เช็คสเปค iPhone 13 พร้อมราคาล่าสุด 2021 ที่นี่
เผยโฉมอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับ iPhone 13 Series สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดที่แบรนด์ Apple เพิ่งเปิดตัวในงาน Apple Event 2021 เมื่อเวลา 00.00 น. ของวันที่ 15 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา โดยครั้งนี้ Apple ส่งไอโฟน 13 มาให้สาวกแอปเปิลได้เลือกใช้ไปใช้งานทั้งหมด 4 รุ่นด้วยกัน พร้อมปรับดีไซน์กล้องหลัง อัพเลเวลชิปประมวล ความจุ ฟีเจอร์ ตลอดจนระบบปฏิการภายใน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ดีขึ้นกว่ารุ่นเดิม แต่ก่อนควักบัตรเครดิตมารูดซื้อ iPhone 13 ตามไปดูกันชัด ๆ ว่าสเปคของ iPhone 13 Series แตกต่างกันอย่างไรบ้าง
iPhone 13 Series ทั้ง 4 รุ่น เหมือนหรือต่างกันแค่ไหน
ดีไซน์และการออกแบบ
แม้ขนาดหน้าจอ iPhone 13 mini, iPhone 13, iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max จะต่างกัน ดีไซน์ไอโฟนทั้ง 4 รุ่น ถือว่าไม่ต่างจาก iPhone 12 Series มากนัก ด้วยใช้หน้าจอที่เป็น Ceramic shield ทั้งและด้านหน้า ด้านหลังที่เป็นกระจก มาพร้อมขอบที่เป็นอะลูมิเนียมแข็งแรงทนทานกว่าสมาร์ทโฟนรุ่นไหน ๆ แต่ยังมีจุดต่างคือ รอยบากมีขนาดเล็กลงกว่าเดิมถึง 20% นั่นเอง
หน้าจอแสดงผล
ถือว่ารอบนี้ Apple จัดเต็มกับ iPhone 13 มาก แม้หน้าจอแสดงผล iPhone 13 ทั้ง 4 รุ่น มีหน้าจอเป็น OLED แบบ Super Retina XDR ระดับ HDR ที่ให้สีสันและภาพบนหน้าจอนั้นคมชัดสว่างมากขึ้นถึง 28% ขณะเดียวกันมีแค่ iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max เท่านั้น ที่มาพร้อมเทคโนโลยี ProMotion ซึ่งช่วยปรับอัตรา Refresh Rate ได้สูงสุด 120Hz ทั้งยังปรับได้อัตโนมัติตั้งแต่ 10-120Hz เพื่อประหยัดพลังงาน
ความละเอียดของหน้าจอ
ส่วนขนาดและความละเอียดหน้าจอของ iPhone 13 แต่ละรุ่น มีดังนี้
- iPhone 13 mini ขนาด 5.4 นิ้ว ความละเอียด 2340 x 1080 พิกเซลที่ 476 ppi
- iPhone 13 ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด 2532 x 1170 พิกเซลที่ 460 ppi
- iPhone 13 Pro ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด 2532 x 1170 พิกเซลที่ 460 ppi
- iPhone 13 Pro Max ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด 2778 x 1284
สเปค iPhone 13
ชิปประมวลผลเรือธงประจำปีนี้ของ iPhone 13 Series คือชิป Apple A15 Bionic หรือ Apple A15 ที่มี CPU แบบ 6‑core แบ่งเป็นด้านประสิทธิภาพ 2 Core และประหยัดพลังงานอีก 4 Core พร้อมกับ GPU แบบ 4‑core ตัวแรงที่สุดกว่าทุกรุ่นแล้ว ทำให้คุณสามารถใช้งานไอโฟน 13 ได้ลื่นไหล ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานแบบทั่วไป เล่นเกม สแกนหน้า Face ID ถ่ายรูป แถมช่วยประหยัดพลังงานได้ดีเยี่ยม รองรับ 5G และกันน้ำในระดับ IP68 เหมือนเดิม
ความจุ
หลายคนน่าจะคุ้นเคยกับความจุของหน่วยความจำภายในตัวเครื่อง iPhone รุ่นที่ผ่านมา ที่มีความจุให้เลือกตั้งแต่ 8GB, 16GB, 32GB, 64GB, 128GB, 256GB หรือ 512GB แต่ครั้งนี้แบรนด์ Apple ได้อัปเกรดความจุภายในเพิ่มเป็น 2 เท่า โดยทุกรุ่นมีความจุให้เลือกซื้อดังนี้
- iPhone 13 mini มีขนาดความจุ 128GB, 256GB และ 512GB
- iPhone 13 มีขนาดความจุ 128GB, 256GB และ 512GB
- iPhone 13 Pro มีขนาดความจุ 128GB, 256GB, 512GB และ 1TB
- iPhone 13 Pro Max มีขนาดความจุ 128GB, 256GB, 512GB และ 1TB
กล้อง
ในส่วนของกล้องถ่ายรูปพบว่าใน iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max มาพร้อมกล้องหลัง 3 เลนส์ ประกอบด้วย
- เลนส์ Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.5
- เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8
- เลนส์ Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.8
แต่ใช้เซนเซอร์รับภาพตัวใหม่ที่รับแสงได้มากกว่าเดิม อีกทั้งยังมีการเพิ่มระยะซูม Optical เป็น 6 เท่า และเพิ่มโหมดมาโครเข้ามา นอกจากนี้ยังสามารถถ่ายวิดีโอแบบ ProRes ได้ที่ความละเอียด 4K@30fps และมี Cinematic Mode ให้ใช้เช่นกัน
ขณะที่ iPhone 13 mini และ iPhone 13 มีกล้องหลัง 2 เลนส์เท่านั้น คือ
- เลนส์ Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.6
- เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
แต่มีการปรับปรุงระบบประมวลผลภาพให้มีประสิทธิภาพกว่าเดิม โดยเฉพาะโหมดกลางคืน พร้อมเพิ่ม Cinematic Mode สำหรับวิดีโอ ช่วยให้คุณสามารถสลับโฟกัสระหว่างใบหน้าได้โดยอัตโนมัติ ถือเป็นลูกเล่นที่ช่วยให้ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านคลิปวิดีโอได้ดีขึ้น
เตรียมบัตรเครดิต ไว้ผ่อนจ่าย iPhone 13 ราคาหลักพัน...กรอกข้อมูลที่นี่
iPhone 13 ซื้อรุ่นไหนคุ้มสุด
เมื่อพิจารณาสเปค iPhone 13 ทั้ง 4 รุ่น สามารถสรุปคำนิยามที่ช่วยให้ง่ายต่อการตัดสินใจเพื่อเลือกซื้อไอโฟน 13 ดังนี้
iPhone 13 mini
เป็นมือถือไซส์เล็ก น้ำหนักเบา แต่สเปคสูงเกินราคา แถมมีฟีเจอร์ครบครันไม่แพ้ไอโฟน 13 รุ่น ถึงอย่างนั้น iPhone 13 mini ก็มีข้อเสียเรื่องแบตเตอรี่ด้วยมีความจุน้อย หากใช้งานหนักต่อเนื่อง มีโอกาสแบตหมดระหว่างวันได้ ฉะนั้นอาจต้องพกที่ชาร์จไร้สายติดตัวไปด้วย
iPhone 13
ส่วนใครที่ชื่นชอบมือถือขนาดพอดีมือ แถมมีงบประมาณในกระเป๋าค่อนข้างเยอะ อาจขยับจาก iPhone 13 mini มาเป็น iPhone 13 แทนได้ เพียงแต่มีข้อเสียเรื่องสเปค เพราะไอโฟนทั้ง 2 รุ่นไม่ได้ต่างกันมาก
iPhone 13 Pro
ไอโฟน 13 โปร ถือเป็นมือถือสเปคแรง ขนาดกำลังพอดีมือที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะเป็นรอง iPhone 13 Pro Max แค่เรื่องหน้าจอและขนาดแบตเตอรี่เท่านั้น
iPhone 13 Pro Max
ส่วนผู้ที่ชื่นชอบมือถือจอใหญ่ ๆ ฟีเจอร์ระดับเรือธงแล้วล่ะก็ ขอแนะนำ iPhone 13 Pro Max ที่มีคุณสมบัติครบครันทุกด้านโดยเฉพาะเรื่องแบตเตอรี่และประสิทธิภาพของกล้อง แต่ราคาแอบสูงไม่น้อยทีเดียว
iPhone 13 มีกี่สี ราคาอย่างเป็นทางการในไทย
iPhone 13 mini
มีสีเครื่องไอโฟนให้เลือกซื้อถึง 5 สีด้วยกัน นั่นคือ ชมพู, น้ำเงิน, ดำ, ทอง และแดง Product Red ส่วนราคาเริ่มต้นของ iPhone 13 mini มีดังนี้
- ความจุ 128GB ราคา 25,900 บาท
- ความจุ 256GB ราคา 29,900 บาท
- ความจุ 512GB ราคา 37,900 บาท
iPhone 13
มาต่อกันที่ iPhone 13 ซึ่งมีสีเครื่องให้เลือก 5 สีเช่นกัน คือ ชมพู, น้ำเงิน, ดำ, ทอง และแดง Product Red ส่วนราคา iPhone เครื่องเปล่าอยู่ที่
- ความจุ 128GB ราคา 29,900 บาท
- ความจุ 256GB ราคา 33,900 บาท
- ความจุ 512GB ราคา 41,900 บาท
iPhone 13 Pro
เมื่อขยับมาที่รุ่น Pro พบว่าสีตัวเครื่องมีความแตกต่างจากรุ่นธรรมดาไม่น้อยทีเดียว โดย iPhone 13 Pro มีแค่ 4 สี ได้แก่ Silver, Graphite, Gold และ Sierra Blue ส่วนราคาไอโฟนรุ่นนี้อยู่ที่
- ความจุ 128GB ราคา 38,900 บาท
- ความจุ 256GB ราคา 42,900 บาท
- ความจุ 512GB ราคา 50,900 บาท
- ความจุ 1TB ราคา 58,900 บาท
iPhone 13 Pro Max
ปิดท้ายที่ iPhone 13 Pro Max มาพร้อมสีเครื่อง คือ Silver, Graphite, Gold และ Sierra Blue ขณะที่ราคาเริ่มต้นของรุ่นนี้แตะหลักสี่หมื่นทีเดียว
- ความจุ 128GB ราคา 42,900 บาท
- ความจุ 256GB ราคา 46,900 บาท
- ความจุ 512GB ราคา 54,900 บาท
- ความจุ 1TB ราคา 62,900 บาท
iPhone 13 พร้อมวางขายในไทยเมื่อไหร่
สำหรับประเทศไทยพร้อมเปิดให้พรีออเดอร์ iPhone 13 ทั้ง 4 รุ่น ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป ก่อนที่แบรนด์ Apple เปิดวางจำหน่าย iPhone 13 mini, iPhone 13, iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max อย่างเป็นทางการในวันที่ 8 ตุลาคม 2564
ระหว่างรอ Pre Order ไอโฟน 13 ขอแนะนำให้สาวกแอปเปิลลองสำรวจกระเป๋าตังค์ว่า มีบัตรเครดิตใบไหนอยู่ในมือบ้าง เพราะสมาร์ทโฟนถือเป็นสินค้าราคาสูงที่ร้านค้ามักจัดโปรโมชั่นบัตรเครดิตมาอำนวยความสะดวกสบายของผู้ถือบัตร ไม่ว่าจะเป็นรับเครดิตเงินคืน สะสมแต้มบัตรเครดิต หรือผ่อน 0% หากบรรดาผู้จำหน่ายมือถือ อย่างเว็บไซต์ Apple, Advice, Banana IT, Power Buy, AIS, DTAC, TrueMove H, Studio7, Lazada และ Shopee มีรายละเอียดโปรแบบคุ้ม ๆ iPhone 13 โดยเฉพาะโปรโมชั่นผ่อน 0% เมื่อไหร่ เราจะรีบมาอัปเดตทันที
อ้างอิงข้อมูล : Apple
ผ่อนชำระ iPhone 13 0% เพื่อลดการใช้เงินก้อน...คลิกที่นี่
ไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปี