ถ้ากำลังมองหาจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวที่ครบทั้งธรรมชาติที่สวยงาม วัฒนธรรมท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์ และคาเฟ่ชิค ๆ บนเกาะกลางทะเล เกาะเชจู (Jeju Island) ประเทศเกาหลีใต้ คือคำตอบที่ใช่ที่สุดสำหรับทุกสไตล์การเที่ยว ไม่ว่าจะสายลุย สายชิล หรือสายถ่ายรูป บทความนี้รวบรวม 20 ที่เที่ยวเกาะเชจูที่ไม่ควรพลาด พร้อมอัพเดทสถานที่ใหม่ ๆ ประจำปี 2025 ให้คุณวางแผนทริปได้แบบครบจบ
ทำไมเกาะเชจู จึงเป็นสถานที่ทอ่งเที่ยวยอดนิยม
1. ธรรมชาติที่สวยงามและหลากหลาย
เกาะเชจูมีทั้งภูเขาไฟ (Hallasan), น้ำตก, ถ้ำลาวา, ทุ่งดอกไม้ และชายหาดที่สวยงาม เหมาะกับทั้งสายธรรมชาติและสายถ่ายรูป
2. มรดกโลกและสถานที่ทางธรรมชาติระดับโลก
หลายจุดในเกาะเชจู เช่น ถ้ำลาวา Manjanggul และยอดเขา Seongsan Ilchulbong ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก (UNESCO)
3. อากาศดี เที่ยวได้ทั้งปี
เกาะเชจูมีอากาศอบอุ่นกว่าภาคอื่นของเกาหลี แม้ในฤดูหนาวก็ยังเที่ยวได้ แถมมีทุ่งดอกเรพซีดในฤดูใบไม้ผลิ และหิมะโรแมนติกในฤดูหนาว
4. วัฒนธรรมท้องถิ่นและอาหารพื้นเมือง
วิถีชีวิตของชาวเกาะ รวมถึงการแสดงพื้นเมือง วัฒนธรรม Haenyeo (นักดำน้ำหญิง) และอาหารทะเลสดใหม่ เป็นสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว
5. สถานที่ถ่ายทำซีรีส์และรายการดัง
เชจูเป็นโลเคชันยอดฮิตของซีรีส์เกาหลี เช่น Crash Landing on You และ Our Blues ทำให้แฟนซีรีส์อยากไปตามรอย
6. เดินทางสะดวกจากโซล
มีเที่ยวบินภายในประเทศจากโซลมายังเชจูหลายเที่ยวต่อวัน ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง สะดวกและประหยัดเวลา
7. เหมาะกับทุกวัยและทุกสไตล์การเที่ยว
ไม่ว่าจะเป็นคู่รัก ครอบครัว หรือสายแบ็กแพ็กเกอร์ เชจูก็มีครบทั้งความชิล ความโรแมนติก และความผจญภัย
เที่ยวเกาะเชจู ช่วงไหนดี ?
ฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน (มีนาคม – สิงหาคม)
เมื่อฤดูใบไม้ผลิมาถึง เกาะเชจู จะมีภูมิทัศน์ที่เปลี่ยนไปอย่างน่าทึ่ง ดอกซากุระบานสะพรั่งทั่วเกาะด้วยโทนสีอ่อน สร้างบรรยากาศที่เงียบสงบ เหมาะสำหรับการเดินเล่นสบาย ๆ อีกทั้งอากาศยังมีความอบอุ่น ทำให้เป็นเวลาที่เหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น การปิกนิก การเดินป่าผ่านภูเขา Hallasan อันเป็นสัญลักษณ์ หรือการสำรวจน้ำสีมรกตของถ้ำ Manjanggul และเมื่อย่างเข้าสู่ฤดูร้อนที่สดใส ชายหาดอันบริสุทธิ์ของเชจูมักกวักมือเรียกนักท่องเที่ยวด้วยน้ำทะเลใสราวคริสตัล และชายฝั่งที่น่าดึงดูดใจ ผู้ที่ชื่นชอบกีฬาทางน้ำสามารถดื่มด่ำไปกับการดำน้ำตื้น ดำน้ำลึก และการเล่นกระดานโต้คลื่น อีกทั้งเกาะแห่งนี้ยังมีชีวิตชีวาด้วยเทศกาลวัฒนธรรมอันสื่อถึงวิถีชีวิตของชาวเกาหลี อาทิ เทศกาลชมพระอาทิตย์ขึ้นซองซาน เทศกาลชมดอกยูเเซ และเทศกาลไฟเมืองเชจู ทำให้ผู้มาเยือนมีโอกาสดื่มด่ำกับประเพณีอันเก่าแก่และมีคุณค่าของเกาหลีใต้ไปพร้อม ๆ กับความเพลิดเพลินกับแสงแดดอันอบอุ่น
ฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว (กันยายน – กุมภาพันธ์)
ฤดูใบไม้ร่วง หรือฤดูใบไม้เปลี่ยนสี อีกหนึ่งฤดูกาลไฮไลต์ของเกาะเชจู ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาสำรวจสิ่งที่น่าสนใจอันหลากหลายของเกาะได้ ตั้งแต่ไร่ชาโอซุลลอค (O'Sulloc) ที่มีเสน่ห์ไปจนถึงหมู่บ้านพื้นเมืองเชจูอันเก่าแก่ บรรยากาศอันเงียบสงบทำให้เป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับการเดินป่าชมธรรมชาติและเพลิดเพลินกับเส้นทางเดินป่าที่มีชื่อเสียงของเกาะ เมื่อฤดูหนาวมาเยือน ความเงียบสงบปกคลุมทั่วเกาะ ในขณะที่อุณหภูมิลดต่ำลง ทิวทัศน์ของยอดเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะบนยอดเขาฮัลลาซานต่างเป็นภาพที่น่าประทับใจ ผู้เยี่ยมชมสามารถดื่มด่ำกับประสบการณ์ที่แสนสบาย ตั้งแต่การจิบชาร้อนในร้านน้ำชาแบบดั้งเดิม ไปจนถึงการผ่อนคลายในบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติ เนื่องจากผู้คนไม่พลุกพล่าน ฤดูหนาวจึงเหมาะสำหรับผู้ที่มองหาสถานที่พักผ่อนอันเงียบสงบท่ามกลางความงดงามของเกาะ
ที่เที่ยวเกาะเชจู มีอะไรบ้าง
1. ยอดเขาซองซาน อิลชุลบง (Seongsan Ilchulbong Peak)
เขาซองซาน อิลชุลบง เป็นยอดภูเขาไฟที่มีชื่อเสียงในด้านทัศนียภาพ วิวพระอาทิตย์ขึ้นที่สุดแสนโรแมนติก และทิวทัศน์แบบพาโนรามา ที่นี่เป็นแหล่งมรดกโลกขององค์การยูเนสโก และเป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับการเดินป่า
2. หมู่บ้านพื้นเมืองเชจู (Jeju Folk Village)
หมู่บ้านพื้นเมืองเชจู เป็นหมู่บ้านดั้งเดิมที่นำเสนอประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และสถาปัตยกรรมของเกาะเชจูได้อย่างสมบูรณ์แบบ นักท่องเที่ยวสามารถสำรวจบ้านเรือนสไตล์พื้นเมืองที่มีหลังคามุงจาก สิ่งประดิษฐ์พื้นบ้าน และสัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวบ้านได้อย่างใกล้ชิด
3. ถ้ำมานจังกุล (Manjanggul Cave)
ถ้ำมานจังกุล เป็นอุโมงค์ถ้ำท่อลาวาที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ มีหินรูปร่างแปลกตาและระบบนิเวศใต้ดินที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี เป็นหนึ่งในท่อลาวาที่ยาวที่สุดในโลก และยังเป็นอนุสรณ์ทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียงติดอันดับโลกอีกด้วย
4. เชจู เลิฟแลนด์ (Jeju Loveland)
เชจู เลิฟแลนด์ เป็นสวนประติมากรรมสำหรับคู่รักที่มีงานศิลปะน่ารัก ๆ ชวนอมยิ้มมากมาย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่แปลกใหม่และแหวกแนว โดยประติมากรรมหลายชิ้นมีความขี้เล่นแฝงอยู่ในงานศิลปะ โดดเด่นด้วยการถูกนำเสนอผ่านการเชื่อมโยงความรักได้อย่างลงตัว รายล้อมด้วยต้นไม้และดอกไม้นานาชนิดที่ให้ความสดชื่นสบายตา
5. พิพิธภัณฑ์เทดดี้แบร์เชจู (Jeju Teddy Bear Museum)
พิพิธภัณฑ์เทดดี้แบร์เชจู เป็นพิพิธภัณฑ์ตุ๊กตาหมีที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้ แหล่งรวมความสนุกสนานและความบันเทิงมากมาย เหมาะสำหรับการเที่ยวในสไตล์ครอบครัวโดยเฉพาะ มีการจัดแสดงงานศิลปะ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมตุ๊กตาหมีอย่างสร้างสรรค์ ถือเป็นหนึ่งในสถานที่เที่ยวเกาะเชจูที่ไม่ควรพลาด
6. อุทยานแห่งชาติฮัลลาซาน (Hallasan National Park)
ฮัลลาซาน เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเกาะเชจู มีลักษณะเป็นยอดเขาสูง มีความสูงที่สุดในเกาหลีใต้ ทั้งยังเป็นสถานที่เดินป่าที่ยอดเยี่ยม ระยะทางส่วนใหญ่ไม่เกิน 10 กิโลเมตร ภายในอุทยานแห่งนี้มีพืชพรรณมากกว่า 1,800 สายพันธุ์ และสัตว์หลากหลายสายพันธุ์ เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบธรรมชาติและการผจญภัยโดยเฉพาะ
7. หาดเชจู จุงมุน แซกดัล (Jeju Jungmun Saekdal Beach)
หาดจุงมุน แซกดัล แนวชายฝั่งที่งดงามราวภาพวาด เป็นสถานที่พักผ่อนยอดนิยมบนเกาะเชจู ลักษณะของชายหาดจุงมุน แซกดัลจะต่างจากที่อื่น ๆ คือเป็นหาดทรายสีดำ สีขาว และสีแดงสลับกันไป พร้อมด้วยทิวทัศน์อันน่าทึ่งของทะเลและแนวโขดหินที่สวยงาม
8. พิพิธภัณฑ์ชา โอซุลลอค (O'Sulloc Tea Museum)
เชจูขึ้นชื่อเรื่องชาคุณภาพสูง และพิพิธภัณฑ์แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อแนะนำและส่งเสริมวัฒนธรรมชาเกาหลีแบบดั้งเดิม ให้ข้อมูลเชิงลึกและความรู้เกี่ยวกับการผลิตชา นักท่องเที่ยวสามารถชิมชาชนิดต่าง ๆ และสำรวจไร่ชาโดยรอบได้ด้วย
9. น้ำตกชอนจียอน (Cheonjiyeon Waterfall)
น้ำตกชอนจียอน มีทั้งหมด 3 ชั้น โดยชั้นแรกเป็นหน้าผาสูง 22 เมตร ก่อนไหลไปสู่น้ำตกชั้นที่ 2 ชั้นที่ 3 และไหลสู่ทะเลในลำดับสุดท้าย เป็นน้ำตกสวยที่ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้เขียวชอุ่ม ชื่อ “ชอนจียอน” มีความหมายว่า "สระน้ำของจักรพรรดิแห่งสวรรค์" ได้รับการยกย่องว่าเป็นน้ำตกที่มีความสวยงามและมีชื่อเสียงติด 1 ใน 3 ของเกาะเชจู
10. สวนหินเขาวงกตเชจู (Jeju Maze Land)
สวนหินเขาวงกตเชจู สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ตั้งอยู่บนเกาะเชจู ไฮไลต์หลักของ Jeju Maze Land คือเขาวงกตที่ซับซ้อน ซึ่งมีรูปร่าง ขนาด และระดับความยากต่างกัน ผู้เยี่ยมชมสามารถสำรวจเขาวงกตเหล่านี้ได้ตามต้องการ โดยแต่ละอันมีธีมและความท้าทายที่ต่างกันไป เหนือสิ่งอื่นใดที่นี่มอบประสบการณ์ที่สนุกสนานและความประทับใจ จนกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับคนทุกวัย
11. Jeju Dinosaur Land
ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.visitjeju.net/en/detail/view?contentsid=CONT_000000000500536
Jeju Dinosaur Land เป็นสวนสนุกธีมไดโนเสาร์ที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้ ตั้งอยู่ในเขต Aewol บนเกาะเชจู เหมาะสำหรับครอบครัวและผู้ที่หลงใหลในโลกยุคดึกดำบรรพ์ ที่นี่ผสมผสานการเรียนรู้และความบันเทิงเข้าไว้ด้วยกัน ที่นี่ มีโมเดลไดโนเสาร์ขนาดเท่าของจริงกว่า 230 ตัว รวมถึง Brachiosaurus สูง 28 เมตร, Tyrannosaurus Rex และ Triceratops ที่กระจายอยู่ทั่วสวน มีโซนสวนพฤกษศาสตร์และสัตว์เลี้ยง มีพื้นที่สีเขียวให้พักผ่อนและโซนสัตว์เลี้ยงสำหรับเด็กๆ มีพิพิธภัณฑ์ฟอสซิลและประวัติศาสตร์ธรรมชาติ ที่จัดแสดงฟอสซิลและข้อมูลเกี่ยวกับยุคจูราสสิก
เวลาเปิด-ปิด: เมษายน–ตุลาคม: 09:30–18:30 (เข้าชมรอบสุดท้าย 17:30) ,พฤศจิกายน–มีนาคม: 09:30–18:00 (เข้าชมรอบสุดท้าย 17:00)
12. NANTA Theatre เกาะเชจู
ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.nanta.co.kr:452/en/show/detail.php?id=3
NANTA Theatre เกาะเชจู เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้มาเยือนเกาะเชจู โดยเฉพาะผู้ที่สนใจการแสดงศิลปะวัฒนธรรมเกาหลีที่ไม่ต้องใช้ภาษาในการสื่อสาร การแสดง NANTA หรือที่รู้จักกันในชื่อ "Cookin' NANTA" เป็นการแสดงแนวคอมเมดี้ที่ผสมผสานดนตรีพื้นบ้านเกาหลี (ซามุลโนรี) กับการแสดงตลกและการแสดงกายกรรมในครัว ไฮไลต์ของที่นี่คือ การแสดงแบบไม่ใช้ภาษาเหมาะสำหรับผู้ชมทุกชาติ ทุกวัย เนื่องจากไม่ต้องเข้าใจภาษาเกาหลี ก็สามารถสนุกไปกับการแสดงได้ เนื้อเรื่องสนุกสนาน เกี่ยวกับเชฟสามคนที่ต้องเตรียมอาหารสำหรับงานแต่งงานภายในเวลาจำกัด พร้อมกับการปรากฏตัวของผู้จัดการที่นำหลานชายมาฝึกงานในครัว
เวลาแสดง: ทุกวัน เวลา 17:00 และ 20:00 น.
ระยะเวลา: ประมาณ 100 นาที (1 ชั่วโมง 40 นาที)
ประเภทที่นั่ง: VIP, S, และ A โดยราคาจะแตกต่างกันไปตามประเภทที่นั่ง
13. สวนฮัลลิม (Hallim Park)
ขอบคุณรูปภาพจาก https://english.visitkorea.or.kr/svc/whereToGo/locIntrdn/rgnContentsView.do?vcontsId=104761
สวนฮัลลิม (Hallim Park) เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเกาะเชจู ประเทศเกาหลีใต้ ตั้งอยู่ทางชายฝั่งตะวันตกของเกาะในเขตฮัลลิม (Hallim-eup) ห่างจากเมืองเชจูประมาณ 33 กิโลเมตร สวนแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1971 โดยคุณซง บงกยู (Song Bong-gyu) ผู้มีวิสัยทัศน์ในการเปลี่ยนพื้นที่ทะเลทรายให้กลายเป็นสวนพฤกษศาสตร์ที่งดงาม ไฮไลต์ของ สวนฮัลลิมมีพื้นที่กว่า 100,000 ตารางเมตร แบ่งออกเป็น 9 โซนหลักที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เช่น โซนสวนพฤกษศาสตร์เขตร้อนและกึ่งเขตร้อนรวบรวมพันธุ์ไม้จากทั่วโลก เช่น ต้นปาล์มและกระบองเพชร หรือ สวนบอนไซและหินภูเขาไฟ แสดงศิลปะการจัดสวนแบบเกาหลี
เวลาทำการ
- มีนาคม – พฤษภาคม: 09:00 – 17:30
- มิถุนายน – สิงหาคม: 09:00 – 18:00
- กันยายน – ตุลาคม: 09:00 – 17:30
- พฤศจิกายน – กุมภาพันธ์: 09:00 – 16:30
14. Seogwipo Submarine
ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.visitjeju.net/en/detail/view?contentsid=CONT_000000000500329
Seogwipo Submarine เป็นหนึ่งในกิจกรรมท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดบนเกาะเชจู ไฮไลต์ของที่นี่ เช่นดำน้ำลึกถึง 40 เมตร เรือดำน้ำจะพาผู้โดยสารลงสู่ความลึกประมาณ 40 เมตร เพื่อชมแนวปะการังหลากสีสัน ปลานานาชนิด และซากเรืออับปางที่น่าตื่นตาตื่นใจ และชมการแสดงของนักดำน้ำ ระหว่างการเดินทาง นักดำน้ำมืออาชีพจะทำการแสดงและโต้ตอบกับผู้โดยสารผ่านหน้าต่างของเรือดำน้ำ เพิ่มความสนุกสนานและความประทับใจ
เวลาเปิดทำการ: 09:30 – 16:30 น. (อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามสภาพอากาศ)
ระยะเวลาการเดินทาง: ประมาณ 70 นาที รวมเวลาขึ้นเรือและการเดินทางใต้น้ำ
ราคาบัตร: ผู้ใหญ่: 65,000 วอน, เด็ก (อายุ 3-13 ปี): 44,000 วอน, เด็กเล็ก (อายุต่ำกว่า 3 ปี): เข้าฟรี โดยต้องแสดงหนังสือเดินทาง
15 . สวนเขาวงกตคิมนยอง (Jeju Kimnyoung Maze Park)
ขอบคุณรูปภาพจาก https://english.visitkorea.or.kr/svc/contents/contentsView.do?vcontsId=94855
สวนเขาวงกตคิมนยอง (Jeju Kimnyoung Maze Park) เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจบนเกาะเชจู ประเทศเกาหลีใต้ สวนแห่งนี้เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 1987 โดยศาสตราจารย์ชาวอเมริกัน F.H. Dustin ซึ่งมีความรักในเกาะเชจูและต้องการสร้างสถานที่ที่ผสมผสานความสนุกสนานกับการเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมและภูมิศาสตร์ของเกาะ ที่นี่ เป็นเขาวงกตที่มีเอกลักษณ์ ออกแบบโดย Adrian Fisher นักออกแบบเขาวงกตชื่อดังระดับโลก โดยมีรูปทรงที่สะท้อนถึงเกาะเชจู และประกอบด้วยสัญลักษณ์ 7 อย่างที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ของเกาะ เขาวงกตสร้างจากต้นไซปรัสเลย์แลนด์ (Leylandii) ที่เขียวชอุ่มตลอดปี และพื้นทางเดินปูด้วยหินภูเขาไฟของเชจู ทำให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด มีจุดชมวิวและสะพานแขวนที่ให้ผู้เข้าชมสามารถมองเห็นภาพรวมของเขาวงกตและถ่ายภาพที่ระลึกได้
เวลาเปิดทำการ: ทุกวัน เวลา 09:00–17:00 น. (อาจมีการขยายเวลาในช่วงฤดูร้อน)
ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่: 7,700 วอน, วัยรุ่น (13–18 ปี): 6,600 วอน, เด็ก (3–12 ปี): 5,500 วอน
16. วัดกวานอึมซา (Gwaneumsa Temple)
ขอบคุณรูปภาพจาก https://english.visitkorea.or.kr/svc/contents/contentsView.do?vcontsId=90109
วัดกวานอึมซา (Gwaneumsa Temple) เป็นวัดพุทธที่เก่าแก่ที่สุดบนเกาะเชจู ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาทางตะวันออกเฉียงเหนือของภูเขาฮัลลาซาน (Hallasan) วัดนี้มีความสำคัญทั้งในด้านประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม และธรรมชาติ วัดกวานอึมซาเชื่อว่าถูกสร้างขึ้นในสมัยอาณาจักรแทมนา (Tamna State) ซึ่งมีอายุย้อนกลับไปถึงช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 11 ในรัชสมัยของพระเจ้า Munjong แห่งราชวงศ์โครยอ (Goryeo) อย่างไรก็ตาม ในปี 1702 วัดถูกทำลายลงในช่วงที่ลัทธิขงจื๊อได้รับการส่งเสริมเป็นศาสนาประจำชาติในสมัยราชวงศ์โชซอน (Joseon) ต่อมาในปี 1908 วัดได้รับการบูรณะขึ้นใหม่โดยพระภิกษุ Haewol และได้รับการฟื้นฟูอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน วัดประกอบด้วยอาคารสำคัญ เช่น ศาลา Cheonwangmun, ศาลา Daeungjeon และถ้ำ Gwaneumgul ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีความงดงามและเงียบสงบ มีเส้นทางเดินป่า Gwaneumsa Trail วัดเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางเดินป่าขึ้นสู่ยอดภูเขาฮัลลาซาน ซึ่งเป็นเส้นทางที่ท้าทายและได้รับความนิยมจากนักเดินป่า บริเวณรอบวัดมีต้นไม้ใหญ่ เช่น ต้นซีดาร์ และดอกเบญจมาศที่บานสะพรั่งในฤดูใบไม้ผลิ สร้างบรรยากาศที่ร่มรื่นและเงียบสงบ
เวลาเปิดทำการ: ทุกวัน เวลา 09:00 – 17:00 น.
ค่าเข้าชม: ฟรี
17. Ecoland Theme Park
ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.visitjeju.net/en/detail/view?contentsid=CONT_000000000500438
Ecoland Theme Park เป็นสวนสนุกเชิงนิเวศที่ตั้งอยู่ในป่าดึกดำบรรพ์กอจาวัล (Gotjawal) บนเกาะเชจู สวนแห่งนี้มีพื้นที่ประมาณ 1 ตารางกิโลเมตร และเน้นการอนุรักษ์ธรรมชาติ พร้อมกิจกรรมที่เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย มีรถไฟสไตล์วินเทจ ผู้เข้าชมสามารถนั่งรถไฟ Baldwin สไตล์ศตวรรษที่ 19 ซึ่งนำเข้าจากสหราชอาณาจักร เพื่อสำรวจป่ากอจาวัลอันเขียวชอุ่ม
เวลาทำการ มีนาคม – ตุลาคม: 08:30 – 17:30 น. , พฤศจิกายน – กุมภาพันธ์: 08:30 – 16:30 น.
ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ (19 ปีขึ้นไป): 14,000 วอน, วัยรุ่น (13–18 ปี): 12,000 วอน, เด็ก (25 เดือน – 12 ปี): 10,000 วอน
18. ยงมอรีโคสต์ (Yongmeori Coast)
ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.visitjeju.net/my/detail/view?contentsid=CONT_000000000500471
ยงมอรีโคสต์ (Yongmeori Coast) หรือที่รู้จักในชื่อ "ชายฝั่งหัวมังกร" เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่โดดเด่นของเกาะเชจู ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะในเขตเมืองซอกวีโพ (Seogwipo) ชื่อ "ยงมอรี" มาจากคำว่า "ยง" (มังกร) และ "มอรี" (หัว) เนื่องจากลักษณะของหน้าผาหินที่ยื่นออกไปในทะเลคล้ายหัวมังกรที่กำลังดำดิ่งลงสู่ทะเล ที่นี่มีหน้าผาหินทรายที่สวยงาม ยงมอรีโคสต์ประกอบด้วยชั้นหินทรายที่ก่อตัวขึ้นจากการสะสมของเถ้าภูเขาไฟใต้ทะเลเมื่อประมาณ 1.2 ล้านปีก่อน การกัดเซาะของลมและน้ำทะเลทำให้เกิดลวดลายและรูปร่างที่แปลกตา เช่น ถ้ำเล็กๆ และชั้นหินที่โค้งเว้า สร้างทัศนียภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจ มีเส้นทางเดินเลียบชายฝั่ง นักท่องเที่ยวสามารถเดินเลียบชายฝั่งเพื่อชมวิวทะเลและหน้าผาหินที่สวยงาม เส้นทางนี้มีความยาวประมาณ 1.6 กิโลเมตร และใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงในการเดินชม
เวลาเปิดทำการ: ทุกวัน เวลา 09:00 – 17:00 น. (อาจมีการปิดชั่วคราวในกรณีที่มีน้ำขึ้นสูงหรือสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย)
ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่: 2,000 วอน, เด็ก: 1,000 วอน, ผู้สูงอายุ: เข้าฟรี
19. หมู่บ้านพื้นเมืองซองอึพ (Seongeup Folk Village)
ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.visitjeju.net/en/detail/view?contentsid=CONT_000000000500351&menuId=DOM_000001817000000001
หมู่บ้านพื้นเมืองซองอึพ (Seongeup Folk Village) เป็นหมู่บ้านโบราณที่ตั้งอยู่ในตำบลพโยซอน (Pyoseon-myeon) เมืองซอกวีโพ (Seogwipo) บนเกาะเชจู ประเทศเกาหลีใต้ หมู่บ้านนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 600 ปี ตั้งแต่สมัยราชวงศ์โชซอน และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมพื้นบ้านที่สำคัญของเกาหลีใต้ บ้านเรือนในหมู่บ้านสร้างจากหินลาวาและมุงหลังคาด้วยหญ้าแฝก มีการออกแบบทางเดินแคบ ๆ ที่เรียกว่า "ออลเล" (Olle) เพื่อป้องกันลมทะเล ภายในหมู่บ้านมีสถานที่สำคัญ เช่น ศาลเจ้าขงจื๊อ (Jeongui Hyanggyo) และอาคารราชการสมัยโชซอน (Jeongeuihyeon) ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี มีต้นไม้เก่าแก่ เช่น ต้นซอว์ลีฟเซลโควา (Saw-leaf Zelkova) และต้นแฮกเบอร์รี่ (Hackberry) ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอนุสรณ์ธรรมชาติของเกาหลีใต้
เวลาเปิดทำการ: เปิดทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง แนะนำให้เยี่ยมชมระหว่างเวลา 09:00 – 17:00 น. เพื่อความสะดวกในการเข้าชมสถานที่ต่าง ๆ ภายในหมู่บ้าน
20. Songaksan Mountain (ซองอักซาน)
ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.visitjeju.net/en/detail/view?contentsid=CONT_000000000500378
ภูเขาซองอักซาน เป็นปล่องภูเขาไฟที่ดับแล้ว ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะเชจู ใกล้กับบริเวณชายฝั่งทะเลซอกวิโพ (Seogwipo) และอยู่ในเส้นทาง Jeju Olle Trail หมายเลข 10 ซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นทางเดินป่าที่ได้รับความนิยมมากที่สุดบนเกาะ ภูเขานี้มีความสูงไม่มากนัก ทำให้สามารถเดินขึ้นไปยังยอดได้อย่างสบาย และใช้เวลาประมาณ 1–1.5 ชั่วโมงรอบเส้นทางวน จุดเด่นของ Songaksan คือทิวทัศน์จากยอดเขาที่สามารถมองเห็นทะเลสีฟ้ากว้างไกล เกาะ Marado (เกาะใต้สุดของเกาหลีใต้) และเกาะ Gapa ได้อย่างชัดเจน รวมถึงแนวหน้าผาริมทะเลอันน่าทึ่งที่เกิดจากการกัดเซาะของลมและคลื่น กิจกรรมที่ไม่ควรพลาดของที่นี่คือ เดินป่าเบาๆ รอบปล่องภูเขาไฟ เส้นทางเดินที่ล้อมรอบภูเขาเป็นทางเรียบและปลอดภัย เหมาะกับทุกเพศทุกวัย ตลอดเส้นทางมีจุดให้หยุดชมวิว ถ่ายภาพ และสัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ชมวิวทะเลและเกาะใกล้เคียงจุดชมวิวหลายจุดสามารถมองเห็นทะเลอันดามันสีคราม ตัดกับหน้าผาหินดำที่ตัดกันอย่างสวยงาม รวมถึงเกาะ Gapa และ Marado ที่อยู่ไม่ไกล สำรวจป้อมทหารเก่าสมัยสงคราม บริเวณตีนเขามีฐานทัพและหลุมปืนใหญ่เก่าที่หลงเหลือจากสมัยสงคราม เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวสายประวัติศาสตร์ให้ความสนใจ ชมทุ่งหญ้ากว้างในฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วง ซองอักซานยังมีทุ่งหญ้าเปิดโล่งที่เปลี่ยนสีไปตามฤดูกาล
เปิดให้เข้าชมทุกวัน ไม่มีค่าเข้า และสามารถเที่ยวได้ตลอดปี
รวมโปรโมชั่นท่องเที่ยวเกาหลี ที่ KTC WORLD กับบัตรเครดิต KTC
1. โปรโมชั่น ตั๋วเครื่องบินเส้นทางเกาหลี
- แถมฟรี ตั๋วเครื่องบินเส้นทางภายในประเทศเกาหลี มี 4 เส้นทาง ได้แก่ ปูซาน, เชจู, แทกู และ อุลซัน เมื่อจองตั๋วเครื่องบิน สายการบิน Korean Air เส้นทางกรุงเทพ-โซล (อินชอน) ไป-กลับ โดยสมาชิกต้องดำเนินการจองตั๋วเส้นทางระหว่างประเทศ และในประเทศ พร้อมกันในการจองครั้งเดียว ไม่สามารถแยกการจองได้
- รับส่วนลด 4,000 บาท/ท่าน สำหรับจองตั๋วเครื่องบินเส้นทางภายในประเทศเกาหลี มี 4 เส้นทาง ได้แก่ ปูซาน, เชจู, แทกู, อุลซัน เมื่อจองตั๋วเครื่องบิน สายการบินไทย หรือ เอเชียน่า แอร์ไลน์ เส้นทางกรุงเทพ-โซล (อินชอน) ไป-กลับ โดยสมาชิกสามารถทำการจองพร้อมกัน หรือ แยกการจองได้
2. แพ็กเกจท่องเที่ยวเกาหลี
- แพ็กเกจ ปูซาน 4 วัน 3 คืน ราคาเริ่มต้น 23,500 บาท/ท่าน
- แพ็กเกจโซล ปูซาน 4 วัน 3 คืน ราคาเริ่มต้น 24,700 บาท/ท่าน
- แพ็กเกจโซล เกาะเชจู 4 วัน 3 คืน ราคาเริ่มต้น 24,900 บาท/ท่าน
- แพ็กเกจโซล เกาะเชจู 4 วัน 3 คืน ราคาเริ่มต้น 26,650 บาท/ท่าน
3. D.I.Y Experience yours ประสบการณ์ท่องเที่ยวเลือกได้ ตามที่ต้องการ ทั้งโซล ปูซาน และเกาะเชจู ราคาเดียว 3,999 บาท/ ท่าน เลือกได้ 2 อย่าง
เลือก 1 อย่างจากรายการ ดังนี้
1. Personal Colour-โซล
2. KPOP K town4u K-pop Vocal Class หนึ่งวัน + ประสบการณ์ถ่ายวิดีโอ-โซล
3. ทัวร์เดินชมตลาดแบบดั้งเดิมของโซลและทำอาหารเกาหลีกับ Class OME Cooking Lab-โซล
4. Jamsil Yeo Yongguk Oriental Medicine Spa-โซล ดูแลผิวหน้า
เลือก 1 อย่างจากรายการ ดังนี้
1.ประสบการณ์ทำน้ำหอมบุกชอนฮันอก-โซล
2. Painters Show งานแสดงศิลปะสุดตระการตาที่ได้รับการยกย่องจากทั่วโลก-โซล
3.บัตรเข้าสวนสนุกเอเวอร์แลนด์-โซล
4.กระเช้าลอยฟ้าซองโดมารีน-ปูซาน
5.บัตรเข้าหอชม Busan X the Sky (หอชมวิว Haeundae L City)-ปูซาน
6.สปาแลนด์ เซ็นทัมซิตี้ โรงอาบน้ำสไตล์เกาหลีสุดหรูหรา-ปูซาน
7.บัตรเข้าสวนสนุกล็อตเต้เวิลด์แอดแวนเจอร์-ปูซาน
8.บัตรโดยสารรถไฟ Sky Capsule สาย Haeundae Blue Line Park-ปูซาน
9.บัตรเชจูเรลไบค์พาส-เกาะเชจู
10.ตั๋วลูน่าฟอลล์-เกาะเชจู
11.บัตรเข้าชมการแสดง NANTA Show-เกาะเชจู
12.บัตรเข้าชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Aqua Planet Jeju-เกาะเชจู
13.แอวอลโลมาเอนติกแซอู (กุ้งโรแมนติกแอวอล) -เกาะเชจู
ระยะเวลาจอง 15 พ.ค. 68 - 10 ธ.ค. 68
รายละเอียดเพิ่มเติม
เกาะเชจู (Jeju Island) คือจุดหมายปลายทางในฝันของนักท่องเที่ยว ด้วยความหลากหลายของสถานที่ท่องเที่ยว ทั้งภูเขาฮัลลาซาน ปล่องภูเขาไฟซองอักซาน ถ้ำลาวามันจังกุล หาดฮัมด็อก รวมถึงหมู่บ้านพื้นเมืองและพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ถ่ายทอดวัฒนธรรมท้องถิ่นได้อย่างน่าประทับใจ เที่ยวได้ทั้งปีไม่ว่าจะเป็นฤดูดอกไม้บานหรือฤดูใบไม้เปลี่ยนสี และเพื่อให้ทุกทริปของคุณคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น อย่าลืมใช้บัตรเครดิต KTC ที่มาพร้อมโปรโมชั่นท่องเที่ยวมากมาย ทั้งตั๋วเครื่องบิน ที่พัก และสิทธิพิเศษจากพันธมิตรหลากหลาย หากยังไม่มี สามารถสมัครบัตรเครดิตออนไลน์ง่าย ๆ เพื่อรับสิทธิประโยชน์ดี ๆ ได้ทันที!
ทุกทริปเที่ยวคุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC