e-Tax Invoice คืออะไร ดีกว่าใบกำกับภาษีแบบเดิมอย่างไร
ใบกำกับภาษี (Tax Invoice) เอกสารสำคัญที่ทุกธุรกิจ หรือร้านค้าที่มีการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม จะต้องออกให้กับทางลูกค้าทุกครั้ง เมื่อมีการขายสินค้าหรือบริการให้ เพื่อเป็นหลักฐานที่ใช้แสดงมูลค่าสินค้า บริการ และจำนวนภาษีที่เรียกเก็บเพิ่ม หรือที่เราคุ้นชินกันดีกับคำว่าจ่าย VAT 7% ซึ่งมีความยุ่งยากเป็นอย่างมาก ในการจัดเก็บเอกสารเพื่อนำส่งไปยังสรรพากร จึงทำให้ “ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์” หรือ “e-Tax Invoice” ได้ถูกนำมาใช้งานแทนที่ เพื่อความสะดวกสบายที่มากขึ้น วันนี้ทาง KTC เราจะพาไปทำความเข้าใจเรื่องนี้กันให้มากขึ้นเอง
เลือกอ่านตามหัวข้อ
e-Tax Invoice คืออะไร
e-Tax Invoice คือ ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ ที่ทางกรมสรรพากรออกกฎให้กับทางผู้ประกอบการ ใช้เป็นหลักฐานในการนำส่งเมื่อมีการขายสินค้า หรือบริการทุกครั้ง เพื่อช่วยลดปริมาณเอกสารที่ยุ่งยาก และเข้าถึงข้อมูลได้ยาก จึงเปลี่ยนเป็นเอกสารที่จัดส่งทางออนไลน์แทน
e-Tax Invoice มีกี่แบบ
e-Tax Invoice มี 2 แบบ คือ e-Tax Invoice by Email และ e-Tax Invoice & e-Receipt ซึ่งทั้งสองแบบจะมีรายละเอียดที่แตกต่างกันในการจัดส่งใบกำกับภาษี รวมไปถึงความแตกต่างในการใช้งาน ที่จะขึ้นอยู่กับรายได้จากการประกอบการร่วมด้วย ดังนี้
e-Tax Invoice & e-Receipt
e-Tax Invoice & e-Receipt เป็นการจัดทำใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งใบเพิ่มหนี้ ใบลดหนี้ และใบเสร็จรับเงิน ที่มีลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ (Digital Signature) ให้แก่ผู้ซื้อสินค้า หรือบริการ โดยจะต้องทำให้อยู่ในรูปแบบ XML File เพื่อจัดส่งข้อมูลให้กับทางกรมสรรพากรตามมาตรฐานที่กำหนดเท่านั้น
e-Tax Invoice by Email
e-Tax Invoice by Email คือการทำใบกำกับภาษีตามเดิม แต่เปลี่ยนช่องทางการจัดส่งจากแบบเดิมที่เป็นการส่งผ่านไปรษณีย์ เปลี่ยนเป็นการส่งผ่านทาง Email แทน เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการส่งข้อมูลภาษีทางกรมสรรพากร
ความแตกต่างของ e-Tax Invoice & e-Receipt กับ e-Tax Invoice by Email
e-Tax Invoice & e-Receipt
- ไม่จำกัดรายได้ในการใช้งาน
- การจัดทำข้อมูลส่งสรรพากรจะต้องเป็นไฟล์ XML, PDF, Word, หรือ Excel
- ต้องใช้ใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ (CA) และลงลายเซ็นดิจิทัล
e-Tax Invoice by Email
- จำกัดรายได้ไม่เกิน 30 ล้านบาทต่อปี
- การจัดทำข้อมูลส่งสรรพากรจะต้องเป็นไฟล์ PDF
- มีประทับรับรองเวลา (Time Stamp) ผ่านระบบ e-Tax Invoice by Email ของ สพธอ.
e-Tax Invoice กับ e-Receipt ต่างกันไหม
e-Tax Invoice คือใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ ที่ผู้ประกอบการจะต้องออกให้กับทางผู้ซื้อสินค้า และบริการ พร้อมทำการจัดส่งข้อมูลรายงานไปยังกรมสรรพากร ส่วน e-Receipt จะเป็นใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์ ที่เป็นหลักฐานในการชำระค่าสินค้า หรือบริการตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งผู้ซื้อสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ในภายหลัง และเอกสารทั้งสองอย่างจะถูกออกให้กับผู้ซื้อสินค้า และบริการทุกครั้ง
ทำไมต้องทำ e-Tax Invoice มีข้อดีอย่างไร
หากจะพูดถึงข้อดีว่าทำไมธุรกิจถึงควรใช้ e-Tax Invoice หรือใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์แทนแบบเดิม ก็ต้องบอกว่าความสะดวก รวดเร็ว นั้นคือหัวใจหลักในการช่วยประหยัดเวลาในการนำส่งข้อมูลตรงส่วนนี้ แต่ก็ยังมีข้อดีอีกมากมาย ที่หลายคนอาจจะมองข้ามไป เราจะพามาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
- มีความปลอดภัยสูง การโดนโจรกรรมข้อมูล หรือสูญหายจึงเกิดขึ้นได้น้อย เพราะมีการเข้ารหัสข้อมูล และการตรวจสิทธิ์เอาไว้ เพื่อป้องกันการดึงข้อมูลจากผู้ไม่ได้รับอนุญาต
- ช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการพิมพ์เอกสาร และการจัดเก็บใบกำกับภาษีในรูปแบบกระดาษ
- มีความสะดวกในการใช้งานมากกว่า และจัดส่งข้อมูลให้กรมสรรพากรได้หลายวิธี
- ป้องกันการทุจริตภายใน เพราะใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์จะถูกจัดเก็บขึ้น Server โดยอัตโนมัติ จึงสามารถเข้าไปตรวจสอบข้อมูลได้ตลอดเวลา
ใครออก e-Tax Invoice ได้บ้าง
กิจการที่มีรายได้มากกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี สามารถขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มกับทางกรมสรรพากรได้ เพื่อออกใบกำกับภาษีอย่างถูกต้องในการขายสินค้า และบริการ โดยจะต้องยื่นขอภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่มีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทขึ้นไป
ขั้นตอนการยื่นคำขอจัดทำ e-Tax Invoice & e-Receipt
สำหรับผู้ประกอบการที่อยากจัดทำใบกำกับภาษีออนไลน์ แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร สามารถทำตามขั้นตอนด้านล่างนี้ได้เลย
1. เข้าไปยังเว็บไซต์กรมสรรพากรเพื่อยื่นคำขอ (www.rd.go.th)
2. โหลดโปรแกรม Ultimate Sign & Viewer Free และทำการติดตั้งลงในคอมพิวเตอร์
3. เชื่อมต่ออุปกรณ์ USB Token หรือ HSM ที่มีการเข้ารหัส เพื่อจัดเก็บใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์
4. กรอกเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร และตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้อง
5. กรอกข้อมูล และเซ็นรับรองข้อตกลงใน บ.อ.01
6. ตรวจสอบความถูกต้องของอีเมล และสร้างบัญชีในการเข้าใช้งาน
สรุปบทความ e-Tax Invoice คืออะไร ดีกว่าใบกำกับภาษีแบบเดิมอย่างไร
เห็นกันแล้วใช่ไหม การทำ e-Tax Invoice นั้นมีข้อดีมากมาย อีกทั้งยังสะดวกตอบโจทย์ผู้ประกอบการ และผู้ซื้อสินค้า และบริการร่วมด้วย จึงไม่มีเหตุผลที่จะไม่ทำเลยสักนิด เมื่อเทียบกับใบกำกับภาษีแบบเก่า ที่ต้องพิมพ์เป็นกระดาษออกมา ซึ่งจัดเก็บได้ลำบาก และยังต้องนำส่งผ่านไปรษณีย์ก่อนวันที่ 15 ทุกเดือน เรียกได้ว่าสร้างความวุ่นวายในการดำเนินธุรกิจเป็นอย่างมาก
และสำหรับคนที่กำลังขาดสภาพคล่องในธุรกิจ แต่ยังไม่รู้จะหาเงินก้อนที่ไหน ถ้าคุณมีรถไว้ใช้งาน คุณต้องไม่พลาดสินเชื่อ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน ที่มีวงเงินก้อนใหญ่ อนุมัติไว สมัครได้ง่าย ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก รับเงินก้อนได้ทันทีหลังทราบผล โดยไม่ต้องมีคนค้ำประกัน และผ่อนได้นานสูงสุด 84 เดือน พร้อมทั้งมีบริการ พี่เบิ้ม Delivery ที่จะเดินทางไปตรวจสภาพรถให้ถึงหน้าบ้าน โดยสามารถเลือกรับบัตรกดเงินสด KTC พี่เบิ้มไว้ใช้งานฉุกเฉิน แบบกดได้ฟรีไม่มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมอีกด้วย
สมัคร KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน รับวงเงินก้อนใหญ่
สมัครง่าย อนุมัติไว ตรวจสภาพรถให้ฟรีถึงหน้าบ้าน
*กรุณาศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ก่อนทำการสมัคร*
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ และธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด*
*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ย 21%-24% ต่อปี*