7 เครื่องให้อาหารแมว สุนัข ออโต้ ตั้งเวลาได้ ยี่ห้อไหนดีในปี 2025

ตัวช่วยสำคัญสำหรับคนเลี้ยงสัตว์โดยเฉพาะหมาแมวที่ไม่ค่อยได้อยู่บ้าน ทำงานออฟฟิศ มีธุระต้องไปต่างจังหวัด หรือไปทริปต่างประเทศในระยะสั้น แนะนำให้ซื้อ “เครื่องให้อาหาร” สามารถใช้ได้กับแมว และสุนัขติดบ้านเอาไว้อย่างน้อย 1 เครื่อง เพราะนอกจากคุณสมบัติหลักที่ช่วยให้อาหารได้อัตโนมัติ สามารถตั้งเวลาได้ ยังมีการนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้กับเครื่องให้อาหารแมว และเครื่องให้อาหารสุนัขให้ล้ำสมัยมากยิ่งขึ้น อย่างเช่น การติดกล้อง เจ้าของส่งเสียงผ่านลำโพงได้ หรือแม้แต่การสั่งงานเครื่องให้อาหารผ่านแอปได้แบบเรียลไทม์ หากคุณกำลังหาข้อมูลเพื่อใช้ตัดสินใจในการเลือกซื้อเครื่องให้อาหารแมว ออโต้อยู่ บทความนี้จะมาแนะนำ 7 เครื่องให้อาหารแมว สุนัข ปี 2025 พร้อมบอกรายละเอียด เพื่อตอบคำถามที่คาใจใครหลายคนว่าจะซื้อเครื่องให้อาหารแมว ยี่ห้อไหนดี

วิธีเลือกเครื่องให้อาหารอัตโนมัติ

สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับใครที่กำลังเลือกซื้อเครื่องให้อาหารแมว หมาแบบอัตโนมัติคือ “ความจุของถังใส่อาหาร” เพราะจะสอดคล้องกับการคำนวณต่างๆ อย่างเช่น จำนวนสัตว์เลี้ยง และระยะเวลาที่คุณไม่อยู่บ้าน แนะนำหากใครมีงบประมาณ ให้เลือกที่ให้อาหารอัตโนมัติที่มีถังความจุขนาดใหญ่ เผื่อไว้สำหรับเหตุฉุกเฉิน สัตว์เลี้ยงจะยังคงมีอาหารเหลือพอ สิ่งที่สำคัญถัดไปก็คือเรื่องของฟังก์ชัน อย่างกล้องหรือระบบตั้งเวลาอัตโนมัติ และงบประมาณ เพราะเครื่องให้อาหารอัตโนมัติรุ่นใหม่ราคาจะค่อนข้างสูง สำหรับคนที่งบจำกัด การซื้อรุ่นเก่าอาจเพียงพอต่อความต้องการได้เช่นกัน

อีกหนึ่งเคล็ดลับการซื้อเครื่องให้อาหารอัตโนมัติอย่างคุ้มค่า อย่าลืมมองหาโปรโมชั่นจากร้านค้าสัตว์เลี้ยง โรงพยาบาลสัตว์กับบัตรเครดิต KTC

• รับสิทธิประโยชน์ส่วนลดสูงสุด 30% จากร้านค้าค้าสัตว์เลี้ยง และโรงพยาบาลสัตว์ชั้นนำที่ร่วมรายการทั่วประเทศ
• Paw WOW Week: สมาชิกบัตรฯที่มียอดใช้จ่ายสูงสุดประจำสัปดาห์ (Weekly Top Spender) โดยมียอดค่าใช้จ่ายทั้งหมดในหมวดสัตว์เลี้ยงตามที่กำหนด

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Paw WOW Week -Top Spender ทุกสัปดาห์

ขอบคุณรูปภาพจาก https://petkit.co.uk/products/yumshare-dual-hopper-with-camera

1.PETKIT Yumshare Dual-Hopper With Camera (Global Version)

เครื่องให้อาหารแมวออโต้ ที่ใช้ได้ทั้งกับอาหารแมว และอาหารสุนัข มาพร้อมถังใส่อาหารความจุขนาดใหญ่ 5 ลิตร และมีช่องใส่อาหารทั้งหมด 2 ช่อง สามารถเลือกใส่อาหารได้สองอย่าง จะแบ่งเป็นช่องละ 2 ลิตร กับ 3 ลิตร ข้อดีของเครื่องให้อาหารรุ่นนี้คือฟังก์ชันล้ำสมัย มาพร้อมกล้อง 140 องศา มองเห็นสัตว์เลี้ยงได้ในขณะที่กินข้าว และส่งเสียงผ่านเครื่องได้ด้วยเพียงแค่คลิกเดียว สั่งการทุกอย่างได้ผ่านแอปแบบระยะไกล แต่ว่าจะต้องเชื่อมต่อเครื่องให้อาหารกับ Wifi 2.4 G. ภายในบ้าน สามารถกำหนดการให้อาหาร และบันทึกการกินได้ ทั้งนี้ทางแบรนด์เคลมว่าด้วยความจุถังมากถึง 5 ลิตร ทำให้เมื่อใส่อาหารเต็ม จะให้อาหารอัตโนมัติได้นาน 1 เดือน

ข้อดี

1. มีช่องใส่อาหาร 2 ช่อง สามารถใส่อาหารได้ 2 ประเภท
2. บันทึกกล้องด้วยระบบ AI ช่วยบันทึกคลิป และตัดต่อให้อัตโนมัติ

ขอบคุณรูปภาพจาก https://alectric.asia/180006763-180006763-alectric-smart-pet-feeder-5l-smart-pf1-3.html

2.Alectric Smart Pet Feeder Smart PF1

สำหรับเจ้าของที่ฝึกสัตว์เลี้ยงด้วยการให้อาหารตรงเวลา แนะนำเครื่องให้อาหารอัตโนมัติรุ่นนี้ ที่สามารถตั้งเวลาได้เลย และมาพร้อมกล้องและไมค์ ส่งเสียงผ่านเครื่องได้อย่างชัดเจน นอกจากจะส่งเสียงผ่านไมค์ และยังบันทึกเสียงสัตว์เลี้ยงได้ด้วย โดดเด่นด้วยถังความจุมากถึง 5 ลิตร เป็นถังความจุใส่อาหารขนาดใหญ่ มีฝาปิดซิลิโคนเพื่อกันความชื้น ทำให้อาหารยังมีความน่ารับประทาน และดูสดใหม่อยู่เสมอ ซึ่งคุณสามารถตั้งเวลาให้อาหาร และให้อาหารระยะไกลผ่านแอปพลิเคชันได้เลย ส่วนดีไซน์ของเครื่องให้อาหารแมวรุ่นนี้ จะมาเป็นทรงเหลี่ยม และใช้พื้นที่ไม่เยอะ สะดวกสำหรับคนเลี้ยงแมวในพื้นที่จำกัด อย่างคอนโด หรือห้องเช่า

ข้อดี

1. วางแผนการให้อาหาร ตั้งเวลา และส่งเสียงให้ผ่านแอปพลิเคชัน
2. ขนาดกะทัดรัด เหมาะกับคนที่มีพื้นที่จำกัด

ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.aquapro.co.th/product/petoneer-nutrivue-feeder-pf008/

3.Petoneer NUTRI VUE

ถ้าพูดถึงเรื่องนวัตกรรมที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง แบรนด์ “Petoneer” เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ยืนหนึ่งมาโดยตลอด ซึ่งสำหรับรุ่นที่แนะนำก็คือ NUTRI VUE ซึ่งเหมาะกับสัตว์เลี้ยงขนาดเล็กถึงปานกลาง ที่กินอาหารไม่เยอะมากนัก แต่เน้นราคาที่จับต้องได้ เพราะมีถังใส่อาหารความจุ 2.6 ลิตร ซึ่งเมื่อเทียบกับราคาแล้วก็คุ้มค่ากับฟังก์ชันที่ได้รับ เพราะรุ่นนี้มีกล้องที่สั่งงานผ่านสมาร์ทโฟนมาให้ พร้อมกลไกการให้อาหารแบบ Auto Reverse ที่ป้องกันการติดขัดของเม็ดอาหาร โดยผู้เลี้ยงสามารถตั้งโปรแกรมการให้อาหารได้สูงสุด 12 ครั้งต่อวัน แถมยังมั่นใจในความปลอดภัย ไม่มีสารปนเปื้อน เพราะผ่านการทดสอบตามมาตรฐานคุณภาพและความปลอดภัยระดับโลก และถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้อย่างทนทานด้วยโครงสร้างแบบ Heavy Duty

ข้อดี

1. มีกลไก Auto Reverse ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ ป้องกันการติดขัดของอาหาร เวลาสั่งจ่ายผ่านเครื่องอัตโนมัติ
2. ใช้วัสดุที่แข็งแรง และปลอดภัยต่อสัตว์เลี้ยง 100% ด้วย Food Grade ABS ไม่เป็นพิเศษ ไม่มีกลิ่น และไม่มีรส

ขอบคุณรูปภาพจาก https://sawaddeeit.com/product/xiaomi-smart-pet-food-feeder-eu/

4.Xiaomi Smart Pet Food Feeder

แม้จะเป็นแบรนด์ที่ทำเครื่องให้อาหารอัตโนมัติมาเป็นลำดับหลังๆ แต่ว่าด้วยฟังก์ชันที่ดี ราคาที่คุ้มค่า และดีไซน์ที่สวยเรียบง่ายแบบมินิมอล ทำให้เครื่องให้อาหารรุ่นนี้ครองใจผู้ใช้งานได้ไม่ยากเลย ซึ่งจุดเด่นของเครื่องให้อาหารแมวออโต้ “Xiaomi Smart Pet Food Feeder” ก็คือสามารถใช้งาน และตั้งค่าทุกอย่างผ่านทางสมาร์ทโฟน ทั้งการตั้งเวลาให้อาหาร หรือปรับปริมาณให้อาหาร เหมาะสำหรับคนที่เคร่งครัดเรื่องการจำกัดปริมาณอาหารของสัตว์เลี้ยง เพราะมีโครงสร้างการจำหน่ายอาหารแบบ 6 กริด ทำให้ปริมาณอาหารที่ออกมาได้ตรงตามน้ำหนัก และปริมาณที่ต้องการ สำหรับถังใส่อาหารก็มีการซีลมากถึง 3 ชั้น ทำให้อาหารไม่ชื้น และสดใหม่เหมือนเพิ่งเทออกจากถุง แต่รุ่นนี้จะเหมาะกับเจ้าของที่เดินทางไม่ไกลมาก เพราะอยู่ได้มากสุด 15 - 20 วัน

ข้อดี

1. มีวงแหวนซิลิโคน 360 องศา และตลับใส่สารดูดความชื้น ทำให้อาหารยังคงสดใหม่เสมอ
2. โปรแกรมป้อนอาหารสัตว์เลี้ยงได้อย่างอัจฉริยะ ด้วยการสั่งงานผ่านแอปพลิเคชัน ได้ทั้งการกำหนดเวลา และปริมาณของอาหาร

ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.munkonggadget.com/product/detail?p=64a53b08ca5fa90cac827eb6

5.PETKIT Fresh Element 3 (Global Version)

ที่สุดของความล้ำด้วยเครื่องให้อาหารแมวและสุนัขแบบออโต้ที่ทันสมัยมากจากแบรนด์ PETKIT ซึ่งรุ่นนี้มีความพิเศษหลายอย่าง และเชื่อว่าฟังก์ชันน่าดึงดูดใจมากพอที่จะทำให้คุณยอมลงทุนซื้อเครื่องนี้ไว้ให้อาหารสัตว์อัตโนมัติที่บ้าน อย่างแรกก็คือการใส่อาหารได้มากถึง 3 ชนิด อาหารแห้ง อาหารแห้งผสม หรือว่าฟรีซดราย โดยไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารหมด หรือว่าอาหารติดค้างอยู่ด้านใน เพราะใช้ระบบอินฟาเรดตรวจจับ และมีการติดตั้งเซนเซอร์น้ำหนักใต้ชาม เพื่อทำการควบคุมปริมาณอาหาร และวัดอาหารที่สัตว์เลี้ยงกินหมดในแต่ละมื้อ ทำให้คุณสามารถวางแผนให้อาหารได้อย่างแม่นยำมากขึ้น รุ่นนี้จะมีให้เลือกระหว่างความจุ 3 และ 5 ลิตร

ข้อดี

1. มีระบบหมุนถาดอาหาร ทำให้อาหารไม่กองเป็นก้อน และมีเซนเซอร์วัดปริมาณอาหารที่กินเหลือ เหมาะกับคนที่จำกัดปริมาณการให้อาหารสัตว์เลี้ยง
2. จ่ายไฟด้วยแบตเตอรี่ Lithium จ่ายไฟได้ไม่สะดุดแม้ไฟดับ

ขอบคุณรูปภาพจาก https://rabbitselection.com/products/pando-pet-smart-camera-feeder-4l

6.PANDO Pet Smart Camera Feeder 4L

บ้านไหนที่ให้อาหารสัตว์เลี้ยงทั้งแบบเม็ด และฟรีซดรายจะต้องถูกใจรุ่นนี้แน่นอน เพราะเป็นการออกแบบมาให้เครื่องให้อาหารสัตว์ออโต้ของ PANDO รุ่นนี้ใส่อาหารแห้ง และฟรีซดรายที่มีขนาดไม่เกิน 12 mm ได้ และสามารถตั้งเวลาจ่ายอาหารผ่านแอปได้มากถึง 15 ครั้ง ภายใน 1 วัน ให้คุณได้เห็นหน้าสัตว์เลี้ยงแสนรักได้ด้วยกล้องความละเอียดสูง มีทั้งไมค์ และลำโพงภายในเครื่องให้ส่งเสียงเรียกให้หมา แมวมากินอาหารได้ ส่วนการป้องกันอากาศเข้าก็ทำได้ดีมาก ด้วยขอบฝาถังอาหารที่เป็นซิลิโคน และฟันเฟืองภายในถังที่ช่วยไม่ให้อากาศเข้าไป จึงมั่นใจได้ว่าอาหารจะไม่ชื้น และมีความกรอบสดใหม่ ซึ่งเป็นหัวใจหลักความอร่อยของอาหารฟรีซดราย ความพิเศษอีกหนึ่งอย่างของเครื่องรุ่นนี้ คือสามารถเลือกได้ว่าจะซื้อแบบหัวจ่ายอาหาร 1 ฝั่งเดียว หรือ 2 ฝั่ง เหมาะกับคนที่เลี้ยงแมวหรือสุนัขหลายตัว

ข้อดี

1. ใส่ได้ทั้งอาหารเม็ด และฟรีซดราย
2. กล้องมีความละเอียด 1080p และ Night Mode ทำให้มองเห็นสัตว์เลี้ยงได้ในที่มืด และตอนกลางคืน

ขอบคุณรูปภาพจาก https://tailybuddy.com/product/9926/?lang=TH

7.HOMERUNPET Smart Pet Feeder

แม้ข้อจำกัดของเครื่องให้อาหารอัตโนมัติหลายรุ่นจะอยู่ที่การจำกัดขนาดของอาหาร แต่ไม่เป็นปัญหาสำหรับรุ่นนี้อย่างแน่นอน เพราะ “HOMERUNPET Smart Pet Feeder” มีช่องจ่ายอาหารที่มีความสูงมากถึง 54 mm ทำให้ใส่อาหารได้หลายแบบ แม้กระทั่งอาหารเม็ดใหญ่ หรือว่าอาหารแมวแบบฟรีซดราย นอกจากนั้นยังมีเซนเซอร์อินฟาเรดที่ช่วยตรวจจับว่ามีอาหารเหลือเท่าไหร่ และถังเก็บอาหารแบบ Fresh-locking มีฝาครอบปิดผนึก ช่วยทำให้อาหารคงความสดใหม่ได้ยาวนานมากขึ้น มาพร้อมวงแหวนยางซีลที่ช่วยป้องกัน และลดการเกิดเชื้อราได้เป็นอย่างดี ส่วนชามอาหารจะมีให้เลือกระหว่างแบบสแตนเลส และเซรามิค ด้วยความจุถังอาหาร 4 ลิตร ทำให้อาหารเพียงพอต่อระยะเวลา 15 - 20 วัน

ข้อดี

1. ใส่อาหารได้หลายประเภท เพราะมีช่องจ่ายอาหารที่มีความสูง 54 มม.
2. ใช้งานได้ 2 โหมด ทั้งแบบเสียบปลั๊ก และแบตเตอรี่ โดยแบตเตอรี่ใช้งานได้นานสูงสุด 180 วัน ต่อการชาร์จเพียงครั้งเดียว

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเครื่องให้อาหารอัตโนมัตินั้นจำเป็นมากจริงๆ สำหรับคนที่มีความจำเป็นต้องเดินทางไกล หรือมีข้อจำกัดที่ไม่สามารถพาสัตว์เลี้ยงของคุณเดินทางไปด้วยได้ เนื่องด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวไกล ทำให้คุณสามารถสั่งอาหาร ตั้งเวลา และกำหนดปริมาณอาหารได้ผ่านแอปพลิเคชันได้โดยตรง ทั้งนี้การเลือกซื้อเครื่องให้อาหารอัตโนมัติ ขึ้นอยู่กับงบประมาณ และฟังก์ชันที่คุณต้องการ แต่อย่าลืมคำนวณการให้อาหาร กับปริมาณอาหารให้ดี ซึ่งถึงแม้ว่าเครื่องให้อาหารออโต้ราคาจะค่อนข้างสูง มากกว่า 1,500 บาทขึ้นไป แต่ถ้าใช้บัตรเครดิต KTC จ่ายก็มีโปรโมชั่นดีๆ ซึ่งถ้าใครยังไม่มีบัตรฯ แนะนำให้สมัครบัตรเครดิต KTC ออนไลน์ไว้สักใบเพื่อความคุ้มค่า

ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC