สวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland) ดินแดนในฝันที่หลายคนอยากเดินทางไปเยือนสักครั้ง ประเทศที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ของภูเขา ทะเลสาบ และธรรมชาติที่สวยงามราวกับภาพวาด จนถูกขนานนามว่าเป็น “หลังคาแห่งทวีปยุโรป” ประเทศนี้มีอะไรน่าเที่ยวบ้าง KTC รวบรวม 20 ที่เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ แบบใกล้ชิดธรรมชาติ เดินทางได้ด้วยตัวเอง อัพเดทปี 2024 มาให้แล้ว ไปดูกันเลย
ไปเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ช่วงไหนดี
สำหรับข้อมูลฤดูกาลการท่องเที่ยวของสวิตเซอร์แลนด์ ทั้ง 4 ฤดูกาล ได้แก่
ฤดูใบไม้ผลิสวิตเซอร์แลนด์ (Spring)
- เดือนมีนาคม-พฤษภาคม
เป็นช่วงที่อากาศเย็นสบาย อุณหภูมิประมาณ 3-17 องศาเซลเซียส เหมาะกับการชมวิวธรรมชาติ ทุ่งหญ้าเขียวขจี ต้นไม้เขียวชอุ่ม ดอกไม้ออกดอกบานสะพรั่งสวยงาม
ฤดูร้อนสวิตเซอร์แลนด์ (Summer)
- เดือนมิถุนายน - สิงหาคม
แม้จะถูกระบุว่าเป็นฤดูร้อน แต่อุณหภูมิเฉลี่ยตอนกลางวันอยู่ที่ 18-28 องศาเซลเซียส เดินได้แบบชิลๆ เหมาะกับการทำกิจกรรมกลางแจ้งและเดินป่า
ฤดูใบไม้ร่วงสวิตเซอร์แลนด์ (Autumn)
- เดือนกันยายน - พฤศจิกายน
ช่วงนี้อาจมีฝนบ้าง และบางครั้งอาจพบหิมะตก มีอากาศเย็นสบายและเป็นช่วงเวลาสุดโรแมนติก ต้นไม้เปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองทอง รวมถึงเป็นช่วงที่มีเทศกาลพื้นเมืองท้องถิ่น เพราะพืชผักผลไม้ออกผลผลิต
ฤดูหนาวสวิตเซอร์แลนด์ (Winter)
- เดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์
ถือเป็นช่วง High season ของสวิตเซอร์แลนด์ ที่มีคนอยากมาเยือนมากที่สุด เพราะเป็นช่วงหิมะตก เทือกเขามีทิวทัศน์ธรรมชาติสวยงามราวกับอยู่ในเทพนิยาย และเป็นสวรรค์ของนักสกี
1. ยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn)
มงกุฎแห่งสวิตเซอร์แลนด์ ยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn) หนึ่งในยอดเขาที่สวยที่สุดของโลก มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลถึง 4,478 เมตร ตั้งอยู่ในเมืองเซอร์มัทท์ (Zermatt) ซึ่งเป็นเมืองยอดนิยมของคนชอบเล่นสกีหิมะ และเป็นเมืองที่อากาศดีที่สุดในโลก เพราะปลอดรถยนต์ 100% โดยเราสามารถชื่นชมความสวยของยอดเขานี้จากในเมืองเซอร์แมท หรือจะนั่งเคเบิลคาร์ขึ้นไปชมความสวยของยอดเขากันแบบใกล้ๆ ก็ได้
- ช่วงเวลาที่ควรไป: เดือนกันยายน-กุมภาพันธ์
- เวลาทำการ: เคเบิลคาร์จะเปิดให้บริการตั้งแต่ 07.30–16.00 น.
- Google Map: https://maps.app.goo.gl/3zMfJ81Pp5j6YcDC9
- วิธีเดินทาง: เดินทางจากเมือง Zermatt นั่งเคเบิลคาร์ Matterhorn Express gondola ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 40 นาที
2. ทะเลสาบโอชิเนน (Oeschinen Lake)
เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ แบบเน้นธรรมชาติ ต้องไปทะเลสาบโอชิเนน (Oeschinen Lake) ที่ตั้งอยู่ตรงกลางหุบเขาโอชิเนน ณ ระดับความสูง 1,578 เมตร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาจุงเฟรา ความโดดเด่นของทะเลสาบแห่งนี้คือผืนน้ำสีฟ้าคราม ที่สะท้อนภาพแนวยอดเขาสูงตระหง่าน ในทะเลสาบ ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ เป็นที่อาศัยของปลาเทราท์ และปลาเรนโบว์เทราท์ ใครอยากมาชมผืนน้ำสีครามหลีกเลี่ยงการเดินทางช่วงเดือนธันวาคม-พฤษภาคม เพราะอากาศหนาวจนน้ำในทะเลสาบกลายเป็นน้ำแข็ง
- ช่วงเวลาที่ควรไป: เดือนมิถุนายน - พฤศจิกายน
- Google Map: https://maps.app.goo.gl/kpQEsr8udCS1rTuF7
- วิธีเดินทาง: เดินทางโดยรถไฟจากเมือง Spiez ไปยังสถานี Kandersteg และขึ้นกระเช้า Kandersteg GKO ประมาณ 7 นาที ก็จะถึงสถานี Oeschinen เดินต่ออีกนิดก็จะถึงทะเลสาบโอชิเนน
3. น้ำตกไรน์ (Rhine Falls)
ได้ไปเยือนสวิตเซอร์แลนด์ทั้งที ไม่ควรพลาดชมความยิ่งใหญ่ของ น้ำตกไรน์ (Rhine Falls) ซึ่งเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป สูง 25 เมตร และกว้าง 150 เมตร เกิดขึ้นตั้งแต่ยุคน้ำแข็ง (Ice Age) ตื่นตากับมวลน้ำมหาศาลที่ไหลลงมาจากหน้าผา โดยเราสามารถนั่งเรือเข้าไปชมน้ำตกแบบใกล้ชิด หรือจะยืนชมวิวจากจุดชมวิวก็ได้ และเรายังสามารถมองเห็น ปราสาทเวิร์ท (Schloss Worth) ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามน้ำตกได้อีกด้วย
- ช่วงเวลาที่ควรไป: เดือนมิถุนายน - พฤศจิกายน
- Google Map: https://maps.app.goo.gl/8KibPVyYRsU2xeQw6
- วิธีเดินทาง: เดินทางโดยรถไฟไปลงที่ Stein am Rhein จากนั้นนั่งเรือไปยังเมือง Schaffhausen พอถึงเมืองแล้วให้ไปที่สถานีรถไฟ Schaffhausen แล้วขึ้นรถเมล์ฝั่งสถานีสาย 1 ที่เขียนว่า Rhine Falls
4. ธารน้ำแข็งอเลิท์ซ กลาเซียร์ (Aletsch Glacier)
ที่เที่ยวธรรมชาติ สวิตเซอร์แลนด์ กับวิวสวยสุดอัศจรรย์ ได้แก่ ธารน้ำแข็งอเลิท์ซ กลาเซียร์ (Aletsch Glacier) ธารน้ำแข็งที่ยาวที่สุดในบรรดาธารน้ำแข็งของเทือกเขาแอลป์ทั้งยุโรป มีความยาวกว่า 23 กิโลเมตร และหนาถึง 700-900 เมตร ครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 120 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วยน้ำแข็งที่อัดทับถมกันอย่างน้อยราว 27 พันล้านตัน จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ เป็นสถานที่ที่ใครมาเที่ยวก็ต้องประทับใจกับความสวยงามและยิ่งใหญ่ของธารน้ำแข็ง โดยเฉพาะบรรดานักผจญภัยที่ต้องมาล่องแก่ง
- เดือน/ช่วงเวลาที่ควรไป: เดือนมีนาคม - พฤศจิกายน
- Google Map: https://maps.app.goo.gl/NHx2FATVdZD5piDX8
- วิธีเดินทาง: นั่งกระเช้าจากเมือง Fiesch ขึ้นไปยังสถานี Fiescheralp และต่อกระเช้าเพื่อขึ้นไปจนถึงยอดเขา Eggishorn เพื่อชื่นชมวิวของธารน้ำแข็งได้ในแบบพาโนรามา
5. ทะเลสาบลูเซิร์น (Lucerne Lake)
อีกเมืองธรรมชาติสวยสวิตเซอร์แลนด์ ที่มาพร้อมบรรยากาศแสนโรแมนติก คือ ลูเซิร์น (Lucerne) เขตเมืองเก่าของสวิส ตั้งอยู่ตอนกลางของประเทศ มีทะเลสาบลูเซิร์น (Lake Lucerne) และภูมิประเทศเป็นภูเขา ห้อมล้อมด้วยธรรมชาติอันสวยงาม เดินทางไปง่ายมาก เพราะสามารถนั่งรถไฟจากเมืองซูริค (Zurich) ได้ไม่เกิน 1 ชั่วโมง เมืองนี้มีแลนด์มาร์ค คือ สะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) หนึ่งในสะพานไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป อายุเกือบ 700 ปี และอนุสาวรีย์สิงโตแกะสลัก (Lion Monument) เป็นอนุสรณ์สถาน ที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับเหล่าทหารที่ถูกสังหารในการปฏิวัติฝรั่งเศส
- ช่วงเวลาที่ควรไป: เดือนมีนาคม - สิงหาคม
- Google Map: https://maps.app.goo.gl/FmBFuveTcMnTWZ1V6
- วิธีเดินทาง: เดินทางโดยรถไฟเพื่อลงสถานีรถไฟกลางลูเซิร์น ห่างจากเมืองซูริค (Zurich) ใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 1 ชั่วโมง
6. เมืองเลาเทอร์บรุนเนิน (Lauterbrunnen)
ที่เที่ยวแนวธรรมชาติสวิตเซอร์แลนด์ที่น่าไปอีกแห่ง คือ เมืองเลาเทอร์บรุนเนิน (Lauterbrunnen) เมืองนี้ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขา ทำให้ทัศนียภาพโดยรอบของเมืองสวยงามอลังการ มองเห็นวิวภูเขาสลับกับทุ่งหญ้าอัลไพน์ในพื้นที่อนุรักษ์ธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีน้ำตกสโทบบาค (Staubbach Falls) น้ำตกที่สูงที่สุดในยุโรป สวยจนกลายเป็นแรงบันดาลใจให้ J.R.R Tolkien ผู้ประพันธ์นวนิยายแฟนตาซีชื่อดัง The Lord of the Rings และ The Hobbit สร้างดินแดนเอลฟ์อย่าง ริเวนเดลล์ ขึ้นมาโดยมีหมู่บ้านเลาเทอร์บรุนเนินเป็นต้นแบบ
- ช่วงเวลาที่ควรไป: เดือนมีนาคม - พฤศจิกายน
- Google Map: https://maps.app.goo.gl/97P9drzGTTYH4GGQ8
- วิธีเดินทาง: เดินทางด้วยรถไฟไปลงที่สถานี Lauterbrunnen จากนั้นจึงเดินไปอีก 5 นาทีก็ถึงหมู่บ้าน
7. ภูเขาไอเกอร์ (Eiger)
ภูเขาชื่อดังที่มีความสูงเกือบ 4,000 เมตรในเทือกเขาแอลป์ มีเส้นทางปีนเขาขึ้นไปยังยอดสูงสุดสำหรับนักปีนเขามืออาชีพ ที่อยากมาพิสูจน์ความกล้าและทดสอบความสามารถของตัวเอง แต่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ประสบความสำเร็จและมีนักปีนเขามากมายที่ต้องมาจบชีวิตในภูเขาแห่งนี้ จนทำให้ภูเขาไอเกอร์ ถูกตั้งฉายาว่ากำแพงแห่งความตาย “Mordwand”
- ช่วงเวลาที่ควรไป: เดือนมีนาคม-พฤษภาคม
- Google Map: https://maps.app.goo.gl/6KzXxEb9KcB7F7Du7
- วิธีเดินทาง: เดินทางโดยรถไฟ ยังสถานี Kleine Scheidegg และเปลี่ยนขบวนรถไฟเพื่อไปยัง Jungfraujoch
8. ยอดเขาจุงเฟรา (Jungfraujoch)
ยอดเขาที่สูงที่สุดในยุโรปที่วิวสวยอลังการสุดๆ คือยอดเขาจุงเฟรา (Jungfraujoch) ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โดย UNESCO เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาแอลป์ (Swiss Alps) ที่สูงถึง 4,158 เมตร มีสถานีจุงเฟรายอค (Jungfraujoch) สถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรป ด้วยความสูง 3,454 เมตร โดยเราสามารถเลือกเส้นทางได้ 2 ทาง คือจาก Lauterbrunnen และ Grindelwald ระหว่างทางจะได้ชมวิวทุ่งหญ้าและภูเขาสลับซับซ้อน มีจุดชมวิว Sphinx Observatory ชื่อดัง และมีกิจกรรมสนุกๆ ให้ทำ ทั้งเดินชมอุโมงค์น้ำแข็ง และเล่นกีฬาเอ็กซ์ตรีม สกีหิมะ และสโนว์บอร์ด
- ช่วงเวลาที่ควรไป : ไปได้ตลอดทั้งปี
- Google Map: https://maps.app.goo.gl/3vExSJLaCvawBAHf8
- วิธีเดินทาง: เดินทางด้วยรถไฟเริ่มต้นจากสถานีไคลเน่ ไชเดกก์ (Kleine Scheidegg) ไปลงยังสถานีจุงเฟรายอค (Jungfraujoch)
9. เมืองอินเตอร์ลาเคน (Interlaken)
อินเตอร์ลาเคน (Interlaken) ที่เที่ยวธรรมชาติของสวิตเซอร์แลนด์ที่ห้ามพลาด ที่นี่เป็นเมืองเล็กๆ ที่ขนาบข้างด้วยทะเลสาบ 2 แห่ง คือ ทะเลสาบเบรียนซ์ (Lake Brienz) และทะเลสาบทูน (Lake Thun) มีถ้ำ St. Beatus Caves ที่มองเห็นวิวอลังการของยอดเขาจุงเฟรา (Jungfrau) ยอดเขามอนซ์ (Mönch) และยอดเขาไอเกอร์ (Eiger) เป็นฉากหลัง เป็นทางขึ้นยอดเขาธารน้ำแข็งที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก และยังเป็นอีกหนึ่งสถานที่ยอดฮิตของคนรักการเล่นสกี
- ช่วงเวลาที่ควรไป: เดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์
- Google Map: https://maps.app.goo.gl/axMq9Q2nf5wCF8qj8
- วิธีเดินทาง: เดินทางโดยรถไฟจากซูริคไปยังเมืองอินเตอร์ลาเคน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง
10. หมู่บ้านกรินเดลวัลด์ (Grindelwald)
เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ด้วยตัวเอง ต้องลองแวะกรินเดลวัลด์ (Grindelwald) ประตูสู่จุงเฟรา หมู่บ้านเล็กๆ ที่มีวิวสวยหลักล้าน โอบล้อมไปด้วยทิวทัศน์สุดอลังการของเทือกเขา ทิวสน และทุ่งหญ้า ถ้าได้มาในช่วงฤดูร้อนที่นี่เหมาะกับการไปสูดอากาศบริสุทธิ์ท่ามกลางพื้นที่สีเขียวและอากาศแสนอบอุ่น ชิลกับกิจกรรมปั่นจักรยานบนเขาสูง มีทะเลสาบบัคชัลป์ (Lake Bachalpsee) ผืนน้ำแสนสวยที่สะท้อนเงาเทือกเขาด้านหลังและท้องฟ้าใสสีครามราวกับกระจก เป็นสถานที่ที่ถูกเรียกว่า Blue Jewel หรืออัญมณีสีฟ้า
- ช่วงเวลาที่ควรไป: เดือนมิถุนายน - พฤศจิกายน
- Google Map: https://maps.app.goo.gl/c7W2KrRHi4bwwT5M7
- วิธีเดินทาง: สามารถเดินทางโดยรถไฟมาลงที่สถานีกรินเดลวัลด์ (Grindelwald, Bahnhof)
11. กรุงเบิร์น (Bern)
จุดหมายในการเที่ยวยุโรปที่หลายคนอยากไป คือ กรุงเบิร์น (Bern) เมืองหลวงของสวิตเซอร์แลนด์ ศูนย์กลางความเจริญ มีแม่น้ำอาเร (Aare) ไหลผ่าน อบอวลไปด้วยเสน่ห์สุดคลาสสิกที่ยังคงอนุรักษ์เอาไว้ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในเขต Old Town ที่มีสถาปัตยกรรมยุคกลาง ที่ยังคงความงดงามและสมบูรณ์มาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งหนึ่งในจุดท่องเที่ยวหลักของเมืองเก่าก็คือ Zytglogge Clock Tower หอนาฬิกาดาราศาสตร์อันเก่าแก่จากยุคกลาง สร้างในช่วงต้นศตวรรษที่ 13 ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในเมืองมรดกโลกอันทรงเสน่ห์ที่ต้องไปเยือนสักครั้ง
- ช่วงเวลาที่ควรไป: เดือนมีนาคม-พฤศจิกายน
- Google Map: https://maps.app.goo.gl/ysaQSjbtXWNMcJc27
- วิธีเดินทาง: เดินทางโดยรถไฟจาก Zurich ไปยัง Bern ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
12. ทะเลสาบเบลาเซ (Blausee Lake)
ทะเลสาบเบลาเซ (Blausee Lake) มีน้ำสีฟ้ามรกต ใสสะอาดราวกระจก ที่อยากให้ไปเห็นด้วยตาสักครั้ง ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขา Kander Valley ในสวิตเซอร์แลนด์ ล้อมรอบไปด้วยป่าเขาอุดมสมบูรณ์ สวยงามที่สุดในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี เหมาะกับการเดินป่า ปิกนิกชมธรรมชาติ
- ช่วงเวลาที่ควรไป: เดือนกันยายน - พฤศจิกายน
- Google Map: https://maps.app.goo.gl/Jt2SxgE7jxh7hwub6
- วิธีเดินทาง: เดินทางโดยรถไฟไปลงที่สถานี Frutigen จากนั้นต่อรถประจำทางสาย 230 ไปลงที่ป้าย Blausee BE
13. ทะเลสาบซูริค (Zurich Lake)
เมืองที่ใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ และเป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจ การเงิน และความเจริญในหลายๆ ด้าน คือ เมืองซูริค (Zurich) ที่มีไฮไลต์สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เป็นทะเลสาบซูริค (Lake Zurich) 1 ใน 5 ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ รายล้อมไปด้วยอาคารเก่าแก่ มีโบสถ์ฟรอมุนสเตอร์ (Fraumünster Church) สัญลักษณ์ของซูริค ผลงานของ Marc Chagall ตั้งตระหง่าน
- ช่วงเวลาที่ควรไป: เดือนมีนาคม - พฤศจิกายน
- Google Map: https://maps.app.goo.gl/iTo3mUEh3ARuHUkK8
- วิธีเดินทาง: เดินทางโดยรถรางจาก Zurich HB ไปยังโบสถ์ฟรอมุนสเตอร์ ไปลงที่สถานี Paradeplatz ใช้เวลาประมาณ 7 นาที
14. แกรนด์แคนยอนแห่งสวิตเซอร์แลนด์ (Ruinaulta)
ใครต้องการบรรยากาศ Hiking ท่ามกลางธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ แนะนำให้ไปฝั่งตะวันออกของสวิตเซอร์แลนด์ เยือน Swiss Grand Canyon หรือแกรนด์แคนยอนแห่งสวิตเซอร์แลนด์ (Ruinaulta) ซึ่งเป็นช่องเขาขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ระหว่างหมู่บ้าน Reichenau และ Ilanz เกิดจากการละลายของ ธารน้ำแข็งไรน์ (Rhine Glacier) ในยุคน้ำแข็ง (Ice Age) เหมาะกับการมาเดินป่า แวะพักชมวิวสวยๆ ที่จุดชมวิวต่างๆ รวมถึงกิจกรรมขี่จักรยาน พายเรือคายัค และส่องนก คนรักธรรมชาติต้องมา
- ช่วงเวลาที่ควรไป: เดือนมีนาคม-พฤศจิกายน
- Google Map: https://maps.app.goo.gl/rbMyLMddrGHjKscJ6
- วิธีเดินทาง: เดินทางโดยรถไฟจากเมืองซูริค มาลงที่สถานี Rheinschlucht ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง
15. ภูเขาพิลาทุส (Mount Pilatus)
ภูเขาพิลาทุส (mount pilatus) เป็นที่เที่ยวธรรมชาติในสวิตเซอร์แลนด์อันน่าทึ่ง อยู่ไม่ไกลจากเมืองลูเซิร์น เป็นภูเขาที่มีความสูง 2,120 เมตร มองเห็นวิวสวยๆ ของเทือกเขาสวิสแอลป์ และวิวของเมืองลูเซิร์น โดยสามารถเดินทางขึ้นไปบนภูเขาด้วยกระเช้าลอยฟ้า รับรองเพลินตาเพลินใจสุดๆ มีจุดชมวิว ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก และโรงแรม
- ช่วงเวลาที่ควรไป: ตลอดทั้งปี
- Google Map: https://maps.app.goo.gl/CJ96exCL8tixwTzV8
- วิธีเดินทาง: เดินทางด้วยรถไฟ ไปลงที่สถานี Alpnachstad จากนั้นนั่งรถไฟไต่เขาไปยังยอดพิลาทุส
16. รัฐอูริ (Uri)
น้อยคนที่จะรู้จัก อูริ (Uri) หนึ่งใน 26 รัฐของสวิตเซอร์แลนด์ที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ของหมู่บ้านแถบชนบท ที่มองไปทางไหนก็จะเห็นทุ่งหญ้ากว้างและหุบเขาสูงใหญ่ โดยมีหมู่บ้าน Altdorf Village เป็นศูนย์กลาง และ Dammastock เป็นยอดเขาที่สูงที่สุด กับความสูง 3,630 เมตร จึงเหมาะสุดๆ สำหรับใครที่อยากหลีกหนีจากความวุ่นวาย ไปพักผ่อนท่ามกลางความเงียบสงบ และธรรมชาติอย่างแท้จริง
- ช่วงเวลาที่ควรไป: เดือนมีนาคม-พฤศจิกายน
- Google Map: https://maps.app.goo.gl/2LJ3h4DC2Z3oYQPZ8
- วิธีเดินทาง: เดินทางโดยรถไฟจากเมืองซูริค มาลงที่สถานี Sisikon ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
17. เมืองมงเทรอซ์ (Montreux)
ที่เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ มงเทรอซ์ (Montreux) เมืองพักตากอากาศที่ดีที่สุดแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ทางตะวันออก ริมทะเลสาบเจนีวา (Lake Geneva) ใครอยากสัมผัสความเนิบช้า เดินเล่นริมทะเลสาบ ล่องเรือชมบรรยากาศ ชมปราสาทชิลยอง (Chillon Castle / Château de Chillon) ที่มีประวัติยาวนานเกือบ 1,000 ปี รับรองถูกใจเมืองนี้แน่นอน
- ช่วงเวลาที่ควรไป: เดือนมีนาคม-พฤศจิกายน
- Google Map: https://maps.app.goo.gl/rxk6W8sjsvpDGNZD9
- วิธีเดินทาง: เดินทางโดยรถไฟจากเมือง Geneva ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากเมือง Lausanne ใช้เวลาราว 20-25 นาที
18. ทะเลสาบเจนีวา (Lake Geneva)
ทะเลสาบเจนีวา (Lake Geneva) เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดของยุโรปตะวันตก คั่นกลางระหว่างพรมแดนของสวิตเซอร์แลนด์ และฝรั่งเศส รอบทะเลสาบส่วนใหญ่เป็นสวนสาธารณะ ซึ่งมีธรรมชาติสวยงาม เหมาะแก่การมาพักผ่อน มีอาคารเก่าแก่ที่น่าสนใจมากมาย ไฮไลต์ของทะเลสาบเจนีวาต้องยกให้กับน้ำพุ Jet d-Eau ที่สูงกว่า 140 เมตร ซึ่งเป็นน้ำพุที่มีความสูงที่สุดในโลก ใครมาเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ต้องแวะเช็กอิน
- ช่วงเวลาที่ควรไป: เดือนมีนาคม-พฤศจิกายน
- Google Map: https://maps.app.goo.gl/Rd58G97eD9DdoogL6
- วิธีเดินทาง: เดินทางโดยรถไฟมาลงที่สถานี Geneva Station ได้เลย
19. ภูเขาริกิ (Rigi)
ที่เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นราชินีแห่งขุนเขา ต้องยกให้ ภูเขาริกิ (Rigi) ภูเขาที่ตั้งอยู่ตอนกลางของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สามารถมองเห็นวิวทะเลสาบที่ล้อมรอบขุนเขาได้แบบ 360 องศา หากได้มาเยือน ห้ามพลาดที่จะนั่งรถไฟสายเก่าแก่ที่สุดในโลก เพื่อชื่นชมกับธรรมชาติที่งดงามราวกับภาพวาด สวยจนแทบหยุดหายใจ เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมตลอดทั้งปี แต่ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมคือช่วงฤดูร้อน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงกันยายน เนื่องจากมีอากาศเย็นสบาย ท้องฟ้าปลอดโปร่ง
- ช่วงเวลาที่ควรไป: เดือนพฤษภาคม - กันยายน
- Google Map: https://maps.app.goo.gl/LsuvBYsGLwXE4Ji77
- วิธีเดินทาง: เดินทางโดยรถไฟจากสถานีรถไฟลูเซิร์น ไปยังสถานี Arth-Goldau เพื่อไปต่อยังสถานี Rigi
20. รถไฟเบอร์นิน่า เอ็กซ์เพรส (Bernina Express)
ปิดท้ายกันด้วยเบอร์นิน่า เอ็กซ์เพรส (Bernina Express) รถไฟสายโรแมนติกที่สวยที่สุดในยุโรป ตลอดเส้นทางเป็นวิวธรรมชาติ ที่เป็น 1 ใน 3 เส้นทางรถไฟ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกจาก UNESCO โดยเบอร์นิน่า เอ็กซ์เพรสนั้น เป็นรถไฟที่วิ่งเชื่อมจากเมือง Chur ของสวิส ไปยังเมือง Tirano ของอิตาลี ผ่านสะพานสวยๆ และอุโมงค์ ที่สำคัญคือผ่าน Swiss Alps ทะเลสาบ น้ำตก และธรรมชาติอีกมากมาย
- ช่วงเวลาที่ควรไป : ตลอดทั้งปี
- Google Map: https://maps.app.goo.gl/yq4vJG6d3AvgvMFq9
- วิธีเดินทาง: เดินทางโดยรถไฟจากเมืองซูริค มาลงที่สถานี CHUR (จุดเริ่มต้น Bernina Express) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง
ประทับใจไปกับ 20 ที่เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์สายธรรมชาติ ที่สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ด้วยตัวเอง ในปี 2024 แนะนำจองตั๋วเครื่องบิน และที่พักล่วงหน้า พร้อมตั๋วรถไฟหรือเคเบิลคาร์ต่างๆ เพื่อความสะดวกสบายยามท่องเที่ยว โดยสามารถศึกษารายละเอียดการจองต่างๆ ด้วยตนเอง หรือเลือกใช้บริการ KTC World Travel Service บริการข้อมูลการเดินทางและท่องเที่ยว พร้อมโปรโมชั่นพิเศษ สำหรับสมาชิกบัตรเครดิต KTC ที่ KTC World Travel Service สอบถามรายละเอียดทุกทริปเที่ยวได้ทุกวัน เวลา 08.00-22.00 น. หรือโทร. 02 123 5050 สนใจใช้บริการสำรองบัตรโดยสารเครื่องบิน โรงแรม รถเช่า กรุ๊ปทัวร์ แพ็กเกจอิสระในและต่างประเทศ ตั๋วรถไฟต่างประเทศ บัตรเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว และประกันการเดินทาง กดสมัครบัตรเครดิต KTC ที่นี่เลย
บิน เที่ยว ครบ จบที่ KTC WORLD