กำลังตามหารองเท้าคู่ใจใส่สบายสักคู่สำหรับปี 2025 อยู่หรือเปล่า ถ้าหากว่าใช่ไม่ควรพลาดบทความนี้เลย เพราะเราจะพาไปอัพเดท รองเท้า Adidas รุ่นใหม่ล่าสุด ที่สามารถใส่วิ่ง เดิน หรือว่าใส่เที่ยวก็ได้ คัดมาแล้วว่าถูกผลิตขึ้นด้วยเทคโนโลยีใหม่ ที่มีส่วนช่วยซัพพอร์ตการก้าวเดินของคุณ พร้อมด้วยดีไซน์สวยโดนใจใส่แล้วไม่ตกเทรนด์อย่างแน่นอน ไปดูกันเลยดีกว่าว่ารองเท้า Adidas รุ่นใหม่ล่าสุด สำหรับทั้งผู้ชาย และผู้หญิง คัดเลือกมาให้แล้ว ตั้งแต่ใส่วิ่งสบายๆ ไปจนถึงนักวิ่งแบบมืออาชีพ รวมไปถึงรองเท้าวิ่งสำหรับนักกีฬา ที่นอกจากจะมาพร้อมกับนวัตกรรมสุดล้ำ ยังมีโทนสีให้เลือกเพียบ จะมีคู่ไหนน่าสนใจบ้าง ไปดูกัน
ส่วนใครที่ยังไม่มีบัตรเครดิต KTC แนะนำว่าไปสมัครเอาไว้ก่อนเลย เพราะถ้าหากว่าซื้อรองเท้า Adidas ด้วยบัตรเครดิต KTC จะได้โปรโมชั่นที่พิเศษกว่าใคร ด้วยความคุ้มค่าที่ไม่อยากให้พลาด ซึ่งจะมีโปรโมชั่นดังนี้
- ผ่อนชำระ 0% นาน 3 เดือน กับบัตรเครดิต KTC และ บัตรกดเงินสด KTC PROUD เมื่อมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรฯ ตั้งแต่ 3,000 บาทขึ้นไป / เซลส์สลิป
- แลกคะแนนรับส่วนลดสูงสุด 15% เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต KTC และใช้คะแนน KTC FOREVER เท่ายอดใช้จ่าย/เซลส์สลิป
- โปรโมชั่นร่วมรายการเฉพาะ หน้าร้าน และ adidas outlet เท่านั้น **adidas online ไม่ร่วมรายการ**
- ระยะเวลาโปรโมชั่น : 1 พ.ย. 67 – 31 มี.ค. 68
1.Adidas Adizero Sl2
รุ่น |
Adizero Sl2 |
ประเภทรองเท้า |
รองเท้าวิ่ง |
วัสดุ |
พื้นรองเท้าทำจากยาง และตัวรองเท้าทำจากวัสดุรีไซเคิลเป็นส่วนประกอบอย่างน้อย 20% |
อัพเปอร์ |
ผ้าตาข่าย |
น้ำหนัก |
235 กรัม |
ใหม่ล่าสุด! รองเท้า Adidas รุ่นนี้ที่เพิ่งเปิดตัว และวางขายได้ไม่นาน เป็นไอเทมแนะนำสำหรับคนที่ชอบเข้ายิม หรือว่าไปวิ่ง เพราะเป็นรองเท้าที่ออกแบบมาเฉพาะ Daily Trainer ที่เน้นความนุ่ม สบายเท้า ถือว่าเป็นไฮไลต์สำหรับรองเท้าตระกูล Adizero ที่ทำออกมาได้ดี และคุ้มค่ากับราคามาก ใครที่อยากได้รองเท้า Adidas ใส่เที่ยวที่เน้นทริปต่างประเทศ หรือทริปที่ต้องเดินเยอะ ซื้อคู่นี้ไปเผื่อไว้สักคู่ รับรองว่าจะเดินสบายขึ้นมาก เพราะมี Lightstrike Pro ช่วยซับแรงกระแทกได้ดี หรือใครชอบวิ่งทุกวัน เน้นการวิ่งแบบเบาๆ เดินออกกำลังกายไปเรื่อยๆ แนะนำรุ่นนี้เลย รุ่นนี้จะมีทั้งของผู้ชาย และผู้หญิง โทนสีจะแตกต่างกัน สีของผู้หญิงจะสวยสดใส และสีของรองเท้าผู้ชายจะออกแนวเข้มแบบเท่ๆ
ข้อดี
- Lightstrike Pro ช่วยรับแรงกระแทกเวลาวิ่ง
- มีอัพเปอร์ผ้าตาข่าย ช่วยระบายอากาศได้ดี
2.4DFWD x STRUNG 4D
รุ่น |
4DFWD x STRUNG 4D |
ประเภทรองเท้า |
รองเท้าวิ่ง |
วัสดุ |
พื้นรองเท้าทำจากยาง Continental™ และตัวรองเท้าทำจากวัสดุรีไซเคิลเป็นส่วนประกอบอย่างน้อย 20% |
อัพเปอร์ |
STRUNG |
น้ำหนัก |
ไม่ระบุ |
รองเท้า Adidas ผู้ชาย ยอดฮิตที่เหมาะกับสายวิ่ง “4DFWD x STRUNG 4D” ที่เมื่อทางแบรนด์ Adidas ได้เปิดตัวมาตอนแรกก็ได้รับความฮือฮามาก เพราะแปลกตา และแปลกใหม่ด้วยดีไซน์ที่ไม่เหมือนใคร พื้นชั้นกลางของรองเท้า 4DFWD x STRUNG 4D ถูกขึ้นรูป 3 มิติ ที่พร้อมช่วยรับแรงกระแทกเวลาวิ่งโดยเฉพาะ และทำให้วิ่งได้อย่างมั่นคง ตัวรองเท้ามีน้ำหนักเบา ใครเป็นสายวิ่งที่เน้นวิ่งนาน และวิ่งใช้ความเร็ว แนะนำรุ่นนี้ จุดเด่นอีกอย่างที่น่าสนใจคือพื้นยางจาก Continental™ ทำให้เกาะถนนดีเป็นเลิศ
ข้อดี
- พื้นรองเท้ายาง Continental™ ทำให้วิ่งแล้วเกาะพื้นผิวได้ดีมาก
- อัพเปอร์ไร้ตะเข็บ และกระชับพอดีกับรูปเท้า ช่วยปกป้องเท้าเป็นพิเศษ
3.Ultraboost 5
รุ่น |
Ultraboost 5 |
ประเภทรองเท้า |
รองเท้าวิ่ง |
วัสดุ |
พื้นรองเท้าทำจากยาง Continental™ และตัวรองเท้าทำจากวัสดุรีไซเคิลเป็นส่วนประกอบอย่างน้อย 20% |
อัพเปอร์ |
ผ้า |
น้ำหนัก |
292 กรัม |
ชื่อเสียงเรื่องการซัพพอร์ตเท้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เดินในระยะทาง และจำนวนก้าวที่เยอะมากกับซีรีย์ Ultraboost ที่พึ่งออกในปี 2024 คือ “Ultraboost 5” รองเท้า Adidas ผู้ชายยอดฮิต สำหรับใครที่ติดตามรองเท้าตระกูลนี้ แนะนำให้ซื้อเก็บรุ่นนี้ไปอีกรุ่น เพราะออกแบบมาให้รับแรงกระแทกได้อย่างดีเยี่ยมด้วยเทคโนโลยี Boost ที่ทางแบรนด์เคลมว่าไม่ว่าจะเป็นการวิ่งบนลู่ หรือว่าพื้นทั่วไปรุ่นนี้จะช่วยซัพพอร์ตเท้าได้ดีมาก ไฮไลต์อีกอย่างคือเทคโนโลยี Torsion System ที่จะทำให้เดินได้อย่างมั่นคง และสัมผัสเรียบสบายเมื่อลงน้ำหนัก ใครมีงบประมาณหน่อยจัดไปเลยรุ่นใหม่ล่าสุด ถึงแม้ราคาจะแรงนิดหนึ่ง แต่สายวิ่งถูกใจแน่นอน
ข้อดี
- มีเทคโนโลยี Torsion System ช่วยเสริมความมั่นคงเวลาวิ่ง
- ช่วยรับแรงกระแทก Boost ที่เบาที่สุดเท่าที่เคยมีมา
4.Ultraboost 5x
รุ่น |
Ultraboost 5x |
ประเภทรองเท้า |
รองเท้าวิ่ง |
วัสดุ |
พื้นรองเท้าทำจากยาง Continental™ และตัวรองเท้าทำจากวัสดุรีไซเคิลเป็นส่วนประกอบอย่างน้อย 20% |
อัพเปอร์ |
ผ้า Primeknit |
น้ำหนัก |
275 กรัม |
เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือ Ultraboost 5 ก็ยังมี Ultraboost 5x ถ้าใครเป็นสายวิ่งจริงจัง หรือกำลังหารองเท้าไปเดินต่างประเทศวันละ 10,000 ก้าวขึ้นไป แล้วอยากได้รองเท้าวิ่งที่ซัพพอร์ตเท้า และมีน้ำหนักเบาอย่างจริงจัง แนะนำรุ่นนี้เลย เพราะว่าจะมีน้ำหนักเบามากกว่าตัว Ultraboost 5 ถึง 17 กรัม ที่ถึงแม้จะดูเหมือนน้อยนิด แต่ก็ส่งผลมากเลยทีเดียวสำหรับคนที่ใช้วิ่งเป็นเวลานาน ตัวอัพเปอร์จะเป็น Primeknit ทำให้รู้สึกใส่สบาย และกระชับเท้าเป็นพิเศษ ผสานด้วยเทคโนโลยี Torsion System และ Molded External Heel ทำให้สามารถก้าวได้สั้นขึ้น และวิ่งได้เร็วมากขึ้น เพราะเบามากกว่าเดิม แถมยังเป็นรุ่นฮิตรองเท้า Adidas ผู้ชาย ใส่เที่ยว เพราะดีไซน์สวยแบบสุดๆ
ข้อดี
- อัพเปอร์ Primeknit ระบายอากาศได้ดีกว่าผ้าทั่วไป และทำให้สบายเท้า
- ผสานเทคโนโลยี Torsion System และ Molded External Heel ผู้สวมใส่จะก้าวเท้าได้สั้นขึ้น และเบามากกว่าเดิม
5.Ultrarun 5
รุ่น |
Ultrarun 5 |
ประเภทรองเท้า |
รองเท้าวิ่ง |
วัสดุ |
พื้นรองเท้าคือ Adiwear และตัวรองเท้าทำจากวัสดุรีไซเคิลเป็นส่วนประกอบอย่างน้อย 20% |
อัพเปอร์ |
ผ้าตาข่าย |
น้ำหนัก |
324 กรัม |
อยากซื้อรองเท้าวิ่ง Adidas สักคู่ที่ราคาไม่แพง และคุณภาพดี แนะนำ “Ultrarun 5” เป็นรุ่นที่ราคาเบามากเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ เพราะราคาไม่เกิน 3,000 ด้วยราคาที่ดี ทำให้รองเท้า Adidas ผู้ชาย ยอดฮิตรุ่นนี้เป็นที่นิยม และถ้ายิ่งซื้อด้วยบัตรเครดิต KTC ยังแลกคะแนนรับส่วนลดได้เพิ่มด้วย ซึ่งสำหรับคนที่อยากได้ทั้งรองเท้าวิ่ง เอาไว้เดินไกล หรือใส่ไปเที่ยว รุ่นนี้ตอบโจทย์เลยทีเดียว เพราะมีส่วนรับแรงกระแทก Bounce 2.0 ที่น้ำหนักเบา และมีแผ่นรองฝ่าเท้า OrthoLite® ทั้งยังใส่สบายเพราะอัพเปอร์ทำจากผ้าตาข่าย ที่ช่วยระบายอากาศได้อย่างดีเยี่ยม ดีไซน์สวยใส่วิ่ง ใส่เที่ยวได้หมด รับจบที่รุ่นนี้
ข้อดี
- เทคโนโลยี Bounce 2.0 รับแรงกระแทกได้ดี
- ราคาไม่แพง เมื่อเทียบกับ Performance ของรองเท้า
6.Supernova Prima
รุ่น |
Supernova Prima |
ประเภทรองเท้า |
รองเท้าวิ่ง |
วัสดุ |
พื้นรองเท้าชั้นล่าง Light Traxion พื้นรองเท้าชั้นกลาง Dreamstrike+ |
อัพเปอร์ |
ผ้าตาข่าย |
น้ำหนัก |
290 กรัม |
ยกระดับการวิ่งให้เหนือกว่าด้วย “Supernova Prima” ที่ถึงแม้สนนราคาจะอยู่ที่ 6,000 บาท แต่เมื่อคุณซื้อรองเท้า Adidas ด้วยบัตรเครดิต KTC ก็ได้รับโปรโมชั่นผ่อน 0% นาน 3 เดือนไปเลย ซึ่งเมื่อเทียบสิ่งที่ได้กับราคา ถือว่าคุ้มค่ามาก และแนะนำสำหรับสายวิ่งที่อยากได้รองเท้าวิ่งสำหรับทุกวัน หยิบมาใส่ได้แม้ในวันที่ไปเที่ยว เพราะสีสวยมาก ที่สำคัญยังเหมาะกับคนที่ชอบวิ่งเร็ว เพราะว่า พื้นชั้นล่างจะเป็น Lighttraxion ทำให้รองเท้ายึดเกาะพื้นได้ดี เวลาวิ่งจะไม่ทำให้ความเร็วลดลง ซัพพอร์ตอีกระดับด้วยพื้นชั้นกลาง Dreamstrike+ ที่ช่วยซัพพอร์ตแรงกระแทกได้ดีมาก ใครมีรุ่น Ultraboost แล้ว รุ่นนี้ก็เป็นอีกรุ่นที่ควรมี
ข้อดี
- พื้นชั้นล่างทำจากเทคโนโลยี Lighttraxion ทำให้วิ่งได้อย่างมั่นคง เกาะพื้นผิว ไม่ทำให้ความเร็วลดลง
- รับแรงกระแทกได้ดีมาก เพราะมีพื้นชั้นกลาง Dreamstrike+
7.Adizero Prime X 2.0 STRUNG
รุ่น |
Adizero Prime X 2.0 STRUNG |
ประเภทรองเท้า |
รองเท้าวิ่ง |
วัสดุ |
แกน LIGHTSTRIKE Pro แบบใหม่ขนาบด้วยคาร์บอนสองแผ่น และพื้นรองเท้าชั้นล่าง Continental™ และอัพเปอร์มีวัสดุรีไซเคิลเป็นส่วนประกอบอย่างน้อย 50% |
อัพเปอร์ |
STRUNG |
น้ำหนัก |
305 กรัม |
ถ้ารองเท้าวิ่งคู่เดิมยังล้ำไม่สุด ขอแนะนำให้มาหยุดที่ตัวนี้ “Adizero Prime X 2.0 STRUNG” ด้วยดีไซน์ที่เท่แบบไม่ซ้ำใคร ทำให้รุ่นนี้กลายมาเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่สายแฟชั่นที่อยากได้รองเท้าที่วิ่ง และเดินสบายจับตามอง ถึงแม้ดีไซน์จะทำให้ดูเหมือนเป็นรองเท้าแฟชั่นมากกว่า แต่คู่นี้เน้นซัพพอร์ตสำหรับการวิ่งโดยเฉพาะ จุดเด่นของรุ่นนี้คือ LIGHTSTRIKE PRO 3 ชั้น ที่มีความสูงซ้อนกันมากถึง 50 มม. ขนาบด้วยโฟมสองชั้น ทำให้รองเท้ารุ่นนี้สบาย น้ำหนักเบา และช่วยซัพพอร์ตแรงกระแทกได้ดีมาก แนะนำสำหรับคนที่เวลาวิ่งแล้วลงน้ำหนักที่เท้าแบบแรงๆ แถมทางแบรนด์ยังเคลมว่าด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ทำให้รุ่นนี้ช่วยส่งแรงได้ดีเยี่ยม ช่วยเพิ่มความไวขณะวิ่งได้ดี
ข้อดี
- LIGHTSTRIKE PRO 3 ชั้น ที่ช่วยทำให้รองเท้าน้ำหนักเบา และช่วยเพิ่มความไว
- แกนส่งแรงระหว่างโฟมสองชั้น ทำให้สัมผัสเวลาลงฝีเท้าจะรู้สึกนุ่มเป็นพิเศษ
8.Pureboost 5
รุ่น |
Pureboost 5 |
ประเภทรองเท้า |
รองเท้าวิ่ง |
วัสดุ |
พื้นรองเท้าชั้นล่าง Adiwear และมีวัสดุรีไซเคิลเป็นส่วนประกอบอย่างน้อย 20% |
อัพเปอร์ |
ผ้าตาข่าย |
น้ำหนัก |
270 กรัม |
เด่นทั้งดีไซน์ และช่วยทำให้การวิ่งของคุณไม่มีสะดุดได้ด้วย “Pureboost 5” แนะนำสีใหม่ที่มีแถบสีสะท้อนแสงสุดคูล ที่ถึงแม้ว่ารุ่นนี้จะเป็นรองเท้าวิ่งนอกสายตาสำหรับใครหลายคน แต่ขอบอกเลยว่าเป็นม้ามืดแบบสุดๆ โดยเฉพาะรุ่นเจน 5 ที่ถูกพัฒนา และออกแบบมาเป็นอย่างดี ซัพพอร์ตเท้าในขณะวิ่งได้ไม่แพ้กับรุ่นอื่นเลย ซึ่งถ้าใครเป็นคนที่วิ่งแล้วชอบรองเท้าให้สัมผัสที่นุ่ม รุ่นนี้น่าจะถูกใจอยู่ไม่น้อย เพราะนุ่ม และหนึบ เกาะถนนดีมาก เพราะมีพื้นรองเท้าชั้นล่าง Adiwear ที่เกาะได้ดีในทุกสภาพพื้นผิว ส่วนใครที่ตามหารองเท้า Adidasใส่เที่ยวได้ และวิ่งได้ดีด้วย คู่นี้เหมาะสมแน่นอน
ข้อดี
- พื้นล่าง Adiwear วิ่งได้ดีในทุกสภาพพื้นผิว
- อัพเปอร์ผ้าตาข่าย ถักทอด้วยผ้าแบบพิเศษ ทำให้ไม่อับชื้น และระบายอากาศได้ดี เบาสบาย
9. Adizero Takumi Sen 10
รุ่น |
Adizero Takumi Sen 10 |
ประเภทรองเท้า |
รองเท้าวิ่ง |
วัสดุ |
ส้นรองเท้า Slinglaunch กระชับความมั่นคง ส่วนรับแรงกระแทก Lightstrike Pro และพื้นล่างทำจากยาง Continental™ |
อัพเปอร์ |
ผ้าตาข่ายที่ถักทอแบบพิเศษ |
น้ำหนัก |
165 กรัม |
หนึ่งในรองเท้า Adidas ตระกูล “Adizero” ที่ทางแบรนด์ภาคภูมิใจ เปิดตัวด้วยผลตอบรับที่ดีมากสำหรับคนที่วิ่งมืออาชีพ เพราะว่าเน้นช่วยดีดตัว เหมาะสำหรับคนที่ต้องการวิ่งด้วยความเร็ว แต่อาจจะไม่ค่อยเหมาะกับคนที่วิ่งนาน เนื่องจากไม่ได้เน้นซัพพอร์ตแรงกระแทกเท้ามากมายนัก ซึ่งเป็นจุดเด่นสำคัญของ Adizero Takumi Sen ที่พัฒนามาเป็นเจนที่ 10 แล้ว และมีการปรับรองเท้าให้มีพื้นบาง น้ำหนักเบา ไฮไลต์คือเทคโนโลยี Energyrods 2.0 ช่วยส่งคืนพลังงาน ทำให้ผู้วิ่งเด้งตัวไปข้างหน้าได้อย่างดีเยี่ยม สายเน้นวิ่งแบบซิ่งๆ แนะนำจัดตัวนี้ไปไม่ผิดหวัง
ข้อดี
- เทคโนโลยี Energyrods 2.0 ทำให้ผู้ใส่เด้งไปข้างหน้า มีแรงส่งได้ดีเยี่ยม
- แน่นกระชับเท้ามากขึ้นด้วย Sling Launch Heel Construction ที่อยากได้รองเท้าวิ่งที่กระชับเท้าเป็นพิเศษ
10. ADIZERO ADIOS PRO 3
รุ่น |
ADIZERO ADIOS PRO 3 |
ประเภทรองเท้า |
รองเท้าวิ่ง |
วัสดุ |
ส่วนรับแรงกระแทก Lightstrike Pro และพื้นล่างทำจากยาง Continental™ชนิดพิเศษ |
อัพเปอร์ |
วัสดุสังเคราะห์ |
น้ำหนัก |
183 กรัม |
ถ้ามีงบเยอะ อยากได้รองเท้าใส่วิ่ง หรือว่าใส่ไปเที่ยวที่ฟังก์ชันจัดเต็ม “ADIZERO ADIOS PRO 3” ไม่ทำให้คุณต้องผิดหวังอย่างแน่นอน ด้วยสนนราคาที่สูง ทำให้หลายคนยังลังเลใจว่าจะซื้อดีหรือไม่ แต่ถ้าได้รู้รายละเอียดแล้วต้องร้องว้าว เพราะเป็นรุ่นที่ออกแบบมาเพื่อนักกีฬา อยู่ในตระกูลรองเท้าสำหรับการแข่งขัน มีแท่งคาร์บอน Energyrods 2.0 ที่ช่วยให้การวิ่งเป็นไปอย่างมั่นคง ฉับไว และกระชับมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นเทคโนโลยีนี้ยังช่วยลดการสูญเสียพลังงานได้มากกว่าตระกูลอื่นทั่วไป พร้อมรับแรงกระแทกด้วย Lightstrike Pro ที่รับแรงกระแทกได้ดีเป็นพิเศษ สิ่งที่น่าประทับใจอีกอย่างคือรองเท้ารุ่นนี้ได้รับรางวัล Best Speed Shoe 2024 จาก Women’s Health ด้วย
ข้อดี
- เทคโนโลยี Energyrods 2.0 ทำให้ผู้ใส่เด้งไปข้างหน้า มีแรงส่งได้ดีเยี่ยม
- พื้นรองเท้าชั้นล่างจากยาง Continental™ และ Textile Rubber
ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย พร้อมการออกแบบมาเป็นพิเศษ สำหรับรองเท้าวิ่งโดยเฉพาะ ทำให้รองเท้าวิ่ง Adidas ส่วนใหญ่จะมีเรทราคาเริ่มต้นที่ 3,000 ไปจนถึง 8,000 บาท แต่สำหรับการเลือกรองเท้าแนะนำให้เลือกจากความต้องการ ไลฟ์สไตล์ จุดประสงค์การใช้งาน และงบประมาณที่มี ทั้งนี้อยากให้ลองไปเลือกรองเท้าที่หน้าร้านด้วยตัวคุณเอง เพื่อลองสวมใส่ และทดสอบความกระชับ นุ่มเด้ง ทดลองเดิน กระโดด หรือวิ่ง เพื่อให้ได้รองเท้าที่เหมาะกับรูปเท้าและมีขนาดที่พอดีมากที่สุด ใครมีแพลนจะไปซื้อรองเท้า Adidas ที่ร้าน และยังไม่มีบัตรเครดิต KTC สามารถกดสมัครบัตรเครดิต KTC ออนไลน์ไว้ก่อนได้เลย จะได้ไม่พลาดโปรโมชั่นดีๆ ทั้งโปรโมชั่นผ่อน, แลกคะแนนรับส่วนลด หรือสิทธิพิเศษอื่นๆ
ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC