เช็คลิสต์ 10 อุปกรณ์การเรียนที่ควรมีติดกระเป๋าต้อนรับเปิดเทอม

ใกล้เปิดเทอม เด็ก ๆ หลายคนอาจจะต้องเตรียมปรับตัวเข้าสู่โรงเรียนใหม่หรือระดับชั้นใหม่ ซึ่งนอกจากการเตรียมกายและเตรียมใจให้พร้อมรับบทเรียนใหม่ ๆ แล้ว สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือการมีอุปกรณ์การเรียนที่ครบถ้วน ลองนึกภาพการเข้าเรียนคณิตศาสตร์โดยไม่มีไม้บรรทัดหรือเครื่องคิดเลข หรือเรียนศิลปะโดยไม่มีอุปกรณ์วาดภาพ การขาดอุปกรณ์เหล่านี้ไม่เพียงทำให้เกิดความไม่สะดวก แต่ยังอาจทำให้เสียเวลาหรือตามเพื่อนไม่ทันอีกด้วย แล้วเราจะรู้ได้ไงว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง ? วันนี้ KTC เอาเช็กลิสต์ไอเทอมเปิดเทอมที่ควรมีมาให้แล้ว มาจัดกระเป๋าไปพร้อมกันเลย

เช็กลิสต์ 10 ไอเทมเปิดเทอมที่ควรมีติดกระเป๋าทาง

1.กระเป๋านักเรียน

แน่นอนว่าก่อนจะมีของในกระเป๋า สิ่งที่ต้องมีก่อนก็คือกระเป๋านักเรียนที่จะต้องใช้ในทุก ๆ วัน สำหรับใครที่มีกระเป๋าอยู่แล้วและสภาพยังใช้งานได้ดี ไม่มีรอยขาด ซิปยังรูดขึ้นรูดลงได้ปกติ สายสะพายยังแข็งแรง การนำกระเป๋าเดิมมาใช้ต่อเป็นทางเลือกที่ประหยัด แต่อย่างไรก็ตาม หากกระเป๋าเดิมมีสภาพชำรุด มีรอยขาด หรือตะเข็บหลุดลุ่ย การลงทุนซื้อใหม่ก็เป็นสิ่งที่คุ้มค่าในระยะยาว เพราะกระเป๋าที่ชำรุดไม่เพียงทำให้เสี่ยงต่อการสูญหายของอุปกรณ์การเรียน แต่ยังอาจส่งผลต่อความปลอดภัยของสิ่งของมีค่า เช่น หนังสือเรียน หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

2. สมุด

สมุดเป็นไอเทมเปิดเทอมพื้นฐานที่ควรมีติดกระเป๋าไว้ บางโรงเรียนอาจมีสมุดของโรงเรียนที่ต้องซื้อพร้อมหนังสืออยู่แล้ว แต่บางโรงเรียนก็อาจจะให้สมุดอะไรก็ได้ ทั้งนี้ควรเตรียมจำนวนสมุดไว้ให้พอดีกับวิชาเรียน หากเตรียมไปไม่ครบ ขาดวิชาใดวิชาหนึ่ง อาจจะพลาดเนื้อหาหรือสาระสำคัญของวิชานั้นไปเลยก็ได้

3. อุปกรณ์เครื่องเขียน

นอกจากสมุดแล้ว อุปกรณ์เครื่องเขียนต่าง ๆ ก็ควรเตรียมไว้ให้ครบ เช่น ปากกาน้ำเงิน, ปากกาแดง, ดินสอ, ยางลบ, ปากกาลบคำผิด, กบเหลาดินสอ หรือไม้บรรทัด ไม่ควรคิดว่าค่อยไปยืมเพื่อน เพราะบางทีเพื่อนก็อาจไม่ได้เตรียมมาเผื่อคนอื่นเหมือนกัน ทำให้สุดท้ายเราอาจจะต้องไปหาซื้อใหม่เอง ดังนั้นควรเตรียมให้พร้อมและเก็บใส่กระเป๋านักเรียนตั้งแต่เนิ่น ๆ เลยจะดีที่สุด

4. กระเป๋าใส่เครื่องเขียน

เพื่อไม่ให้ข้าวของในกระเป๋ากระจัดกระจายไม่เป็นระเบียบ ควรมีกระเป๋าเครื่องเขียนไว้ เพราะของเล็ก ๆ อย่างปากกา, ไส้ดินสอ, ยางลบ ถ้าไม่เอาใส่กระเป๋าเครื่องเขียนไว้ก็อาจจะทำให้หาของลำบาก เวลาจะหยิบมาใช้ก็เสียเวลา ซึ่งกระเป๋าใส่เครื่องนี้ถ้ามีอยู่แล้วและยังสภาพดีอยู่ แนะนำให้เอามาทำความสะอาดและใช้ต่อได้ แต่ถ้าหากชำรุดเสียหาย ก็ควรซื้อใหม่ดีกว่าเพื่อที่ของในกระเป๋าจะได้ไม่ร่วงออกมาด้วย

5.ดินสอสี

ดินสอสีไม่ได้จำกัดแค่การใช้ในวิชาศิลปะเท่านั้น เพราะในบางวิชาอาจมีกิจกรรมเสริมอื่น ๆ เช่น การทำใบงาน วาดภาพ ทำโปสเตอร์ หรืออธิบายแนวคิดผ่านแผนภาพสีสัน การพกดินสอสีติดกระเป๋าไว้จึงเป็นตัวช่วยที่สะดวก เมื่อต้องใช้งานประกอบการเรียนรู้ในรูปแบบต่าง ๆ

6.เครื่องคิดเลข

ในระดับมัธยมอาจจำเป็นต้องใช้เครื่องคิดเลขในการเรียนคณิตศาสตร์ หรือวิชาอื่น ๆ ที่มีการคำนวณ โดยเครื่องคิดเลขจะมีทั้งแบบธรรมดาและเครื่องคิดเลขวิทยาศาสตร์ ควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับวิชา แต่ทั้งนี้ต้องดูกฎและข้อระเบียบอื่น ๆ ด้วย บางโรงเรียนหรือบางวิชาอาจต้องการให้เด็ก ๆ ฝึกติดด้วยตัวเอง ก็อาจจะห้ามไม่ให้ใช้เครื่องคิดเลขได้

7.อุปกรณ์เรียนพิเศษเฉพาะวิชา

ถ้ามีวิชาอื่น ๆ ที่ต้องใช้อุปกรณ์พิเศษประกอบการเรียนก็ควรเตรียมเผื่อไว้ เช่น วิชาศิลปะ ใช้พู่กันและสีน้ำ, วิชาดนตรี ใช้ขลุ่ย หรือวิชาพละ ใช้ไม้แบดมินตัน เป็นต้น สามารถพกไปเผื่อได้ในกรณีที่รู้อยู่แล้วว่าจะต้องเรียนวิชาอะไร

8. แฟ้มเอกสาร

แฟ้มเอกสารมีไว้เพื่อจัดเก็บเอกสารให้เป็นระเบียบ ในช่วงแรก ๆ ของการเปิดเทอม อาจจะได้รับเอกสารที่เกี่ยวกับรายละเอียดวิชาหรือตารางเรียน ถ้ามีแฟ้มติดกระเป๋าไว้ก็จะช่วยให้เก็บเอกสารได้ง่ายขึ้น ไม่ยับยู่ยี่ หรือขาด

9. กระดาษโน้ต

อาจต้องใช้ถ้ามีเรื่องสำคัญ ๆ แต่ไม่ยาวมาก เช่น วันพรุ่งนี้คุณครูอาจต้องการให้เตรียมบางอย่างมา หรือมีเรื่องสำคัญ ๆ เกี่ยวกับการเรียน ก็อาจจะใช้กระดาษโน้ตในการจดไว้ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ใช้ทุกวิชา แต่มีติดกระเป๋าไว้ก็ทำให้สะดวกเวลาจะหยิบใช้

10. อุปกรณ์ไอที

บางโรงเรียนอนุญาตให้นำอุปกรณ์ไอทีมาใช้ประกอบการเรียน เช่น แท็บเล็ต, ไอแพด, หูฟังไร้สาย ไว้ใช้เรียน, ดูเอกสาร, สื่อประกอบการสอน หรือจดสรุป ทำรายงานส่ง ดังนั้นควรเตรียมใส่กระเป๋าไว้ เพราะเป็นของที่ถ้าลืมจะไม่สามารถหาซื้อใหม่ได้ทันทีเนื่องจากราคาสูง และส่วนมากเป็นอุปกรณ์ที่ใช้แบบ 1 เครื่องต่อ 1 คน ทำให้ไม่สามารถยืมเพื่อน ๆ ได้

เคล็ดลับในการเลือกอุปกรณ์การเรียนที่เหมาะสมกับลูก

วิธีเลือกอุปกรณ์การเรียนที่เหมาะสมกับวัยและความต้องการของลูก

พิจารณาตามช่วงวัย

เด็กในแต่ละช่วงวัยมีความต้องการในการใช้อุปกรณ์การเรียนที่แตกต่างกัน วัยอนุบาลอาจจะเน้นไปที่อุปกรณ์ที่เสริมสร้างพัฒนาการ เช่น สีเทียน กรรไกร หรือกาวสำหรับการทำงานประดิษฐ์ ในขณะที่วัยประถมจะเริ่มใช้อุปกรณ์การเรียนที่เจาะจงมากขึ้นตามวิชาที่เรียน เช่น อุปกรณ์คณิตศาสตร์ อย่าง วงเวียน ไม้โปรแทรกเตอร์ นอกจากนี้อุปกรณ์เครื่องเขียนก็จะมีการปรับเปลี่ยนในช่วงนี้ด้วย ส่วนใหญ่แล้วประถมต้นอาจใช้ดินสอ แต่ประถมปลายจะเริ่มเปลี่ยนมาใช้ปากกาลูกลื่นหรือปากกาหมึกซึม

สำหรับวัยมัธยมขึ้นไป อุปกรณ์การเรียนจะเน้นไปที่ความสะดวกในการใช้งาน การจดบันทึกที่มีประสิทธิภาพ เด็กส่วนมากนิยมใช้ปากกาหลาก ๆ สีเพื่อให้ตัวเองจดจำเนื้อหาได้ง่ายขึ้น รวมถึงใช้เครื่องมือที่ช่วยในการค้นคว้าข้อมูล เช่น แท็บเล็ต

พิจารณาตามความต้องการและความสนใจของลูก

ควรสังเกตความชอบของลูก เพื่อดูว่าลูกชอบอะไร ชอบวาดรูป ระบายสี ชอบประดิษฐ์ ชอบอ่านหนังสือ หรือชอบทำกิจกรรมประเภทไหน ถ้าสังเกตแล้วยังมองไม่ออก อาจจะลองพูดคุยกับลูกตรง ๆ เลย ถามความเห็นของลูกเกี่ยวกับอุปกรณ์การเรียนที่เขาอยากได้ หรือคิดว่าจำเป็นสำหรับการเรียนรู้ของเขา เพื่อให้ลูกมีส่วนร่วมในการเลือกซื้อ เพราะการให้ลูกได้เลือกอุปกรณ์ที่เขาชอบ จะช่วยกระตุ้นความสนใจในการเรียนรู้มากขึ้น

การเลือกสินค้าที่ทนทานและคุ้มค่า

เลือกซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้า อุปกรณ์บางอย่างอาจมีราคาถูกและย่อมเยาก็จริง แต่อาจทำมาจากวัสดุที่ไม่ปลอดภัย มีสารพิษหรือสารเคมีอันตราย แนะนำว่าควรเลือกลงทุนกับอุปกรณ์ที่มีคุณภาพดี ใช้งานได้นาน ดีกว่าซื้อของราคาถูกที่อาจต้องซื้อซ้ำบ่อย ๆ

ส่วนแหล่งซื้ออุปกรณ์การเรียนที่เชื่อถือได้ แนะนำว่าควรเลือกซูเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ ๆ เพราะเดินทางง่าย มีสาขาเยอะ และได้มาตราฐาน อย่างที่ Lotus's และ Big C เพราะนอกจากจะมีของให้เลือกเยอะแล้วยังมีโปรโมชั่นที่คุ้มค่าสำหรับสมาชิกบัตร KTC อีกเพียบ

โปรโมชั่นที่ Lotus's กับบัตรเครดิต KTC

สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกบัตรเครดิต KTC แลกคะแนนรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 16%

เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรฯที่ Lotus’s ทั้งช่องทางหน้าร้านค้าและช่องทางออนไลน์ และลงทะเบียนใช้คะแนน KTC FOREVER เท่ายอดใช้จ่ายผ่านบัตรฯ/เซลส์สลิป ตามกำหนด

• ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรฯ 3,000 บาทขึ้นไป รับเครดิตเงินคืน 16%
• ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรฯ1,000 – 2,999 บาท รับเครดิตเงินคืน 13%
• ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรฯ 1 – 999 บาท รับเครดิตเงินคืน 11%

หมายเหตุ:

1. สมาชิกจะต้องลงทะเบียน ทุกครั้งภายในวันเดียวกันกับที่สมาชิกมียอดใช้จ่ายเกิดขึ้นเท่านั้น และหากยอดใช้จ่ายมีจุดทศนิยมจะต้องใส่จุดทศนิยมด้วย รวมถึงไม่ต้องใส่เครื่องหมาย “ , ” ในยอดใช้จ่าย เช่น 4500.50
2. ไม่จำกัดยอดแลกคะแนนสูงสุดตลอดรายการ

ลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์ (ด้านล่าง)

ตรวจสอบคะแนนคงเหลือได้ที่แอป KTC Mobile หรือ 02 123 5000

ระยะเวลาโปรโมชั่น : 1 มี.ค. 68 – 31 ก.ค. 68

โปรโมชั่นช้อปซูเปอร์ คุ้มเวอร์ยกบ้าน กับร้านค้าที่ร่วมรายการในหมวดซูเปอร์มาร์เก็ต กับบัตรเครดิต KTC

ทธิพิเศษสำหรับสมาชิกบัตรเครดิต KTC แลกคะแนนรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 15%

เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรฯที่ ณ ร้านค้าซูเปอร์มาร์เก็ตที่ร่วมรายการ ทั้งหน้าร้านค้าและช่องทางออนไลน์ตามกำหนด และลงทะเบียนใช้คะแนน KTC FOREVER เท่ายอดใช้จ่ายผ่านบัตรฯ/เซลส์สลิป

• ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรฯ 3,000 บาทขึ้นไป รับเครดิตเงินคืน 15%
• ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรฯ1,000 – 2,999 บาท รับเครดิตเงินคืน 13%
• ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรฯ 1 – 999 บาท รับเครดิตเงินคืน 11%

หมายเหตุ:

1. สมาชิกจะต้องลงทะเบียน ทุกครั้งภายในวันเดียวกันกับที่สมาชิกมียอดใช้จ่ายเกิดขึ้นเท่านั้น และหากยอดใช้จ่ายมีจุดทศนิยมจะต้องใส่จุดทศนิยมด้วย รวมถึงไม่ต้องใส่เครื่องหมาย “ , ” ในยอดใช้จ่าย เช่น 4500.50
2. ไม่จำกัดยอดแลกคะแนนสูงสุดตลอดรายการ

ลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์ (ด้านล่าง)

ตรวจสอบคะแนนคงเหลือได้ที่แอป KTC Mobile หรือ 02 123 5000

ระยะเวลาโปรโมชั่น : 1 ก.พ. 68 – 31 ก.ค. 68

การเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเปิดเทอม ไม่เพียงแต่จะช่วยให้การเรียนในวันแรกราบรื่น แต่ยังแสดงถึงความรับผิดชอบและการมีระเบียบวินัยของตัวเด็ก ๆ เองอีกด้วย ดังนั้นควรเตรียมของใส่กระเป๋านักเรียนไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ พอถึงวันใกล้เปิดเทอมก็ให้เช็กอีกทีว่ายังขาดอะไรอีกไหม ถ้าพบว่ายังขาดเหลืออะไรก็สามารถไปเลือกซื้อที่ซูเปอร์มาเก็ตใกล้บ้าน และอย่าลืมใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต KTC ถ้าใครยังไม่มีบัตรฯ สามารถกดสมัครบัตรเครดิต KTC ผ่านช่องทางออนไลน์ได้ ทุกที่ทุกเวลา พร้อมรับคะแนน KTC FOREVER จากทุกการใช้จ่าย สะสมได้ไม่จำกัด และไม่มีวันหมดอายุ สามารถใช้คะแนนแลกรับส่วนลดหรือเครดิตเงินคืนได้ สมัครบัตรเครดิต KTC ไม่ยาก กดสมัครได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC