20 ที่เที่ยวอินเดียห้ามพลาด เมืองไหนดี เดือนไหนน่าไป ในปี 2025

หนึ่งในจุดหมายปลายทาง การเที่ยวต่างประเทศ ของใครหลายคน คือการได้ไปเที่ยวอินเดียสักครั้ง ด้วยเอกลักษณ์ และวัฒนธรรมที่หลากหลาย โดยเฉพาะในฐานะเมืองที่เป็นแหล่งประวัติศาสตร์สำคัญทางพุทธศาสนา เมืองที่มีอารยธรรมเก่าแก่ และการถ่ายทอดผ่านสถาปัตยกรรมที่สวยงาม เที่ยวอินเดียด้วยตัวเอง เที่ยวได้ตั้งแต่เหนือจรดใต้ แถมการเที่ยวอินเดียก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะคนอินเดียใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารได้ ใครมีแพลนเดินทางไปเที่ยวอินเดีย เราเลือกมาให้แล้ว 20 ที่เที่ยวอินเดีย ห้ามพลาด เมืองไหนดี เดือนไหนน่าไป ในปี 2025

เที่ยวอินเดีย การทำวีซ่า

ก่อนการเดินทางไปอินเดีย คนไทยก็ต้องทำวีซ่าเข้าประเทศ โดยสามารถทำวีซ่าออนไลน์ หรือ e-Tourist Visa (eTV) ได้แล้ว แบบไม่ต้องไปที่สถานทูตหรือที่ทำการวีซ่าให้เสียเวลา และใช้เดินทางเข้าประเทศได้ 30 วัน ส่วนคุณสมบัติสำหรับผู้ที่จะทำ eTV ได้ก็คือ

• สำหรับบุคคลที่ต้องการไปท่องเที่ยว พบเพื่อน ญาติ หรือทริปดูงานระยะสั้นที่ไม่ได้เป็นทางการ
• พาสปอร์ตมีอายุเกิน 6 เดือน นับจากวันที่เดินทางถึงประเทศอินเดีย มีหน้าว่างอย่างน้อยสองหน้าสำหรับประทับตราตรวจคนเข้าเมือง
• มีตั๋วเครื่องบินทั้งขาไปและกลับ ใบจองที่พัก และภาพถ่ายขนาด 2 นิ้ว
• ใช้เวลาดำเนินการประมาณ 3 วันทำการ
• วีซ่าท่องเที่ยวออนไลน์มีแบบ 30 วัน (25 USD), 1 ปี (40 USD) และ 5 ปี (80 USD)
• eTV ใช้ได้เฉพาะขาเข้าและออกจากสนามบิน 24 แห่ง และท่าเรือ 3 แห่ง
• รายละเอียดเพิ่มเติมและเอกสารที่ใช้ในการยื่นขอวีซ่าอินเดีย อ่านได้ที่ https://embassyofindiabangkok.gov.in/eoibk_pages/MzQ3
• สมัครวีซ่าอินเดียออนไลน์ผ่านสถานทูตโดยตรงได้ที่ลิงค์นี้ https://indianvisaonline.gov.in/

สกุลเงิน และการใช้จ่ายในประเทศอินเดีย

• สกุลเงินอินเดีย คือ รูปี สามารถแลกเงินล่วงหน้าได้จากสถานที่รับแลกเงินในประเทศไทย
• การแลกเงินที่อินเดีย แนะนำให้แลกโดยใช้ดอลลาร์สหรัฐ เพราะเงินบาทไทยอาจไม่ได้มีให้แลกแพร่หลายนัก
• ร้านค้าและโรงแรมส่วนใหญ่รับบัตรเครดิต และบัตรเดบิต
• สามารถใช้ Google Pay สแกนใช้จ่ายได้สะดวกมากยิ่งขึ้น

เที่ยวอินเดีย เดือนไหนดี?

เวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมอินเดีย คือในช่วงฤดูหนาว และฤดูร้อน

เที่ยวอินเดีย ฤดูหนาว (พฤศจิกายน - กุมภาพันธ์)

อุณหภูมิตั้งแต่ 10-30°C ฤดูกาลนี้ เหมาะสำหรับการเที่ยวชมและสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวมากมายของประเทศ

เที่ยวอินเดีย ฤดูร้อน (มีนาคม - มิถุนายน)

ฤดูร้อนในอินเดียอากาศร้อนชื้น โดยมีอุณหภูมิตั้งแต่ 25-40°C ฤดูกาลนี้เหมาะสำหรับวันหยุดพักผ่อนที่ชายหาดและการสำรวจวัดวาอารามหลายแห่งของประเทศ

1. ฮาวา มาฮาล (Hawa Mahal)

ฮาวา มาฮาล หรือพระราชวังสายลม ไฮไลต์ของที่เที่ยวอินเดียในเมืองชัยปุระ เมืองหลวงของรัฐราชสถาน อาคารพระราชวัง โดดเด่นด้วยสีสันที่เกิดจากหินทรายสีแดงและสีชมพู สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1799 โดยมหาราชาสะหวาย ประธาป สิงห์ ด้วยสถาปัตยกรรมเปอร์เซียผสานโมกุลที่ ได้แรงบันดาลใจมาจากมงกุฎของพระนารายณ์ จุดเด่นคือหน้าต่างแกะสลักลวดลายมุมไหนก็สวยปังทั้ง 953 บาน ทำให้ลมพัดผ่านเข้าไปด้านในได้ตลอดเวลา และเป็นที่มาของชื่อ "พระราชวังสายลม"

• เวลาทำการ : ทุกวัน เวลา 09:00 - 16:30 น.
• ที่อยู่ : Hawa Mahal Rd, Badi Choupad, J.D.A. Market, Pink City, Jaipur, Rajasthan 302002
• Google Map : https://maps.app.goo.gl/q6Lpb7b14v3JkCvW8
• ค่าเข้าสถานที่ : 50 รูปี ประมาณ 21 บาท
• วิธีเดินทาง : นั่งรถประมาณ 20 นาที จาก Jaipur International Airport

2. ซิตี้ พาเลซ จัยปูร์ (City Palace Jaipur)

เที่ยวอินเดีย ต้องไปเช็กอินที่นครสีชมพู พระราชวังหลวงจัยปูร์ เมืองชัยปุระ หนึ่งในเมืองสวยของอินเดียที่มีเสน่ห์ โดยเฉพาะในส่วนของสถาปัตยกรรมที่มีความเก่าแก่และสวยงาม สำหรับพระราชวังหลวงจัยปูร์ เป็นสถานที่ประทับของเหล่าสมาชิกราชวงศ์ชัยปุระ ซึ่งสร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1729 - 1732 ในรัชสมัยมหาราชาสะหวายจัย สิงห์ที่ 2 ผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมแบบราชปุตและโมกุล มีทั้งส่วนของพิพิธภัณฑ์สะหวายมาน สิงห์ และส่วนของพระราชวัง ที่ยังเป็นสถานที่พำนักของผู้สืบเชื้อสายมหาราชาเมืองชัยปุระองค์ปัจจุบัน

• เวลาทำการ : ทุกวัน กลางวัน 09:30 - 17:00 น. กลางคืน 19:00 - 22:00 น.
• ที่อยู่ : Gangori Bazaar, J.D.A. Market, Pink City, Jaipur, Rajasthan 302002
• Google Map : https://maps.app.goo.gl/JoojuaKZGfmRUroX7
• ค่าเข้าสถานที่ : เริ่มต้น 3,500 รูปี ประมาณ 1,500 บาท
• วิธีเดินทาง : นั่งรถประมาณ 20 นาที จาก Jaipur International Airport

3. ประตูปาตริกา (Patrika Gate)

เที่ยวอินเดีย เมืองชัยปุระ กันต่อ ที่ ประตูปาตริกา ประตูเมืองลำดับที่ 9 หนึ่งในประตูเมืองที่สวยและมีชื่อเสียงที่สุด โดยมีพื้นฐานการก่อสร้างบนเลข 9 เลขศักดิ์สิทธิ์ในความเชื่อของฮินดู ไม่ว่าจะเป็นลักษณะของสถาปัตยกรรมที่มี 9 โดม และ 9 ซุ้ม แต่ละซุ้มมีความกว้าง 9 ฟุต ประตูกว้าง 81 ฟุต ยาว 27 ฟุต สูง 108 ฟุต ตกแต่งด้วยลวดลายจิตรกรรมฝาผนังสีสันสดใส เมื่อมองจากมุมหนึ่งก็จะเห็นซุ้มประตูซ้อนสลับสีกันเป็นชั้นๆ สวยงามมาก

• เวลาทำการ : ตลอดเวลา
• ที่อยู่ : Patrika Gate Jaipur, Rajasthan,
• Google Map : https://maps.app.goo.gl/zpcEn4hPN3YSk4Nt5
• ค่าเข้าสถานที่ : ไม่มี
• วิธีเดินทาง : นั่งรถประมาณ 5 นาที หรือเดินเท้าประมาณ 20 นาที จาก Jaipur International Airport

4. ทัชมาฮาล (Taj Mahal)

อนุสรณ์แห่งความรักที่เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ ที่ใครมาเที่ยวอินเดียก็อยากมาเห็นด้วยตา สวยงามจนได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดย UNESCO เมื่อปี ค.ศ. 2007 ตั้งอยู่ริมแม่น้ำยมุนา เมืองอัครา (Agra) ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 22 ปี ซึ่งถูกสร้างขึ้นโดยสื่อถึงความรักของสมเด็จพระจักรพรรดิชาห์ชะฮัน ที่มีให้ต่อพระนางมุมตัซ มาฮาล พระมเหสีของพระองค์ มีไฮไลท์เป็นหลุมศพของพระนางมุมตัซ มาฮาล ที่สร้างด้วยหินอ่อนสีขาว ประดับลวดลายเครื่องเพชร พลอย หิน โมรา และเครื่องประดับมากมาย สุสานหินอ่อนสไตล์โมกุลสมัยศตวรรษที่ 17 มีหอคอย มัสยิด และสวนอันโด่งดัง

• เวลาทำการ : 06:00-18:00 น.
• ที่อยู่ : Dharmapuri, Forest Colony, Tajganj, Agra, Uttar Pradesh 282001 
• Google Map : https://maps.app.goo.gl/Gw1AemzqXbywxwai8
• ค่าเข้าสถานที่ : เริ่มต้น 540 รูปี ประมาณ 235 บาท
• วิธีเดินทาง : นั่งรถประมาณ 5 ชั่วโมง ระยะทาง 250 กิโลเมตร จาก Jaipur International Airport

5. นครสีฟ้า (Jodhpur)

เที่ยวอินเดียด้วยตัวเอง ถ่ายรูปสวยต้องที่ จอดปูร์ หรือจูดห์ปุระ เมืองใหญ่เป็นอันดับ 2 ของแคว้นราชสถาน และเป็นส่วนหนึ่งของทะเลทรายธาร์ ที่ใคร ๆ ต่างก็รู้จักในชื่อของ นครสีฟ้า เพราะไม่ว่าจะมองไปทางไหน เราก็จะเห็นอาคารบ้านเรือนส่วนใหญ่ทาด้วยสีฟ้าพาสเทล พร้อมด้วยป้อมปราการขนาดใหญ่ตั้งโดดเด่นอยู่บนเนินเขา แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของเมืองนับตั้งแต่ในอดีต เรียกว่าเป็นเมืองที่มีเสน่ห์ และสวยไม่แพ้ใครเลยจริงๆ ในส่วนของ Old Town ของจอดปูร์ใครมีเวลาเดินจะเห็นร้านค้า ร้านอาหาร และวิถีชีวิตของผู้คนในเมืองที่ดูน่ารักมาก

• เวลาทำการ : ตลอดเวลา
• ที่อยู่ : Jodhpur, Rajasthan, India
• Google Map : https://maps.app.goo.gl/HotHTuAt9tippZMWA
•  ค่าเข้าสถานที่ : ไม่มี
• วิธีเดินทาง : นั่งรถประมาณ 15 นาที จาก Jodhpur Airport

6. พระราชวังไมซอร์ (Mysore Palace)

พระราชวังสีเหลืองนวลแห่งเมืองไมซอร์ (Mysore) สวยงามจนถูกจัดให้เป็นหนึ่งในพระราชวังที่สวยที่สุดในโลก มีจุดเด่นเป็นโดมสีแดงด้านบนอาคาร เมื่อเข้าสู่เทศกาลดาซารา (Dasara Festival) ในช่วงเดือนกันยายน - ตุลาคมของทุกปี ทั่วทั้งพระราชวังจะตกแต่งด้วยดวงไฟ ทำให้พระราชวังไมซอร์แห่งนี้เปล่งแสงในยามค่ำคืน เหมือนกับปราสาทในโลกเทพนิยาย

• เวลาทำการ : ทุกวัน เวลา 10:00 -17:30 น.
• ที่อยู่ : Sayyaji Rao Rd, Agrahara, Chamrajpura, Mysuru, Karnataka 570001 
• Google Map : https://maps.app.goo.gl/1xqt4chvMFNN5Wym7
• ค่าเข้าสถานที่ : 50 รูปี
• วิธีเดินทาง : นั่งรถประมาณ 15 นาที จาก Mysuru Airport

7. วิหารทองคำ ฮัรมันดิร ซาฮิบ (Harmandir Sahib)

ที่เที่ยวสวยในอินเดียที่ห้ามพลาด คือ ศาสนสถานของศาสนาซิกข์ สีทองกลางสระน้ำศักดิ์สิทธิ์ใน เมืองอมฤตสระ หรือวิหารทองคำ ฮัรมันดิร ซาฮิบ ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1577 เพื่อเป็นศูนย์รวมของชาวซิกข์ และเป็นที่เก็บรักษาพระมหาคำภีร์ ประวัติสำคัญของวิหารแห่งนี้คือการถูกทำลายไปก่อนจะสร้างขึ้นใหม่ ในช่วงศตวรรษที่ 19 เริ่มด้วยสร้างด้วยหินอ่อน ทองแดง และการประดับภายนอกด้วยทองคำเปลว ส่องสีทองจนได้รับการยกย่องให้เป็นวิหารซิกข์สวยที่สุดในโลก

• เวลาทำการ : ตลอดเวลา
• ที่อยู่ : Golden Temple Rd, Atta Mandi, Katra Ahluwalia, Amritsar, Amritsar Cantt., Punjab 143006
• Google Map : https://maps.app.goo.gl/t6HJPhgNKKsJ2XTL7
• ค่าเข้าสถานที่ : ไม่มี
• วิธีเดินทาง : นั่งรถประมาณ 20 นาที จาก Sri Guru Ram Dass Jee International Airport

8. กลุ่มถ้ำอชันตา (Ajanta Caves)

หนึ่งในวัดถ้ำอันเก่าแก่ที่สะท้อนอารยธรรมโบราณได้งดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกในอินเดีย ยกให้ กลุ่มถ้ำอชันตา สุดยอดงานแกะสลักอายุกว่า 2,000 ปี ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO สร้างขึ้นประมาณ 200 ปีก่อนคริสต์ศักราชจนถึง ปี ค.ศ. 650 ภายในถ้ำเต็มไปด้วยงานแกะสลักภาพในพุทธศาสนา และเสาแปดเหลี่ยม 39 ต้นที่เรียงรายอย่างเป็นระเบียบ ด้วยความเก่าแก่และความงดงามที่ยังคงอนุรักษ์อยู่ในสภาพที่ค่อนข้างสมบูรณ์มาจนถึงปัจจุบัน

• เวลาทำการ : 09:00 - 18:00 น. (ปิดวันจันทร์)
• ที่อยู่ : HP22+XVX, Ajanta Caves, Maharashtra 431117 
• Google Map : https://maps.app.goo.gl/SuMm54egUtf4NScy8
• ค่าเข้าสถานที่ : 10 รูปี ประมาณ 5 บาท
• วิธีเดินทาง : นั่งรถประมาณ 2 ชั่วโมง 20 นาที จาก Aurangabad Airport

9. เลห์ ลาดักห์ (Leh Ladakh)

สายเที่ยวแบบผจญภัยในอินเดีย แนะนำดินแดนแห่งเทือกเขาหิมาลัยที่ เลห์ (Leh) เมืองหลวงแห่งอาณาจักร ลาดัก (Ladakh) ที่ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนในเทือกเขาหิมาลัย ตั้งอยู่ตอนเหนือของประเทศอินเดีย ฉายา “ทิเบตน้อย” เป็นดินแดนสุดว้าวที่มาพร้อมกับวิวแลนด์สเคปอลังการ ทั้งแนวเขา ทะเลสาบ ทะเลทราย ทุ่งหญ้า ธารน้ำใส ภูเขาดิน ภูเขาหิมะ สวยเหมือนเมืองในตำนาน ผู้คนยังคงใช้ชีวิตเรียบง่ายผสานวัฒนธรรมของทิเบต และความเชื่อทางพุทธศาสนา

• เวลาทำการ : ตลอดเวลา
• ที่อยู่ : Leh, Jammu and Kashmir, 194101
• Google Map : https://maps.app.goo.gl/rVaDqyGLX4ch8p3S7 
• ค่าเข้าสถานที่ : ไม่มี
• วิธีเดินทาง : นั่งรถประมาณ 5 นาที จาก Kushok Bakula Rimpochee Airport

10. พระราชวังหลวง อุไดปูร์ (City Palace of Udaipur)

เที่ยวอินเดียด้วยตัวเอง ต้องจดไว้ในลิสต์เลย สำหรับพระราชวังหลวง อุไดปูร์ เมือง Udaipur ที่ทั้งสวยและโรแมนติก ตั้งอยู่ใกล้ทะเลสาบพิโชล่า (Pichola) ทางตอนใต้ของแคว้น Rajasthan ในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงของแคว้นราชสถาน มีสถาปัตกรรมยิ่งใหญ่อย่างพระราชวังหลวง หรือ ซิตี้ พาเลซ อุไดปูร์ (City Palace Udaipur) พระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในแคว้น สร้างด้วยหินแกรนิตและหินอ่อนแกะสลัก ภายในตกแต่งด้วยกระจกสี ปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปชมความงาม

• เวลาทำการ : 09:30 - 21:00 น.
• ที่อยู่ : City Palace, Old City, Udaipur, Rajasthan 313001
• Google Map : https://maps.app.goo.gl/ePztzsQjhsKir5CAA
• ค่าเข้าสถานที่ : 400 รูปี ประมาณ 175 บาท
• วิธีเดินทาง : นั่งรถประมาณ 30 นาที จาก Maharana Partap Dabok Airport

11. ทะเลทรายจัยซัลเมียร์ (Jaisalmer Sand Dunes)

เที่ยวอินเดีย ต้องลองไปขี่อูฐ ชมทะเลทรายบน Thar Desert ฉายา “นครสีทอง” ตั้งอยู่บนที่ราบสูงกลางที่ราบทะเลทรายธาร์ ครอบคลุมพื้นที่ถึง 205,000 ตารางกิโลเมตร เริ่มจากอินเดียไปจนถึงปากีสถาน แถมยังเป็นทะเลทรายที่ใหญ่ติดอันดับโลก ในอดีตเคยเป็นเส้นทางการค้าที่สำคัญระหว่างอินเดียกับตะวันออกกลาง ในเขตของจัยซัลเมียร์เราจะเห็นเนินทรายหลายแห่ง แต่ที่สวยที่สุดคือ เนินทรายแซม หรือ Sam Sand Dunes ที่เป็นเนินทรายสลับซับซ้อนสีทองอร่าม

• เวลาทำการ : ตลอดเวลา
• ที่อยู่ : Sam sand dune jaisalmer, Dhibba Para, Manak Chowk, Amar Sagar Pol, Jaisalmer, Rajasthan 345001
• Google Map : https://maps.app.goo.gl/m9YKmCHuUFbfGUhp7
• ค่าเข้าสถานที่ : ไม่มี
• วิธีเดินทาง : นั่งรถประมาณ 20 นาที จาก Jaisalmer Airport

12. ทะเลสาบกาดิซาร์ (Gadisar Lake)

ที่เที่ยวอินเดีย ใกล้นครสีทองจัยซัลเมียร์ มี ทะเลสาบกาดิซาร์ (Gadisar Lake) เป็นแหล่งน้ำสำคัญของเมือง ที่สร้างขึ้นในสมัย Raja Rawal Jaisal ปฐมกษัตริย์แห่งจัยซัลเมียร์เมื่อศตวรรษที่ 12 ริมทะเลสาบมีสิ่งก่อสร้างที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นวัด และศาสนาสถานต่าง ๆ แถมยังสามารถเห็นได้ไกลจนถึง ป้อมปราการจัยซัลเมียร์ (Jaisalmer) เหมาะกับการไปนั่งเรือชมเมือง ชมนก และถ่ายรูปสวยๆ กับสถาปัตยกรรม

• เวลาทำการ : ตลอดเวลา
• ที่อยู่ : Gadisar Lake, Postal Colony, Jaisalmer, Rajasthan 345001
• Google Map : https://maps.app.goo.gl/aGnFqQFz7rieRSPk9
• ค่าเข้าสถานที่ : ไม่มี
• วิธีเดินทาง : นั่งรถประมาณ 20 นาที จาก Jaisalmer Airport

13. ป้อมอัครา (Agra Fort)

ป้อมเมืองเก่าแก่ในเมืองอัครา รัฐอุตตรประเทศ เดิมเป็นที่ประทับหลักของจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโมกุล ก่อนมีการย้ายเมืองหลวงจากอัคราไปเดลี ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลก จากองค์การยูเนสโกในปี 1983 ใช้เวลาในการสร้างยาวนานถึง 3 ยุคของกษัตริย์ราชวงศ์โมกุล ตัวป้อมมีลักษณะเป็นกำแพงสองชั้น สูงกว่า 20 เมตร ยาว 2.5 กิโลเมตร และมีป้อมทางเข้าสี่ทิศ ล้อมรอบด้วยคูน้ำ ตัวอาคารสร้างด้วยหินทรายสีแดง ภายในประกอบด้วยพระราชวังจาฮันการี (Jahangari) ท้องพระโรง ตำหนักมูซัมมัน (Musamman Burj) มัสยิดไข่มุก (Moti Masjid) สวนดอกไม้ (Anguri Bagh)

• เวลาทำการ : ตลอดเวลา
• ที่อยู่ : Agra Fort, Rakabganj, Agra, Uttar Pradesh 282003
• Google Map : https://maps.app.goo.gl/dMyds9mGhVQhdbrN8
• ค่าเข้าสถานที่ : ไม่มี
• วิธีเดินทาง : นั่งรถประมาณ 20 นาที จาก Agra Airport

14. ป้อมอาเมร์ (Amber Fort)

ป้อมอาเมร์ เป็นสถานที่เที่ยวอินเดีย ที่สำคัญอีกแห่งในชัยปุระ สร้างโดยมหาราชา มาน สิงห์ที่ 1 เป็นป้อมสมัยศตวรรษที่ 16 ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี เนื่องจากผสมผสานทั้งสถาปัตยกรรมฮินดูและโมกุล ไม่ว่าจะเป็นหอขนาดใหญ่ สวนที่ตกแต่งอย่างหรูหรา ชมงานศิลปะอายุเก่าแก่หลายศตวรรษ สักการะวัด ต่อด้วยการเดินรอบ Jaleb Chowk ซึ่งเป็นสวนหลัก ขึ้นบันไดผ่านประตู Suraj Pol ไปยังหอ Diwan-i-Am (Hall of Public Audience) ที่เต็มไปด้วยแนวเสา มีวัด Sila Devi และรูปปั้นของพระแม่กาลี

• เวลาทำการ : 08:00 - 21:00 น.
• ที่อยู่ : Devisinghpura, Amer, Jaipur, Rajasthan 302001
• Google Map : https://maps.app.goo.gl/VPsN2nAusfEEFxdU7
• ค่าเข้าสถานที่ : 500 รูปี ประมาณ 216 บาท 
• วิธีเดินทาง : นั่งรถประมาณ 40 นาที จาก Jaipur International Airport

15. พระราชวังฤดูร้อน ชล มหัล (Jal Mahal Water Palace)

ชื่นชมพระราชวังกลางน้ำ พระราชวังเก่าที่ตั้งอยู่กลางทะเลสาบมันสกา ตัวอาคารสร้างโดยใช้หินทรายสีแดง สถาปัตยกรรมแบบเบงกอล แต่เดิมมีทั้งหมด 5 ชั้น แต่ปัจจุบันเหลือ 4 ชั้น ด้านล่างจะถูกน้ำท่วมเมื่อทะเลสาบมีระดับน้ำสูงขึ้นจะเหลือเพียงชั้นบนสุดเท่านั้นที่เผยขึ้นมาเหนือน้ำ ซึ่งตรงนี้แหละที่เป็นจุดไฮไลต์ อวดความสวยงามให้นักท่องเที่ยวมาเช็กอิน ถ่ายรูปสวย ๆ กัน ปัจจุบันปรับเปลี่ยนให้ที่นี่เป็นร้านอาหารสุดหรูหรา จึงมีการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะไปเข้าเที่ยวชม เพราะต้องนั่งเรือเข้าไป แต่นักท่องเที่ยวทั่วไปก็สามารถที่จะชมพระราชวังแห่งนี้ได้จากจุดชมวิว

• เวลาทำการ : วันพฤหัสบดี - อังคาร 12:00 - 22:30 น., วันพุธ 24 ชั่วโมง
• ที่อยู่ : Water Palace Jal Mahal, Amber, Jaipur, Rajasthan 302002
• Google Map : https://maps.app.goo.gl/zgACdgHsFHMcSNqq5
• ค่าเข้าสถานที่ : ไม่มี
• วิธีเดินทาง : นั่งรถประมาณ 35 นาที จาก Jaipur International Airport

16. บ่อน้ำโบราณ พานนา มีนา กา คุนด์ (Panna Meena Ka Kund Step Wells)

เที่ยวอินเดีย ห้ามพลาดชมบ่อน้ำโบราณแบบขั้นบันไดใจกลางเมือง ที่ถูกจัดให้เป็นอัญมณีที่ซ่อนอยู่ของนครชัยปุระ ตั้งอยู่ใกล้กับ Amber For ที่นี่ออกแบบเป็นแนวทแยง 8 ชั้นจากปากบ่อลงไปด้านล่างก้นบ่อ นับเป็นสถาปัตยกรรมสวยงาม อนุญาตให้นักท่องเที่ยวลงไปถ่ายภาพได้ แต่ต้องจ่ายเงินให้เจ้าหน้าที่ 100 รูปี ประมาณ 50 บาท รับรองว่าจะได้ภาพที่มีมิติและออกมาสวยเก๋ไม่ซ้ำใคร

• เวลาทำการ : 07:00 - 18:00 น.
• ที่อยู่ : Panna Meena ka Kund, Amer, Rajasthan 30202
• Google Map : https://maps.app.goo.gl/Z3CxACV6d2NjfxrDA
• ค่าเข้าสถานที่ : ไม่มี
• วิธีเดินทาง : นั่งรถประมาณ 50 นาที จาก Jaipur International Airport

17. ท่าน้ำทศาศวเมธ ฆาต (Dasaswamedh Ghat)

ใครไปเที่ยวอินเดีย เมืองพาราณสี แนะนำให้ไปชม ท่าน้ำทศาศวเมธ ฆาต (Dasaswamedh ghat) ท่าน้ำที่ใหญ่ที่สุด อีกทั้งยังเป็นสถานที่สำคัญทางศาสนา ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำคงคา มีบันไดหันหน้าออกสู่แม่น้ำ เห็นภาพวิถีชีวิตของชาวพาราณสีที่ผูกพันกับแม่น้ำคงคา ที่นี่จะเต็มไปด้วยผู้แสวงบุญที่มาอาบน้ำชำระร่างกายหรือนำสิ่งสักการะ มีพราหมณ์ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา และเรือนำเที่ยวที่จะล่องไปตามแม่น้ำคงคา ส่วนในกลางคืนท่าน้ำแห่งนี้จะกลายเป็นสถานที่ประกอบพิธีบูชาไฟ หรือพิธีอารตี นำพิธีโดยเหล่าพราหมณ์เพื่อขอพรจากพระเจ้าให้มอบความสุขและความโชคดีแก่ผู้ที่บูชา จึงสว่างไสวไปด้วยแสงเทียนที่มองดูสวยไปอีกแบบ

• เวลาทำการ : ตลอดเวลา
• ที่อยู่ : Dashashwamedh Ghat Rd, Ghats of Varanasi, Godowlia, Varanasi, Uttar Pradesh 221001
• Google Map : https://maps.app.goo.gl/eZp32jZP59AzUs7q9
• ค่าเข้าสถานที่ : ไม่มี
• วิธีเดินทาง : นั่งรถประมาณ 45 นาที จาก Lal Bahadur Shastri International Airport

18. เจดีย์พุทธคยา (Mahabodhi Temple, Bodh Gaya)

เที่ยวอินเดีย ตามรอยพระพุทธเจ้าเยือนสถานที่ตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือ “วัดมหาโพธิ์” พุทธคยา ประเทศอินเดีย ชมเจดีย์สี่เหลี่ยมทรงสูง เป็นสถาปัตยกรรมและศิลปะแบบอินเดีย สูงประมาณ 170 ฟุต แบ่งออกเป็น 2 ชั้น ชั้นแรกประดิษฐานพระพุทธเมตตา พระพุทธรูปปางมารวิชัยศิลปะปาละ เป็นพระพุทธรูปใหญ่หนึ่งเดียวในเจดีย์ที่ไม่ถูกทำลายจากกษัตริย์ชาวฮินดู ในสมัยที่มีการกวาดล้างพระพุทธศาสนาในอินเดีย ส่วนชั้นที่ 2 ประดิษฐานพระพุทธปฏิมาปางประทานพร ปัจจุบันเจดีย์พุทธคยาถือเป็นแลนด์มาร์คของกลุ่มพุทธสถานพุทธคยา

• เวลาทำการ : 05:00 - 21:00 น.
• ที่อยู่ : Bodh Gaya, Bihar 824231
• Google Map : https://maps.app.goo.gl/ErEFmDKnfMC5Rs5B
• ค่าเข้าสถานที่ : ไม่มี
• วิธีเดินทาง : นั่งรถประมาณ 20 นาที จาก Gaya International Airport

19. สารนาถ (Sarnath)

1 ใน 4 ปูชนียสถานที่สำคัญสำหรับศาสนาพุทธ สถานที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนา และยังเป็นสถานที่เกิดพระรัตนตรัยครบ 3 องค์ คือ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ นับเป็นสถานที่สำคัญที่พุทธศาสนิกชนต้องไปเยือนสักครั้งในชีวิต มีเจาขัณฑีสถูปโดดเด่น ตั้งอยู่ในรัฐอุตตรประเทศ ห่างจากเมืองพาราณสีไปทางเหนือประมาณ 10 กิโลเมตร

• เวลาทำการ : 06:00 - 18:00 น.
• ที่อยู่ : Rishpattan Rd, Near, Sarnath, Varanasi, Uttar Pradesh 221007
• Google Map : https://maps.app.goo.gl/9fcDxkkayjiMuYLPA
• ค่าเข้าสถานที่ : ไม่มี
• วิธีเดินทาง : นั่งรถประมาณ 30 นาที จาก Lal Bahadur Shastri International Airport

20 ประตูเมืองอินเดีย (India Gate)

สุดท้ายใครไปเที่ยวอินเดีย ก่อนกลับอยากให้แวะ ประตูอินเดีย (India Gate) ที่ตั้งอยู่ที่กรุงนิวเดลี ความสูง 43.3 เมตร เป็นซุ้มโค้งของประตูกว้าง 9.1 เมตร ตัวประตูสร้างด้วยหินทรายแท่งทึบสีน้ำตาล มี เซอร์เอ็ดวิน ลิทเยนส์ เป็นผู้ออกแบบ นอกจากความยิ่งใหญ่และความอลังการแล้ว ประตูชัยแห่งนี้ยังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงทหารผู้กล้าที่ออกไปสู้รบเพื่อประเทศอินเดียในสงครามต่าง ๆ โดยจะเห็นชื่อของทหารที่ตายระหว่างการรบสลักอยู่ที่ประตู ซึ่งเป็นจุดประสงค์เดียวกันกับประตูชัยของประเทศฝรั่งเศสเลย

• เวลาทำการ : ตลอดเวลา
• ที่อยู่ : India Gate, Kartavya Path, India Gate, New Delhi, Delhi 110001
• Google Map : https://maps.app.goo.gl/i6ibXtYgeHj7azpCA
• ค่าเข้าสถานที่ : ไม่มี
• วิธีเดินทาง : นั่งรถประมาณ 30 นาที จาก Indira Gandhi International Airport

20 ที่เที่ยวอินเดีย ต้องตามไปเที่ยวให้ได้ แต่ละสถานที่สวย โดดเด่นมาก ๆ สำหรับใครที่อยากเดินทางไปเที่ยวเมืองแห่งอารยธรรมอย่างอินเดีย ไม่อยากจองตั๋วเครื่องบิน หรือที่พักเองให้ยุ่งยาก สามารถใช้บริการ KTC World Travel Service ได้เลย ผู้ช่วยเรื่องการเดินทางเที่ยวแบบครบวงจร จองโรงแรม ที่พัก รถเช่า รถรับส่ง จองตั๋วเครื่องบิน กิจกรรมและแหล่งท่องเที่ยว พร้อมประกันภัยการเดินทาง ครอบคลุมทุกการเดินทาง

พิเศษ หากใช้จ่ายด้วยบัตรเครดิต KTC จองตั๋วเครื่องบิน ผ่าน KTC World Travel Service รูดบัตรไม่มีชาร์จเพิ่ม ไม่มีค่าธรรมเนียม มาพร้อมกับโปรโมชั่นจองตั๋วเครื่องบินสุดคุ้ม ไม่ว่าจะเป็น เส้นเอเชีย ยุโรป อเมริกา แอฟริกา อีกทั้งยังใช้ คะแนน KTC FOREVER ทุก 1,000 แลกรับส่วนลด 130 บาท

หรือจะผ่อน 0% 6 เดือน ก็ได้เช่นกัน เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรฯ ตั้งแต่ 3,000 บาทขึ้นไป/เซลส์สลิป สอบถามรายละเอียด การจองตั๋วเครื่องบิน ที่พัก ที่เที่ยว ได้ทุกวัน เวลา 08.00 - 22.00 น. โทร. 02 123 5050

บิน เที่ยว ครบ จบที่ KTC WORLD

.