ทำความรู้จัก "สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์" ก่อนการกู้ยืม

หากนึกถึงสินเชื่อถูกกฎหมาย อนุมัติไว และตอบโจทย์คนต้องการกู้ยืมเงินด่วน สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ (Nano Finance) คือหนึ่งในประเภทสินเชื่อที่ตอบโจทย์มากที่สุด แต่หลายคนอาจจะยังไม่คุ้นชินกับสินเชื่อนี้ วันนี้ KTC จะมาอธิบายว่า นาโนไฟแนนซ์ คืออะไร และใครบ้างที่เหมาะกับสินเชื่อประเภทนี้ เรามาทำความเข้าใจกันดีกว่า

เลือกอ่านตามหัวข้อ

• สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ คืออะไร
• ความต่างของสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์กับสินเชื่อส่วนบุคคล
• สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์เหมาะกับใคร
• 4 สิ่งที่ควรทำก่อนตัดสินใจกู้เงิน
• สรุปบทความ ทำความรู้จัก "สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์" ก่อนการกู้ยืม

สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ คืออะไร

สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ คือ สินเชื่อรายย่อยที่ภาครัฐสนับสนุนให้ประชาชนสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบได้ง่ายขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อนำไปใช้ในการประกอบอาชีพ หรือต่อยอดธุรกิจ ซึ่งจะช่วยลดปัญหาการพึ่งพาเงินกู้นอกระบบที่มีดอกเบี้ยสูง ทั้งนี้สินเชื่อประเภทนี้จะอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย มีการกำหนดเพดานวงเงินสูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท และอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 33% ต่อปี เพื่อให้ประชาชนได้รับความเป็นธรรมในการกู้ยืม

สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ถูกกฎหมายไหม

สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ (Nano Finance) เป็นสินเชื่อที่ถูกต้องตามกฎหมาย และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลอย่างเข้มงวดของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยผู้ให้บริการสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขสำคัญ ดังนี้

• ต้องได้รับใบอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทยก่อนเปิดดำเนินการ
• ต้องมีทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท
• ต้องเป็นนิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศไทย
• ต้องมีระบบการบริหารจัดการที่ดีและโปร่งใส
• ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การกำกับดูแลอย่างเคร่งครัด

ความต่างของสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์กับสินเชื่อส่วนบุคคล

แม้จะเป็นสินเชื่อที่ไม่ต้องใช้หลักประกัน แต่สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ และสินเชื่อส่วนบุคคลก็มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนในหลายด้าน เรามาดูความแตกต่างที่ต้องทำความเข้าใจกัน

ดอกเบี้ย

สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ (Nano Finance) มีอัตราดอกเบี้ยสูงสุดไม่เกิน 33% ต่อปี ขณะที่สินเชื่อส่วนบุคคลอยู่ที่ 25% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าสะท้อนถึงความเสี่ยงในการปล่อยสินเชื่อให้ผู้ที่ไม่มีหลักฐานรายได้ประจำ อย่างไรก็ตาม อัตรานี้ยังต่ำกว่าการกู้นอกระบบมาก

วงเงินอนุมัติ

สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ (Nano Finance) กำหนดวงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาทต่อราย ต่างจากสินเชื่อส่วนบุคคลที่พิจารณาจากฐานรายได้เป็นหลัก เช่น

• หากมีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาท ได้วงเงินไม่เกิน 1.5 เท่า
• หากมีรายได้ตั้งแต่ 30,000 บาทขึ้นไป ได้วงเงินไม่เกิน 5 เท่า

คุณสมบัติผู้สมัคร

และในส่วนของคุณสมบัติในการสมัครสินเชื่อทั้ง 2 ประเภท ก็จะต่างกัน ดังนี้

สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์

• ไม่จำเป็นต้องมีหลักฐานรายได้ประจำ
• เหมาะกับผู้ประกอบอาชีพอิสระ
• มีความยืดหยุ่นในการพิจารณา

สินเชื่อส่วนบุคคล

• ต้องมีรายได้ประจำชัดเจน
• ต้องมีเอกสารยืนยันรายได้
• ต้องมีประวัติเครดิตที่ดี

สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์เหมาะกับใคร

สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ เหมาะสำหรับคนหลากหลายอาชีพ ดังนี้

• ผู้ประกอบการรายย่อยที่ต้องการเงินทุนหมุนเวียน
• ผู้ที่ไม่มีหลักฐานรายได้ประจำ
• ผู้ที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจขนาดเล็ก
• ผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อในระบบปกติได้

4 สิ่งที่ควรทำก่อนตัดสินใจกู้เงิน

การตัดสินใจขอสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ ถือเป็นภาระผูกพันทางการเงินที่สำคัญ แม้จะเป็นสินเชื่อที่เข้าถึงง่าย แต่ผู้กู้ควรพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ อย่างรอบด้านก่อนตัดสินใจ เพื่อให้การกู้ยืมเกิดประโยชน์สูงสุดและไม่กลายเป็นภาระในอนาคต เรามาดูสิ่งที่ควรคิดเผื่อกันไว้ดีกว่า

1. วัตถุประสงค์ในการใช้เงิน

ควรพิจารณาอย่างรอบคอบว่าเงินที่จะกู้จะนำไปใช้ในการสร้างรายได้จริง ไม่ใช่เพื่อการบริโภคที่ไม่จำเป็น และวางแผนการใช้เงินให้คุ้มค่าที่สุด

2. ประเภทของสินเชื่อที่ตรงความต้องการ

ศึกษาข้อมูลให้ละเอียดว่าสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ตอบโจทย์ความต้องการของคุณหรือไม่ เปรียบเทียบกับสินเชื่อประเภทอื่น ๆ ทั้งด้านดอกเบี้ย วงเงิน และเงื่อนไขการผ่อนชำระ

3. เงื่อนไขและรายละเอียดการกู้ยืม

ตรวจสอบเงื่อนไขทุกข้อให้เข้าใจชัดเจน ทั้งระยะเวลาผ่อน ค่าธรรมเนียม ค่าปรับกรณีผิดนัดชำระ และเงื่อนไขอื่น ๆ ที่อาจส่งผลต่อภาระการผ่อนในอนาคต

4. ความสามารถในการผ่อนชำระ

ประเมินรายรับ-รายจ่ายของตนเองอย่างตรงไปตรงมา ควรมีเงินเหลือหลังหักค่าใช้จ่ายประจำแล้วอย่างน้อย 30% ของรายได้ เพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถผ่อนชำระได้ตรงเวลา

สรุปบทความ ทำความรู้จัก "สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์" ก่อนการกู้ยืม

สรุปได้ว่า สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ เป็นประเภทสินเชื่อที่ช่วยแก้ปัญหาให้กับคนเข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุน หรือคนที่มีภาระด้านการเงิน แต่ไม่มีหลักฐานรายได้ประจำ ด้วยความยืดหยุ่นที่มากกว่าในเกณฑ์การพิจารณานั่นเอง แต่สำหรับใครที่ประสบปัญหา และจำเป็นต้องใช้เงินก้อน KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน ช่วยคุณได้ด้วยบริการสินเชื่อวงเงินก้อนใหญ่ สมัครง่าย ไม่ยุ่งยาก อีกทั้งยังมีบริการ พี่เบิ้ม Delivery ไปประเมินราคารถให้ถึงหน้าบ้าน อนุมัติไวใน 1 ชม. รับเงินก้อนได้ทันที โดยไม่ต้องมีคนค้ำประกัน และผ่อนได้นานสูงสุด 84 เดือน โดยสามารถเลือกรับบัตรกดเงินสด KTC พี่เบิ้ม ไว้ใช้จ่ายในกรณีฉุกเฉินได้อย่างอุ่นใจ หากไม่มีการกดใช้ก็ไม่เสียดอกเบี้ยแต่อย่างใด

*กรุณาศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ก่อนทำการสมัคร*

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ และธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด*

*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ย 21%-24% ต่อปี*

*กรณีที่รถยังผ่อนไม่หมด สามารถนำมาประเมินวงเงินเบื้องต้นได้*