิยม
หุ้นกู้ (Debenture) คือ การลงทุนตราสารหนี้รูปแบบหนึ่งที่ออกโดยบริษัทเอกชน มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเงินไปลงทุนกับธุรกิจหรือใช้ในกิจการต่าง ๆ ของบริษัท อาทิ เพื่อการลงทุนสำหรับขยายกิจการ เพื่อการก่อสร้างโรงงาน หรือซื้ออุปกรณ์ต่าง ๆ ซึ่งแตกต่างจากการลงทุนในพันธบัตร (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับพันธบัตร คือ อะไรได้ที่นี่) หากสรุปให้เข้าใจง่าย คือ บริษัทจะมีการออกหุ้นกู้เพื่อยืมเงินนักลงทุนในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ตามจุดประสงค์ของการขายหุ้นกู้แต่ละครั้ง โดยผู้ซื้อหุ้นกู้จะอยู่ในสถานะเจ้าหนี้และบริษัทที่ออกหุ้นกู้จะอยู่ในสถานะลูกหนี้ ดังนั้นผลประโยชน์ที่ได้รับจากการลงทุนหุ้นกู้คืออะไร? สำหรับผู้ที่ลงทุนกับหุ้นกู้จะได้ค่าตอบแทนจากการลงทุนเป็นดอกเบี้ย โดยมีอายุของหุ้นกู้ที่แตกต่างกันไปส่วนใหญ่อยู่ที่ 3, 5, 7 และ 10 ปีตามกำหนด ซึ่งดอกเบี้ยจะได้ตามที่ระบุไว้ในสัญญาและเมื่อครบกำหนดผู้ลงทุนจะได้รับในส่วนของเงินต้นคืน ในประเทศไทยการออกหุ้นกู้โดยทั่วไปกำหนดไว้ที่มูลค่าหน่วยละ 1,000 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดและเงื่อนไขของแต่ละหุ้นกู้
นอกจากนี้ยังมีในส่วนของหุ้นกู้แปลงสภาพ (Convertible Bond) คือ สารตราหนี้ที่นักลงทุนจะสามารถเปลี่ยนจากหุ้นกู้เป็นหุ้นสามัญของบริษัทผู้ที่ออกหุ้นกู้ได้นั่นเอง โดยจะได้หุ้นตามราคาที่กำหนด ถือเป็นการให้สิทธิแก่ผู้ลงทุนที่สามารถเลือกได้ว่าเมื่อถึงเวลาที่กำหนด ผู้ลงทุนจะเลือกรับชำระหนี้เงินต้นพร้อมดอกเบี้ยคืนหรือเลือกที่จะใช้สิทธิแปลงสภาพจากผู้ถือหุ้นกู้ไปเป็นผู้ถือหุ้นสามัญ
หุ้นกู้ มีกี่ประเภท อะไรบ้างที่นักลงทุนควรรู้
หุ้นกู้มีด้วยกันหลายประเภทดังนั้นก่อนตัดสินใจลงทุนควรทำการศึกษาเกี่ยวกับหุ้นกู้โดยละเอียด วางแผนการเงิน และทำความเข้าใจอย่างถี่ถ้วน เพื่อผลประโยชน์ที่จะได้รับจากการลงทุน ฉะนั้นก่อนลงทุนควรศึกษาและเข้าใจแต่ละประเภทก่อน โดยประเภทของหุ้นกู้ มีดังนี้
หุ้นกู้ชนิดมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน
ประเภทหุ้นกู้ที่บริษัทมีการนำสินทรัพย์มาค้ำประกัน โดยที่ทรัพย์สินเหล่านั้นมีมูลค่ามากกว่าหุ้นกู้ที่บริษัทนำมาเสนอขาย ผู้ถือหุ้นกู้ชนิดนี้จะมีสิทธิในสินทรัพย์ที่บริษัทนำมาค้ำประกัน
หุ้นกู้ชนิดที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน
ประเภทหุ้นกู้ที่ไม่มีสินทรัพย์มาวางเป็นหลักประกัน แต่จะเน้นไปที่เครดิตเรทติ้งของบริษัทที่ทางคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (คณะกรรมการ ก.ล.ต.) ได้มีการจัดตั้งไว้
หุ้นกู้ด้อยสิทธิ
ประเภทหุ้นกู้ที่ผู้ลงทุนมีฐานะเป็นเจ้าหนี้เช่นเดียวกับหุ้นกู้ธรรมดา แต่หากบริษัทต้องปิดกิจการไป จะได้สิทธิในการรับชำระหนี้จากเจ้าหนี้คืน
หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ
ประเภทหุ้นกู้ที่หากบริษัทล้มละลาย ผู้ถือหุ้นกู้จะมีสิทธิในการเรียกร้องสินทรัพย์จากบริษัทเท่ากับกับเจ้าหนี้หุ้นสามัญรายอื่น ๆ
หุ้นกู้แปลงสภาพ
ประเภทหุ้นกู้ที่นักลงทุนสามารถแปลงจากหุ้นกู้เป็นหุ้นสามัญได้ตามราคาที่กำหนด โดยที่บริษัทจะมีการออกหุ้นสามัญเท่ากับตราสารหนี้ที่ถืออยู่ หมายความว่าสถานะของผู้ซื้อหุ้นกู้จะถูกเปลี่ยนจากเจ้าหนี้เป็นเจ้าของโดยปริยาย
บัตรเครดิต KTC ช่วยบริหารเงินให้เกิดประโยชน์ทุกครั้งที่จ่าย
หุ้นกู้เหมาะกับนักลงทุนมือใหม่หรือไม่ ?
สำหรับหุ้นกู้ส่วนใหญ่จะเป็นการปล่อยหุ้นมาจากบริษัทเอกชนที่มีความน่าเชื่อถือ เพื่อพัฒนาธุรกิจหรือลงทุนบางอย่างสำหรับผลประกอบการที่มากขึ้น ดังนั้นหุ้นกู้จึงเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการเน้นความเสี่ยงต่ำรวมถึงได้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ แต่อย่างไรก็ตามควรศึกษาผลตอบแทน เงินปันผลและดอกเบี้ยที่จะได้รับตามที่ระบุก่อนการลงทุนให้ชัดเจนว่าเมื่อลงทุนแล้วจะเกิดความคุ้มค่าหรือไม่
การลงทุนหุ้นกู้กับประโยชน์ที่จะได้รับ
ประโยชน์จากการลงทุนในหุ้นกู้
สำหรับนักลงทุนที่สนใจอยากลงทุนหุ้นกู้แต่ไม่รู้ว่าจะได้รับประโยชน์อะไรจากการลงทุนประเภทนี้บ้างตามไปดูกัน
1. อัตราผลตอบแทน
หุ้นกู้ของบริษัทเอกชนส่วนใหญ่มักจะมีอัตราผลตอบแทนที่สูง เพื่อเป็นการชดเชยความเสี่ยงที่เพิ่มสูงขึ้นด้วยเช่นกัน เนื่องจากหุ้นกู้ที่ออกโดยบริษัทเอกชนส่วนมากจะมีความเสี่ยงในด้านการผิดนัดชำระหนี้
2. เป็นแหล่งรายได้ประจำ
หุ้นกู้มีการจ่ายดอกเบี้ยโดยแบ่งเป็นงวด ๆ ให้แก่ผู้ลงทุนตามที่ระบุไว้ในรายละเอียดสัญญา และจ่ายคืนเงินต้นเมื่อครบกำหนดของอายุกุ้นกู้ สำหรับนักลงทุนที่มองหารายได้ประจำโดยที่ไม่ต้องลงทุนเพิ่มหรือเงินต้นยังอยู่ครบการลงทุนหุ้นกู้ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ
3. ความมั่นคงปลอดภัยของเงินลงทุน
มีความมั่นคงและปลอดภัยของเงินลงทุน ในส่วนนี้นักลงทุนควรพิจารณาอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้เพราะยิ่งมีความน่าเชื่อถือที่สูงก็มีความปลอดภัยสูง มีความเสี่ยงที่จะไม่ได้รับชำระเงินคืนค่อนข้างต่ำโดยประเมินจากประวัติทางการเงินและความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ออกหุ้นกู้
4. การกระจายความเสี่ยงของการลงทุน
หุ้นกู้ถือเป็นเครื่องมือการลงทุนที่ตอบวัตถุประสงค์ในการกระจายความเสี่ยงของนักลงทุน นักลงทุนไม่จำเป็นต้องลงทุนกับหุ้นกู้บริษัทเดียวสามารถกระจายความเสี่ยงไปยังหุ้นกู้ธุรกิจต่าง ๆ ได้หลากหลายที่มีความน่าเชื่อถือ
5. ซื้อขายแบบเปลี่ยนมือได้
หุ้นกู้ สามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนมือกันได้โดยไม่ต้องรอให้ถึงวันครบกำหนดอายุ แต่ในส่วนของสภาพคล่องการซื้อขายอาจแตกต่างไปตามเงื่อนไขของแต่ละหุ้นกู้
อัตราดอกเบี้ยของหุ้นกู้มีแบบไหนบ้าง?
สำหรับอัตราดอกเบี้ยของหุ้นกู้สามารถกำหนดได้ทั้งในรูปแบบของอัตราดอกเบี้ยคงที่หรืออัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัวก็ได้เช่นกัน โดยวิธีการจ่ายสามารถจ่ายได้ทั้งแบบเป็นงวดอย่างสม่ำเสมอหรือจ่ายเพียงครั้งเดียวเมื่อครบกำหนดอายุเลยก็ได้เช่นกัน ซึ่งการกำหนดอัตราดอกเบี้ยหุ้นกู้แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
หุ้นกู้ดอกเบี้ยแบบคงที่ (Fixed-rate bond)
หุ้นกู้ที่มีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยคงที่ตลอดระยะเวลาของการลงทุน เป็นการกำหนดอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่และมีการจ่ายดอกเบี้ยเป็นงวดรวมถึงมีการชำระคืนทั้งในส่วนของเงินต้น เมื่อครบกำหนดอายุหุ้นกู้
หุ้นกู้ดอกเบี้ยแบบลอยตัว (Floating rate note)
หุ้นกู้ที่มีอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัวจะมีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยที่ผันแปรไปตามการเปลี่ยนแปลงของดัชนีและอัตราดอกเบี้ยที่ใช้อ้างอิง
ข้อควรระวังและความเสี่ยงในการลงทุนหุ้นกู้ที่นักลงทุนควรรู้
อย่างที่ทราบกันดีว่าทุกการลงทุนล้วนมีความเสี่ยง ดังนั้นการรู้เกี่ยวกับข้อระวังต่าง ๆ ก่อนการลงทุนถือเป็นสิ่งที่ช่วยให้สามารถวางแผนการจัดการสำหรับการลงทุนได้ในอนาคต เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นในภายหลัง โดยข้อควรระวังในการลงทุนหุ้นกู้ มีดังนี้
- ความเสี่ยงเมื่อความสามารถในการชำระหนี้ที่น้อยลงทำให้การผ่อนชำระเงินต้นและดอกเบี้ยไม่เป็นไปตามกำหนดสัญญา
- ความเสี่ยงในกรณีที่ไม่สามารถขายหุ้นกู้ที่มีทอดต่อตลาดเมื่อยามต้องการต้องการ
- ความเสี่ยงด้านสถานะการเงินของผู้ออกหุ้นกู้ อาจทำให้เกิดความล่าช้าในการชำระหนี้ตามมาได้ หรือในกรณีร้ายแรงอาจไม่สามารถชำระคืนได้เลย
อย่างไรก็ตามทุกการลงทุนนั้นมีความเสี่ยงดังนั้นนักลงทุนควรศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลให้รอบคอบก่อนลงทุนหุ้นกู้ เพื่อเพิ่มโอกาสในการได้รับผลตอบแทนที่เหมาะสม รวมถึงการลงทุนด้วยการซื้อหุ้นประเภทต่าง ๆ ทั้งหุ้นระยะสั้นและหุ้นระยะยาว นอกจากนี้ต้องไม่ลืมมองหาช่องทางในการการวางแผนการเงินเพื่อให้การใช้จ่ายในชีวิตประจำวันไม่มีสะดุด โดยเฉพาะการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตที่สามารถเลือกรับความคุ้มค่าได้ยิ่งขึ้น รวมถึงสิทธิประโยชน์มากมายจากโปรโมชั่นและสิทธิพิเศษมากมาย ทั้งเครดิตเงินคืน ผ่อน 0% แลกคะแนนเป็นส่วนลด ใครที่ยังไม่มีบัตรเครดิตขอแนะนำสมัครบัตรเครดิตออนไลน์ KTC ที่มีผลิตภัณฑ์หลากหลายตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้จ่ายของนักลงทุน
บัตรเครดิต KTC ให้ทุกไลฟ์สไตล์การใช้จ่ายกลายเป็นเรื่องง่าย
ไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปี