เติมลมยางรถยนต์ เท่าไหร่ดี ให้เหมาะกับการใช้งาน
การเติมลมยางรถยนต์ เป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญ ที่คนใช้รถจะต้องหมั่นตรวจเช็กสภาพลมยางให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ เพราะนอกจากจะส่งผลในเรื่องของความปลอดภัยในการใช้งานแล้ว ยังอาจส่งผลในเรื่องของอัตราบริโภคน้ำมันที่เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย ใครที่ไม่ค่อยได้แวะเติมลมตามปั๊มน้ำมัน หรือมักจะเลือกใช้บริการตามร้านยาง เรามาดูกันดีกว่า ว่าหากมีเหตุจำเป็นที่จะต้องเติมลมยางรถยนต์เอง จะต้องเติมเท่าไหร่ดี และมีอะไรบ้างที่ต้องรู้เกี่ยวกับลมยาง เรามีข้อมูลดี ๆ มาฝากกัน
เลือกอ่านตามหัวข้อ
การเติมลมยางรถยนต์ให้เหมาะสม สำคัญอย่างไร
หลายคนอาจสงสัย กรณีที่ลมยางรถเราอ่อนไป หรือแข็งเกินไป จะส่งผลอย่างไรในการใช้รถ มีอันตรายหรือเปล่า เราจะมาอธิบายทั้ง 2 กรณีให้ได้ทราบกัน
กรณีลมยางอ่อนเกินไป
หากเติมลมยางรถยนต์อ่อนเกินไป รถจะมีอาการอืด ออกตัวได้ช้า และมีอาการย้วยในขณะขับขี่ ซึ่งจะทำให้เลี้ยวรถได้ยากขึ้น หรือเลี้ยวแล้วพวงมาลัยคืนช้า อีกทั้งยังมีความเสี่ยงที่ทำให้ยางระเบิดได้อีกด้วย เพราะยางจะไม่สามารถแบกรับน้ำหนักตัวรถไว้ได้ จนทำให้เกิดความร้อนขึ้นภายในจนผิดรูป และมีโอกาสระเบิดขึ้นมา
กรณีลมยางแข็งเกินไป
หากเติมลมยางรถยนต์แข็งเกินไป รถจะมีอาการร่อนอย่างชัดเจนในความเร็วสูง เมื่อเหยียบคันเร่งแล้วรถจะพุ่ง และรู้สึกว่ารถเบากว่าปกติ และจะรับรู้ได้ถึงแรงกระเทือนที่มากกว่า เมื่อขับผ่านหลุม หรือทางที่ขรุขระ ซึ่งส่งผลให้การยึดเกาะถนนน้อยลง จนอาจเกิดอันตรายได้การขับขี่ได้
เติมลมยางรถยนต์ มีกี่แบบ
ในปัจจุบัน การเติมลมยางรถยนต์ที่ได้รับความนิยม จะมีอยู่ 2 แบบ คือการเติมลมยางแบบธรรมดา และการเติมลมยางแบบไนโตรเจน ซึ่งมีข้อดีกับข้อเสียต่างกัน ดังนี้
- เติมลมแบบธรรมดา : หาที่เติมได้ง่ายตามทุกปั๊มน้ำมัน และสามารถเติมได้ฟรี แต่ลมยางมีโอกาสรั่วซึม และระเบิดได้ง่ายกว่าเติมลมแบบไนโตรเจน เมื่อเกิดความร้อนสูงภายในยาง
- เติมลมแบบไนโตรเจน : โอกาสระเบิดมีน้อยกว่า เพราะไม่มีออกซิเจนในยาง และยังมีการรั่วซึมที่น้อย ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ได้ดีกว่า แต่มีข้อเสียตรงที่จุดบริการมีน้อย และอาจมีค่าใช้จ่ายในการเติมอยู่บ้าง
เติมลมยางรถยนต์ ควรเติมเท่าไหร่ถึงจะดี
อีกเรื่องที่คนใช้รถอาจจะสงสัย ก็คือ ควรเติมลมรถเก๋งเท่าไหร่ รถ 7 ที่นั่ง ควรเติมลมเท่าไหร่ และรถกระบะเติมลมเท่าไหร่ เพราะขนาดล้อ และตัวถังที่รับน้ำหนัก ย่อมต้องการลมยางที่ไม่เหมือนกัน ส่วนปริมาณลมยางที่ควรเติมเฉลี่ย มีดังนี้
- เติมลมรถเก๋งขนาดเล็ก : ปริมาณลมยางที่ควรเติมอยู่ที่ 25 - 30 PSI
- เติมลมรถเก๋งขนาดกลาง : ปริมาณลมยางที่ควรเติมอยู่ที่ 30 - 35 PSI
- เติมลมกระบะ (ไม่บรรทุกของ) : ปริมาณลมยางที่ควรเติมอยู่ที่ 35 - 40 PSI
- เติมลมรถตู้ : ปริมาณลมยางที่ควรเติมอยู่ที่ 42 - 55 PSI
รถ 7 ที่นั่ง ควรเติมลมเท่าไหร่
การเติมลมยางรถยนต์ 7 ที่นั่ง ควรเติมที่ 30 - 35 PSI ในการใช้งานปกติทั่วไป แต่หากมีการบรรทุกหนัก หรือมีผู้โดยสารตอนหลังนั่งเต็ม ควรจะปริมาณลมยางที่ 33 - 39 PSI เพื่อรองรับน้ำหนักที่มากขึ้น
รถกระบะเติมลมเท่าไหร่ หากต้องบรรทุกหนัก
การเติมลมยางรถกระบะที่ต้องบรรทุกหนัก ควรเติมที่ 36 - 40 PSI ที่ล้อหน้า และ 47 - 51 PSI ที่ล้อหลังในการรับน้ำหนัก เพื่อป้องกันยางระเบิดขณะขับ
การเติมลมยาง ควรทำเมื่อไหร่
การเติมลมยางรถยนต์ ควรทำในช่วงที่ยางยังเย็นอยู่ เพราะสามารถวัดค่าลมยางได้แม่นยำที่สุด ซึ่งอาจจะเป็นช่วงเช้า หรือไม่ก็ช่วงเย็นไปเลยก็ได้ เพราะช่วงที่ยางยังร้อนจากการใช้งาน อุณหภูมิที่สูงขึ้นจะทำให้เกิดแรงดันภายในยางมากกว่าเดิม 1 - 2 PSI จึงได้ค่าลมยางที่ไม่ตรงความเป็นจริง หรืออาจจะต้องเติมเผื่อไว้แทน
ควรเติมลมยางรถยนต์ บ่อยแค่ไหน
การเติมลมยางรถยนต์ ควรทำทุก 1 เดือน แม้ว่าลมยางอาจจะลดลงเพียง 1 - 2 PSI ก็ตาม เพื่อเป็นการตรวจเช็กความพร้อมในการใช้งานไปในตัว ซึ่งหากลมยางลดลงเร็วผิดปกติ ซึ่งไม่ได้เกิดจากการใช้งานทางไกล นี่อาจเป็นสัญญาณที่ต้องนำรถเข้าตรวจเช็ก
สรุปบทความ เติมลมยางรถยนต์ เท่าไหร่ดี ให้เหมาะกับการใช้งาน
หนึ่งในกิจวัตรที่คนใช้รถต้องทำอยู่ตลอด ก็คือการเติมลมยางรถยนต์เป็นประจำ เพราะยางรถยนต์ เป็นเพียงส่วนตัวของตัวรถที่สัมผัสกับพื้นถนน ซึ่งแน่นอนว่าส่งผลต่อสมรรถนะในการขับขี่ และความปลอดภัยอย่างเลี่ยงไม่ได้ หลายคนมักจะลืมเติม หรืออาจจะมองข้ามว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญ ว่างเมื่อไหร่ค่อยไปเติมเอาทีหลังก็ได้ จนสุดท้ายกลายเป็นสาเหตุทำให้เกิดยางระเบิด ซึ่งอาจทำอันตรายถึงชีวิต หรืออาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายที่บานปลายตามมาทีหลัง
สำหรับที่กำลังประสบปัญหาการเงินอยู่ตอนนี้ และมีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินก้อน หากคุณมีรถไว้ใช้งาน KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน พร้อมเป็นอีกทางเลือกในการแก้ปัญหาให้กับคุณ ผ่านการให้วงเงินก้อนใหญ่ สมัครได้ง่าย ไม่มีขั้นตอนยุ่งยาก และยังมีบริการ พี่เบิ้ม Delivery ที่พร้อมเดินทางไปตรวจสภาพรถถึงหน้าบ้าน อีกทั้งยังอนุมัติไว รับเงินก้อนได้เลยทันที โดยไม่ต้องมีคนค้ำประกัน และผ่อนได้นานสูงสุด 84 เดือน โดยสามารถเลือกรับบัตรกดเงินสด KTC พี่เบิ้มสำหรับใช้เงินฉุกเฉิน แบบกดได้ฟรีไม่มีค่าธรรมเนียมเพิ่ม
สมัคร KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน แบบไม่ต้องใช้คนค้ำ
อนุมัติไว ให้วงเงินก้อนใหญ่ รับได้ทันที
*กรุณาศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ก่อนทำการสมัคร*
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ และธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด*
*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ย 21%-24% ต่อปี*