ในช่วง 2-3 ปีหลังมานี้ รองเท้าวิ่งเริ่มมีเทรนด์ใหม่เกิดขึ้น นั่นก็คือ การเสริมแผ่นคาร์บอน เข้าไปในรองเท้าวิ่ง เพื่อช่วยในเรื่องของการตอบสนองที่ดีขึ้น และเลี่ยงไม่ได้ว่าแบรนด์ที่ทำให้นักวิ่งหลายๆ ท่านรู้จักรองเท้าวิ่งที่มีแผ่นคาร์บอนนี้ก็คือ Nike และเริ่มเป็นที่นิยมกันมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากนักวิ่ง Elite ของทางไนกี้นั้นทำลายสถิติระดับมาราธอนกันเป็นว่าเล่นในช่วงหลายปีหลังนี้ และรองเท้าที่ใส่ก็เป็นรองเท้าวิ่งที่มาพร้อมแผ่นคาร์บอนทั้งนั้น และในปี 2020 นี้ แต่ละแบรนด์ก็ไม่สามารถอยู่เฉยได้ ส่งรองเท้าวิ่งพร้อมแผ่นคาร์บอนลงสู่ตลาดเช่นกัน
วันนี้ KTC จะพาทุกท่านมาทำความรู้จักรองเท้าวิ่งที่มาพร้อมแผ่นคาร์บอนในปี 2020 นี้กัน
Nike Air Zoom Alphafly NEXT%
เปิดด้วยรองเท้าวิ่งระดับท็อปที่ Eliud Kipchoke ใส่วิ่งทำลายสถิติต่ำกว่า 2 ชั่วโมงได้สำเร็จในงาน INEOS 1:59 Challenge เมื่อปี 2019 แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้รับการบันทึกเป็นสถิติโลกอย่างเป็นทางการ แต่ก็ถือเป็นการก้าวข้ามลิมิติของมนุษยชาติแล้ว หลังจากนั้นรองเท้าวิ่งรุ่นนี้ก็เป็นประเด็นร้อนมากขึ้น ถกเถียงกันไม่น้อยกับอุปกรณ์ที่ใช้งานอย่างแผ่นคาร์บอนด้านในรองเท้า ซึ่งช่วงแรกมีข่าวลือออกมาว่ารองเท้าวิ่งคู่นี้มีแผ่นคาร์บอนด้านในถึง 3 แผ่นด้วยกัน ทำให้ World Athletics (สหพันธ์กรีฑานานาชาติ หรือ IAAF เดิม) นั้นออกกฏรองเท้าวิ่งใหม่อนุญาตให้มีแผ่นคาร์บอนในรองเท้าได้เพียง “แผ่นเดียวต่อข้างเท่านั้น” เพื่อให้ทุกฝ่ายไม่มีใครได้เปรียบหรือเสียเปรียบไปกว่ากัน
โดยรองเท้าวิ่งคู่นี้จะมาพร้อมกับโฉมใหม่ต่อยอดจาก Nike ZoomX Vaporfly NEXT% ที่เรียกได้ว่ามีการยกระดับเทคโนโลยีมากกว่าเดิมด้วยการเสริม Zoom Air ก้อนชิ้นแอร์ 2 ชิ้นเข้ามาตรงหน้าเท้าเพื่อการตอบสนองและรองรับแรงกระแทกที่ดี และเพิ่มความหนาของพื้นชั้นกลางโฟม ZoomX เพื่อความนุ่มมากขึ้น สอดใส้ด้วยแผ่นคาร์บอนไฟเบอร์เต็มความยาวเท้าเช่นเคย ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยให้นักวิ่งนั้นมีการตอบสนองได้ดีมากขึ้น พร้อมที่จะพุ่งไปข้างหน้ามากขึ้นนั่นเอง
สำหรับ Nike Air Zoom Alphafly NEXT% ได้วางจำหน่ายในประเทศไทยแล้ว ราคา 9,400 บาท และหมดไปอย่างรวดเร็ว
Nike Air Zoom Tempo NEXT%
เมื่อมีรองเท้าสำหรับแข่งขัน ก็ต้องมีรองเท้าสำหรับใส่ซ้อม ไนกี้ ได้เปิดตัวรองเท้าวิ่ง Nike Air Zoom Tempo NEXT% ออกมาพร้อมๆ กันกับรุ่น Nike Air Zoom Alphafly NEXT% โดยมีโครงสร้างที่เหมือนกันแต่มีการปรับปรุงเพื่อให้มีความทนทานในการใช้งานมากกว่า เพื่อให้มีอายุการใช้งานรองเท้าได้นานขึ้น
ระบบหลักๆ ยังคงมาพร้อมกับพื้นชั้นกลางโฟม ZoomX ที่มีความนุ่ม รองรับแรงกระแทกได้ดี และยังมีแรงส่งคืนได้ดีอีกด้วย พร้อมกับการเสริม Zoom Air ตรงหน้าเท้า 2 ชิ้นสำหรับการตอบสนองและเสริมแรงส่งคืนจากการลงหน้าเท้า อีกทั้งยังคงมีแผ่นคาร์บอนไฟเบอร์ตรงกลางรองเท้า แต่ในรุ่นนี้จะไม่ได้มีความยาวเต็มฝ่าเท้าแล้ว จะมีแค่จากหน้าเท้าไปจนถึงกลางเท้าเท่านั้น แต่เพื่อระยะในการใช้งานให้นานขึ้นก็ได้มีการเสริมโฟม React ไว้ที่ส้นเท้า ซึ่งโฟม React จะมีความนุ่ม เด้ง และมีความทนทานมากกว่า ZoomX แต่ก็มีน้ำหนักที่มากกว่า ด้วยระบบทั้งหมด ยังทำให้คล้ายกับ Nike Air Zoom Alphafly NEXT% เพียงแต่จะมีน้ำหนักมากกว่า
สำหรับ Nike Air Zoom Tempo NEXT% จะวางจำหน่ายในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้
adidas Adizero Pro
เมื่อแฟนๆ ฝั่งค่ายสามขีดก็ต่างรอคอยให้ทำรองเท้าวิ่งที่มีแผ่นคาร์บอนออกมาบ้าง จนมีข่าวคราวเกี่ยวกับ adidas Adizero Pro ออกมาก็ทำรองเท้าวิ่งรุ่นนี้ก็ฮือฮาไม่น้อยไปกว่ากัน เพราะเรียกได้ว่าจะเป็นรองเท้าจากแบรนด์ยักษ์ใหญ่ที่ออกมาเป็นตัวเลือกมากขึ้น
สำหรับรองเท้าวิ่งรุ่นนี้มีการผสมผสานเทคโนโลยีของทางอาดิดาสเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น Boost เทคโนโลยีหลักที่ใช้กันมาอย่างยาวนานและเสริมด้วยโฟม Lightstrike โฟมใหม่ที่มีน้ำหนักเบามาล้อมกรอบ Boost อีกชั้นและเสริมด้วยแผ่นคาร์บอนที่อยู่เหนือพื้นชั้นกลางทั้งหมด นั่นก็คือแผ่นคาร์บอนจะอยู่ใต้ฝ่าเท้าแบบเต็มๆ และอัปเปอร์ก็ใช้ผ้า Celermesh ที่มีความโปร่งสบายและกระชับแข็งแรงเหมาะสำหรับขาแรงที่ต้องการฟีลลิ่งแบบดิบๆ สไตล์ racing flat กันเลย
adidas Adizero Pro วางจำหน่ายในประเทศไทยในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ราคา 6,800 บาท และก็หมดไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน
Hoka One One Carbon X
Hoka One One เป็นแบรนด์ที่ขยับตัวมาใช้แผ่นคาร์บอนด้านในรองเท้าก่อนใคร โดยเปิดตัวออกมาช่วงกลางปี 2019 และไม่ได้เน้นเป็นรองเท้าวิ่งแข่งขันระยะมาราธอน แต่เป็นรองเท้าวิ่งที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อทำลายสถิติระยะ 100 กิโลเมตร ทำให้รองเท้าวิ่งคู่นี้เป็นรองเท้าวิ่งระยะไกลและยังทำความเร็วได้ดีควบคู่กันไป
จุดเด่นของรองเท้าวิ่งคู่นี้อยู่ที่รูปทรงโค้ง Meta-Rocker ที่ช่วยให้การวิ่งในแต่ละก้าวนั่นลื่นไหล อีกทั้งยังมาพร้อมกับแผ่นคาร์บอนใต้ฝ่าเท้าที่ประกบด้วยโฟม PROFLY X มีน้ำหนักเบา, ยืดหยุ่น รองรับแรงกระแทกได้ดี และ Rubberized foam ที่อยู่ด้านล่าง โดยจะเป็นส่วนของพื้นชั้นนอกเลย มีน้ำหนักเบาและมีแรงส่งคืนได้ดีในขณะวิ่ง ส่วนอัปเปอร์จะมาในผ้า mesh ชั้นเดียว น้ำหนักเบา ระบายอากาศได้ดี เป็นรองเท้าวิ่งที่มีแผ่นคาร์บอนคนละแนวกับ NEXT% เลย
Hoka One One Carbon X วางจำหน่ายในประเทศไทยแล้วในราคา 6,490 บาท
Skechers Speed Elite
รองเท้าวิ่งถนนที่มาพร้อมกับแผ่นคาร์บอนด้านในรองเท้าเปิดตัวในช่วงกลางปี 2019 และได้มีการปรับลุคของทาง Skechers ไปแบบหน้ามือหลังมือเลยก็ว่าได้สำหรับรองเท้าวิ่งคู่นี้ ที่มีดีไซน์ออกมาค่อนข้างโฉบเฉี่ยวและทันสมัย
อัปเปอร์ได้มีการนำผ้าไนล่อนมาถักทอทำให้ดูสวยงามและล้ำสมัยมากขึ้น บวกกับโฟม Hyper Burst ที่เป็นโฟมใหม่ของทาง Skechers เป็นการขึ้นรูปจากโฟม EVA ชิ้นเล็กและผ่านกรรมวิธีเติมแก๊สไนโตรเจนและคาร์บอนไดออกไซด์ด้วยสูตรของทาง Skechers เข้าไปทำให้โฟมขยายและพองตัว ซึ่งจะทำให้โฟมมีน้ำหนักเบา แต่ยังคงความนุ่มและมีแรงส่งคืนที่ดี เสริมด้วยแผ่นคาร์บอนตรงหน้าเท้าค่อนข้างหนาและก็โชว์ให้เห็นกันเลย และโดยรวมก็ยังมีน้ำหนักที่เบามากๆ อยู่
Skechers Speed Elite วางจำหน่ายแล้วในต่างประเทศ ราคา $190
Brooks Hyperion Elite
Brooks ได้ทำการซุ่มเงียบมาหลายปีแล้ว โดยส่งรองเท้ารุ่น Prototype ให้ Des Linden ใส่ลงแข่งขัน Boston Marathon 2018 พร้อมกับคว้าแชมป์มาครองและทำเวลาได้ไป 2:39:54 ชั่วโมง หลังจากนั้นกระแสของรองเท้าคู่นี้ก็เริ่มมาทันที จนมาถึงในปี 2020 นี้ ทาง Brooks ได้ทำการตัดสินใจเปิดตัวและเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
รองเท้าวิ่งรุ่นนี้ได้มีการออกแบบมาเพื่อเป็นรองเท้าวิ่งแข่งโดยเฉพาะ สำหรับผู้ต้องการทำความเร็ว มีดรอป 8 มม. ความสูงจากหน้าเท้าจนถึงส้นเท้า 20 มม. – 28 มม. ฐานรองเท้ากว้างขึ้น และมีแผ่นคาร์บอนอยู่ด้านใน พร้อมกับใช้โฟมใหม่ที่ชื่อว่า DNA Zero ที่มี EVA ประกอบ มีน้ำหนักเบา โดยจะมีน้ำหนักอยู่ที่ 0.12 กรัม ต่อลูกบาศก์เซ็นติเมตร เบากว่า BioMoGo DNA foam ของทาง Brooks และด้วยโฟมน้ำหนักเบานี้จะช่วยให้พื้นชั้นกลางของรองเท้าวิ่งรุ่นนี้มีความหนาได้มากขึ้น แต่ก็ยังคงน้ำหนักที่เบา (ประมาณ 206 กรัม สำหรับไซส์ 10.5 US) แต่ด้วยที่รีดน้ำหนักได้เบาจึงแลกมากับความทนทานที่หายไป ทำให้รองเท้าวิ่งคู่นี้ มีระยะการใช้งานเพียง 50-100 ไมล์ หรือประมาณ 80-160 กิโลเมตรเท่านั้น ก็จะเริ่มเสื่อมประสิทธิภาพลง แต่ไม่ต้องเสียดายกันไป ทาง Brooks ได้เตรียมออกเวอร์ชันที่ 2 ที่มีความทนทานมากขึ้นแล้ว
Brooks Hyperion Elite วางจำหน่ายแบบจำนวนจำกัดในประเทศไทยแล้ว ราคา 7,900 บาท
adidas Adizero Adios Pro
สำหรับใครที่บอกว่า adidas Adizero Pro นั้นบางหรือแข็งไป อยากได้พื้นหนาๆ เพิ่มความนุ่มกันบ้าง อาดิดาสก็ได้ส่งรองเท้าวิ่งพื้นหนาเตอะลงสู่งตลาด ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เผลอปล่อยหลุด (หรือจงใจก็ไม่รู้) ออกมาในสโตร์ ออนไลน์ ฝั่งยุโรป ทำให้เกิดกระแสความสงสัยว่ามีแผ่นคาร์บอนในรองเท้าวิ่งรุ่นนี้หรือไม่ จนเมื่อวันที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา อาดิดาสก็ได้เปิดตัวรองเท้าวิ่งรุ่นนี้อย่างเป็นทางการ
ซึ่งแน่นอนว่ามีแผ่นคาร์บอนในรองเท้ารุ่นนี้ถูกวางไว้บริเวณส้นเท้า และยังมาพร้อมกับ EnergyRods แท่งคาร์บอน 5 ชิ้นที่จำลองตามโครงสร้างกระดูกของเท้า เพื่อช่วยให้นักวิ่งสามารถรักษาความเร็วของตัวเองได้นานยิ่งขึ้น และใช้พื้นชั้นกลางแบบใหม่ Lightstrike Pro รองรับแรงกระแทกได้ดีและยังมีความมั่นคงในตลอดการวิ่งระยะไกล แต่ดูหนาๆ แบบนี้ มีน้ำหนักเบาเพียง 225 กรัมเท่านั้น
adidas Adizero Adios Pro วางจำหน่ายแบบจำนวนจำกัดผ่านแอปพลิเคชันที่ต่างประเทศแล้ว ราคา £169.95 หรือประมาณ 6,500 บาท แต่ก็ยังไม่มีการประกาศวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด
Asics Metaracer
เอสิคซ์ แบรนด์รองเท้าวิ่งจากประเทศญี่ปุ่นก็ไม่ยอมน้อยหน้า ปล่อยรองเท้าวิ่งเรซซิ่งรุ่นใหม่ที่มาพร้อมแผ่นคาร์บอนในรองเท้าออกมาเช่นกัน และดีไซน์ของรุ่นนี้ทำให้นักวิ่งที่เป็นแฟนๆ โอนิซึกะอาจจะกรีดร้องอยากจับจองมาเป็นเจ้าของด้วยก็ได้
สำหรับรองเท้าวิ่ง Asics Metaracer นี้จะมาแนวเดียวกันกับ adidas Adizero Pro ก็คือ มีพื้นที่ไม่ได้หนามาก ดูออกแนว Racing Flat ที่เน้นกำลังขาตัวเองซะเยอะ แต่รุ่นนี้ก็มาพร้อมกับแผ่นคาร์บอนช่วงหน้าเท้าฝังใต้โฟม FlyteFoam และพื้นชั้นนอก ส่วนพื้นชั้นนอกค่อนข้างเรียบที่เรียกว่า ASICS GRIP ที่มีการยึดเกาะได้ดี อัปเปอร์เป็นผ้าตาข่ายและยังมีการเจาะรูตรงปลายเท้าเพื่อการระบายอากาศและรับลมเข้าไปด้านในเท้าเพื่อความเย็นสบายด้วย ถือว่าน่าสนใจไม่น้อยกับรองเท้าวิ่งคู่นี้
Asics Metaracer วางจำหน่ายแล้วในประเทศญี่ปุ่น ราคา 22,000 เยน หรือประมาณ 6,400 บาท และเริ่มทยอยวางจำหน่ายตามประเทศอื่นๆ
Saucony Endorphin Pro
Saucony กระโดดเข้าร่วมวงรองเท้าวิ่งถนนสายเรซซิ่งพร้อมแผ่นคาร์บอนด้วย ได้มีการเปิดตัวมาในช่วงปลายปี 2019 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการนำรองเท้าวิ่งเรซซิ่งตระกูล Endorphin ที่เป็นรองเท้าตะปูมากลับมาปัดฝุ่นใช้งานอีกครั้ง โดยใช้ชื่อว่า Saucony Endorphin Pro พร้อมกับใส่แผ่นคาร์บอนเต็มความยาวเท้าไว้ด้านใน และยังเปิดตัวอีก 2 รุ่น Endorphin Speed และ Endorphin Shift มาพร้อมกันอีกด้วย แต่ 2 รุ่นหลังนี้ไม่มีแผ่นคาร์บอนมาด้วย จะมีแค่ Endorphin Speed ที่ใช้แผ่น TPU แทน
พื้นชั้นกลางของ Saucony Endorphin Pro ได้ใช้โฟมใหม่ PWRRUN ที่มาจากกลุ่ม PEBAX ชนิดเดียวกันกับโฟม ZoomX ที่ใช้งานใน Vaporfly NEXT% และ Alphafly NEXT% ซึ่งทาง Saucony ได้เคลมว่าโฟมใหม่นี้จะมีนำ้หนักเบาขึ้น 40% และมีแรงส่งคืนได้สูงสุดถึง 88% ด้วยกัน อีกทั้งยังมีความยืดหยุ่นและทนทานกว่า EVA เป็นอย่างมาก
Saucony Endorphin Pro ราคา $200 วางจำหน่ายในต่างประเทศแล้ว และใกล้ที่จะวางจำหนายในประเทศไทยแล้ว
New Balance FuelCell TC และ FuelCell RC Elite
ก่อนหน้านี้ทาง New Balance ได้ออกรองเท้าวิ่งที่มีแผ่นคาร์บอนในรองเท้ามาแล้ว นั่นก็คือ New Balance FuelCell 5280 แต่เป็นรองเท้าวิ่งระยะใกล้แค่เพียง 1 ไมล์เท่านั้น (1.609344 กิโลเมตร) ทำให้นักวิ่งที่อยากใส่วิ่งทั่วไปต้องผิดหวังไปตามๆ กัน และในที่สุดก็ได้เปิดตัวรองเท้าวิ่งที่มาพร้อมแผ่นคาร์บอนอย่างเป็นทางการแล้ว โดยจะมาถึง 2 รุ่น ได้แก่ New Balance FuelCell TC และ FuelCell RC Elite
สำหรับรองเท้าวิ่งทั้งสองรุ่นนั้นจะมีหน้าตาที่คล้ายกัน โดย New Balance FuelCell TC เป็นรองเท้าวิ่งใส่ซ้อมที่มีแผ่นคาร์บอน ใช้พื้นชั้นกลาง FuelCell ที่มีความนุ่มและมีแรงส่งคืนได้ดี ส่วน FuelCell RC Elite ที่ออกแบบมาเพื่อการแข่งขันมีน้ำหนักที่เบากว่า และมีแผ่นคาร์บอนด้านในรองเท้าเช่นเดียวกัน
New Balance FuelCell TC วางจำหน่ายแล้วในประเทศไทย ราคา 5,290 บาท
ใครที่รอคอยรองเท้าวิ่งพร้อมแผ่นคาร์บอนคู่ไหน เวลาที่เข้าประเทศไทย ก็อย่าลืมเช็คโปรโมชันส่วนลดต่างๆ สำหรับสิทธิพิเศษเฉพาะสมาชิกบัตรเครดิต KTC เท่านั้นนะ ตรวจสอบโปรโมชั่นได้ที่ https://www.ktc.co.th/promotion/sports