อยากเริ่มขายอาหารออนไลน์ที่บ้าน ต้องรู้อะไรบ้าง

การขายอาหารออนไลน์ที่บ้าน แบบไม่มีหน้าร้าน เป็นหนึ่งในเทรนด์ธุรกิจมาแรง ที่คนอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเองเลือกทำเป็นสิ่งแรก ๆ แต่ก็ต้องบอกว่า สนามแข่งขันนี้ไม่ได้ง่ายอย่างที่หลายคนคิด เพราะคู่แข่งมีอยู่ทั่วทุกหัวมุมถนน การจะขายอาหารไม่มีหน้าร้านให้อยู่รอดได้ จึงจำเป็นจะต้องวางแผน และมีทริกดี ๆ ในการทำธุรกิจควบคู่ไปด้วย KTC เราจึงไม่พลาดที่จะเอาข้อมูลดี ๆ มาฝากทุกคนกันเอง

เลือกอ่านตามหัวข้อ

• สิ่งที่ต้องรู้ก่อนเริ่มขายอาหารออนไลน์ที่บ้าน
• 8 ทริกขายอาหารออนไลน์ที่บ้านแบบไม่มีหน้าร้านให้ปัง
• สรุปบทความ อยากเริ่มขายอาหารออนไลน์ที่บ้าน ต้องรู้อะไรบ้าง

สิ่งที่ต้องรู้ก่อนเริ่มขายอาหารออนไลน์ที่บ้าน

เมื่อพูดถึงการขายอาหารออนไลน์ที่บ้าน 3 สิ่งสำคัญที่จะมองไม่ได้เลย ก็คือ ต้นทุนค่าใช้จ่าย ประเภทอาหารที่อยากขาย และคู่แข่งในพื้นที่ทั้งหมด ซึ่งสาเหตุที่เราต้องคิดเผื่อตรงส่วนนี้เยอะ ๆ เป็นเพราะอะไร เราจะมาอธิบายให้เข้าใจกัน

ต้นทุนค่าใช้จ่าย

ต้นทุนค่าใช้จ่าย เป็นสิ่งที่เอาหลายคนพลาดตกม้าตายมาไม่น้อย จากการไม่คิดถึงต้นทุนแฝง อย่างเช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าแก๊ส ค่าน้ำมัน หรือแม้แต่ค่าแรงตัวเอง ที่ล้วนเป็นสิ่งที่ต้องบวกเพิ่มเข้าไปด้วย เพราะไม่อย่างนั้น การขายอาหารไม่มีหน้าร้านของเราอาจจะหากำไรไม่เจอก็ได้ หากไม่คิดคำนวณให้ถี่ถ้วน

คู่แข่งในพื้นที่

การสำรวจคู่แข่งในพื้นที่ ว่าทำเลที่เราอยู่นั้นเน้นขายอะไรกันบ้าง มีคู่แข่งอยู่กี่ช่วงราคา แล้วเราจะวางตัวเองอยู่ในระดับไหนของตลาดนี้ ก็เป็นอีกจุดสำคัญอย่างมาก ก่อนจะเริ่มขายอาหารออนไลน์ที่บ้าน เพราะหากมีคู่แข่งที่ขายอาหารประเภทเดียวกันกับที่เราเล็งไว้เยอะเกินไป อาจจะมีความท้าทายในการลงไปแย่งลูกค้าได้เหมือนกัน

เมนูอาหารที่เลือกขาย

เมนูอาหารที่เลือกขาย เป็นอีกจุดที่สำคัญเป็นอย่างมาก เพราะส่งผลในเรื่องของรสชาติโดยตรง เหมือนที่หลายคนน่าจะเข้าใจกันดีว่า อาหารบางประเภทอาจจะเหมาะกับการทานที่ร้านมากกว่า ไม่เหมาะกับการสั่งมาทานที่บ้าน เพราะรสชาติอาจจะผิดเพี้ยนไป จึงอาจทำให้เราควบคุมในเรื่องของรสชาติในการขายได้ยากนั่นเอง

8 ทริกขายอาหารออนไลน์ที่บ้านแบบไม่มีหน้าร้านให้ปัง

สำหรับคนที่มั่นใจแน่ ๆ ว่าการขายอาหารออนไลน์ที่บ้าน เป็นสิ่งที่อยากลองทำดูสักตั้ง เราก็มีทริกดี ๆ มาฝากกัน มาลองเอาไปปรับใช้กันดูได้เลย

1. ขายสิ่งที่ถนัด

การเลือกขายสิ่งที่ถนัด หรือเกิดจากความชอบกินส่วนตัว จะช่วยเพิ่มโอกาสในการอยู่รอดของธุรกิจขายอาหารไม่มีหน้าร้านของเราได้ เพราะเราจะมีข้อมูลของอาหารประเภทนั้นเยอะ ผ่านการตระเวนกินร้านเด็ด ร้านดังจากทั่วทุกสารทิศโดยไม่รู้ตัว เลยทำให้เรามีข้อมูลเชิงลึกค่อนข้างจะมากกว่า และเข้าใจว่าแบบไหนขายได้ แบบไหนไม่น่าจะขายได้ ต่างจากการขายสิ่งที่ไม่ชอบมากนัก แต่เลือกที่จะขายเพราะกำลังเป็นกระแส เราก็จะทำเมนูนั้นออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ควร

2. ใส่ใจในคุณภาพวัตถุดิบ

สิ่งที่ทำให้คนขายอาหารไม่มีหน้าร้านตกม้าตายมากที่สุด ก็คือการลดคุณภาพของวัตถุดิบลง จากของที่เคยสด ก็เริ่มไม่สดเหมือนเดิม โดยเฉพาะในช่วงแรกของการทำธุรกิจ ที่ยังคำนวณปริมาณของที่ใช้ได้แม่นยำนัก การลดต้นทุนในส่วนนี้ จากการนำกลับวัตถุดิบค้างคืนมาทำขายใหม่ในวันรุ่งขึ้น จะส่งผลในเรื่องของรสชาติโดยตรง และจะทำให้ลูกค้าหนีหายแบบไม่กลับมาสั่งอีกเลยก็ได้

3. ให้ความสำคัญกับหน้าตาอาหาร

เพราะการขายอาหารออนไลน์ที่บ้าน ลูกค้าจะไม่มีโอกาสได้เห็นร้าน หรือหน้าเตาที่เราประกอบอาหารเลย การถ่ายภาพอาหารให้สวยงาม เพื่อใส่ลงไปในเมนูร้าน จึงมีความสำคัญอันดับต้น ๆ เลยก็ว่าได้ เพราะจะช่วยเชื้อเชิญให้ลูกค้าอยากสั่งมากกว่าร้านที่ไม่ลงรูป

4. ราคาต้องเข้าถึงได้

แม้ว่าจะโดนหักค่า GP จากแพลตฟอร์มที่ขายออนไลน์ แต่การตั้งราคาให้เข้าถึงได้ คนขายอยู่รอด ลูกค้าสั่งกินได้โดยไม่เป็นภาระเงินในกระเป๋ามากนัก ก็จะเป็นอีกจุดหนึ่งที่ช่วยให้ธุรกิจขายอาหารออนไลน์อยู่รอดได้ โดยไม่จำเป็นจะต้องผลักภาระด้านต้นทุนทั้งหมดไปที่ลูกค้า

5. มีเมนูรองรับลูกค้าหลายกลุ่ม

เพราะเรื่องกินเป็นเรื่องใหญ่สำหรับคนไทย ด้วยเมนูสตรีทฟู้ดที่มีให้เลือกกินตลอด 24 ชม. ในบ้านเรา ทำให้ความจำเจ อาจกลายเป็นจุดอ่อนของการขายอาหารไม่มีหน้าร้าน เพราะลูกค้าส่วนใหญ่มักจะอยากได้เมนูให้เลือกเยอะ ๆ มีให้สั่งได้ไม่ซ้ำวัน ถ้าร้านไหนมีเมนูเยอะ ก็จะได้เปรียบกว่าในการเจาะกลุ่มลูกค้านั่นเอง

6. จัดโปรโมชันสม่ำเสมอ

ในบางครั้ง อาหารที่อร่อย ราคาจับต้องได้ ก็อาจจะไม่เพียงพอในการเรียกลูกค้าเข้าร้าน แต่การมีโปรโมชันเพื่อดึงดูดบ้าง อย่างการจัดชุดสุดคุ้ม ที่ให้ลูกค้าเลือกจับคู่อาหาร 2 เมนูขึ้นไปในราคาที่ประหยัดกว่า หรืออาจจะจับคู่กับเมนูน้ำแทน ก็จะเป็นอีกทริกดี ๆ ในการกระตุ้นยอดขายได้เช่นกัน

7. บริหารลำดับคิวให้ดี

การเสิร์ฟอาหารช้าในร้านว่าแย่แล้ว การสั่งแบบเดลิเวอรี่ที่ได้อาหารช้านั้นอาจแย่ยิ่งกว่า หลายคนน่าจะเข้าใจอารมณ์คนโมโหหิวได้ดี ลำดับคิวในการขายอาหารออนไลน์ที่บ้านจึงสำคัญมาก โดยเฉพาะในช่วงที่เรามีลูกค้าเยอะ ไม่ควรเลือกทำเมนูพ่วงที่สั่งมาเหมือนกันออกไปก่อน เพราะท้ายที่สุดจะทำให้การรันออเดอร์ไม่เป็นระเบียบ และเกิดการตกหล่นอย่างเลี่ยงไม่ได้

8. เลือกบริการขนส่งให้ตอบโจทย์

การเลือกแพลตฟอร์มที่ดีในการขายอาหารออนไลน์ที่บ้าน นอกจากจะส่งผลในเรื่องยอดขายแล้ว ยังอาจส่งผลในเรื่องของการขนส่งด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะในเรื่องของมาตรฐานการจัดส่ง เวลา และการความสะดวกในการสั่ง สิ่งเหล่านี้ล้วนสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม และเลือกใช้อะไรก็ได้ในการทำธุรกิจ

สรุปบทความ อยากเริ่มขายอาหารออนไลน์ที่บ้าน ต้องรู้อะไรบ้าง

และทั้งหมดนี้ ก็คือทริกดี ๆ ในการขายอาหารออนไลน์ที่บ้าน โดยไม่ต้องพึ่งหน้าร้าน ที่ใครอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเองสามารถทำตามได้ หรืออาจจะนำไปปรับใช้ตามความเหมาะสมก็ได้เช่นกัน แต่สำหรับคนที่ไม่มีทุน และอยากจะได้เงินสักก้อนในการเริ่มต้นทำธุรกิจ หากคุณมีรถยนต์เป็นของตัวเอง สินเชื่อ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน

คือคำตอบสำหรับคุณ เพราะเรามีวงเงินก้อนใหญ่ สมัครง่าย ขั้นตอนไม่เยอะ พร้อมบริการ พี่เบิ้ม Delivery เดินทางไปตรวจสภาพรถ และประเมินราคาให้ถึงหน้าบ้าน ที่สำคัญยังอนุมัติไว รับเงินก้อนได้ทันที โดยไม่ต้องมีคนค้ำประกัน โดยผ่อนได้นานสูงสุด 84 เดือน และยังเลือกรับบัตรกดเงินสด KTC พี่เบิ้มสำหรับใช้ฉุกเฉิน แบบกดได้ฟรีโดยไม่มีค่าธรรมเนียมเพิ่มอีกด้วย

สมัคร KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน รับวงเงินก้อนใหญ่ได้ทันที

สมัครง่าย ขั้นตอนน้อย รู้ผลไว โดยไม่ต้องมีคนค้ำประกัน

*กรุณาศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ก่อนทำการสมัคร*

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ และธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด*

*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ย 21%-24% ต่อปี*