ต่อภาษีรถยนต์เกิน 7 ปี มีเงื่อนไขแตกต่างจากรถอายุน้อยอย่างไร

รถอายุเกิน 7 ปี ก่อนเสียภาษีประจำปีต้องทำอะไรบ้าง

เป็นที่ทราบกันดีว่าเพื่อยืดอายุการใช้งานรถคันโปรดให้ยืดนาน เจ้าของรถยนต์ต้องหมั่นดูแลรถยนต์ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานเสมอ รวมถึงในแต่ละปีต้องมีการต่อ พ.ร.บ.รถยนต์ ต่อประกันภัยรถยนต์ รวมถึงชำระค่าภาษีเป็นประจำปี หรือที่เรียกว่าต่อภาษีรถยนต์ประจำปี ซึ่งถือเป็นระเบียบของกรมการขนส่งทางบก ว่าด้วยการดำเนินการเกี่ยวกับทะเบียนและภาษีรถตามกฎหมายรถยนต์ หากรถคันดังกล่าวยังมีอายุไม่เกิน 7 ปี ก็สามารถต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ได้ แล้วถ้าต้องการต่อภาษีรถยนต์เกิน 7 ปี มีขั้นตอนยื่นเสียภาษีรถยนต์ยังไง ใช้เอกสารอะไรบ้าง วันนี้เราได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์รถเกิน 7 ปี มาไว้ให้คุณแล้ว

เลือกอ่านตามหัวข้อ

• ภาษีรถยนต์ คืออะไร
• ข้อควรรู้เกี่ยวกับการต่อภาษีรถยนต์ มีอะไรบ้าง
• การต่อภาษีรถยนต์เกิน 7 ปี มีขั้นตอนเหมือนหรือต่างจากรถอายุน้อย
• ต่อภาษีรถยนต์เกิน 7 ปี ใช้เอกสารอะไรบ้าง
• รถอายุเกิน 7 ปี ต่อภาษีออนไลน์ได้ไหม มีขั้นตอนอย่างไร

ภาษีรถยนต์ คืออะไร

เป็นป้ายกระดาษสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ที่คนมีรถยนต์ทุกคนจะได้รับทุกปีเมื่อยื่นต่อภาษีรถยนต์ตามที่กฎหมายได้กำหนดไว้ โดยป้ายกระดาษแผ่นนี้เป็นของสำคัญที่ใช้ร่วมกับป้ายทะเบียนรถยนต์ เพราะเปรียบเสมือนตัวแทนชื่อรถในการเดินทาง ถ้าเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถทำการตรวจสอบได้ผ่านทางป้ายทะเบียนรถยนต์ที่ติดบนกระจกหน้ารถ ว่าใครเป็นผู้ครอบครองรถคันดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันการต่อภาษีรถยนต์สามารถทำได้ก่อนหมดอายุไม่เกิน 3 เดือน แต่ทั้งนี้ต้องทำ พ.ร.บ.รถยนต์ ให้เสร็จก่อนยื่นชำระภาษีรถประจำปี

ข้อควรรู้เกี่ยวกับการต่อภาษีรถยนต์ มีอะไรบ้าง

เพื่อให้การต่อภาษีรถยนต์เป็นไปอย่างราบรื่น ก่อนจะไปต่อภาษีรถยนต์ประจำปี เจ้าของรถทุกคนควรทำการศึกษาถึงเงื่อนไขรายละเอียดในการเสียภาษีรถยนต์ให้ละเอียด โดยสิ่งที่ควรรู้มีดังนี้

• การต่อภาษีรถยนต์ในแต่ละครั้งต้องทำก่อนที่จะหมดอายุ โดยสามารถต่อภาษีรถยนต์ได้ล่วงหน้า 90 วัน (3 เดือน)
• กรณีต่อภาษีรถยนต์ล่าช้ากว่าที่กำหนดแม้เพียง 1 วัน ทางกฎหมายถือว่าเป็นการขาดต่อภาษีรถยนต์ โดยจะนับเวลาตั้งแต่ 1–3 ปี และต้องเสียค่าปรับร้อยละ 1 ต่อเดือน นั่นเท่ากับว่ายิ่งจ่ายภาษีล่าช้า ค่าปรับก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น
• กรณีขาดการต่อภาษีรถยนต์มากกว่า 3 ปี ขึ้นไป ถือว่าป้ายทะเบียนรถคันดังกล่าวถูกยกเลิกทันที ถ้าต้องการต่อภาษีรถยนต์ใหม่ให้นำป้ายทะเบียนเดิมไปคืนที่กรมขนส่งทางบก พร้อมกับชำระค่าปรับถึงสามารถรับป้ายทะเบียนรถใหม่ได้
• การต่อภาษีรถยนต์ที่มีอายุไม่ถึง 7 ปี สามารถดำเนินการยื่นชำระค่าภาษีรถได้ โดยไม่จำเป็นต้องทำการตรวจสภาพรถยนต์ก่อน แต่หากรถยนต์มีอายุเกิน 7 ปีขึ้นไป ต้องทำการตรวจสภาพรถให้เรียบร้อย ถึงจะสามารถต่อภาษีรถยนต์ได้
• เจ้าของรถต้องต่อ พ.ร.บ.รถยนต์ หรือที่เรียกว่าประกันภัยภาคบังคับก่อนถึงจะทำการต่อภาษีรถยนต์ได้

รถยนต์เกิน 7 ปี ต้องตรวจสภาพรถก่อนต่อภาษีประจำปี

การต่อภาษีรถยนต์เกิน 7 ปี มีขั้นตอนเหมือนหรือต่างจากรถอายุน้อย

คำตอบคือ มีความต่างกัน เนื่องจากก่อนยื่นเรื่องต่อภาษีรถยนต์ประจำปี เจ้าของรถอายุเกิน 7 ปี นับตั้งแต่วันที่จดทะเบียน (วันที่ได้ป้ายขาว) ต้องนำรถยนต์ไปตรวจสภาพรถที่ ตรอ. หรือสถานตรวจสภาพรถเอกชน เพื่อเป็นการยืนยันว่ารถยนต์ที่นำมาใช้งานในชีวิตประจำวันอยู่ในสภาพที่แข็งแรง มั่นคง รวมถึงมีเครื่องอุปกรณ์ของรถต้องถูกต้องตามที่กำหนดไว้ครบถ้วน

ต่อภาษีรถยนต์เกิน 7 ปี ใช้เอกสารอะไรบ้าง

สำหรับเอกสารที่ใช้ประกอบการยื่นต่อภาษีรถยนต์เกิน 7 ปี มีความใกล้เคียงกับการต่อภาษีรถอายุน้อย แต่มีเอกสารบางอย่างเพิ่มเติมเข้ามานั่นคือ หนังสือรับรองการตรวจสภาพรถยนต์ (ตรอ.) ฉะนั้นเพื่อที่จะได้ไม่เสียเวลาในการหาเอกสารให้ยุ่งยาก ตามมาดูลิสต์เอกสารที่ต้องเตรียมให้พร้อมกัน

• สมุดคู่มือจดทะเบียนรถยนต์ (ตัวจริงหรือสำเนา)
• หนังสือรับรองการตรวจสภาพรถยนต์ (ตรอ.) (สำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน หรือรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ที่มีอายุมากกว่า 7 ปีขึ้น)
• พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ที่ยังไม่หมดอายุ ณ วันต่อภาษีรถ

รถอายุเกิน 7 ปี ต่อภาษีออนไลน์ได้ไหม มีขั้นตอนอย่างไร

ปัจจุบันกรมการขนส่งทางบกอนุญาตให้รถยนต์ที่มีอายุเกิน 7 ปี (นับตั้งแต่วันที่จดทะเบียนครั้งแรก) สามารถยื่นชำระภาษีประจำปีผ่านช่องทางออนไลน์ได้ โดยหลังจากผ่านขั้นตอนการตรวจสภาพรถยนต์ และได้รับใบรายงานผลการตรวจสภาพ เจ้าของรถสามารถทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้

ยื่นต่อภาษีรถออนไลน์ที่เว็บกรมการขนส่งทางบก

(1) เข้าไปที่เว็บไซต์ E-Service ของกรมการขนส่งทางบก eservice.dlt.go.th

(2) ทำการ Log-in เข้าสู่ระบบโดยใช้เลขบัตรประชาชน พร้อมใส่รหัสผ่าน ใครที่เพิ่งเข้ามาใช้งานครั้งแรกและยังไม่เคยยื่นชำระภาษีออนไลน์ ให้ลงทะเบียนสมาชิกใหม่ก่อนให้เรียบร้อย

(3) สำหรับผู้ที่ไม่เคยลงทะเบียนให้กรอกข้อมูลส่วนตัว บัตรประชาชน ที่อยู่ปัจจุบันหรือที่อยู่ส่งเอกสาร พร้อมเบอร์โทรศัพท์มือถือ อีเมล และตั้งรหัสผ่าน

(4) เมื่อลงทะเบียนเสร็จเรียบร้อย ให้ล็อกอินเข้าระบบใหม่อีกครั้ง จากนั้นคลิกที่ชำระภาษีรถประจำปี และเลือกชำระภาษีรถประจำปีผ่านอินเทอร์เน็ต

(5) กรอกรายละเอียดประเภทรถ เลขทะเบียนรถ จังหวัดตามป้ายทะเบียน และชื่อผู้ครอบครองรถ เมื่อกรอกข้อมูลทั้งหมดเสร็จจะปรากฏที่ช่องรายการข้อมูลทะเบียนรถ โดย 1 ยูสเซอร์ในการลงทะเบียนนั้นสามารถยื่นภาษีออนไลน์ให้หลาย ๆ คนได้ เพียงกรอกข้อมูลประเภทรถเพิ่มลงไป

(6) หลังจากนั้นให้ไปกดที่ช่องยื่นชำระภาษี แต่สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้ตรวจสภาพรถจะไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ แต่ถ้าได้รับการตรวจสภาพผ่านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทางขนส่งจะได้รับข้อมูลจากทาง ตรอ.

(7) กรอกข้อมูล พ.ร.บ.รถยนต์ ที่ได้ทำการซื้อมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเลขกรมธรรม์ บริษัทที่ซื้อ พ.ร.บ. แต่ถ้าหากว่าใครยังไม่มี พ.ร.บ. ก็สามารถซื้อแบบออนไลน์ได้เลย

(8) กรอกชื่อ-ที่อยู่ส่งเอกสาร โดยใส่ข้อมูลให้ถูกต้องและครบถ้วน

(9) แล้วเลือกช่องทางการชำระเงิน โดยระบบจะมีให้เลือกหลายช่องทาง ทั้งหักบัญชีธนาคาร ชำระผ่านบัตรเครดิต ชำระผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส พร้อมกับตรวจสอบข้อมูลการชำระเงิน และตรวจสอบข้อมูลที่อยู่ในการจัดส่งเอกสาร

(10) กรณีเลือกชำระเงินผ่านเคาน์เตอร์บริการ ให้พิมพ์ใบแจ้งชำระภาษีรถ แล้วนำในส่วนนี้ไปจ่ายที่เคาน์เตอร์เซอร์วิสทุกแห่ง หรือเคาน์เตอร์ธนาคารและตู้ ATM

(11) เมื่อชำระเงินเรียบร้อย ทางกรมการขนส่งทางบกจะส่งใบเสร็จรับเงิน ป้ายภาษี และกรมธรรม์ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถมาให้ (กรณีที่ซื้อ พ.ร.บ.ด้วย) ตามที่อยู่ที่แจ้งไว้ ภายใน 3-5 วันทำการ

จะเห็นได้ว่าการต่อภาษีรถออนไลน์เป็นอีกช่องทางที่กรมการขนส่งทางบกเปิดขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับเจ้าของรถยนต์ได้ดำเนินการต่อภาษีแบบง่าย ๆ และรวดเร็วโดยไม่ต้องเดินทางมาที่สำนักงาน ฉะนั้นเมื่อใกล้เวลาต้องเปลี่ยนป้ายภาษีใหม่ ก็อย่าลืมเช็คภาษีรถว่าหมดเดือนไหน เพื่อยื่นต่อภาษีรถล่วงหน้า ส่วนใครที่อยากเสริมความคุ้มครองเพิ่มเติม นอกเหนือจาก พ.ร.บ.รถยนต์ การทำประกันภัยรถยนต์หรือประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจถือเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์มาก โดยเฉพาะเวลาเกิดเหตุเฉี่ยวชนจนเป็นเหตุให้รถคันโปรดต้องไปจอดนิ่ง ๆ อยู่ที่อู่ซ่อมเป็นเวลานาน ถ้าคุณเป็นฝ่ายถูกสามารถเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถกับบริษัทประกันฯ ของผู้ที่เป็นฝ่ายผิดได้

นอกจากการต่อภาษีรถยนต์ ต่อ พ.ร.บ.รถยนต์ กรมธรรม์ประกันภัยก็เป็นอีกสิ่งที่ขาดไม่ได้ โดยเฉพาะเวลาที่ต้องการเปลี่ยนรถเป็นเงินก้อนผ่านการขอสินเชื่อทะเบียนรถหรือรถแลกเงิน สามารถยื่นเรื่องได้อย่างรวดเร็วเพราะมีเอกสารครบถ้วนอยู่แล้ว ส่วนใครที่กำลังมองหาสินเชื่อรถแลกเงินแบบไม่โอนเล่ม ที่ได้เงินก้อนใหญ่ไวทันใจ ขอแนะนำ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน ที่เพียงมีรถปลอดภาระและคุณสมบัติครบถ้วนก็สามารถยื่นขอสินเชื่อได้ หากไม่สะดวกเดินทางก็มีบริการพี่เบิ้ม Delivery ได้รับสมัครถึงที่ พร้อมมอบบัตรกดเงินสด KTC พี่เบิ้ม สำหรับกดเงินใช้จ่ายยามจำเป็นอีกด้วย ถือเป็นแหล่งเงินด่วนที่ตอบโจทย์มีรถมากทีเดียว

อ้างอิงข้อมูลและภาพจาก : กรมการขนส่งทางบก

ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ เตรียมไว้ขอสินเชื่อ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน

บทความ

ทั้งหมด

ป้ายภาษีรถยนต์ กับ พ.ร.บ. เหมือนกันไหม ถ้าหายต้องทำไง

ป้ายภาษีรถยนต์และ พ.ร.บ. รถยนต์ เอกสารสำคัญของผู้มีรถยนต์ที่จำเป็นต้องมี และเป็นสิ่งที่กฏหมายกำหนดให้รถยนต์ทุกคันมีติดไว้ แต่มีข้อแตกต่างที่ควรทำความเข้าใจ

ต่อภาษีรถต้องรู้ ใช้เอกสารอะไรบ้าง ถ้าลืมเสียภาษีเป็นอย่างไร

หน้าที่หลักของผู้มีรถคือต้องทำการยื่นต่อทะเบียนหรือต่อภาษีรถยนต์ประจำปีให้แก่กรมขนส่งทางบก โดยมีเอกสารที่ควรเตรียมให้พร้อม เพื่อความรวดเร็วในการดำเนินการ

สรุปเรื่องต้องรู้ ก่อนต่อภาษีรถยนต์ประจำปีออนไลน์

การต่อภาษีรถยนต์สิ่งสำคัญที่คนมีรถไม่ควรละเลย ตามข้อกฎหมายกำหนดหากไม่ปฏิบัติตามจะมีโทษตามมาได้ ในปัจจุบันสามารถดำเนินการต่อภาษีรถผ่านช่องทางออนไลน์ได้แล้ว