ในยุคที่คนหันมาสนใจการลงทุนมากขึ้น ทองคำ กลายเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ยอดนิยม เพราะมีมูลค่าที่มั่นคง เป็นที่ยอมรับทั่วโลก และยังสามารถถือครองได้จริง แต่ในขณะเดียวกัน การซื้อทองคำก็มีความเสี่ยง โดยเฉพาะหากไม่สามารถแยกแยะระหว่าง ทองคำแท้กับทองปลอม ได้
คำถามสำคัญคือ “ทองคำแท้ ดูยังไง?” บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจ 6 วิธีเช็กทองคำแท้ด้วยตัวเอง พร้อมคำแนะนำจากช่างทอง และแนวทางเลือกซื้อทองอย่างปลอดภัย เหมาะสำหรับคนวัยทำงานที่อาจยังไม่มีบัตรเครดิต แต่กำลังมองหาโอกาสในการลงทุนระยะยาว
ทำไมต้องรู้วิธีเช็กทองคำแท้?
ความสำคัญของการตรวจสอบทองคำแท้
ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีราคาสูง แม้เพียงไม่กี่กรัมก็มีมูลค่าเกินพันบาทขึ้นไป การที่คุณสามารถตรวจสอบทองคำแท้ได้ด้วยตัวเองจึงเป็นทักษะที่สำคัญ เพราะหากคุณเผลอซื้อทองปลอมโดยไม่รู้ตัว อาจสูญเสียเงินจำนวนมากโดยไม่มีโอกาสเรียกร้องคืนได้
โดยเฉพาะในยุคที่ทองคำปลอมทำได้แนบเนียน ทั้งลวดลาย สีสัน และน้ำหนัก จึงไม่แปลกใจที่มิจฉาชีพจะฉวยโอกาสจากคนทั่วไปที่ไม่มีความรู้เฉพาะทาง
การป้องกันการถูกหลอกซื้อทองปลอม
การถูกหลอกให้ซื้อทองปลอมไม่ได้เกิดแค่ในตลาดมืดเท่านั้น แม้แต่ในร้านค้าทั่วไป ตลาดนัด หรือแม้แต่ช่องทางออนไลน์ก็ตาม หากไม่มีใบรับประกันหรือเครื่องหมายที่ชัดเจน ก็อาจเสี่ยงสูง
การรู้วิธีตรวจสอบเบื้องต้นจะช่วยให้คุณไม่ตกเป็นเหยื่อของกลโกง และยังสามารถเป็นข้อมูลช่วยตัดสินใจซื้อขายได้อย่างปลอดภัย
6 วิธีเช็กทองคำแท้ด้วยตนเอง
ไม่จำเป็นต้องมีเครื่องมือพิเศษ แค่สังเกตและลองทดสอบด้วยเทคนิคต่อไปนี้ก็เพียงพอ
1. ตรวจสอบตราประทับและเครื่องหมาย
ทองคำแท้มักมี ตราประทับเปอร์เซ็นต์ความบริสุทธิ์ เช่น “96.5%” หรือ “99.99%” อยู่บริเวณด้านในของแหวน หรือด้านหลังของสร้อยคอ โดยจะมีสัญลักษณ์ของโรงงานหรือร้านทอง เช่น โลโก้ หรือตราของผู้ผลิต
- ทองไทยส่วนใหญ่มีค่าความบริสุทธิ์ 96.5% (ทองคำแท้ 23K) หากไม่พบเครื่องหมายนี้ ควรตั้งข้อสงสัย
2. ทดสอบด้วยแม่เหล็ก
ทองคำแท้ไม่ใช่โลหะแม่เหล็ก หากนำแม่เหล็กแรงสูงเข้าใกล้ทองแล้วเกิดแรงดูด อาจแสดงว่ามีการผสมโลหะอื่น เช่น เหล็กหรือนิกเกิล
- หลีกเลี่ยงทองที่ดูดกับแม่เหล็ก เพราะทองแท้จะไม่มีปฏิกิริยา
3. สังเกตสีและความแวววาว
ทองคำแท้จะมี สีเหลืองเข้มแวววาว ไม่ซีด ไม่ลอก และสีจะดูเนียนสม่ำเสมอตลอดทั้งชิ้น ต่างจากทองปลอมที่อาจมีสีซีด หรือเหลืองจัดผิดธรรมชาติ
- หากเห็นจุดซีด ด่าง หรือสีไม่สม่ำเสมอ ควรหลีกเลี่ยง
4. ทดสอบเสียงเมื่อกระทบพื้นผิวแข็ง
เมื่อลองเคาะทองเบาๆ บนกระจกหรือพื้นผิวแข็ง จะได้ยินเสียง “กังวาน ใส และสม่ำเสมอ” ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของทองคำแท้
- ทองปลอมจะให้เสียงทึบหรือแหบ แสดงถึงวัสดุที่ผสมอยู่
5. ตรวจสอบน้ำหนักและขนาด
ทองแท้จะให้สัมผัสที่ “หนักแน่น” เมื่อเทียบกับขนาด หากรู้สึกเบากว่าที่ควร หรือเทียบกับชิ้นที่มีขนาดเท่ากันแต่ต่างน้ำหนัก ควรตั้งข้อสงสัย
6. สังเกตรอยต่อและจุดเสียดสี
ทองปลอมอาจมีจุดที่สีลอก หรือมีรอยต่อชัดเจนจนเห็นโลหะด้านใน ส่วนทองแท้จะไม่มีรอยขัดหรือรอยต่อแบบหยาบๆ
- ใช้แว่นขยายดูรายละเอียดรอยเสียดสี โดยเฉพาะบริเวณที่มักถูกขัดบ่อย เช่น ข้อต่อหรือห่วงล็อก
วิธีเพิ่มเติมจากช่างทองมืออาชีพ
แม้คุณจะตรวจสอบเบื้องต้นได้เอง แต่บางเทคนิคก็จำเป็นต้องใช้ประสบการณ์และความชำนาญของช่างทอง
การใช้เล็บจิกทอง
ทองแท้ที่มีเปอร์เซ็นต์สูง (99.99%) จะมีความนิ่ม หากใช้เล็บจิกเบาๆ แล้วทิ้งรอยบุ๋ม แสดงถึงความบริสุทธิ์ แต่หากแข็งเกินไป อาจมีการผสมโลหะ
การโยนทองลงบนกระจก
เทคนิคนี้ต้องทำอย่างระมัดระวัง ช่างทองจะโยนทองเบาๆ บนแผ่นกระจกเรียบ หากเป็นทองแท้จะเด้งกลับเล็กน้อยและมีเสียงใส ไม่สะท้อนเสียงเหมือนเหล็ก
การทดสอบด้วยไฟ
เมื่อใช้ไฟลน ทองแท้จะไม่เปลี่ยนสี ไม่ละลาย และไม่เกิดคราบ ส่วนทองปลอมอาจมีสีไหม้หรือหลุดลอก
คำเตือน: อย่าทดลองด้วยไฟเองหากไม่มีความชำนาญ เพราะอาจทำให้ทองเสียหาย หรือเกิดอันตราย
คำแนะนำสำหรับการซื้อทองคำ
เลือกซื้อจากร้านทองที่มีชื่อเสียง
ร้านทองที่น่าเชื่อถือควรมีใบรับรองมาตรฐาน และเปิดให้บริการมายาวนาน เช่น Aurora, ห้างทองฮั่วเซ่งเฮง, เยาวราชกรุ๊ป, แม่ทองสุก เป็นต้น
ขอใบรับรองและหลักฐานการซื้อขาย
ทุกครั้งที่ซื้อ ควรขอใบเสร็จและใบรับรองเปอร์เซ็นต์ทอง ซึ่งจะใช้เป็นหลักฐานในกรณีต้องการขายคืน หรือส่งต่อในอนาคต
ตรวจสอบมาตรฐานของผู้ผลิตทองคำ
โรงหลอมที่เชื่อถือได้ เช่น Aurora, ซินแสเฮง, ฮั่วเซ่งเฮง, หรือจิวเวลรี่แบรนด์ใหญ่ๆ มักมีระบบตรวจสอบย้อนกลับได้
หากมีบัตรเครดิตที่ร่วมรายการกับร้านทอง Aurora ซึ่งจะได้รับสิทธิพิเศษดังนี้
สิทธิพิเศษ 1
แลกคะแนนรับสิทธิ์ผ่อนทองรูปพรรณ 0% นานสูงสุด 10 เดือน
เมื่อมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรฯ ครบ 2,000 บาทขึ้นไปต่อเซลส์สลิป และใช้คะแนน KTC FOREVER ตามกำหนด
สิทธิพิเศษ 2
เมื่อมียอดชำระเต็มจำนวน 2,000 บาทขึ้นไปต่อเซลส์สลิป รับส่วนลดค่ากำเหน็จสูงสุด 50%
สิทธิพิเศษ 3
แลกคะแนน KTC FOREVER รับส่วนลด 13%
เมื่อมียอดใช้จ่ายเต็มจำนวน หรือยอดผ่อนตั้งแต่ 2,000 บาทขึ้นไปต่อเซลส์สลิป
ระยะเวลาโปรโมชั่น : 10 เม.ย. 68 – 30 ก.ย. 68
คลิกดูรายละเอียดโปรโมชั่นเพิ่มเติม
สรุปจุดเด่นที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน
การตรวจสอบด้วยตนเองช่วยป้องกันการถูกหลอก
แม้ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ แต่การรู้วิธีเบื้องต้นจะช่วยให้คุณปลอดภัยจากทองปลอม และมั่นใจมากขึ้นในการลงทุน
วิธีการง่ายๆ ที่สามารถทำได้ที่บ้าน
เทคนิคอย่างแม่เหล็ก การสังเกตสี และเสียงกระทบ ล้วนสามารถทดลองได้ง่ายโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ซับซ้อน
ความสำคัญของการเลือกซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้
แม้ตรวจเองได้บางส่วน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ แหล่งซื้อ การเลือกร้านที่มีชื่อเสียงและมีมาตรฐาน จะลดความเสี่ยงได้มากที่สุด
สำหรับพนักงานบริษัทที่ยังไม่มีบัตรเครดิต การเริ่มต้นวางแผนการเงินด้วยการลงทุนในทองคำ อาจดูเป็นเรื่องที่ต้องใช้เงินก้อนใหญ่ แต่ปัจจุบันมีเครื่องมือทางการเงินที่สามารถช่วยให้คุณซื้อทองได้ง่ายขึ้นโดยไม่กระทบเงินหมุนเวียน เช่น การผ่อนชำระ 0% ผ่านบัตรเครดิต โดยเฉพาะบัตรเครดิตที่ให้สิทธิพิเศษเมื่อซื้อ ซึ่งช่วยให้คุณลงทุนได้อย่างคล่องตัวโดยไม่ต้องใช้เงินสดก้อนใหญ่
หากคุณกำลังมองหาบัตรเครดิตที่สมัครง่าย ใช้ได้กับร้านทองทั่วประเทศ และมาพร้อมสิทธิประโยชน์ตอบโจทย์สายลงทุน แนะนำให้เริ่มต้นด้วย การสมัครบัตรเครดิต KTC ที่เปิดรับพนักงานประจำ มีรายได้ขั้นต่ำไม่สูง และสมัครออนไลน์ได้ในไม่กี่นาที
ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC