โปรโมชั่น 
บริการท่องเที่ยว
ช้อปสินค้าออนไลน์
เข้าสู่ระบบ
เป็นที่รู้กันดีว่าเมืองริโอ เดอ จาเนโรของประเทศบราซิลเป็นสถานที่สำคัญในการจัดการแข่งขันกีฬาไม่ว่าจะเป็นกีฬาฟุตบอลโลก หรือกีฬาโอลิมปิกที่จัดขึ้นเมื่อปีที่ผ่านมา คอยดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีใจรักในการชมและเชียร์กีฬาให้หลั่งใหลเข้ามามากมาย แต่ความจริงแล้ว เมืองนี้ไม่ได้มีดีแค่เรื่องสถานที่จัดการแข่งขันกีฬา แต่ยังมีสถานที่และกิจกรรมที่น่าสนใจหลากหลายให้มาลองทำ โดยลิสต์ 10 รายการต่อไปนี้คือสิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อมายังเมืองแห่งนี้
1. แวะไปนั่งเล่นที่ย่าน Lapa สีสันแห่งเมืองริโอ เดอ จาเนโร
ลึกเข้าไปตรงใจกลางย่านการค้าของเมืองริโอ เดอ จาเนโรคือแหล่งชุมนุมพบปะของผู้ที่ชื่นชอบชีวิตยามค่ำคืนชื่อว่าย่าน Lapa ซึ่งนอกจากจะเป็นพื้นที่ดื่มกินสังสรรค์แล้วยังเป็นแหล่งสีสันที่เต็มไปด้วยเหล่านักเต้นดนตรีแซมบ้าในช่วงสุดสัปดาห์ ไฮไลท์สำคัญของย่านนี้คือค็อกเทล Caipirinha ที่ขึ้นชื่อของบราซิล เป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวย่านนี้ แต่สำหรับผู้ที่วางแผนจะมาที่นี่ในช่วงเวลากลางวัน ที่แห่งนี้ก็มีสถานที่ที่น่าสนใจอย่าง Escadaria Selarón บันไดโมเสก 125 ขั้นให้ได้แวะไปถ่ายรูป
2. รำลึกประวัติศาสตร์แห่งริโอ เดอ จาเนโรที่ Santa Teresa
ย่านชุมชนเก่าแห่งนี้เปรียบเสมือนความทรงจำที่งดงามของเมืองริโอ เดอ จาเนโรในศตวรรษที่ 19 ซึ่งเป็นสมัยที่ชุมชนนี้เป็นที่อยู่อาศัยของเหล่าศิลปินสารพัดแขนง ด้วยจากที่ตั้งที่สามารถมองเห็นทะเล ชายหาดขาว และท่าเรือ ทำให้สร้างแรงบันดาลใจให้เหล่าศิลปินได้สร้างสรรค์ผลงานมากมาย
3. ลองใช้ชีวิตหรูหราที่ย่านลากัว
พื้นที่ในแถบนี้ถือว่าเป็นพื้นที่ที่มีราคาสูงมากเป็นอันดับสามของทวีปอเมริกาใต้ ดังนั้นผู้คนที่อาศัยอยู่ส่วนมากจึงเป็นเหล่าบรรดาเศรษฐี จุดเด่นประจำย่านคือสระน้ำลากูนขนาดใหญ่ มีเส้นทางปั่นจักรยานและวิ่งสำหรับคนรักสุขภาพอยู่รอบ ๆ ซึ่งหากรู้สึกเหนื่อย ตามเส้นทางก็มีร้านอาหารและคาเฟ่สุดหรูให้แวะพักตามเส้นทาง นับเป็นอีกย่านที่คนรักการพักผ่อนแบบหรูหราไม่ควรพลาด
4. ดื่มด่ำธรรมชาติที่สวนพฤกษชาติ Jardim Botanico
สวนพฤกษชาติประจำเมืองริโอ เดอ จาเนโรอย่าง Jardim Botanico แห่งนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากย่านลากัวมากนัก ภายในสวนเต็มไปด้วยพืชพรรณนานาชนิดกว่า 8,000 สายพันธุ์ให้นักท่องเที่ยวได้สำรวจเรียนรู้ และยังมีทั้งสระน้ำ รูปปั้นน้ำตก พิพิธภัณฑ์ และสวนญี่ปุ่นสำหรับถ่ายภาพอีกด้วย
5. เดินขึ้นเขาที่ Tijuca National Park
ห่างจากย่านที่พักของเมืองไปไม่ไกลมากคือที่ตั้งของป่าท่ามกลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างอุทยานแห่งชาติ Tijuca ณ จุดนี้นักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นยอดเขาในอุทยาน ฯ เพื่อไปชมวิวเมืองริโอ เดอ จาเนโร ซึ่งสามารถมองเห็นได้ทั้งเมือง นอกจากนี้ในอุทยาน ฯ ยังมีน้ำตก Cascatinha ให้ได้ไปถ่ายรูปอีกด้วย
6. นั่งรถเคเบิ้ลคาร์ไปชมวิวที่ยอดเขา Sugarloaf Mountain
ภูเขา Sugarloaf ที่มีความสูงถึง 400 เมตรนี้ตั้งอยู่ในอ่าว Guanabara มีระบบเคเบิ้ลคาร์เปิดให้นักท่องเที่ยวได้ใช้บริการตลอดทั้งวันเพื่อไปชมวิวบนยอดเขา
7. เดินเล่นบนชายหาด Ipanema
ชายหาดแห่งนี้ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของริโอ เดอ จาเนโร ด้วยว่าเป็นชายหาดที่มีทรายขาวละเอียด มีน้ำทะเลสีฟ้าและเต็มไปด้วยร้านอาหารและโรงแรมสุดหรู ทำให้ที่นี่จัดว่าเป็นสวรรค์บนดินของนักท่องเที่ยวหลาย ๆ คน การมาเที่ยวที่ชายหาดแห่งนี้สามารถทำได้ตลอดทั้งปี แต่หากจะให้ดีที่สุดควรมาในช่วงเดือนกรกฎาคม เพราะว่าเป็นช่วงที่อากาสดี และนักท่องเที่ยวจะได้เห็นการแข่งกีฬาฟุตบอลและวอลเล่ย์บอลชายหาด พร้อมลิ้มลองอาหารและเครื่องดื่มที่บริการริมชายหาดอีกด้วย
8. ชมวอลเล่ย์บอลชายหาดที่หาด Copacabana
ถัดจากหาด Ipanema จะเป็นที่ตั้งของหาด Copacabana ซึ่งมีความงดงามไม่แพ้หาดอื่น ๆ ในเมือง จุดเด่นของที่นี่คือความครึกครื้นที่เกิดขึ้นจากเหล่านักแข่งกีฬาฟุตบอล วอลเล่ย์บอลชายหาด และผู้ชมกีฬา บนหาดมีทางเดินเลียบชายหาดที่ปูกระเบื้องสไตล์โปรตุเกส นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ และตลาดปลาให้ได้เดินจับจ่ายเลือกซื้อเลือกทานมากมาย
9. ชมการแข่งขันฟุตบอลที่ Maracanã Stadium
สเตเดียมแห่งนี้เป็นหนึ่งในสนามฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดในโลกและเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของผู้ที่ชื่นชอบกีฬาฟุตบอลในบราซิล ซึ่งหากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีใจรักในการเชียร์กีฬาฟุตบอลมาก คุณจะไม่แปลกใจเมื่อได้มานั่งเชียร์และเห็นปฏิกิริยาของแฟนคลับฟุตบอลที่สเตเดียมแห่งนี้ นอกจากนี้สเตเดียมยังถูกใช้เป็นสถานที่จัดคอนเสิร์ตต่าง ๆ ในบางโอกาสอีกด้วย นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าชมสเตเดียมแห่งนี้ได้ทั้งโดยส่วนตัวและการมากับกลุ่มทัวร์
10. ชมวิวเมืองริโอ เดอ จาเนโรผ่านมุมมองของ Cristo Redentor statue
สถานที่สุดท้ายที่ขาดไม่ได้เลยก็คือยอดเขา Corcovado ที่ตั้งตระหง่ายอยู่เหนือเมืองริโอ เดอ จาเนโร ยอดเขาแห่งนี้เป็นที่ตั้งของสัญลักษณ์ประจำเมืองซึ่งก็คือ รูปปั้นพระเยซู (Cristo Redentor) นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาชมวิวของเมืองผ่านมุมมองของรูปปั้นพระเยซูได้ที่นี่โดยใช้เส้นทางที่ง่ายที่สุดนั้นก็คือ การเดินทางมาโดยรถไฟรางแคบในเมืองซึ่งจะให้บริการทุก ๆ 30 นาที หรือใช้บริการรถแวนจาก Parque de Tijuca ซึ่งมีสถานที่ให้บริการอยู่ 3 สถานี คือ Largo do Machado, Copacabana และ Paineiras.
ปรึกษาข้อมูลการเดินทาง จองตั๋วเครื่องบิน ที่พัก รถเช่า ที่ KTC World Travel Service โทร. 02 123 5050
.
