เกาะเจจู (Jeju Island) เป็นจุดหมายปลายทางที่เที่ยวขึ้นชื่อเรื่องธรรมชาติอันงดงามและวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ ด้วยภูเขาไฟอันยิ่งใหญ่ น้ำตกที่สวยงาม และชายหาดที่เงียบสงบ เจจูจึงได้รับฉายาว่าเป็น "ฮาวายแห่งเกาหลีใต้" สมกับที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก ไม่ว่าจะเป็นนักเดินทางสายธรรมชาติ คนรักอาหารทะเล หรือคู่รักที่มองหาสถานที่โรแมนติก เจจูมีทุกอย่างให้คุณได้สัมผัส!
ที่เที่ยวไฮไลต์เกาะเจจู เกาหลีใต้ อัพเดทปี 2025
Hallasan National Park
ตื่นตากับความยิ่งใหญ่ของภูเขาไฟที่สูงที่สุดในเกาหลีใต้ ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเกาะเจจู รายล้อมไปด้วยป่าดิบเขา ทะเลสาบปล่องภูเขาไฟ และทิวทัศน์ที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็น สีสันของใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง หรือบรรยากาศสุดโรแมนติกของภูเขาหิมะในฤดูหนาว
ที่อยู่: Hallasan National Park, Jeju Island, South Korea
เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน 5.00 น. - 18.00 น.
Jeju Olle Trails
เส้นทางเดินป่าสำรวจธรรมชาติที่เชื่อมโยงไปทั่วทั้งเกาะ มีให้เลือกเดินมากกว่า 27 เส้นทาง รวมระยะทางกว่า 437 กม. นักเดินทางสามารถลงทะเบียนและเลือกเส้นทางได้ที่ Jeju Olle Tourist Center ก่อนออกไปสัมผัสเสน่ห์ของเกาะเจจูในทุกแง่มุม ทั้งความงามของชายหาด หน้าผา หมู่บ้านชาวประมง และทิวทัศน์ธรรมชาติแบบไม่ซ้ำใคร
ที่อยู่: Jeju Olle Tourist Center, 412-2 Hyodon-dong, Seogwipo, Jeju Island, South Korea
เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน 8.00 น. - 22.00 น.
ค่าเข้า: เริ่มต้น 5,000 KRW/ท่าน
Seongsan Ilchulbong Peak
แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟใต้ทะเลเมื่อกว่า 100,000 ปีก่อน ทำให้แผ่นดินยกสูงขึ้นจนกลายเป็นเนินเขาแอ่งกระทะสูงใหญ่ตั้งอยู่กลางทะเล ปัจจุบันถือเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของเกาหลีใต้ สามารถเดินขึ้นไปบริเวณเนินเขา เพื่อชมวิวพาโนรามาของมหาสมุทรและท้องฟ้าที่เปลี่ยนสีในยามเช้าแสนโรแมนติก
ที่อยู่: 284-12 Ilchul-ro, Seogwipo, Jeju Island, South Korea
Opening Hours: ทุกวัน 7.30 น. - 20.00 น. หยุดวันจันทร์แรกของเดือน
ค่าเข้า: 5,000 KRW/ท่าน (เด็ก 2,500 KRW)
Manjanggul Cave
สัมผัสความมหัศจรรย์ของอุโมงค์ลาวาที่ยาวที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกและเป็นสถานที่เรียนรู้เกี่ยวกับธรณีวิทยาของเกาะเจจู ปัจจุบันกำลังปิดเพื่อฟื้นฟูและจะเปิดให้เข้าชมอีกครั้งในช่วงเดือนส.ค. 2568 ภายในเต็มไปด้วยความอลังการของเสาหินลาวาขนาดใหญ่และลวดลายธรรมชาติที่สวยงาม หาชมไม่ได้จากที่ไหน
ที่อยู่: 182, Manjanggul-gil, Jeju Island, South Korea
เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน 9.00 น. - 18.00 น. หยุดวันพุธแรกของเดือน
ค่าเข้า: 4,000 KRW/ท่าน (เด็ก 2,000 KRW)
Cheonjiyeon Waterfall
เดินทางสู่ใจกลางป่าเขา ไปเช็กอินกับม่านน้ำตกกว้าง 12 ม. ที่ไหลลงสู่แอ่งน้ำสีฟ้าใสจากความสูงกว่า 22 ม. ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางป่าร่มรื่นที่เต็มไปด้วยพืชพรรณเขตร้อน เหมาะสำหรับหลีกหนีความวุ่นวายและสัมผัสความเงียบสงบของธรรมชาติ
ที่อยู่: 132 Cheonjeyeon-ro, Seogwipo, Jeju Island, South Korea
Opening Hours: ทุกวัน 9.00 น. - 18.00 น.
ค่าเข้า: 2,500 KRW/ท่าน (เด็ก 1,350 KRW)
ร้านอาหารเกาะเจจูที่ต้องห้ามพลาด
Black Pork Street
เดินเที่ยวลิ้มลองรสชาติสุดพิเศษที่ถนนหมูดำ แหล่งรวมร้านอาหารชื่อดังที่เสิร์ฟ หมูดำเจจู สายพันธุ์เฉพาะของเกาะ เนื้อหมูหอมมัน นุ่มละมุน ย่างบนเตาถ่านไม้เพื่อเพิ่มกลิ่นหอมเย้ายวน เสิร์ฟคู่กับเครื่องเคียงเกาหลีแบบดั้งเดิม เป็นเมนูที่ต้องลองสำหรับสายกินตัวจริง
ที่อยู่: Gwandeong-ro 15, Geonip, Jeju Island, South Korea
เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน 8.00 น. - 21.00 น.
The House Jeju Haenyeo
เปิดประสบการณ์ลิ้มลองซีฟู้ดสดใหม่จาก “แฮนยอ” กลุ่มหญิงงมหอยแห่งเกาะเจจู ที่ยังสืบทอดวิถีชีวิตดั้งเดิมในการดำน้ำจับอาหารทะเลโดยไม่ใช้อุปกรณ์ช่วยหายใจ คัดสรรค์อาหารทะเลมาให้นักท่องเที่ยวได้ลิ้มลองความสดของ หอยเป๋าฮื้อ ปลาหมึก และเม่นทะเล ที่เพิ่งถูกเก็บขึ้นจากท้องทะเล พร้อมซึมซับวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของเจจูไปพร้อมกัน
ที่อยู่: 2658-2 Jungmun-dong, Seogwipo, Jeju Island, South Korea
Opening Hours: ทุกวัน 6.00 น. - 18.00 น.
O’sulloc Tea Museum
สาย Tea Lover ต้องไม่พลาดไปเยือนพิพิธภัณฑ์ชาโอซอลล็อค จุดหมายที่รวบรวมประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมการดื่มชาเขียวของชาวเกาหลีเอาไว้อย่างดี เรียนรู้ตั้งแต่กระบวนการคัดสรรค์ใบชาไปจนถึงขั้นตอนการผลิต และสามารถมาเปิดลิ้นลองชิมชาเขียวสดใหม่หลากสายพันธุ์ที่โซนคาเฟ่และร้านอาหาร พร้อมเลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากไร่ชาโอซอลล็อค เก็บเกี่ยวมาจากไร่ชาที่ตั้งอยู่ในเขตดินภูเขาไฟ ซึ่งอุดมสมบูรณ์ไปด้วยแร่ธาตุมากมาย กลับไปเป็นของฝากได้ด้วย
ที่อยู่: 15 Sinhwayeoksa-ro, Andeok-myeon, Seogwipo, Jeju Island, South Korea
เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน 9.00 น. - 18.00 น.
ที่พักเกาะเจจู ที่พักหรูมีสไตล์
The Shilla Jeju
โรงแรม 5 ดาว ใกล้ชายหาด Jungmun Beach มอบประสบการณ์สุดพิเศษในห้องพักกว้างขวางด้วยวิวทะเล มีสระว่ายน้ำกลางแจ้ง สปาระดับพรีเมียม และร้านอาหารเกาหลีและอาหารนานาชาติ
ที่อยู่: 75 Jungmungwangwang-ro 72beon-gil, Seogwipo, Jeju Island, South Korea
Tel: +82 64 735 5114
Website: www.shilla.net/jeju
Jeju Ocean Palace Resort
รีสอร์ตหรูริมทะเลที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนอย่างแท้จริง ด้วยห้องพักกว้างขวาง พร้อมระเบียงส่วนตัวสำหรับชมวิวมหาสมุทร มีบริการ ห้องอาหาร คาเฟ่ริมทะเล สระว่ายน้ำ ฟิตเนส และสปา ด้านหน้าโรงแรมสามรถไปเดินเล่นบนชายหาดรับลมทะเล ดื่มด่ำกับช่วงเวลาพระอาทิตย์ตกสุดโรแมนติกก็ดีงาม
ที่อยู่: 14 Jungang-ro, Seogwipo, Jeju Island, South Korea
Tel: +82 64 730 5800
Website: www.shinshinhoteljejuocean.com
Grand Hyatt Jeju
ที่สุดแห่งความหรูหราใจกลางเกาะเจจู โรงแรมหรูระดับ 5 ดาวที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้ ห้องพักพร้อมวิวเมืองและวิวทะเลแบบพาโนรามา ตั้งอยู่ใกล้แหล่งรวมความบันเทิงในแลนด์มาร์คแห่งใหม่อย่าง Jeju Dream Tower ที่รายล้อมไปด้วยแหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหาร บาร์ คาเฟ่ มากมาย
ที่อยู่: 12 Noyeon-ro, Jeju Island, South Korea
Tel: +82 64 907 1234
Website: www.grandhyattjeju.com
เกาะเจจู ประเทศเกาหลีใต้ คือจุดหมายในฝันของสายเที่ยวธรรมชาติ ที่จะได้สัมผัสทั้งภูเขาไฟฮัลลาซาน น้ำตกเชอนจียอน อุโมงค์ลาวามรดกโลก และเส้นทางเดินป่า Jeju Olle อันเลื่องชื่อ นอกจากนี้ยังมีพิกัดห้ามพลาดอย่างถนนหมูดำ แหล่งรวมของอร่อยขึ้นชื่อ ไปจนถึงที่พักหรูริมทะเลให้คุณดื่มด่ำกับวิวสวยแบบพาโนรามา ไม่ว่าคุณจะมาเที่ยวพักผ่อน ชิมอาหาร หรือถ่ายรูปเช็กอิน เกาะเจจูก็มีครบทุกประสบการณ์ให้คุณเก็บไว้ในความทรงจำ และเพื่อให้ทริปนี้สะดวกยิ่งขึ้น สมัครบัตรเครดิต KTC ไว้ใช้จองตั๋วเครื่องบิน โรงแรม หรือใช้จ่ายที่เกาหลีได้อย่างคุ้มค่า พร้อมรับสิทธิพิเศษอีกมากมายจาก KTC World Travel Service โทร 02 123 5050 ได้เลย!
เที่ยวเกาหลีคุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC