โปรโมชั่น 
บริการท่องเที่ยว
ช้อปสินค้าออนไลน์
เข้าสู่ระบบ
ลัดเลาะเลียบฝั่ง สัมผัสมหัศจรรย์ธรรมชาติบนเส้นทาง Great Ocean Road แห่งออสเตรเลีย คงจะมีเพียงไม่กี่เส้นทางบนโลกที่มอบประสบการณ์การเดินทางอันน่าทึ่งได้เทียบเท่า Great Ocean Road ถนนอันเลื่องชื่อแห่งออสเตรเลียที่ทอดตัวโค้งเลียบชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ เริ่มต้นจากเมือง Torquay สู่เมือง Warrnambool เป็นระยะทาง 243 กม. ตลอดเส้นทางเผยให้เห็นความงดงามของภูมิประเทศที่สวยงาม ทั้งหน้าผาหินปูนสูงตระหง่าน อ่าวเล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ หาดทรายขาวละเอียด และผืนทะเลสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ที่ทอดยาวสุดสายตา นอกจากความงดงามทางธรรมชาติแล้ว เส้นทางนี้ยังผสานกลมกลืนไปกับเสน่ห์ของชุมชน วัฒนธรรมท้องถิ่น และร้านอาหารพื้นเมืองรสเลิศ ที่ช่วยเติมเต็มการเดินทางให้สมบูรณ์แบบ
วิธีเดินทางไป Great Ocean Road
จากกรุงเทพฯ บินตรงสู่ Melbourne Airport ใช้เวลาประมาณ 10 ชม. จากนั้นสามารถเช่ารถขับไป Torquay ใช้ทางหลวงหมายเลข M1 และ Surf Coast Highway ระยะทางประมาณ 110 กม. และขับต่อไปบนเส้นทาง Great Ocean Road ไปสิ้นสุดที่ Warrnambool ใช้เวลาเดินทางอีกประมาณ 3 ชม.
เช่ารถขับเที่ยว Great Ocean Road
นักท่องเที่ยวที่ต้องการเช่ารถขับจะต้องเตรียมใบขับขี่สากล ใบขับขี่ไทย พาสปอร์ต และบัตรเครดิต สำหรับใช้ยืนยันการเช่ารถ โดยการขับรถที่ออสเตรเลียจะเป็นแบบพวงมาลัยซ้าย ตลอดเส้นทางจะมีป้ายบอกทางชัดเจน เหมาะสำหรับการขับเที่ยวอย่างน้อย 2-3 วัน เพื่อแวะสัมผัสจุดชมวิว คาเฟ่ และชายหาดต่าง ๆ ได้อย่างเต็มอิ่มในทุกจังหวะของการเดินทาง
ที่เที่ยวบนเส้นทาง Great Ocean Road
1. Torquay
เมืองชายทะเลที่ได้ฉายาว่า ประตูสู่ Great Ocean Road ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของรัฐวิกตอเรีย เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยบรรยากาศผ่อนคลาย มีชายหาดสวยงามอย่าง Bells Beach ซึ่งเป็นสถานที่จัดการแข่งขันโต้คลื่นระดับโลก มีคาเฟ่และร้านอาหารทะเลอร่อย ๆ ให้เลือกมากมาย นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของ Rip Curl และ Quiksilver สองแบรนด์ดังที่มีชื่อเสียงในวงการโต้คลื่น ทำให้ Torquay กลายเป็นจุดหมายยอดนิยมสำหรับนักกีฬาเซิร์ฟและนักท่องเที่ยวที่มองหาความสนุกและความงดงามของธรรมชาติร่วมกัน
2. Twelve Apostles
แลนด์มาร์กอันเลื่องชื่อที่เป็นภาพจำของ Great Ocean Road ประติมากรรมธรรมชาติอันน่าทึ่งที่มีลักษณะเป็นกลุ่มเสาหินปูนยักษ์ตั้งตระหง่านท้าทายคลื่นลมในมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ เกิดจากการกัดเซาะของคลื่นทะเลและกระแสลมที่พัดต่อเนื่องมากว่า 20 ล้านปี มีจุดเด่นคือเมื่อแสงแดดสาดส่องลงบนแท่งหิน จะทำให้เกิดเงาและสีสันที่เปลี่ยนไปในทุกวินาที สร้างภาพที่แตกต่างกันไปในแต่ละวัน ปัจจุบันเหลือเพียง 7 แท่ง จากในอดีตที่เคยมีถึง 12 แท่ง
3. Gibson Steps
บันไดหินโบราณอายุกว่าร้อยปีที่ถูกสลักลงในหน้าผาหินปูนสูงชัน 70 ม. พานักเดินทางลัดเลาะลงสู่ชายหาดทรายสีทองที่ทอดยาวใต้เงาของ Twelve Apostles ตั้งชื่อตามนายกิบสัน ชาวประมงท้องถิ่นผู้บุกเบิกเส้นทางในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 เมื่อเดินลงบันไดทั้ง 86 ขั้น จะได้สัมผัสกับผืนทรายนุ่ม พร้อมวิวทะเลแบบพาโนรามา และเมื่อเงยหน้ามองกลับไปก็จะเห็นเป็นภูมิทัศน์ของเสาหินมหึมาและหน้าผาสูงชันที่โอบล้อม นับเป็นสวรรค์สำหรับช่างภาพที่ต้องการเก็บภาพมุมมองอันเป็นเอกลักษณ์ของหนึ่งในชายฝั่งที่สวยที่สุดในโลก
4. Apostle Whey Cheese
แวะไปชิลกันต่อที่ฟาร์มชีสครอบครัวที่ตั้งอยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้าเขียวขจีของเทือกเขา Heytesbury พร้อมเยี่ยมชมฟาร์มวัวนมพันธุ์ Friesian กว่า 300 ตัว ที่ผลิตชีสคุณภาพสูงหลากหลายประเภท สามารถเข้าไปเรียนรู้และชมกระบวนการผลิตผ่านครัวกระจกใส หรือลิ้มลองชีสรสเลิศ ทั้งแบบ Southern Briez ที่นุ่มละมุนไปจนถึง Bay of Martyrs Blue จับคู่กับไวน์ท้องถิ่น ในบรรยากาศสบาย ๆ ท่ามกลางวิวทิวทัศน์อันงดงาม เป็นจุดแวะพักที่ให้ทั้งประสบการณ์ท้องถิ่นและช่วยเติมพลังสำหรับการเดินทางไปบนเส้นทางอันยาวไกล
ที่อยู่: 9 Gallum Road, Cooriemungle, Port Campbell, Victoria, Australia
โทร: +61 437 894 337
เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน 10.00 น. - 17.00 น.
5. Loch Ard Gorge
อ่าวเล็ก ๆ ที่เงียบสงบแต่เต็มไปด้วยเรื่องเล่า ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางหน้าผาหินปูนสูงชันและน้ำทะเลสีฟ้าใสราวคริสตัล ที่นี่คือจุดเกิดเหตุโศกนาฏกรรมทางทะเลครั้งสำคัญ เมื่อเรือ Loch Ard อับปางในปี ค.ศ. 1878 ท่ามกลางคลื่นลมแรง ทำให้ผู้โดยสารเสียชีวิตเกือบทั้งหมด ยกเว้นชายหนุ่มและหญิงสาวเพียงสองคนที่รอดชีวิต เรื่องราวอันน่าเศร้าแต่ทรงพลังนี้ยังคงถูกถ่ายทอดผ่านแผ่นป้ายข้อมูลและเส้นทางเดินชมวิวโดยรอบ ทำให้ Loch Ard Gorge ไม่เพียงงดงามทางสายตา แต่ยังลึกซึ้งทางอารมณ์อย่างจับใจ
6. Grassroots Deli Café
คาเฟ่เล็ก ๆ แสนอบอุ่นในเมือง Port Campbell ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของวิถีชีวิตริมทะเล ให้บริการอาหารเช้า เบเกอรีโฮมเมดสดใหม่ และกาแฟหอมกรุ่นในบรรยากาศเรียบง่ายเป็นกันเอง เหมาะสำหรับจอดรถพักยืดเส้นยืดสายหลังจากชมธรรมชาติอย่างจุใจ
ที่อยู่: 28 Lord Street, Port Campbell, Victoria, Australia
โทร: +61 448 331 662
เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน 8.00 น. - 15.00 น.
7. London Bridge
London Bridgeหรือที่รู้จักในชื่อเดิมว่า London Arch หนึ่งในจุดชมวิวทางธรรมชาติที่สะกดสายตาบนเส้นทาง Great Ocean Road มีลักษณะเป็นสะพานไม้ริมหน้าผาที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพของ The Arch โครงสร้างหินปูนที่ครั้งหนึ่งเคยเชื่อมต่อกับแผ่นดินใหญ่ราวกับสะพานธรรมชาติทอดสู่ทะเล ก่อนจะเกิดการถล่มของช่วงกลางในปี ค.ศ. 1990 อย่างกะทันหัน ทิ้งไว้เพียงซุ้มโขดหินกลางทะเลที่ยังคงความงดงามและน่าตื่นตาตื่นใจไม่เสื่อมคลาย ปัจจุบัน London Bridge ไม่เพียงเป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยม แต่ยังเปี่ยมด้วยเรื่องราวที่สะท้อนถึงพลังของธรรมชาติและกาลเวลาที่เปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ให้กลายเป็นผลงานศิลปะอันน่าพิศวง
8. The Grotto
อีกหนึ่งแลนด์มาร์กธรรมชาติที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของซุ้มหินธรรมชาติ มีเส้นทางเดินธรรมชาติที่เชื่อมต่อระหว่างแอ่งน้ำใสราวกระจกกับวิวทะเลด้านนอก พร้อมจุดชมวิวคลื่นทะเลที่ซัดเข้ามาอย่างนุ่มนวลผ่านช่องโค้งของซุ้มหิน เหมาะสำหรับแวะพักและหยิบกล้องขึ้นมาบันทึกภาพความประทับใจ และปล่อยใจให้ล่องลอยไปกับบรรยากาศที่ทั้งสงบและงดงามเหนือคำบรรยาย
9. Bay of Martyrs
อีกหนึ่งอ่าวที่โดดเด่นด้วยบรรยากาศที่เงียบสงบ ตั้งอยู่ในช่วงปลายของเส้นทาง Great Ocean Road รายล้อมด้วยโขดหินรูปร่างแปลกตาที่กระจายตัวอยู่กลางทะเล พร้อมวิวพาโนรามากว้างไกลสุดสายตา โดยเฉพาะยามที่แสงอาทิตย์สาดส่องลงผิวน้ำและหน้าผา เกิดเป็นเฉดสีทอง ฟ้า และน้ำเงินที่ไล่ระดับอย่างกลมกลืนราวจิตรกรรมจากธรรมชาติ เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่งดงามและเปี่ยมเสน่ห์โดยไม่ต้องผ่านฝูงชนพลุกพล่าน
10. Warrnambool
ปักธงผู้พิชิตลงบนจุดหมายสุดท้ายของเส้นทาง Great Ocean Road กันที่ Warrnambool เมืองชายทะเลที่มีเสน่ห์ทางธรรมชาติและการผจญภัยไม่ซ้ำใคร ได้รับการขนานนามว่าเป็นแหล่งดูวาฬที่สำคัญของออสเตรเลีย โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่ฝูงวาฬหลังค่อมจะว่ายมาใกล้ชายฝั่งเพื่อคลอดลูกและอพยพกลับเหนือ ถือเป็นการแสดงทางธรรมชาติที่น่าทึ่ง นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น Flagstaff Hill Maritime Village ที่บอกเล่าถึงเรื่องราวของการเดินเรือในอดีต Thunder Point Coastal Reserve จุดชมวิวหน้าผาและอ่าวสุดตระการตา พร้อมด้วยการต้อนรับแสนอบอุ่นจากคนท้องถิ่น Warrnambool จึงเป็นจุดหมายที่สมบูรณ์แบบสำหรับการผ่อนคลายและเพลิดเพลินกับธรรมชาติริมทะเลอย่างแท้จริง
11. Images Restaurant Cafe and Cocktail Bar
ร้านอาหารชื่อดังของ Warrnambool ที่โดดเด่นด้วยอาคารสไตล์วิคตอเรียนคลาสสิก ที่เปี่ยมด้วยเสน่ห์เหนือกาลเวลา ตกแต่งภายในอย่างหรูหรา ให้บริการอาหารออสเตรเลียร่วมสมัยที่รังสรรค์ด้วยวัตถุดิบท้องถิ่นคุณภาพสูงและการนำเสนอแบบใหม่อย่างมีศิลปะ ไม่ว่าจะเป็นเมนูจานหลักหรือของหวานที่สร้างความประทับใจทุกคำ อีกทั้งยังมีค็อกเทลหลายสูตรที่รังสรรค์โดยบาร์เทนเดอร์ผู้เชี่ยวชาญ
ที่อยู่: 60 Liebig Street, Warrnambool, Victoria, Australia
โทร: +61 3 5562 4208
เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน 12.00 น. - 14.00 น. / 17.00 น. - 21.30 น.
ที่พักใน Warrnambool
1. Deep Blue Hotel & Hot Springs
พักผ่อนในห้องวิวทะเลสวย ตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นจากเตียงนุ่ม ๆ แช่น้ำแร่ร้อนธรรมชาติที่สปาระดับพรีเมียม แล้วไปเดินเล่นชายหาดสุดโรแมนติก พร้อมลิ้มรสอาหารเลิศรสที่ร้านอาหารริมน้ำ ที่นี่...คือสวรรค์ของการพักผ่อนที่คุณตามหา
ที่อยู่: 1 Worm Bay Road, Warrnambool, Victoria, Australia
โทร: +61 3 5559 2000
Website: thedeepblue.com.au
2. Discovery Parks – Warrnambool
ที่พักธรรมชาติสุดชิลในสไตล์แคมป์ปิ้ง หลบความวุ่นวายมาสูดอากาศบริสุทธิ์ท่ามกลางพื้นที่สีเขียวกว้างขวาง ที่นี่เหมาะทั้งครอบครัวและกลุ่มเพื่อน ให้คุณได้ใช้เวลาคุณภาพด้วยกันแบบเต็มที่ ว่ายน้ำในสระ เล่นเกมในสวนสาธารณะ หรือจะออกไปเดินป่าเส้นทางธรรมชาติใกล้ ๆ ที่พัก พร้อมสัมผัสความสงบที่หาไม่ได้ในเมือง
ที่อยู่: 25 Pertobe Road, Warrnambool, Victoria, Australia
โทร: +61 3 5561 1514
Website: www.discoveryholidayparks.com.au
3. Lady Bay Resort
รีสอร์ทหรูติดชายหาด ที่รวมความคลาสสิกและความทันสมัยไว้ด้วยกัน พักผ่อนในห้องสวีทริมทะเลพร้อมวิวพาโนราม่าที่สวยจนลืมไม่ลง ฟินกับอาหารเลิศรสจากเมนูท้องถิ่นที่ร้านอาหารระดับพรีเมียม หรือจะออกไปเล่นน้ำทะเลใส ๆ สนุกได้ทุกแบบตามใจคุณ
ที่อยู่: 2 Pertobe Road, Warrnambool, Victoria, Australia
โทร: +61 3 5562 1662
Website: ladybayresort.com.au
Great Ocean Road เส้นทางเลียบทะเลระดับโลกของออสเตรเลียที่สายเที่ยวไม่ควรพลาด ตลอดระยะทางกว่า 243 กม. คุณจะได้สัมผัสความงดงามของธรรมชาติแบบเต็มตา ทั้งหน้าผาหินปูน Twelve Apostles, อ่าว Loch Ard Gorge, London Bridge และชายหาดสีทอง รวมถึงจุดเช็กอินคาเฟ่เก๋ ๆ และที่พักบรรยากาศดีในเมือง Warrnambool การขับรถเที่ยวด้วยตัวเองบนเส้นทางนี้ถือเป็นประสบการณ์ที่เติมเต็มทริปออสเตรเลียได้อย่างสมบูรณ์แบบ และยิ่งคุ้มค่าขึ้นถ้ามีบัตรเครดิต KTC ติดตัว ช้อปทริปนี้ได้คุ้มกว่า พร้อมรับคะแนน KTC FOREVER สะสมไว้แลกรับสิทธิประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นส่วนลดที่พัก ร้านอาหาร หรืออื่น ๆ สมัครบัตรเครดิต KTC วันนี้ เตรียมพร้อมออกเดินทางได้ทันที
ทุกทริปเที่ยวคุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC
